น้ำัตาไหลเมื่อเพื่อนร่วมงานขอลากลับประเทศ 4 คนภายใน 1 วัน
น้ำตาไหลรอบแรก (แคทกะเจคอป กลับ ประเทศ เชค)



ความจริงเราก็รู้แล้วแหล่ะ ว่าวันไหน ที่เพื่อนๆทั้ง 4 คนนี้จะต้องเซย์กู๊ดบาย แต่เราก็ไม่อยากให้ถึงวันนั้นไง ก็เลยทำเฉยๆ ทำเนียน ทำเป็นไม่รับรู้อะไรไปซะ เพราะจริงๆแล้ว ไม่อยากให้ถึงวันและเวลานั้นเหมือนกัน

เพราะเพื่อนร่วมงานทั้ง 4 คนที่จะกลับประเทศของเขาเนี๊ยะ ก็นิสัยดีๆทั้งนั้น เรากิน เราเที่ยว เราเล่น เราเม้าส์และเมาด้วยกัน ลากกันกลับบ้าน อิอิอิอิ เวลาที่เราป่วย ก็ได้พวกเขาเนี่ยแหล่ะ ที่มานั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆเตียงนอนของเรา เพื่อเฝ้าเรา ให้ตื่น ให้ฟื้น จากการตกบันไดบ้าน ถึงขั้นกับหลับไปชั่วครู่เลยทีเดียว

และแล้ว เช้าของการร่ำลาก็มาถึง เราทำงานของเราตามปกติสันดาน แว๊กกกกกก ตามนิสัยค่ะ 09.00 สองคนแรก (สาวแคท กะ หนุ่มเจคอป) ก็เดินมาหาถึงที่ทำงาน เราเห็นแว๊ปแรก ก็....เอาล่ะโว้ย เพื่อนเราจะไปแล้วหรอ ไม่อยากให้พวกเขาไปเลย เพราะเขาเป็นทั้งเพื่อนร่วมงานที่ดี และ เหมือนน้องสาวน้องชายของเราเลยก็ว่าได้

เขาสองคน ก็เข้ามากอดเรา พร้อมกับพูดว่า....(แปลเป็นไทยให้เรียบร้อย)

แคท - เจนนี่ ยูดูแลรักษาตัวเองนะ ฝากลาทริสตันให้ฉันด้วย ฉันดีใจนะที่ได้รู้จักยู และสิ่งที่ฉันดีใจที่สุดก็คือ ได้เป็นเืพื่อนกับยู ฉันจะคิดถึงและจะติดต่อกับยูอย่างสม่ำเสมอนะเจนนี่

เจน - อืมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอเคๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (พูดอะไรไม่ออก เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่ คอหอยหลอด ไม่ได้โง่นะคะ พูดภาษาอังกฤษได้ ในระดับดี แต่ความรู้สึกตอนนั้น ไหงฉันคิดคำอะไรออกมาไม่ได้เลย) สิ่งที่ออกมาแทนคำพูดก็คือ น้ำตา แต่ก็ต้องรีบเช็ดมันทันที เพราะไม่ชอบร้องไห้ให้ใครเห็น

แล้วอีกหนึ่งหนุ่มที่เหลือก็เข้ามากอดเราเหมือนกัน (ว๊าวววววววววววว)

เจคอป - เจนนี่ ฉันไปก่อนนะ ดีใจนะที่ได้ร่วมงานกับยู ดีใจมาก ที่ได้ยูเป็นเพื่อน ยูเป็นเพื่อนเป็นพี่สาวที่น่ารักมาก ฉันจะไม่ลืมยูนะ ฝากกอดทริสตันด้วย ฉันหวังว่า เราคงได้กลับมาเจอกันอีกนะเจนนี่ ยูต้องดูแลตัวเองให้ดีๆนะ

แล้วเขาสองคนก็เข้ามากอดเรา ภาพสุดท้ายที่เราจำได้ติดตาก็คือ แคท ยืนมองเรา พร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรากๆเต็มสองแก้ม ทำให้หัวหน้างานของเราที่ยืนมองอยู่ น้ำตาไหล ออกมาเหมือนกัน

แคท เป็นเด็กผู้หญิง อายุ 20 นิดๆ นิสัยดี เรียบร้อย เขายืนมองหน้าเรา ไม่ยอมก้าวขาไปไหน น้ำตาเขาไหลออกมาไม่หยุด เป็นภาพที่เศร้ามาก เรากลั้นน้ำตาไว้ตลอด พูดอะไรก็ไม่ออก

สุดท้าย ตัวเราเอง จึงตัดสินใจหันหลังให้เขาทั้งสองคน เพื่อให้เขาได้ก้าวเดินออกไปจากที่ตรงนั้น

น้ำตาของเราก็ไหลออกมาทันที เมื่อเราไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของแคทดังให้ได้ยินอีกต่อไป....................

เราไม่รู้ ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าเมื่อไหร่ ตอนไหน ที่เรารู้สึกผูกพันธ์กับเขาสองคน รู้แค่เพียงว่า เราชอบเขา มันเป็นความชอบที่หาเหตุผลไม่ได้เลย

เป็นสิ่งที่เราไม่อยากพบเจอมากที่สุด เมื่อได้ทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่แสนดี พวกเรากำลังเรียนรู้ กำลังใช้ชีวิตด้วยกัน ในระดับที่เีีรียกว่า เริ่มต้นก็เริ่มด้วยดี ซึ่งพอกำลังจะก้าวไปอีกขั้น ของความสัมพันธ์ กำลังพัฒนาไปอีกในระดับหนึ่ง ที่เรียกว่า อยู่ในระดับที่ดี แต่พวกเขาก็ต้องมาจากไป

แบบนี้ เหมือนมาหยุดความรู้สึกกันกระทันหัน รับไม่ได้จริงๆ กับความรู้สึุกแบบนี้ ยิ่งพอตอนเย็น เรากลับถึงบ้าน เราเดินผ่านห้องนอนของพวกเขาทั้งสอง เย็นนี้ คืนนี้ เราไม่ได้เห็นเขาสองคน ไม่ได้ยินเสียงเขาสองคน เราไม่ได้กินข้าวเย็นด้วยกัน ไม่ได้เล่นด้วยกัน ไม่ได้เม้าส์และเมาด้วยกัน เราได้แต่ยืนนิ่งๆ มองดูประตูห้องนอนเขาสองคนอยุ่อย่างนั้นแหล่ะ

น้ำตาก็ดันไหลออกมาอีก ยิ่งพอเปิดประตูห้องของเขา มองเข้าไป เห็นแต่ความว่างเปล่า มีแต่ห้องสี่เหลี่ยมโล่งๆ มองไม่เห็นแคทกับเจคอปอีกต่อไปแล้ว

เหงาัจัง เมื่อขาดเพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมบ้าน ที่ดี ขอให้เขาสองคน ทำทุกอย่างตามที่ใจเขาได้ใฝ่ฝันไว้ให้สำเร็จด้วยนะ เราจะคอยเป็นกำลังใจให้เสมอ-------------เจนนี่


We will to b Friend Forever.........Jenny + kat + Jacob



















Create Date : 16 กันยายน 2552
Last Update : 17 กันยายน 2552 2:50:28 น.
Counter : 591 Pageviews.

1 comments
  
ชีวิตคนเราก็เป็นแบบนี้....มีการพบ การจากลา เป็นธรรมดา มีคนบอกว่าโลกมันกลม วันนึงคงได้พบกันอีก แม้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่นั่นคือความหวัง

มีควมสุขหลาย ๆ และโชคดีนะ ครับ
โดย: p_pyai วันที่: 16 กันยายน 2552 เวลา:9:30:45 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Tristan-uk.BlogGang.com

ยัยหนูเจน
Location :
Swanage - Bournemouth  United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด