จ่ายิ้ม คนดีด้วยหัวใจ
จะมีคนอย่างนี้ซักกี่คน บนโลกของเรา

ขอขอบคุณภาพประกอบจากมหาลัย’ชีวิต

ผู้ที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นตำรวจจราจร หรือ อาสาสมัครจราจร เป็นอาชีพหนึ่งที่ต้องเผชิญกับสภาวะความเครียดได้แทบทุกวัน ทั้งจากการจราจรที่ติดขัด อากาศที่ร้อนระอุ หรือฝนที่เทกระหน่ำ วันๆ หนึ่งแทบจะไม่เห็นรอยยิ้มปรากฎบนสีหน้าของพวกเขา . . .



แต่นั่นคงไม่ใช่ภาพที่คนขับรถผ่านไปแถวอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จะได้เห็น . . . เพราะแถวนั้นภาพที่ผู้ขับขี่เห็นจนเจนตาคือ ภาพของชายวัย 60 ปี ในเครื่องแบบสีกากีคนหนึ่งกำลังทำหน้าที่โบกรถด้วยสีหน้าอิ่มสุข ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนรู้สึกแจ่มใสไปด้วยกับรอยยิ้มของ "ชัยรัตน์ ศรีสุโข" หรือที่ใครๆ ในย่านบางพลีเรียกเขาว่า "จ่ายิ้ม"



แรกเริ่มเดิมที "จ่ายิ้ม" มีอาชีพรับส่งพัสดุ ก่อนจะมาขับจักรยานยนต์รับจ้าง นั่นทำให้จ่ายิ้มที่เป็นผู้ใช้บริการท้องถนน เห็นภาพการจราจรที่ติดขัดทุกวัน จึงมีความคิดที่จะเข้าไปช่วยเหลือ โดยยอมเสียสละเวลาเล็กน้อยมาช่วยโบกรถอำนวยความสะดวกให้ จนต่อมาเขาก็ได้เข้าไปรับการฝึกอบรมอย่างเป็นจริงเป็นจัง จนได้เป็นอาสาสมัครจราจรอย่างเต็มตัว ซึ่งจ่ายิ้มบอกว่า กว่าจะผ่านการอบรมมาได้เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก แต่จ่ายิ้มก็ยินดีที่จะทำงานนี้ เนื่องจากอยากให้คนที่อยู่บนท้องถนนมีรอยยิ้มเหมือนเขาด้วย



"มีคนไปอบรมทั้งหมด 29 คน เอาเข้าจริงพอลงพื้นที่ครบระยะเวลาอบรม มันไม่มีรายได้อะไรเลยก็หายกันไปจนเหลือแค่ 5 คน แต่ก็ทนเพราะใจเรามาในทางนี้แล้ว เราเคยขับรถมาก่อนรู้ว่าเวลาที่เครียดมันเป็นอย่างไร ก็เลยเริ่มที่จะยิ้มแย้มแจ่มใสในขณะโบกรถ เพราะคนที่เห็นจะได้ไม่เครียดเวลาที่เห็นเรา" จ่ายิ้ม กล่าว





บ่อยครั้งที่จ่ายิ้มคอยอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปมา อีกทั้งเด็กๆ หรือชาวบ้านที่ต้องการเดินข้ามถนน หรือหากจ่ายิ้มพบเห็นถนนเป็นหลุมเป็นบ่อในบริเวณใกล้ๆ ที่เขาปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น จ่ายิ้มก็จะไม่รอช้า รีบหยิบพลั่วคู่ใจมาตักดินถมถนนทันที เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

ความตั้งใจจริงในการทำงาน ของ "จ่ายิ้ม" ทำให้จ่ายิ้มได้รับการคัดเลือกเป็น อปพร. ดีเด่นของจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งรางวัลนี้มีผู้ได้รับเพียง 2 คนเท่านั้น มันอาจจะเป็นเพียงรางวัลเล็กๆ แต่สำหรับจ่ายิ้มแล้ว มันคือความภูมิใจและสร้างกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเขาได้อย่างดี แม้การทำหน้าที่อาสาสมัครจราจรของเขา จะไม่มีเม็ดเงินให้เห็นเป็นสิ่งตอบแทนก็ตาม








"การทำงานของผมไม่มีเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงอะไร ในช่วงแรกผมก็เอารายได้จากการขับจักรยานยนต์รับจ้างมาจุนเจือในส่วนนี้ ผมมีความตั้งหวังมาตลอดที่ว่าอยากทำให้ประชาชนรักให้ได้ ในแต่ละวันก็จะมีคนใช้รถใช้ถนนซื้อข้าวซื้อน้ำมาฝากให้เราตลอด อาศัยข้าววัดบ้างพระท่านก็เมตตาจากที่เหลือฉัน ตรงนี้เราก็อยู่ได้ ส่วนรายได้ที่เป็นตัวเงินนั้นก็ทางสถานที่ที่เราไปโบกรถเมตตาให้บ้าง ถึงจะไม่มากแต่เราก็อยู่ได้ไม่มีปัญหาอะไร ผมโบกหน้าโบสถ์ (วัดพระกุมารเยซู ราม 2) บ้าง โรงเรียนบ้าง ไม่ค่อยได้ใช้เงินซักเท่าไหร่แค่ค่าน้ำมันเรามาก็พอใจแล้ว ผมไม่อดตายหรอก มีคนให้อยู่ตลอด"








จ่ายิ้มบอกว่า สิ่งที่เขาได้รับจากการทำงานนี้ และมีค่ามากกว่าเงิน คือ รอยยิ้ม น้ำใจ และความช่วยเหลือจากคนละแวกบางพลีที่รู้จักเขา รวมทั้งคำขอบคุณตอบรับจากผู้ใช้รถบนท้องถนนที่สะท้อนกลับมาให้เขาด้วยรอย ยิ้มเช่นกัน เท่านี้ก็ทำให้จ่ายิ้มรู้สึกมีความสุขแล้ว


"ผมซาบซึ้งใจนะเวลาที่ทุกคนให้รอยยิ้มให้คำขอบคุณกลับมา มีคนตัดชุดให้ผมไม่เอาเงินเอาทองอะไรเลย ผมอยากจะขอบคุณทุกๆ คนจริงๆ หมวกที่ทางตำรวจให้มา ผมแกะตราแผ่นดินออก เพราะเป็นของสูง ผมเป็นแค่ประชาชนคนธรรมดาเท่านั้น ไม่ได้หวังอะไรมากกว่าบริการประชาชน ผมแค่อยากอำนวยความสะดวก และไม่อยากให้ใครเครียด อย่าทำให้คนเกลียด ทำให้คนรัก ตอนนี้ผมไม่มีตำแหน่งหรืออะไรเลยเป็นแค่คนธรรมดา ผมรู้ว่าทำอย่างไรคนจะเกลียดผมก็หลีกเลี่ยงออกมา มาทำให้คนรักดีกว่า ถึงจะไม่ได้เป็นอะไร แต่ก็เป็นที่รักของคนที่ผ่านไปผ่านมา"



สิ่งที่การันตีได้ว่า "จ่ายิ้ม" เป็นที่รักของคนละแวกนั้นและผู้ใช้รถใช้ถนน คือ กล่องของขวัญกว่า 150 ชิ้น เมื่อปีใหม่ ปี 2551 ที่ผ่านมาที่เขาได้รับ ซึ่งจ่ายิ้มบอกว่า เขาทำงานนี้ไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทน ขอแค่รอยยิ้มก็เพียงพอแล้ว




"ผมกราบขอบพระคุณทุกท่านจริงๆ ครับที่มีความเมตตาให้ทั้งในสิ่งของและตัวเงิน เล็กๆน้อยๆ ที่ให้มา ผมไม่เคยหวังว่าจะต้องได้อะไรตอบแทนครับแค่ท่านยิ้มให้ผมก็ดีใจแล้ว รางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ น้ำใจและรอยยิ้มของประชาชนจริงๆครับ ตอนนี้อายุผม 62 แล้ว แต่ผมจะทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดแรงหรือไม่ไหวในที่สุด" จ่ายิ้มบอกความรู้สึก

ภาพของชายชราวัย 60 ปี กับการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง และเปี่ยมไปด้วยความสุขใจ คงเป็นภาพอีกมุมหนึ่งที่สามารถเรียกรอยยิ้มเล็กๆ จากผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาแถวบางพลี ท่ามกลางสภาวะการเมืองและสังคมที่ตึงเครียด จนรอยยิ้มแทบจะเลือนหายไปจากสังคมในขณะนี้ . . .











Create Date : 15 เมษายน 2552
Last Update : 15 เมษายน 2552 14:23:10 น.
Counter : 882 Pageviews.

3 comments
: หยดน้ำในมหาสมุทร 33 : กะว่าก๋า
(11 เม.ย. 2567 05:15:42 น.)
Day..10 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(11 เม.ย. 2567 08:25:45 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 32 : กะว่าก๋า
(10 เม.ย. 2567 06:04:44 น.)
ได้คะแนน ปัญญา Dh
(7 เม.ย. 2567 12:52:45 น.)
  
คนดีของสังคม ควรแก่การยกย่องครับ
โดย: kanetp007 วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:15:47:34 น.
  
ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองจ่าด้วยค่ะ ทำดีได้ดี เป็นที่รักของคนมากมาย เป็นกำลังใจให้ตลอดค่ะ
โดย: จิ๊บ IP: 203.144.180.65 วันที่: 12 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:40:25 น.
  
ขอให้คนดีของสังคม มีแต่สิ่งดีดีในชีวิต ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ อยู่เป็นตัวอย่างที่ดีให้ตำรวจอีกหลายๆ คนได้เอาแบบอย่าง มีความสุขกับการทำความดีนะคะ
โดย: วาสนา IP: 115.87.45.227 วันที่: 17 ธันวาคม 2553 เวลา:22:41:55 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thyda.BlogGang.com

reddywein
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]