เรื่องของอุษา ภาคสองที่ญี่ปุ่น
กลับมาเล่าเรื่องของอุษา ภาคญี่ปุ่นต่อ

ตอนที่แล้วเล่าไว้ถึงตอนที่อุษาเงินหมด สมัยก่อนเงินหนึ่งล้านบาท ถือว่าเยอะมากนะ
แต่อุษาก็บอกว่า เธอละลายหมดไปกับการปลูกบ้านใหม่ให้พ่อแม่ ญาติพี่น้องมาขอ เธอก็ให้

และก็อาจจะลืมตัวไป เพราะมีแต่คนมาชื่นชมยกยอปอปั้นว่าเธอเป็นเศรษฐีนีแต่อายุยังน้อย
หนังสือหนังหาก็ไม่ได้เรียน แต่วาสนาดี ได้ผัวรวย ทำให้สบายไม่ต้องทำงานหนักก็มีเงินให้ใช้สบายๆ

อุษาเล่าว่า เธออ่านหนังสือไม่ค่อยออก เพราะเรียนแค่ป.๔ และพอมีลูกก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องเรียนอีก

ทำหน้าที่เมีย นอนรอสามีอย่างเดียว เรื่องเรียนเพื่อเพิ่มพูนความรู้เธอไม่เคยคิดอยู่ในสมอง

เมื่อเงินที่มีอยู่หมดไปในเวลาเพียงสองปี และเธอยังสาวอยู่มากๆ เพราะเพิ่งจะยี่สิบเอ็ด
พอมีเพื่อนมาเล่าว่า ไปทำงานญี่ปุ่นเงินดี เรื่องเงินล้านเป็นเรื่องเล็กสำหรับที่นั่น ไม่ถึงปีรับรองลืมตาอ้าปากได้อย่างเก่าแน่

อุษาจึงทำเรื่องเดินทางไปญี่ปุ่น โดยมีนายหน้าแนะนำให้ทุกอย่าง ตั้งแต่ทำหนังสือเดินทาง ขอวีซ่า
เมื่อวีซ่าผ่านเรียบร้อย เธอก็ได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นอย่างสะดวกสบาย เพราะสมัยก่อนวีซ่าไม่ยากเหมือนปัจจุบัน




เมื่อมาถึงญี่ปุ่น ก็มีบอสคนญี่ปุ่นมารับถึงสนามบิน บ้านเมืองใหม่ที่อุษาเห็นทำให้เธอมั่นใจว่าเธอจะกลับมามีเงินเหมือนเดิม

เขาว่าเรื่องดวงของแต่ละคนนี่บางทีก็จะเป็นอะไรที่เบื้องบนเขาลิขิตมาแล้ว ดังเช่นอุษา

เพราะเธอมาถึงญี่ปุ่นได้วันเดียว เธอก็ได้พบกับสามีคนที่สอง ซึ่งเป็นยากุซ่าใหญ่

ใครจะไปคิดว่าเธอจะโชคดีอย่างนั้น จะเรียกว่าเธอวาสนาดีได้หรือเปล่าก็ไม่ทราบได้

เพราะหญิงไทยหลายคน กว่าจะโชคดีได้คนดูแลเลี้ยงดูอย่างจริงจัง ต้องผ่านการทำงานมาอย่างโชกโชน

ไม่ใช่มาทำงานวันเดียวก็ได้พบนายใหญ่แบบนี้ แต่อุษาก็เป็นที่่ถูกตาต้องใจนายใหญ่เข้าอย่างที่ใครก็คาดไม่ถึง

เธอเล่าว่า เมื่อบอสคนที่มารับเธอไปที่พัก เธอได้พบกับนายใหญ่โดยบังเอิญ ซึ่งปรกตินายใหญ่จะไม่ออกมาให้ใครเห็นง่ายๆ

ชีวิตของอุษายิ่งกว่านิยาย ยิ่งเล่ายิ่งสนุก เราคุยกันไปทานอาหารกันไป และยิ่งเธอดื่มเบียร์เป็นน้ำ

เรื่องราวต่างๆของเธอก็ไหลลื่นออกมาจากปากของเธอดังทำนบแตก



อุษาเล่าว่า เธอได้พบกับสามีคนที่สองนี้ โดยบังเอิญจริงๆ คงเป็นด้วยเธอดวงดีหรือดวงร้ายก็ไม่ทราบได้

เมื่อรูปร่างหน้าตาของอุษาไปเข้าตาของนายใหญ่ เขาก็สั่งให้ลูกน้องพาอุษาไปหาเขาที่ห้อง
และห้ามนำอุษาไปทำงานที่ไหน เขาบอกเขาชอบ อยากได้อุษาไปเป็นเมีย ทำไมจะง่ายดายอย่างนั้น

ถ้าพูดกันตามสายตาที่ป้ามองเห็นอุษา ป้าว่าอุษารูปร่างหน้าตาตรงสเป็คคนญี่ปุ่น เพราะตัวเล็กๆขาวๆ
หน้าอกมีให้เห็นชัดเจน ไม่ถึงกับสวยหยาดเยิ้ม แต่ก็มีเสน่ห์ทางเพศที่ผู้ชายหลายคนชอบ

ชีวิตใหม่กับสามียากูซ่า เป็นอะไรที่อุษาต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก เพราะสามีใหม่ของอุษา ไม่ใช่แค่เป็นยากูซ่าธรรมดา

เขาเป็นระดับนายใหญ่ หรือที่เรียกว่า โอยาบุน ไม่ต้องมาออกหน้าทำอะไร มีแต่รอรับผลประโยชน์

สมัยก่อนตำรวจเกรงใจยากูซ่า เหมือนกับน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
ถ้าตำรวจต้องการจะจัดการเรื่องอะไร ก็ติดต่อกับนายใหญ่ หลายเรื่องก็จะสำเร็จ

และนายใหญ่นี้ ไม่ใช่อันธพาลสันดานหยาบ แต่จะเป็นอะไรที่เรานึกไม่ถึง

อุษาเล่าว่า สามียากูซ่าของเธอ เป็นผู้ดี พ่อเขาเป็นนายแพทย์ แม่เป็นแม่บ้านที่เรียบร้อยมากๆ

การพูดการจาก็สุภาพ ไม่มีหยาบคาย แต่สามีเธอกลายเป็นยากูซ่าใหญ่ไปได้อย่างไร เธอบอกว่าเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

สามียากูซ่าของเธออายุสี่สิบกว่า แก่กว่าเธอยี่สิบกว่าปี เมื่อเธอไปอยู่กับเขาใหม่ๆ เขารักเธอมาก

วันๆไม่ต้องทำอะไรเลย คอยมีหน้าที่ปรนนิบัติให้เขามีความสุขทางเพศอย่างเดียว ไม่ว่าเขาต้องการเวลาไหนเธอต้องพร้อม

เหมือนเธอเกิดมากับเรื่องอย่างนี้ เมื่อมีสามีคนแรก ก็รอให้สามีมาความสุขกับเธอ มามีคนใหม่ก็เหมือนเดิมอีก

เธอเล่าว่า วันๆเธอก็ต้องคอยแต่งตัวให้สวยให้หอมสะอาด แล้วอยู่แต่ในห้อง ไม่ได้ออกไปไหน
หรือจะออกไปไหนก็ต้องรอให้มีลูกน้องเขามาพาออกไปซื้อของหรือชอปปิ้ง ซึ่งนานๆครั้งหนึ่งเธอถึงได้ไป

เหมือนนิยายเลย แต่เธอก็พอใจกับชีวิตอย่างนี้ สามีให้เงินเธอใช้เดือนหนึ่งร้อยห้าสิบหมื่น
หรือคิดเป็นเงินไทยเมื่อสิบยี่สิบปีก่อนก็ตกเดือนละสามแสนกว่าบาท

ป้าก็เลยถามไปว่า สามีรวยมากหรือ ให้เธอใช้ขนาดนั้น เธอก็บอกว่า เขารวยมาก
ป้าก็ถามว่า รายได้มาจากไหน อุษาก็บอกว่า เขาคุมพวกของผิดกฏหมายหลายอย่าง
พอถึงเดือนก็มีลูกน้องตามสาขาต่างๆนำเงินมาให้ถึงบ้าน ไม่ต้องไปออกหน้าที่ไหนเลย

เรื่องนี้ป้าว่าจริง เพราะป้าเคยเห็นพวกยากูซ่าระดับโอยาบุน พวกนี้ดูภายนอกไม่มีใครรู้เลยว่าเป็นยากูซ่า

เพราะหน้าตาสะอาดเรียบร้อย ท่าทางเป็นผู้ดี ไม่มีท่าทางกร่างเป็นนักเลงเลย
เนื่องจากแถวบ้านเมื่อมีงานมัสสุริ แห่เทพเจ้า ขบวนแห่จะต้องไปคารวะบ้านโอยาบุนใหญ่ของย่านนั้น

สามีป้าก็มากระซิบบอกป้าว่า นี่แหละโอยาบุน ป้าเห็นกับตาว่าพวกนี้เขาสุภาพเรียบร้อยดูดีมาก

ไม่เหมือนพวกลูกน้องที่เห็นตามภาพยนตร์หรือตามหนังการ์ตูนอะไร





อุษาเล่าต่อว่า เธออยู่กินกับสามียากูซ่าหลายปี จึงได้บอกเรื่องที่เธอมีลูกอยู่ที่เมืองไทย
อยากให้ลูกๆมาเที่ยวหาที่ญี่ปุ่น ตอนนี้ลูกๆเธอเริ่มโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้ว
สามีครั้งแรกที่รู้ก็ตกใจนิดหน่อย เพราะไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า อุษามีลูกถึงสามคนแล้ว

ใหม่ๆสามีก็ยังเฉยๆไม่พูดไม่ว่าอะไรเรื่องเธอมีลูกมาแล้วสามคน เธอจึงให้ลูกมาเที่ยวหาที่ญี่ปุ่นทั้งสามคน

ลูกก็มาเที่ยวญี่ปุ่นหลายครั้ง จนเธอขอให้เขารับรองให้ลูกมาอยู่ด้วยที่ญี่ปุ่น ตอนนี้เขาเริ่มเปลี่ยนไป

เขาบอกเขาไม่เอาลูกสามคน ไม่ใช่ลูกเขา เขาไม่อยากมีลูก ไม่ชอบมีลูก และเริ่มรับไม่ได้ที่เธอมีลูกถึงสามคน

และอยู่ๆเขาก็บอกให้เธอออกไปอยู่ที่อื่น เขาหมดรักเธอแล้ว แต่ยังดีที่เธอได้วีซ่าถาวรแล้ว จึงสามารถอยู่ญี่ปุ่นได้

อุษาก็ไม่ได้เสียใจอะไรมาก เพราะก็เริ่มเบื่อเขาเหมือนกัน เธอบอก สาเหตุที่เธอเริ่มเบื่อสามีก็เพราะ

สามีเธอมักจะห้ามไม่ให้เธอคบหากับใครเลย เธอไม่เคยมีเพื่อนคนไทย

เธอเล่าว่า เมื่อก่อนเธอออกไปนอกบ้านกับลูกน้องสามี พอไปเจอคนไทยเธอวิ่งไปจับแขนเขา อยากพูดอยากคุยกับเขา

เธอบอกว่าเธอเหมือนคนบ้าเลย ดีใจมากๆเมื่อได้เจอคนไทยสักคนหนึ่ง เพราะวันๆหนึ่งเธอก็อยู่กับสุนัขที่เขาเอามาให้เลี้ยง

เวลาลูกสามคนจากเมืองไทยมาเที่ยวหา เขาก็จะไม่มาพูดคุยด้วย ทำตัวเหมือนไม่ใช่สามี

เธอก็เกิดความเบื่อหน่ายที่สามีทำตัวห่างเหินกับครอบครัวของเธอ เมื่อสามีบอกให้ไปอยู่ที่อื่น
เธอจึงออกไปหาบ้านเช่าเอง โดยได้ลูกน้องของสามีช่วยเหลือหาอาพาทเม้นท์ให้อยู่

เธอได้ทำเรื่องนำลูกขึ้นมาอยู่กับเธอสำเร็จ โดยได้รับการช่วยเหลือจากทนายความที่เคยทำงานกับสามี

และก็ออกมาใช้ชีวิตโสดอีกครั้ง เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ขณะนี้เธอบอกว่าเธอมี่แฟนใหม่แล้ว
และแฟนใหม่ของเธอคนนี้อายุอ่อนกว่าเธอสิบปี ที่เธอยังไม่แต่งงานกับแฟนใหม่ เธอบอกว่า
เธอจะให้แฟนเธอแต่งงานกับลูกสาวของเธอ เพื่อจะให้ลูกเธอได้วีซ่าถาวร เมือลูกสาวได้วีซ่าถาวรแล้ว

แฟนเธอจะเลิกกับลูกสาว และจะกลับมาแต่งงานกับเธอ เรื่องของอุษายุ่งเหยิงพอสมควร

แต่เท่าที่ดู เธอก็ดูมีความสุขดี อาจจะไม่ร่ำรวยเหมือนตอนอยู่กับสามียากูซ่า แต่เธอก็ได้เงินใช้จากลูกๆของเธอ
ที่มาอยู่ญี่ปุ่นก็ได้ทำงานทำการ มีเงินมาเลี้ยงแม่ได้สบายๆ

เรื่องของอุษาก็จบลงเพียงแค่นี้ ชีวิตคนเรา บางทีก็ยิ่งกว่านิยาย วันนั้นป้าแยกจากอุษา
เพราะเพื่อนที่มากับเธอ มาพาเธอกลับบ้าน บอกว่าเธอเมาเกินไปแล้ว กลับบ้านได้แล้ว เราก็เลยแยกกันกลับบ้านใครบ้านมัน

หวังว่าเรื่องที่นำมาเล่าสู่กันฟังนี้ คงเป็นอะไรให้ได้คิดกันได้บ้างว่า ชีวิตคนเราบางทียิ่งกว่านิยาย

นิยายว่าน้ำเน่า แต่เรื่องจริงอาจจะเน่ากว่า ผู้ชายมีเงินยามรักยามหลงก็ทุ่มให้ได้ทุกอย่าง
แต่เมื่อเบื่อก็พลักใสไม่ใยดีได้เช่นกัน ตัวของเราเป็นที่พึ่ง หาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้เองดีที่สุด

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องที่ป้าเล่าให้ฟัง อ่านแล้วคิดตามก็จะได้ประโยชน์ หรืออ่านแล้วผ่านเลยไปก็ไม่ว่ากัน




Create Date : 25 มิถุนายน 2552
Last Update : 25 มิถุนายน 2552 19:41:17 น.
Counter : 2796 Pageviews.

22 comments
Heat Stroke โรคลมแดด / #ศิริราชWeAreReady #โรคฮีทสโตรก #โรคลมแดด newyorknurse
(10 เม.ย. 2567 02:31:37 น.)
ทริปอเมริกา #1 - รีวิวสายการบินฟิลิปปินส์ ไม่แพงมากและดีกว่าที่คิด ฟ้าใสทะเลคราม
(6 เม.ย. 2567 13:46:53 น.)
ทำ Passport ของลูกชาย SN_monchan
(29 มี.ค. 2567 05:27:08 น.)
กระเทียมโผล่แล้ว หิมะก็เช่นกัน สวยสุดซอย
(25 มี.ค. 2567 16:06:23 น.)
  
มาติดตามต่อค่า
ชีวิตคนเรายิ่งกว่านิยายจริงๆ
โดย: กล้วยหอมรสนม วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:19:15:35 น.
  
มาอ่านต่อแล้วค่ะ


ขอบคุณค่ะ
โดย: ต้นข้าว_ต้นนั้น วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:20:33:41 น.
  
ได้มีโอกาสมาอ่านบล็อคของป้าเป็นครั้งแรกแล้วก็ติด และนั่งอ่านทุกตอนของป้าตั้งแต่ป้าพนอขอเล่า แบบว่าอยากอ่าน หยุดไม่ได้เลยค่ะ นั่งอ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว
โดย: ผัดหมี่ฮกเกี้ยน IP: 60.230.221.239 วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:20:49:57 น.
  
ขอบคุณค่ะ
ให้ข้อคิดที่ดีเลยค่ะคุณป้า
โดย: mame (@FirstblusH ) วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:21:19:08 น.
  
อ่านแล้วขนลุกจังเลยค่ะ แต่ดีใจด้วยที่คุณอุษาแฮปปี้ตอนจบ
โดย: kiriya (kiriya ) วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:22:30:12 น.
  
อ่านแล้วเพลินจังเลยค่ะคุณน้า (คนเล่าๆสนุก)

แต่เกรงว่าชีวิตของอุษาจะยังไม่จบแค่นี้น่ะสิคะ กว่าลูกสาวจะได้วีซ่าถาวรมันก็ต้องใช้เวลา แล้วถ้าสมมุติแฟนจะรวบหัวรวบหางทั้งแม่ทั้งลูกละคะ อุษาจะทำยังไงอ่ะ
โดย: fudge-a-mania IP: 58.159.153.34 วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:23:04:38 น.
  
ชีวิตคนเรานะค่ะ มองไม่เห็นอณาคตเลย แต่ในกรณี คุณอุษา ก็ถือว่า ไม่ได้ เลยร้ายนักกับสามีคนนี้ เพียงแต่เขาไม่รับลูกๆ ของเธอเท่านั้น แตกต่างจาก สามีคนไทย
ยังไง ท้ายสุกเอก็มีลุกๆ คอยดูแล ละ
ขอบคุณนะที่นำเรื่องราวดีๆ มาให้ อ่านค่ะ
โดย: Anitapa วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:8:30:18 น.
  
ยิ่งกว่านิยายจริงๆ เลยค่ะ
คนเรานี่หมดรักกันเร็วนะคะ
ไม่มีเยื่อใยต่อกันเลย แต่ก็ดีนะคะที่คุณ อุษา ทำใจรับมันได้
ขอบคุณค่ะ
โดย: moccachan วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:10:49:29 น.
  
ตามอ่านค่ะ
โดย: ตา IP: 125.25.53.127 วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:11:33:19 น.
  
ว่าไปชีวิตของอุษาก็ยังดีกว่าใครบางคนที่ไปใช้ชีวิตต่างแดน...ดีเนาะที่ลูกๆๆ ไม่ได้เกเรยังรักแม่เลี้ยงดูแม่
โดย: fon_nara IP: 203.158.172.3 วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:12:02:54 น.
  
อ่านแล้วก็ดีใจกับเธอด้วย ที่ยังไม่เห็นว่าเธอเจ็บระบมมาก
โดย: มูมู IP: 123.219.86.103 วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:14:23:23 น.
  
ตามมาอ่านต่อค่ะ
โดย: อารีรัตน์ วันที่: 27 มิถุนายน 2552 เวลา:19:55:10 น.
  
กลับมาอ่านภาคสองด้วยใจระทึก..ค่ะ ยิ่งกว่านิยายจริง ๆด้วยนะคะ
โดย: มินนี่ (น้ำใจมิใช่น้ำจิ้ม ) วันที่: 27 มิถุนายน 2552 เวลา:20:27:11 น.
  
ติดตามคุณน้ามาตลอดเลยค่ะ (^_^)
โดย: B & B IP: 125.27.77.173 วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:14:56:40 น.
  
ป้าอยู่ไหน
บอกหน่อย หนูก็เหงา มาอยู่ปีกว่าแล้วไม่มีเพื่อนเลย ไม่ได้ทำอะไร เบื่อ ๆ
โดย: jommy IP: 121.113.144.216 วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:9:38:44 น.
  
มาตามอ่านภาคสองเหมือนกัน จบซะที ได้รู้ชีวิตคนเรามีสุขบ้างทุกข์บ้างก็สามารถจัดการกับชีวิตได้
โดย: แม่น้องกุ๊ก (แม่น้องกุ๊ก ) วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:10:37:31 น.
  
เรื่องนี้ก็ดีอีกแล้ว ได้เห็นมุมมองของชีวิตที่แตกต่าง

^^

ป้าต้อยเล่าเรื่องได้ดีและสนุกมากๆเลยค่ะ

ปล. ติดแง็กกับบล็อคป้าต้อยยันเช้าแน่เลยเรา
โดย: หยก IP: 115.67.54.143 วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:51:19 น.
  
เยี่ยมเลยครับ...เพิ่งหลงเข้ามาอ่าน
ดีมากเลย น่าจะนำมารวมเล่มเป็นหนังสือ
ผมว่าขายดีแน่เลยครับ
จะเข้ามาอ่านบ่อยๆ นะครับ
paoyingchup@yahoo.com
โดย: แอ๊ด IP: 112.143.16.19 วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:06:11 น.
  
ยินดีด้วยกับชีวิตใหม่คุณอุษา ตอนนี้คงมีความสุขจริงๆซักที สี่สิบ ยังสาวมาก ยิ่งตัวเล็กๆขาวๆด้วย
ขอบคุณที่เล่าเรื่องราวปันกันฟังค่ะ
โดย: nok IP: 124.110.17.47 วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:6:31:29 น.
  
คุณป้า เขียนเล่าเรื่องน่าอ่านดีจังค่ะ

ไม่น่าเชื่อ ทำให้นู๋อ่านตั้งแต่บรรทัดแรก จนจบไม่ข้ามสักคำ...

อ่านแล้วทำให้คิดว่า คนเราต้องสู้ค่ะ ^^
โดย: นู๋แมม IP: 124.122.185.87 วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:17:17:07 น.
  
ป้า สุดยอดเลยค่ะ!!!
เรื่องสนุกมากๆเลยค่ะ
โดย: ป้าเก่งมากกค่ะ IP: 58.9.99.214 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:1:52:22 น.
  
ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย จริง ๆ ค่ะ
โดย: Beeze IP: 219.126.144.18 วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:9:37:16 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Toytokyo.BlogGang.com

พนอจัน
Location :
กรุงเทพฯ  Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 291 คน [?]

บทความทั้งหมด