ตอนที่ 32
ตอนที่ 32 เพียงพบ...สบตา..


“ทำไมนายถึงดื้อนักนะซิเรียส!!!!” รีมัส ลูปิน ว๊ากใส่เพื่อนรักอย่างเหลืออด “บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้สิ!!!”
ซิเรียสหน้างอ “โธ่...รีมัส นายปล่อยให้ชั้นไปเถอะนะ ชั้นไปแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับ” เขาใช้เวลานานกว่าชั่วโมงแล้วในการ ‘ขอ’ ออกไปข้างนอก เพราะว่าวันนี้สมาชิกภาคีส่งข่าวมาว่าเพราะพายุหิมะที่เกิดขึ้น ทำให้ไม่สามารถออกจากบ้านได้ แต่มันเท่ากับเป็นหนทางที่จะให้เขาได้ไปหาจูเลียน่าที่ฮอกวอตส์ได้
“ทำไมนายถึงอยากออกไปนักนะซิเรียส ข้างนอกนั้นมีอะไรกัน” รีมัสถาม ซิเรียสอึกอัก ช่วงหลังนี้รีมัสมักจะจับตามองเขาไม่ให้คลาดสายตา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร (หรือเป็นเพราะว่ากลัวเขาหนีเที่ยว) แถมรีมัสเองก็ยังไม่รู้เรื่องที่จูเลียน่ากลับมาทำงานที่ฮอกวอตส์แล้ว ซึ่งถ้ารู้ว่าเขาไปถึงฮอกวอตส์ล่ะก็ การที่รีมัสจะปล่อยให้เขาพ้นสายตาล่ะก็เป็นเรื่องยากทีเดียว


*************************************


ท่ามกลางพายุหิมะที่โหมกระหน่ำ เด็กหลายคน (หรือเกือบจะทุกคน) พากันแออัดยัดเยียดกันอยู่หน้าเตาผิงของแต่ละบ้าน วันอาทิตย์อย่างนี้แทนที่จะได้ออกไปเล่นกันข้างนอก กลับต้องมานั่งอุดอู้ จะไปไหนก็ไปไม่ได้ไม่ได้ น่าเบื่อจริง ๆ !!!!
“นี่...พวกเราไปเยี่ยม ศ.จูเลียน่ากันมั้ย” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยขึ้น เธอนั่งมองรอนกับแฮร์รี่เล่นหมากรุกมาเป็นเกมส์ที่ 5 ของวันนี้แล้ว (ซึ่งไม่ว่าจะเล่นยังไง แฮร์รี่ก็ไม่ยอมชนะสักที)
“ก็ดีนะ” ออโรร่าเห็นด้วย
รอนกับแฮร์รี่มองหน้ากันแล้วยักไหล่ “แล้วแต่พวกเธอแล้วกัน”


*************************************


“พักผ่อนให้มาก ๆ นะจูเลียน่า” เสียงคุ้นหูที่ได้ยินทำเอาสุนัขสีดำตัวใหญ่ต้องรีบหลบอย่างรวดเร็ว เขาค่อย ๆ ชะโงกหน้าออกจากที่ซ่อน เห็นจูเลียน่าเดินมาพร้อมกับพี่ชายของเธอ สีหน้าซีดเซียวและรูปร่างที่ดูซูบไปกว่าเดิมทำให้สุนัขสีดำตัวใหญ่ขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าจูเลียน่าจะไม่ค่อยสบาย หรือว่าเขาคิดไปเอง?

“วันหยุดอย่างนี้ แทนที่จะนอนพักผ่อนให้มาก ๆ จะเดินไปเดินมาทำไมก็ไม่รู้ แถมหิมะก็ยังตกหนักเสียอีก โดนลมเย็น ๆ อย่างนี้ เดี๋ยวก็แย่ลงไปอีก” ศ.สเนปบ่น
จูเลียน่ายิ้มบาง “โธ่ เซเวอรัส ชั้นไม่บอบบางขนาดนั้นสักหน่อย พี่ก็รู้นี่”
“มันก็ใช่...” ศ.สเนปยอมรับ “...แต่ตอนนี้เธอไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะจูเลียน่า ตั้งแต่เปิดเทอมมานี่ เธอผอมลงไปกว่าเดิมเยอะ แล้วก็ยังเป็นลมบ่อย ๆ อีกด้วย…”
“ชั้นก็แค่หน้ามืดเท่านั้นเอง” จูเลียน่าขัด “ก็แค่หน้ามืด แล้วก็เพลียเท่านั้น พี่ก็เห็นนี่ว่าชั้นไม่เป็นอะไรมากกว่านั้น มาดามพรอมฟรีย์เองก็บอกว่าชั้นไม่มีอะไรผิดปกตินะ พี่จำไม่ได้เหรอ”
ตั้งแต่ที่เป็นลมล้มลงในครั้งแรก ศ.สเนปก็ยืนกรานให้มาดามพรอมฟรีย์ตรวจอาการน้องสาวที่ไม่เคยล้มป่วยมาก่อนอย่างละเอียด แต่มาดามพรอมฟรีย์ก็ไม่ตรวจพบอะไร บอกแต่ว่าให้จูเลียน่าพักผ่อนให้มาก ๆ


*************************************


ทันทีที่พี่ชายก้าวพ้นไปจากห้อง จูเลียน่าก็เอนตัวล้มลงนอนด้วยความอ่อนเพลีย แม้จะบอกพี่ชายว่าไม่เป็นไร แต่เธอก็รู้ตัวดีว่าเธอรู้สึกแย่มาก ๆ เรี่ยวแรงที่เคยมีเริ่มหดหายไปเรื่อย ๆ แม้จะทรงตัวยืนก็ยังลำบาก แล้วไหนจะยังมาฝืนเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นอีก จูเลียน่าถอนใจ เธอหลับตาเพื่อจะได้พักผ่อนอย่างที่พี่ชายเธอบอก

เสียงประตูเปิดปิดที่ดังขึ้นเบา ๆ และอาการไหวยวบของที่นอนทำให้จูเลียน่าที่เริ่มเคลิ้มใกล้จะหลับอยู่ถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ แต่ฝ่ามือร้อนที่แตะบนหน้าผากเบา ๆ และเสียงทุ้มคุ้นหูที่เอ่ยถามอย่างห่วงใยทำเอาเธอถอนใจอย่างโล่งอก “จูเลีย...เธอเป็นอะไรน่ะ ไม่สบายหรือเปล่า”

จูเลียน่ายิ้มทั้ง ๆ ที่เปลือกตายังปิดสนิท ทันทีที่ได้ยินเสียงคู่หมั้น น้ำตาจำนวนมากมาจากไหนก็ไม่รู้มันปริ่มอยู่ที่ดวงตาจนเธอไม่กล้าลืมตา เพราะกลัวว่าเขาจะเห็นน้ำตาของเธอ แต่แล้วเธอก็รู้ว่าไม่เป็นผลเมื่อเขาเช็ดน้ำตาที่ล้นอยู่ที่หางตาข้างหนึ่งของเธอเบา ๆ เธอจับมือเขามากุมไว้ “มานานหรือยัง” เธอถามเสียงแผ่วเบา
“มาถึงตอนที่เธอเดินมาพร้อมกับไอ้...เอ่อ...สเนปน่ะ” มือข้างที่ว่างลูบหลังมือเธอที่กุมมือเขาไว้ “เธอไม่สบายเหรอจูเลีย เป็นอะไรมากหรือเปล่า”
จูเลียน่าส่ายหน้า “ชั้นแค่เพลีย ๆ น่ะ ไม่เป็นไรมากหรอก”
“หิวน้ำหรือเปล่า” ถามเพราะเห็นริมฝีปากที่แห้งผากของเธอ หญิงสาวพยักหน้า “งั้นคอยเดี๋ยวนะ เดี๋ยวชั้นไปรินน้ำให้ ว่าแต่...” เขามองไปรอบห้อง แต่ไม่เห็นเหยือกหรือแก้วน้ำดื่มเลย
“น้ำดื่มอยู่ด้านนอกน่ะ ชั้นเอาวางไว้ข้างโต๊ะทำงาน”


*************************************


“หนาว ๆๆๆๆๆๆๆ ทำไมมันหนาวอย่างนี้นะ” รอนบ่นไม่หยุดตั้งแต่ออกจากหอกริฟฟินดอร์มา จนกระทั่งใกล้ถึงห้องเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด จนคนอื่นชักรำคาญ
“นายจะบ่นอะไรของนายนักหนาฮะรอน น่ารำคาญจริง ๆ!!!” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างหงุดหงิด “ถ้าหนาวมากนักก็กลับไปนั่งผิงไฟที่ห้องโถงไป๊ พูดมากอยู่ได้”
รอนทำหน้าแหยเมื่อโดนดุ เขาเดินเข้าไปกระแซะแฮร์รี่กับออโรร่า (ที่มัวแต่จีบกันโดยไม่สนใจคนอื่น) แล้วกระซิบนินทาเฮอร์ไมโอนี่ที่เดินล่วงหน้าไปก่อน “แม่นั่นเขาเป็นอะไรของเขาน่ะ เห็นหงุดหงิดมาหลายวันแล้ว หรือว่าเป็นวันนั้นของเดือน”
แฮร์รี่กับออโรร่าหัวเราะ แฮร์รี่กอดคอรอน “ระวังนะรอน เดี๋ยวเกิดเฮอร์ไมโอนี่หูดีขึ้นมา นายจะโดนอีก” รอนหน้าเจื่อน ลอบมองเพื่อนสาวอย่างกลัว ๆ เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนทั้งสองอีกครั้ง

ออโรร่ามองไปยังเพื่อนสาวที่เดินนำไปโดยไม่สนใจใคร หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่ทะเลาะกับมัลฟอยในครั้งนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เปลี่ยนไป ที่ว่าเปลี่ยนนี่ไม่ใช่ว่าพวกเขาเลิกกันหรอกนะ พวกเขายังคงนัดพบกันอยู่เหมือนเมื่อก่อน แต่เฮอร์ไมโอนี่มักจะมาปรับทุกข์กับเธอเรื่องที่เด็กหนุ่มจากบ้านสลิธีรินทำตัวไม่เหมือนเมื่อก่อน แม้จะนัดพบกัน แต่เขาก็มักจะนั่งเงียบ ไม่ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะชวนคุยยังไง คำพูดที่หลุดออกมาจะมีเพียง ‘ใช่‘ กับ ‘ไม่ใช่‘ หรือว่า ‘ได้‘ กับ ‘ไม่ได้‘ เท่านั้น พอหลายครั้งเข้าเฮอร์ไมโอนี่ก็เริ่มท้อ จนบางครั้ง เธอถึงกับหาเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ มาอ้างเพื่อหลีกเลี่ยงในการที่จะไปพบเขา จนออโรร่าต้องเตือนให้ระวังว่าเรื่องราวอาจจะบานปลายไปจนสายเกินกว่าที่พวกเขาจะคืนดีกัน

ร่างสูงที่เดินเลี้ยวผ่านไปยังฝั่งตรงข้ามกับห้องเรียนและห้องพักอาจารย์ประจำวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดทำให้เท้าของออโรร่าชะงัก
“เป็นอะไรไปน่ะออโรร่า” รอนหันมาถามออโรร่าที่ยืนมองนิ่ง
“เอ่อ...พวกเธอไปก่อนเถอะนะ เดี๋ยวชั้นไป...ห้องน้ำก่อน” ออโรร่าหันมาขอตัวกับรอนและแฮร์รี่ที่ยืนรออยู่ แล้วรีบเดินไปยังทิศทางนั้นทันที
แฮร์รี่ทำท่าจะตาม แต่รอนรีบคว้าข้อมือเพื่อนไว้ก่อน “กะอีแค่ไปห้องน้ำนะแฮร์รี่ นายไม่จำเป็นต้องตามไปหรอก” แฮร์รี่ทำท่าจะค้านแต่รอนรีบขัดไว้ก่อน “ชั้นยังไม่อยากได้ยินข่าวลือเรื่องนายเป็นโรคจิตเพราะไปยืนรอแฟนหน้าห้องน้ำนะแฮร์รี่” แฮร์รี่หน้าแดง “เพราะฉะนั้น เรารีบไปก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะอาละวาดพวกเราก่อนเถอะ”


*************************************


แม้จะบอกว่าน้ำดื่มถูกวางไว้ข้างโต๊ะทำงาน แต่ซิเรียสต้องใช้เวลาหาอยู่ในน้อยในการควานหา แล้วเขาก็พบเหยือกน้ำวางไว้อยู่ข้างตู้หนังสือ ซิเรียสยื่นมือไปหยิบ พร้อมกับที่ประตู้ห้องเรียนประจำวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดที่ถูกเปิดออก!! ใจทั้งดวงหล่นวูบเมื่อรู้ว่าถูกคนอื่นพบเข้า แต่แล้วรอยยิ้มกว้างก็ปรากฏเมื่อเห็นดวงหน้าของลูกทูนหัวที่มองเขามาเหมือนกับถูกผีหลอก
“แฮร์รี่!!!”
“ซิเรียส / คุณซิเรียส!!!”


*************************************


“เดี๋ยวมัลฟอย...รอเดี๋ยว...”
มัลฟอยชะงัก เมื่อได้ยินเสียงเรียกคุ้นหู เขาหันไปมอง แล้วส่งยิ้มให้ร่างบางที่เดินมาหยุดอยู่ไม่ห่าง “อ้าว...ออโรร่า เธอมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ”
“พวกชั้นจะไปเยี่ยม ศ.จูเลียน่ากันน่ะ แต่พอดีว่าชั้นเห็นเธอซะก่อน”
มัลฟอยเลิกคิ้ว “ทำไม เธอมีอะไรกับชั้นเหรอ”
“ก็...ไม่มีอะไรมากหรอก” เธอมองเด็กหนุ่มที่ไม่เข้าใจว่าเธอต้องการอะไร แต่แล้วเธอก็เห็นดวงตาสีซีดที่เป็นประกายวาวับขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเธอพูดว่า “ชั้นแค่อยากคุยกับเธอเรื่องของเฮอร์ไมโอนี่เท่านั้น”


*************************************


“เป็นไง เจอมะ...” เสียงทักขาดหายไป เมื่อเจ้าของห้องเห็นร่างที่เดินตามคู่หมั้นเข้ามา เธอมองเด็กทั้งสามด้วยความตกใจ แม้ทั้งสามเองก็มองพ่อทูนหัวของแฮร์รี่อย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเช่นกัน ซิเรียสวางเหยือกน้ำลงข้างเตียง เขารินน้ำแล้วส่งให้หญิงสาวที่พูดอะไรไม่ออก เอ...จะว่าเฉพาะจูเลียน่าที่พูดไม่ออกคนเดียวไม่ได้หรอกนะ เพราะแม้แต่แฮร์รี่ รอนกับเฮอร์ไมโอนี่เองก็พูดไม่ออกเช่นเดียวกัน


*************************************


“เอาล่ะ เธอมีอะไรก็ว่ามา” มัลฟอยที่เดินนำออโรร่ามาหยุดในมุมที่เงียบสงบพูดเสียงเรียบ เธอเองก็เข้าเรื่องทันที ไม่อ้อมค้อม
“ชั้นอยากรู้ว่าเมื่อไหร่ เธอจะหายโกรธเฮอร์ไมโอนี่สักที”
“ชั้นก็ไม่ได้โกรธอะไรเขานี่” เขาปฏิเสธ
“ไม่ได้โกรธ? แล้วที่เธอทำอยู่นี่มันคืออะไรล่ะมัลฟอย” ออโรร่าเสียงเริ่มแข็ง ไม่ได้รู้สึกกลัวกับท่าทางที่เริ่มแข็งกร้าวของอีกฝ่ายเลย “เธอบอกว่าเธอไม่ได้โกรธ แต่เธอทำเหมือนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา ทำเหมือนไม่เต็มใจที่จะอยู่กับเขาทุกครั้งที่พบกันและไม่สนใจเลยว่าสิ่งที่เธอทำอยู่เนี่ย มันทำให้เขาเสียใจมากขนาดไหน” ยิ่งคิดถึงเพื่อนที่บางครั้งก็พูดไปร้องไห้ไปแล้วก็ยิ่งโกรธ แต่เธอก็พยายามระงับอารมณ์ที่พุ่งสูง
“ชั้นรู้ว่า...มันไม่ใช่เรื่องของชั้นนะมัลฟอย” ออโรร่าเสียงอ่อนลง แม้เขาจะไม่พูดก็เถอะ แต่เธอก็ดูออกหรอกน่าว่า เขาไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่ “แต่ชั้นจะไม่พูดก็ไม่ได้ เพราะว่าต้นเหตุของเรื่องนี้มันมาจากชั้นเอง”
“มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยออโรร่า”
“จะใช่หรือไม่ใช่มันก็มีค่าเท่ากันแหล่ะมัลฟอย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเฮอร์ไมโอนี่ระแวงชั้นล่ะก็ พวกเธอก็คงจะไม่ทะเลาะกัน” ออโรร่าเดินเลี่ยงไปยืนอีกทาง “เห็นพวกเธอเป็นอย่างนี้แล้วชั้นรู้สึกไม่ดีเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้...” เธอทำทีเป็นถอนหายใจ
“ตอนนี้ทำไม”
“ก็...” เธอทำท่าเหมือนไม่อยากพูด แต่ก็แอบลอบมองเขา “ก็พอเธอทำตัวอย่างนี้แล้วเฮอร์ไมโอนี่เขาก็ไม่อยากไปหาเธอน่ะสิ แถมเดี๋ยวนี้ชอบมีคนมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ ๆ เขาบ่อย ๆ”
มัลฟอยหรี่ตา ป้วนเปี้ยน? “อธิบายความหมายของเธอมาหน่อยสิออโรร่า”

“ก็ชั้น...เห็นมีเด็กบ้านฮัพเฟิลพัฟชอบมาคุยกับเขาน่ะ แต่ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเป็นใครเพราะไม่รู้จัก”
“ผู้ชายหรือผู้หญิง!!!!” เขาถามเสียงกร้าว ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายขึ้นมาแวบหนึ่งก่อนที่จะจางหายไปอย่างรวดเร็ว
“แหม...มัลฟอย ถ้าเป็นผู้หญิง แล้วชั้นจะมากังวลอยู่อย่างนี้เหรอ” เด็กสาวค้อนขวับ “พวกเธอต่างก็เป็นเพื่อนรักของชั้น เห็นพวกเธอมาผิดใจกันเพราะชั้นแล้วมันไม่ค่อยสบายใจเลย”
มัลฟอยกำหมัดแน่น ใคร!!! ไอ้หน้าโง่หน้าไหนที่มันกล้ามายุ่งกับแฟนเขากัน!!! “เอาเถอะ เรื่องนั้นชั้นจะจัดการเอง” มัลฟอยพูดเสียงขุ่น “ส่วนเรื่องไอ้คนที่เธอว่านั้น ไปสืบดูให้ชั้นทีว่ามันเป็นใคร แล้วมาบอกชั้น ชั้นจะจัดการมันเอง!!!”


*************************************


“พวกเธอมาเยี่ยมจูเลียกันเหรอ” เพราะเจ้าของห้องและลูกศิษย์เอาแต่พากันเงียบ ‘แขก’ ก็เลยเป็นคนเริ่มการสนทนาเอง
“เอ่อ...ครับ...” แฮร์รี่ตอบด้วยท่าทางงง ๆ
“พวกเราเห็นว่าพักหลัง ศ.จูเลียน่าไม่ค่อยสบาย แล้ววันนี้พวกเราว่าง ก็เลยมาเยี่ยมกันค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่เริ่มตั้งสติได้ “ว่าแต่คุณมาได้ยังไงกันคะ มีใครรู้หรือเปล่า”
ซิเรียสยิ้ม เมื่อนึกถึงรีมัสที่ป่านนี้คงโกรธเกรี้ยวอยู่ที่บ้านคนเดียว เมื่อรู้ว่าเขาแอบหนีออกมาในขณะที่อีกฝ่ายเข้าไปชงชาให้ตามคำขอของเขา “วันนี้มีพายุหิมะน่ะ คนอื่นก็เลยไม่มา ชั้นก็เลยถือโอกาสมาเยี่ยมจูเลียซะเลย นึกว่าจะแวะมาเยี่ยมเฉย ๆ กลายเป็นว่าแวะมาเยี่ยมคนป่วยซะได้” เขาหันไปล้อหญิงสาวที่นั่งยิ้มอ่อน ๆ อยู่บนเตียง “ว่าแต่พวกเธอน่ะ สบายดีนะ” เขาหันไปถามพวกแฮร์รี่
“พวกเราสบายดีครั้บ” แฮร์รี่ยิ้ม เขาเดินเข้าไปกอดพ่อทูนหัวที่อ้าแขนตอนรับเขา “ผมคิดถึงพ่อครับ และดีใจที่ได้เจอพ่อที่นี่”
“พ่อก็คิดถึงและดีใจเหมือนกันแฮร์รี่”

คนที่เหลือมองภาพนั้นอย่างตื้นตัน แล้วจูเลียน่าก็ขมวดคิ้ว “นี่...พวกเธอมากันแค่ 3 คนเองเหรอ ออโรร่าหายไปไหนกันจ๊ะ”
“อ๋อ...ออโรร่าไปเข้าห้องน้ำน่ะครับ เดี๋ยวเขาจะตามมาทีหลัง” รอนตอบ
จูเลียน่าเม้มปาก งั้นก็แสดงว่า เดี๋ยวออโรร่าต้องตามมาแน่ ๆ เธอมองไปที่คู่หมั้นอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก ถ้าซิเรียสพบกับออโรร่าเข้า เขาจะทำยังไงกันนะ แต่เธอก็ยังไม่ทันได้หาคำตอบ ประตูห้องก็ถูกเปิดออก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซิเรียสจะทำยังไงหรือจะเป็นยังไง เพราะดวงหน้าเขาซีดเผือดทันทีที่เห็นเด็กสาวที่ก้าวเข้ามาในห้อง แขนที่กอดรัดไว้แฮร์รี่คลายออก พร้อมกับชื่อที่หลุดพ้นออกมาจากริมฝีปาก “...อะ...มิเลีย”

แฮร์รี่หันไปมองพ่อทูนหัวอย่างงง ๆ แล้วเดินเข้าไปหาเด็กสาว “มาแล้วเหรอออโรร่า ชั้นเป็นห่วงแทบแย่”
ออโรร่ามองเขาอย่างขบขัน “เป็นห่วง? ห่วงชั้นทำไมแฮร์รี่ ชั้นไปเข้าห้องน้ำนะ ไม่ได้ไปไหนไกลสักหน่อย”
“โธ่...เธอไม่รู้อะไรออโรร่า” รอนร้องบอก “ไอ้หมอนี่ ทำท่าจะตามไปเฝ้าเธอหน้าห้องน้ำด้วยซ้ำ ดีนะว่าชั้นดึงมันไว้ซะก่อน”
ออโรร่าตาโต เธอมองแฮร์รี่ที่ยืนหน้าแดงแล้วนึกขอบใจรอนที่ไม่ปล่อยให้เขาตามเธอไป แฮร์รี่ยื่นมือมาดึงมือเธอ “มาเถอะ ชั้นจะพาเธอไปรู้จักพ่อทูนหัวของชั้น”

ซิเรียสกวาดตามองเด็กสาวที่เดินมาหยุดตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ว่าจะมองยังไง ไม่ว่าจะมองตรงไหน เด็กสาวคนนี้ก็เหมือนกับแฟนสาวของเขา ‘อมิเลีย วีเบอร์’ ไม่มีผิด!!!! เหมือนกันเหลือเกิน เหมือนกันมากจนน่ากลัว ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา สีผม แม้กระทั่งดวงตาเองก็ตาม และหัวใจก็กระตุกวาบเมื่อเห็นรอยยิ้มที่อีกฝ่ายส่งยิ้มมาให้

“ออโรร่า นี่พ่อทูนหัวของชั้นซิเรียส แบล็ค...พ่อครับนี่ ออโรร่า เดมมิ่ง” แฮร์รี่แนะนำ เขามองท่าทางที่แข็งเหมือนหุ่นของอีกฝ่ายอย่างสงสัย
ออโรร่ายื่นมือไปข้างหน้า ซิเรียสยื่นมือมาจับเด็กสาวอย่างลืมตัว แล้วพวกเขาต่างก็ต้องสะดุ้ง เมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสนั้น
ออโรร่าเงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ อีกแล้ว...ตอนนั้น...ที่เธอเสียหลักเข้าไปในอ้อมแขนของเดรโก มัลฟอยเมื่อหลายเดือนก่อน เธอก็เคยเป็นเช่นนี้ แต่ครั้งนี้ ความรู้สึกนั้นมันรุนแรงกว่าครั้งนั้นมาก มันทั้งอบอุ่น...อ่อนโยน และรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้ ๆ เขา รวมทั้งความรู้สึกไว้วางใจอีกฝ่ายอย่างไม่มีข้อแม้
ตัวซิเรียสเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน ทั้งอบอุ่นและอ่อนโยน รวมทั้งความรู้สึกหวงแหน อยากปกป้องคุ้มครอง...ดูแล มันรุนแรงมากจนเขารู้สึกหวาดกลัว เพราะไม่เคยรู้สึกกับใครอย่างนี้มาก่อน แม้กระทั่งกับแฮร์รี่เองก็ตาม

ซิเรียสดึงมือออก “ยินดีที่ได้รู้จักมิสเดมมิ่ง แฮร์รี่เคยพูดถึงเธอให้ฟังอยู่หลายครั้ง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะคุณแบล็ค แฮร์รี่เองก็เคยพูดถึงคุณให้ฟังเหมือนกัน” ออโรร่ายิ้มอาย ๆ “แล้ว...คุณจะเรียกหนูว่าออโรร่าก็ได้นะคะ”
“ได้ ออโรร่า ถ้าอย่างนั้น เธอก็ต้องเรียกชั้นว่าซิเรียสเหมือนกันนะ” “ค่ะ คุณซิเรียส”


*************************************


“พ่อทูนหัวของเธอน่ารักดีนะแฮร์รี่” หลังจากได้คุยกับซิเรียสและจูเลียน่าพักใหญ่ ออโรร่าพูดขึ้นหลังจากที่ออกมาจากห้องพักของจูเลียน่าแล้ว “ดูอบอุ่นแล้วก็อ่อนโยนดี”
“ใช่ ชั้นเองก็รักเขามากเลยนะ” แฮร์รี่ยิ้มแป้น
“น่าอิจฉาจังเลย ถ้าพ่อกับแม่ที่แท้จริงของชั้น รักชั้นเหมือนอย่างที่รักเธอได้ก็ดีน่ะสิ” ออโรร่าพูดเศร้า ๆ
แฮร์รี่ยิ้มปลอบใจ “ชั้นเชื่อว่าพวกเขาต้องรักเธอมาก ๆ แน่ออโรร่า ชั้นเชื่ออย่างนั้น”


*************************************


“เธอไม่เคยบอกชั้นเลย” ซิเรียสพูดขึ้นหลังจากที่เด็กทั้ง 4 พ้นออกไปจากห้อง
“บอก? เธอจะให้ชั้นบอกอะไรซิเรียส จะให้ชั้นบอกว่า ‘นี่ มีเด็กนักเรียนคนนึง หน้าเหมือนแฟนเธออย่างกะแกะเลยแหล่ะ’ อย่างงั้นเหรอ” จูเลียน่าขมวดคิ้ว “นั่นมันไม่มีเหตุผลเลยนะ”
“ชั้นไม่คิดมาก่อนเลยนะว่าจะมีคนที่เหมือนกันมากขนาดนี้” เขาเดินมาทรุดลงนั่งที่ขอบเตียง “ตอนที่เห็นชั้นแทบช็อคเลย”
“ชั้นเองก็ไม่ต่างกับเธอสักเท่าไหร่หรอกซิเรียส ตอนที่เห็นเด็กคนนี้ครั้งแรก ชั้นยังนึกว่าเป็นแฟนเธอเลย”
“ใช่เด็กคนนี้หรือเปล่าจูเลีย ที่ว่าเพิ่งได้เข้าเรียนตอนปีนี้”

“ใช่ เด็กคนนี้เพิ่งเข้าเรียนปีนี้เป็นปีแรก แต่ก็กระโดดข้ามมาที่ปี 6 ทันที”
“ตอนที่ชั้นได้ยินเรื่องเด็กคนนี้ครั้งแรก ชั้นยังนึกว่าแปลก เพราะว่ามันผิดระเบียบ...เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”
จูเลียน่าพยักหน้า “ใช่แล้วล่ะ เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”
“เธอเล่าเรื่องเด็กคนนี้ให้ชั้นฟังหน่อยได้มั้ย”

“เท่าที่ชั้นรู้ เด็กคนนี้โตมาในครอบครัวของมักเกิ้ล ชื่อของออโรร่าไม่ได้ปรากฏขึ้นในรายชื่อของนักเรียนที่ได้เข้าเรียนที่ฮอกวอตส์มาตั้งแต่ต้น แกใช้ชีวิตอยู่อย่างเด็กธรรมดา จนกระทั่งเมื่อช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา จู่ ๆ ชื่อของออโรร่าก็ปรากฏขึ้นในฐานะนักเรียนใหม่ชั้นปีที่ 6 แต่เนื่องจากว่าแกไม่เคยได้เรียนรู้เรื่องคาถามาก่อน ก็เลยมีการสอนพิเศษแกเป็นเวลา 2 เดือน และทำการทดสอบ ซึ่งปรากฏว่า ผ่านอย่างไม่มีเงื่อนไข”
“เหลือเชื่อ...”
“เรื่องเหลือเชื่อยังไม่จบแค่นั้นหรอกซิเรียส พอออโรร่าเริ่มเรียนพร้อมคนอื่น ๆ ความสามารถของเด็กคนนี้ก็ปรากฏออกมาให้เห็น ไม่ว่าอาจารย์ท่านไหนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน เรื่องความเป็นอัจฉริยะของเด็กคนนี้”
“เธอหมายถึง...”
“แม้จะใช้เวลาเรียนเพียงไม่นาน แต่ออโรร่าก็เรียนรู้ได้เร็ว เร็ว...มากกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันหลายเท่าทีเดียว”

“มันยังไม่หมดเพียงแค่นั้นนะซิเรียส” จูเลียน่าบอกคู่หมั้นที่นั่งนิ่ง “เมื่อตอนคริสมาสต์ที่ผ่านมา เราได้รู้อะไรอีกอย่างนึง”
“อะไร”
“เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของครอบครัวเดมมิ่ง พวกเขาเพียงแค่รับฝากเอาไว้”
ซิเรียสหายใจแรง “แล้วใครเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงของเด็กคนนั้น” เขาถามรัวเร็ว
จูเลียน่าส่ายหน้า “ชั้นไม่รู้หรอก แต่คิดว่า ศ.ดัมเบิ้ลดอร์กับ ศ.มักกอนนากัลน่าจะรู้” เธอมองชายหนุ่มที่นั่งก้มหน้า “เธอคิดว่า เด็กคนนี้เป็นลูกของมิสวีเบอร์เหรอซิเรียส”
“ชั้นไม่รู้” เขาตอบเสียงแผ่ว “แต่ถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกของอมิเลียจริง ก็มีความเป็นไปได้ว่า เด็กคนนี้ก็อาจจะ...เป็นลูกของชั้นได้เหมือนกัน”


*************************************


“นายทำอย่างนี้กับชั้นได้ยังไงซิเรียส!!!” รีมัส ลูปินระเบิดอารมณ์ใส่เพื่อนรักทันทีที่เห็นเขาก้าวเข้ามาในบ้าน “นายหลอกชั้น นายบอกให้ชั้นเข้าไปชงชาให้นาย แล้วเป็นไง นายก็รีบหนีออกไปทันทีที่ชั้นหันหลังให้ ต่อไปนี้ชั้นจะไม่เชื่ออะไรนายอีกแล้ว!!!”
ไม่มีคำอธิบายหรือคำแก้ตัวใด ๆ ลอยกลับมา รีมัสมองเพื่อนที่เดินไปนั่งที่หน้าเตาผิงอย่างสงสัย “เป็นอะไรไป เกิดอะไรขึ้นเหรอซิเรียส”
ซิเรียสเงยหน้ามองเพื่อนรัก “นาย...เคยเจอเด็กที่ชื่อออโรร่า เดมมิ่งแล้วใช่มั้ย” ไม่มีคำตอบจากรีมัส แต่ดวงตาที่ฉายแววตกใจอย่างชัดเจนนั้น เป็นคำตอบอย่างดี “เด็กคนนั้นน่ะน่ารักนะ สดใส ร่าเริง เหมือนอมิเลียไม่มีผิด”
“นะ...นาย...เจอเด็กคนนั้นแล้วเหรอ” รีมัสตะกุกตะกัก
“ใช่ ชั้นได้พบเขาวันนี้”
“แล้วนายไปเจอเขาที่ไหนกันซิเรียส วันนี้มีพายุหิมะ พวกเขาไม่น่าจะได้ไปฮอกมีตนี่” ซิเรียสนิ่ง “อย่าบอกนะว่านายไปเจอเขาที่ฮอกวอตส์มา” ซิเรียสเมินหน้าหนี รีมัสจับแขนเพื่อนที่ทำท่าจะเดินหนีอย่างตกใจ
“นี่นายไปถึงฮอกวอตส์เชียวเหรอซิเรียส ทำไมนายถึงบ้าระห่ำขนาดนั้น รู้มั้ยว่าถ้ามีใครจับได้...”
“ชั้นไม่สน...” ซิเรียสขัด “ชั้นไม่สนหรอกว่าจะมีใครจับได้ เพราะทุกอย่างที่ชั้นรักอยู่ที่นั่น”
รีมัสย่นคิ้ว “ทุกอย่างที่นายรัก?”
“นายเคยถามชั้นใช่มั้ย ว่าทำไมชั้นกับอมิเลียถึงได้ไม่แต่งงานกัน” รีมัสชะงักเมื่อได้ยินคำถามที่ไม่คาดฝัน “ถ้านายอยากรู้ก็ลองไปที่นั่นสิ เพราะคำตอบอยู่ที่นั่นแล้ว”


*************************************


“เขาพูดอย่างนั้นเชียวหรือรีมัส” ศ.มักกอนนากัลถามด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากรีมัสในวันรุ่งขึ้น เมื่อเขามาพบศ.ดัมเบิ้ลดอร์ที่ฮอกวอตส์ตามที่ได้นัดหมายไว้ก่อนหน้านี้
“ใช่ครับศ.มักกอนนากัล”
“ซิเรียสนี่นับวันยิ่งเอาใหญ่ ดูซิ ถึงขนาดลอบเข้ามาในฮอกวอตส์เชียว ถ้าโดนจับเข้าจะว่ายังไง” ศ.มักกอนนากัลบ่น แต่ศ.ดัมเบิ้ลดอร์หัวเราะเบา ๆ
“มันไม่ใช่เรื่องน่าขำเลยนะครับศ.ดัมเบิ้ลดอร์” รีมัสเอ่ยอย่างขัดใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายดูสนุกกับเรื่องที่เกิดขึ้น ในขณะที่เขากังวลจนแทบจะไม่ได้นอนทั้งคืน “ถ้าเป็นไปได้ ผมไม่อยากให้ซิเรียสได้เจอกับเด็กคนนั้นเลยด้วยซ้ำ”
“ทำไมกันล่ะรีมัส” ศ.ดัมเบิ้ลดอร์ถาม

“คุณก็ทราบนี่ครับว่าเกิดอะไรขึ้น” รีมัสพูดถึงเรื่องราวที่เขากังวลใจตลอดมา “ทั้ง ๆ ที่บ้านหลังนั้นได้รับการป้องกันเป็นอย่างดี แต่จนถึงทุกวันนี้ ผมก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าผู้หญิงคนนั้นเล็ดรอดเข้าไปได้ยังไง!!! แล้วแถมจู่ ๆ ก็มีเด็กคนหนึ่งที่หน้าเหมือนเขาหยั่งกะแกะโผล่เข้ามาในฮอกวอตส์ แล้วยังไปสนิทสนมกับแฮร์รี่อย่างนั้นอีก”
“แต่เธอแน่ใจนะรีมัส ว่าผู้หญิงที่แอบเข้าไปในบ้านหลังนั้นในวันนั้นคือ อมิเลีย วีเบอร์ จริง ๆ “ ศ.มักกอนนากัลถาม
“ผมแน่ใจครับ ศ.มักกอนนากัล ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เห็นเขามาหลายปีแล้วก็ตาม แต่ผู้หญิงคนนั้นคืออมิเลียไม่ผิดแน่นอน!!!”


*************************************


“หลายวันมานี่ ดูเธอไม่ค่อยดีเลยนะเฮอร์ไมโอนี่ มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ บอกครูได้มั้ย” จูเลียน่าเอ่ยถามเด็กสาวอย่างห่วงใย หลังจากที่หมดเวลาของวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า “ครูอาจจะช่วยอะไรได้ไม่มากหรอกนะ แต่ครูเป็นที่ปรึกษาให้ได้”
เฮอร์ไมโอนี่ฝืนยิ้ม เธอไม่อยากให้ปัญหาของเธอไปทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ “หนูไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะอาจารย์ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง”


*************************************


“ชั้นล่ะเซ็งยัยนั่นจริง ๆ ไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไร ทำตัวอย่างกับไม่มีชีวิตจิตใจ” รอนบ่นในระหว่างอาหารเย็น หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่ขอตัวไปห้องสมุด
“นายหมายถึงใคร”
“จะหมายถึงใครล่ะแฮร์รี่ ก็เฮอร์ไมโอนี่น่ะสิ” รอนกระแทกเสียง “นายไม่สังเกตหรือว่าพักหลังเนี่ยเขาแปลก ๆ ไป แถมยังดูเหมือนจะขัดหูขัดตาไปซะทุกเรื่อง”
“เขาอาจจะเครียดเรื่องเรียนก็ได้นะ” ออโรร่าพยายามแก้ตัวให้เพื่อน
รอนเบะปาก “เฮอะ คนอย่างยัยนั่นเครียดเรื่องเรียนเป็นปกติอยู่แล้วแหล่ะ แต่ตอนนี้มันเหมือนกับเขามีปัญหาอะไรอย่างนั้นแหล่ะ และชั้นจะต้องหามันให้ได้ ว่าเกิดอะไรขึ้น!!!”


*************************************


ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจจะไปห้องสมุดที่เป็นจุดนัดหมายเดิม แต่พอมาถึงทางแยก เท้าที่ก้าวเดินกลับชะงัก ใจหนึ่งก็อยากพบหน้าคนที่ป่านนี้คงนั่งรออยู่ในที่ห้องสมุด แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากพบเขาเพราะไม่อยากเจอกับท่าทางเย็นชา จนบางครั้ง ทำเหมือนกับไม่เต็มใจที่จะพบหรือคุยกับเธอ
เฮอร์ไมโอนี่กอดหนังสือที่หอบไว้แน่น จะโทษใครได้ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพราะเธอเอง ถ้าเธอไม่เอาแต่หวาดระแวงจนทำให้เขาต้องรำคาญ มันคงจะไม่เป็นอย่างนี้ เธอหันหลังกลับ “บางที...มันคงถึงเวลาแล้ว...”


*************************************


ปัง!!!! โครม!!!! เสียงกระแทกประตู และเสียงกระแทกโต๊ะเขียนหนังสือทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงต่างพากันผวาตื่นด้วยความตกใจ แต่เมื่อเห็นดวงหน้าโกรธเกรี้ยวของคนที่ยืนอยู่ พวกเขาก็พากันรีบล้มตัวลงนอนอีกครั้งด้วยความหวาดกลัว
มัลฟอยกระแทกตัวลงนั่งที่เตียงมองนาฬิกาข้อมือด้วยความหงุดหงิด วันนี้เขาไปรอที่จุดนัดหมายเหมือนทุกวัน แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังไม่มา ไม่มีแม้กระทั่งข้อความหรือเหตุผลที่ไม่สามารถมาพบได้ (เหตุผลที่เขาเพิ่งรู้ในวันนี้ว่าบางครั้งมันถูกอ้างขึ้นมาเลื่อนลอย) จากเธอ ทั้ง ๆ ที่วันนี้เขาตั้งใจว่าจะทำตัวเหมือนเดิม ทำเหมือนว่าตลอดเวลาช่วงหลายวันที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเรื่องบาดหมางมาก่อน แต่ดูสิว่าเป็นไง!!!! เธอปล่อยให้เขารอเก้อ!!!!

ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะหน้าต่างดังขึ้นเบา ๆ มัลฟอยหันไปมองเห็นนกฮูกตัวหนึ่งบินอยู่ เมื่อเขาเปิดหน้าต่าง มันก็โผลงเกาะที่ขอบหน้าต่างแล้วยื่นขาข้างที่มีจดหมายให้ เมื่อเขาแกะมันออก เจ้านกฮูกตัวนั้นก็บินจากไปทันที มัลฟอยปิดหน้าต่าง ก้มลงมองจดหมายที่ไม่ได้ถูกจ่าหน้าไว้ในมือ แล้ววางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสืออย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะล้มตัวลงนอน รอก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้ก่อน แล้วเขาจะจัดการเรื่องที่น่าโมโหนี้ให้จบไป


*************************************


“อ้าว...ออโรร่าแล้วเฮอร์ไมโอนี่ล่ะ” แฮร์รี่ถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นออโรร่านั่งอยู่ที่หน้าเตาผิงอยู่คนเดียว
“อย่าบอกนะว่ายัยนั่นไปห้องสมุดแล้ว” รอนขัด
ออโรร่าส่ายหน้า “เปล่าหรอก แต่ว่าเฮอร์ไมโอนี่เขายังไม่หิวน่ะ ก็เลยบอกให้เราไปกันได้เลย ไม่ต้องรอเขา”
“เหรอ งั้นเราก็ไปกันเถอะ ก่อนที่รอนจะเขมือบช้างได้ทั้งตัว” แฮร์รี่หันไปแขวะเพื่อน
รอนแยกเขี้ยวใส่ “ก่อนที่จะเขมือบช้างได้ ชั้นจะเขมือบนายก่อนเพื่อนเลยละกันดีมั้ยเพื่อน”
ออโรร่าส่ายหน้ายิ้ม ๆ เมื่อเห็นเด็กหนุ่มทั้งสองเดินกันไปก็เถียงกันไป เธอหันไปมองทางฝั่งหอหญิงแวบหนึ่งแล้วเดินตามเพื่อนทั้งสองไป


*************************************


“นายไม่หิวเหรอมัลฟอย” กอยย์ถามอย่างสงสัย เพราะว่าวันนี้เขากับแครบโดนมัลฟอยลากมาที่ห้องโถงใหญ่ตั้งแต่เช้าด้วยเหตุผลที่บอกว่า ‘หิว’ แต่นี่จนเขาสองคนจะอิ่มแล้ว เขายังไม่เห็นมัลฟอยกินอะไรเลย เอาแต่คนซุปในถ้วยไปมา แถมยังเอาแต่กวาดตามองไปมาเหมือนจะมองหน้าใครสักคน มัลฟอยโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ แครบกับกอยย์มองหน้ากันอย่างงง ๆ แล้วหันไปสนใจอาหารตรงหน้าต่อ
แต่ความสงบก็เกิดขึ้นได้ไม่นาน เมื่อทั้งสองคนหันมาแย่งครัวซองก์อันเดียวกันทั้ง ๆ ที่ยังมีเหลืออยู่อีกหลายอันบนโต๊ะ

“นี่ชั้นหยิบก่อนนะ”
“ชั้นต่างหากที่หยิบก่อน” แครบเถียงกอยย์อย่างไม่ยอมแพ้ เขาพยายามดึงครัวซองก์มาให้หลุดจากกอยย์ แต่กอยย์เองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน ทั้งสองคนดึงกันไปดึงกันมา (ครัวซองก์แค่อันเดียวมันแย่งอะไรกันนักกันหนาฟะ) สุดท้ายคนที่ได้ไปไม่ใช่ทั้งแครบหรือกอยย์ แต่เป็นมัลฟอยที่โดนทั้งครัวซองก์และถ้วยซุปของทั้งคู่เข้าไปเต็ม ๆ

ทั้งห้องเงียบกริบ ก่อนที่จะมีเสียงหัวเราะดังลั่นดังมาจากฟากหนึ่งของห้อง (คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าดังมาจากตรงไหน) มัลฟอยกระแทกช้อนเต็มแรง เขาลุกขึ้นด้วยความโมโหแล้วว๊ากใส่ตัวการทั้งสอง (ที่ยืนตัวสั่น หน้าซีดเผือด) เสียงดังลั่น “แครบ!!! กอยย์!!! ทำไมพวกแกถึงกินแบบที่คนธรรมดาเขากินกันไม่เป็นหา!!! ถ้าพวกแกไม่รู้จักปรับปรุงตัวเองล่ะก็ ต่อไปชั้นจะจัดการให้เอง เข้าใจมั้ย!!!” แครบกับกอยย์พยักหน้าพร้อมกัน พวกเขาพูดอะไรมไม่ออก ได้แต่มองตามลูกพี่ที่ลุกจากโต๊ะ แล้วไปจ๊ะเอ๋กับกลุ่มของแฮร์รี่ที่กำลังเดินเข้ามาที่หน้าประตูพอดี

พวกแฮร์รี่เบิกตากว้างอย่างตกใจ แล้วรอนก็มองมัลฟอยตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วไล่ขึ้นมาด้านบนอีกครั้งเพื่อความแน่ใจก่อนที่จะหัวเราะเสียงดังลั่น “ฮ่า ๆๆๆๆๆ ทำไมถึงอยู่ในสภาพนี้วะเจ้าเฟเร็ต อย่าบอกนะว่าแกกระโดดลงไปว่ายในหม้อซุปน่ะ”
มัลฟอยแสยะยิ้ม “เสียใจว่ะวีเซิล ที่บ้านชั้นไม่ได้อดอยากไม่มีกินอย่างแกนี่ จะได้อดใจไม่ไหว กระโดดลงไปในหม้อซุปน่ะ”
รอนตาลุกวาว เขาถลันไปด้านหน้าอย่างลืมตัว แต่แฮร์รี่ก็คว้าแขนเพื่อนไว้ได้ทัน “มัลฟอย ชั้นรู้ว่าครอบครัววีสลีย์เขาไม่ได้ร่ำรวยเหมือนครอบครัวนาย แต่ชั้นแน่ใจว่าพวกเขาทำตัวมีเกียรติมากเกินกว่าจะทำตัวซกมกเหมือนอย่างที่นายทำ!!!!”
“พอตเตอร์!!!! แก!!!!”
“ว๊าย!!!! อย่า!!!! อย่ามีเรื่องกันนะ” ออโรร่ารีบเข้าไปแทรกกลางระหว่างแฮร์รี่กับมัลฟอยที่ทำท่าจะพุ่งเข้าหากัน ก่อนที่เรื่องที่จะลุกลามมากเกินไปกว่านี้ “ชั้นขอร้องล่ะแฮร์รี่...มัลฟอย อย่ามีเรื่องกันเลยนะ” มัลฟอยหยุดด้วยสีหน้าเดือดดาล ส่วนรอนกับแฮร์รี่มองหน้ามัลฟอยแล้วยิ้มอย่างสะใจ
“แฮร์รี่...ได้โปรด” เธอหันไปอ้อนวอนแฟนหนุ่ม แฮร์รี่ยักไหล่เหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญ แล้วเธอก็หันไปทางมัลฟอย “มัลฟอย...”
“เชอะ...” เพราะไม่อยากทำให้เด็กสาวไม่สบายใจมัลฟอยจึงเริ่มเดินออกไปจากห้องโถงใหญ่อีกครั้งแม้จะไม่พอใจ แต่เมื่อเดินไปได้ไม่กี่ก้าวเขาก็หันกลับไปมองกลุ่มแฮร์รี่ที่กำลังทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะอย่างนึกได้...ไม่มีเฮอร์ไมโอนี่


*************************************


ปัง!!!! “ไอ้พวกปัญญาอ่อนเอ้ย!!!!” มัลฟอยกระแทกประตูห้องน้ำปิดเสียงดังลั่น พอกลับมาถึงหอเขาก็รีบเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที จะให้ใช้คาถาช่วย ยังไงมันก็ไม่รู้สึกสะอาดเหมือนอย่างที่เจอน้ำจริง ๆ โชคดีนะเนี่ยที่เช้านี้ไม่มีเรียน ไม่อย่างนั้นเขาต้องโดนหักคะแนนเพราะไอ้อ้วนสองตัวนั้นแน่
มัลฟอยกลับไปที่ห้องนอน เขายื่นมือไปหยิบนาฬิกาที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือ แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่วางอยู่ไม่ไกลนัก...จดหมายที่ถูกส่งมาเมื่อคืนนี้


*************************************


“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”
“โอ๊ย!! เธอจะขำอะไรนักหนานะรอน” ออโรร่าหันมาถามเพื่อนที่เดินตามหลังเข้ามาอย่างหงุดหงิด “ชั้นเห็นเธอหัวเราะมาตั้งแต่ก่อนทานอาหารแล้วนะ นี่จนกลับมาถึงหอแล้วยังไม่เลิกอีกเหรอ”
“ก็มันตลกนี่ ไอ้ซีดนั่นเปื้อนซุปตั้งแต่หัวจรดเท้า...อุ๊บ...” รอนหลุดเสียงหัวเราะออกมาอีก “...แค่คิดก็ขำแล้ว”
“รอน!!!”
“ไปเจอเรื่องสนุกอะไรมาเหรอรอน เสียงหัวเราะถึงได้ดังลั่นหออย่างนั้น” เสียงเพื่อนสาวอีกคนดังแทรกเข้ามา รอนหันไปมอง แล้วก็ยิ้มกว้างเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่เดินลงมาจากบันได เขารีบเดินไปหยุดรอที่หน้าบันได “รีบลงมาเร็ว ๆ ซิ ชั้นมีอะไรจะเล่าให้ฟัง”
“อะไร”
“มาเร็ว ๆ ซิ” เขารีบคว้าข้อมือเฮอร์ไมโอนี่ให้มานั่งที่หน้าเตาผิง
“ว่าไง เรื่องอะไรล่ะรอน หวังว่าคงจะสนุกนะ”
“ไม่ใช่แค่สนุกหรอก เรื่องเด็ดเลยล่ะ”
ออโรร่าทำหน้าบึ้ง “เด็ดสำหรับเธอคนเดียวน่ะสิรอน”
“ใครว่า ไม่ใช่ชั้นคนเดียวหรอก นายด้วยใช่มะแฮร์รี่” เขาหันไปหยักเพยิดถามแฮร์รี่ที่ยืนสีหน้าเรียบเฉย
แฮร์รี่เลิกคิ้วตอบ “ชั้นเห็นด้วยกับนายนะรอน ไม่ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้ไอ้หมอนั่นเดือดร้อน มันทำให้ชั้นสนุกหมดแหล่ะ” แล้วหันไปมองออโรร่า “แม้ใครบางคนจะไม่เห็นด้วยกับเราก็ตาม” ดวงตาสีฟ้าวูบไหวไปมาเมื่อโดนคำพูดที่แทงใจดำ แม้จะเกิดขึ้นเพียงแวบเดียว แต่ก็อยู่ในสายตาของแฮร์รี่ทั้งหมด เขาจ้องมองออโรร่านิ่ง จนเธอต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนี
เฮอร์ไมโอนี่มองเพื่อนทั้งสามอย่างงง ๆ “แล้วตกลงมันเรื่องอะไรกัน พวกเธอพอจะบอกได้หรือยัง”
รอนนั่งลงข้าง ๆ อย่างกระตือรือร้น “คืออย่างนี้...”


*************************************


โครม!!! เปรี้ยง!!! เสียงโครมครามที่ดังลั่นไปทั่วหอพักสลิธีริน ทำเอาใครต่อใครที่ได้ยินต่างพากันตกใจ พวกเขามองไปรอบตัว แต่ก็ไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
โครม!!! เปรี้ยง!!! เสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ทุกคนต่างพากันตัวแข็งทื่อ แม้จะเห็นว่าใครเป็นคนทำ แต่ของอย่างนี้ไม่ต้องเห็นก็รู้ เพราะคนที่กล้าทำอย่างนี้ได้โดยไม่เกรงกลัว ศ.สเนปนั้นมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
โครม!!! ปัง!!! เปรี้ยง!!! เสียงดังขึ้นกว่าเดิม คราวนี้ทุกคนต่างพากันรีบหายตัวไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อย่างนั้น อาจจะได้รับผล (ร้าย) ได้โดยไม่ตั้งใจ

หลังจากที่อาละวาทจนพอใจแล้ว มัลฟอยก็ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน แล้วหยิบจดหมายเจ้าปัญหาขึ้นมาอ่านใหม่ แต่ไม่ว่าจะอ่านกี่ครั้ง ข้อความในนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม

‘เดรโก
ชั้นขอโทษนะที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาชั้นสร้างแต่เรื่องวุ่นวายขึ้นมาให้เธอต้องรำคาญใจ ไม่ใช่มีแต่เธอที่รู้สึกเบื่อหน่ายหรอก ชั้นเองก็เบื่อตัวเองเหมือนกัน เบื่อ...ที่ทำตัวน่ารำคาญเหมือนผู้หญิงทั่วไป เบื่อ...ที่ใช้แต่อารมณ์ไม่เคยมีเหตุผล

เมื่อก่อน เคยมีคนบอกชั้นว่าการที่เราสองคนแตกต่างกันมาก มันจะทำให้ความสัมพันธ์ของเราไม่ยั่งยืน แต่ชั้นบอกเขาไปว่า ถึงเราจะไม่เหมือนกัน แต่แค่เรารักกันเท่านั้นมันก็น่าจะพอ ในเวลานั้น ชั้นเชื่ออย่างนั้นนะ แต่ในตอนนี้ชั้นกลับไม่คิดอย่างนั้น เพราะเราไม่เหมือนกันเลย เราถึงได้ไม่มีความสุขเหมือนอย่างคนอื่น เวลาจะพบกันก็ได้แต่หลบ ๆ ซ่อน ๆ ต้องคอยปกปิดคนอื่นถึงความสัมพันธ์ของพวกเรา แต่ถ้าพวกเราได้เจอกับคนที่เหมือนกับเรา มันก็คงจะทำให้ทั้งชั้นและเธอมีความสุขมากขึ้น เธอคิดอย่างนั้นมั้ย? เพราะฉะนั้นเดรโก ชั้นว่า...เราเลิกกันเถอะ
เฮอร์ไมโอนี่’









Create Date : 01 กันยายน 2549
Last Update : 1 กันยายน 2549 11:54:44 น.
Counter : 675 Pageviews.

0 comments
The Last Thing on My Mind - Tom Paxton ... ความหมาย tuk-tuk@korat
(1 ม.ค. 2567 14:50:49 น.)
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
ประสบการณ์ ทำพาสปอร์ตที่สายใต้ใหม่ newyorknurse
(2 ม.ค. 2567 17:45:17 น.)

Traveler-hpfictionroom.BlogGang.com

s_sut
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]

บทความทั้งหมด