ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 300 "ทศวรรษที่สาบสูญ" ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 300 (เลขสวย) "ทศวรรษที่สาบสูญ" โจทย์โดย คุณกะว่าก๋า x คุณ toor36 ผมมานั่งคิดว่า จะเขียนเรื่องอะไรดีที่ไม่ใช่เรื่องอย่างว่า 55555 เรื่องอย่างว่านี่คือ เรื่องที่หลาย ๆ คนคิดครับ ผมข้ามไปดีกว่า ไม่อยากเขียนเรื่องพรรณนั้น ถ้าถามว่าในช่วงนี้มีอะไรหายไปบ้าง ก็คงจะเป็นธุรกิจส่วนตัวที่ทำกับเพื่อนนั่นแหละครับ ที่หายไปเพราะบินไปต่างประเทศไม่ได้ ตั้งแต่มีโควิด รายได้หายไปเรียกว่า 20-30% เลยครับ แรก ๆ ต้องบอกเลยว่า ปรับตัวไม่ได้ ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต และค่าใช้จ่าย....ต้องพูดว่าหนี้สินที่ก่อไว้ จากที่รู้ว่าเราสามารถ handle มันได้ กลายเป็นแทบไม่ได้เลยครับ ระดับที่ 6 เดือนแรกผมเอาเงินเก็บออกมาหมุน พยายาม list ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น และ Fixed cost ในทุก ๆ เดือน อะไรประหยัดได้ประหยัด อะไรตัดได้ตัด สิ่งที่ตัดไปได้คือ ค่าความบันเทิง ดูหนังทุกวีค สังสรรค์กับเพื่อน กินข้าวรูฟท๊อปกับแฟนจากทีละ 3พันก็ไม่ไปเลย ไปต่างจังหวัดนอนโรงแรม 5 ดาว ก็ไม่ได้ไปเลย จากที่เคยใช้มาขายไปของใช้แบรนด์เนม ก็ไม่ซื้อเลยครับ ของผมคือ ศูนย์ เลยเหลือแค่กระเป๋าตัง Bottega จากต่างประเทศใบเดียว ที่ทีแรกตั้งใจจะใช้ซักปีแล้วขายซื้อใบใหม่ แต่นี่ก็ใช้มายาวๆ ขนาดน้ำหอมยังถอยมาใช้แบรนด์เบาๆ แต่ยังหล่อได้เหมือนเดิม 5555  ส่วนของแฟน ตัวเค้าเองหยุดเลยเหมือนกันครับ แต่ผมก็อะไรให้ได้เล็ก ๆ น้อยๆ ก็ให้ หมื่นสองหมื่อนก็ให้ของเล็กๆ 2-3 ชิ้น   จากที่เค้าซื้อเครื่องสำอางค์บ่อยมาก ก็ไม่ซื้อเลยครับ ชวนซื้อก็ไม่ซื้อ น้ำหอมก็ไม่ซื้อ และที่สำคัญ งานแต่งงานที่เราเคยวางงบไว้ 1 ล้าน ตอนนี้ไม่มีแล้วครับ......เพราะ 1 ล้านนั้นต้องเอาไปตกแต่งบ้าน ถึงจุดที่ผมต้องคุยกับแฟนว่า โอเคไหม แฟนก็บอกว่าโอเค การมีบ้านของเรามันคุ้มค่ากว่าการไปจัดงานเลี้ยงคนอื่น แล้วคุยกันว่า ทำแค่พิธีสงฆ์พอเป็นมงคลพร้อมขึ้นบ้านใหม่ก็พอแล้ว ส่วนชุดแต่งงานของแฟนที่จองไว้แล้วก็.....ก็คงถ่ายรูปครับ ตรงนี้ 5 หมื่นยังไงก็ต้องจ่ายครับ เลื่อนงานได้แต่ยกเลิกก็ไม่มัดจำคืน ยังไงก็คงต้องใช้งานครับแล้วผมก็คิดว่ายังไงก็เป็นความฝันของผู้หญิง   ตอนนี้ถือว่าอยู่ตัวมากแล้วครับ ไม่รู้สึกอัดอั้นอะไร เพราะพอปรับตัวได้ ลดอะไรที่มากเกินไปลงมา จากตัดทิ้งไปเลยเพื่อปรับเรื่องค่าใช้จ่าย ตอนนี้ก็พอไปเที่ยวได้นานๆ ที ออกไปกินได้เบาๆ มื้อพิเศษมีได้ตามวาระ พอกลับมาซื้อของเล็กๆ น้อยๆ ให้ตัวเองเป็นรางวัลในการทำงานได้บ้าง แต่ซื้อแล้วก็คงหยุดอีกนาน  ผมยังไม่รู้เลยว่า ถ้าเดินทางต่างประเทศได้อย่างปลอดภัย เราจะกลับมาทำอีกไหม เพราะลูกค้าเราก็เงียบๆ กันไปแล้ว และเมื่ออายุเยอะขึ้น 55555 แหม่...ชอบคำนี้จริงๆ  ความกล้าหาญชาญชัย กล้าได้กล้าเสียก็น้อยไปมาก เริ่มมีความกลัว อยากทำอะไรที่ secure ซะมากกว่า เพราะต้องบอกว่าสิ่งที่ผมทำมันเทาๆ ซักหน่อยครับ แถมจากที่เคยโดนโกงมา ก็ไม่กล้าเชื่อใจใครอีก ซึ่งบางครั้งมันก็ต้องใช้ความเชื่อใจ และที่สำคัญ....เราอยู่ได้แล้วครับ เท่าที่มีก็อยู่ได้แล้ว จากที่เริ่มบินมาตั้งแต่ปี 4 ตอนนี้ก็คง 10 ปีได้แล้ว ถือเป็นประสบการณ์ที่สนุก และทำให้ได้รู้จักคนเยอะมากครับ ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ได้รู้จักผู้ใหญ่ที่ถ้าไม่มี Connection คงไม่มีโอกาสรู้จัก และด้วยสิ่งนั้นทำให้ผมได้รับโอกาสและความเมตตาหลายครั้ง คงต้องกลับไปคิดก่อนครับว่า เราจะกลับไปทำอีกไหม แต่ 10 ปีที่ทำมา Connection ไม่สูญเปล่าแน่นอนครับ ^^
ตามมาอ่านตะพาบ Little Prince
10 ปี ไม่สูยเปล่าดอก อย่างน้อยก็เป็นประสบการณืดีๆ  ช่วงนี้ต้องรัดเข็มขัดต้องประหยัด แถทต้องลดคาร์โบไฮเดรด อีก  แปะยั่วน้ำลายค่ะ พี่อ้อก้เพิ่งหม่ำไป ตามกระแสน้อง Milli..แบบประหยัด ลงครัวทำเอง..พุงกาง ก่อนไปฉีดยาเข้าลูกตาอีกแล้ว(ทุก 75 วัน) ในวันพรุ่งนี้ Vote เต็ม ไว้มาใหม่นะคะ  โดย: เริงฤดีนะ
  วันที่: 18 เมษายน 2565 เวลา:19:44:23 น.ทุกคนควรมีสิทธิ์ที่จะใช้เงินที่ตัวเองหามาได้ด้วยความยากลำบากอย่างเต็มที่ คุณปริ๊นซ์หาได้เยอะจะใช้เยอะก็เป็นเรื่องดี ถามว่าดียังไง? มันดีคือตัวคุณปริ๊นซ์มีความสุขที่ได้ใช้ แต่มันไม่จบแค่นั้นร้านค้าและภาคบริการที่คุณปริ๊นซ์ไปใช้ได้เงิน มีรายได้ มันส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ เอาเข้าจริงผมก็ใช้เยอะ แต่เราใช้เงินไปคนละทางเท่านั้น
แต่ทีนี้พอประหยัด มันกระทบใครบ้าง? ตรึมเลยครับ จริงอยู่ว่าเราประหยัด แต่ในทางเศรษฐกิจ นี่ถือเป็นปัญหาใหญ่เลยนะกับการที่ประชาชนเอาแต่ประหยัด ไม่นำเงินมาใช้จ่าย (พูดมากก็เข้าตัว) ก็แน่นอนล่ะ ถ้าทางภาครัฐทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่า มันมีหนทางไปสู่สิ่งดีๆ ประชาชนก็กล้าใช้เงิน แล้วเพราะอะไรล่ะประชาชนถึงไม่กล้าใช้เงิน ไม่มีเงินจะใช้ ไม่เชื่อมั่น? ทางภาครัฐต้องหาคำตอบในจุดนี้ ก็ฝากทางภาครัฐให้คิด ถึงแม้จะไม่ค่อยมีสมองแต่ถ้าไม่ใช้ มันจะยิ่งฝ่อลง เรื่องแต่งงานผมมองว่าผู้ชายส่วนมากอะไรก็ได้ครับ แต่ฝ่ายที่มีปัญหาคือฝ่ายหญิงไม่ค่อยยอมครับ ตั้งแต่ค่าสินสอดไปยันค่าน้ำนม ยันจัดงาน สรุปผู้ชายมันเกิดจากนกกระสาคาบมา ไม่ก็เกิดจะกระบอกไม้ไผ่ ไม่ต้องกินนมกินดินเอา คุณปริ๊นซ์ถือว่าโชคดีที่แฟนเข้าใจ เจอบางครอบครัวเรื่องแค่นี้ไม่เข้าใจกันจนแต่งงานไม่สำเร็จ หรือแม้แต่เช่าสินสอดมาเพื่อโชว์ หรือไปกู้เงินมาโชว์ แล้วพ่อแม่ฝ่ายหญิงเก็บหมดจนเป็นหนี้สินกัน แค่เริ่มแต่งก็เห็นแววหายนะค่ะแล้ว จัดแต่พิธีก็ดีครับ ส่วนกินเลี้ยงถ้าอยากเลี้ยงจริงไปกินภัตตาคาร จองโต๊ะเลี้ยงกันใหนหมู่คนรู้จักที่สนิทๆ ก็พอ ไม่เปลืองด้วย ยุคนี้เก็บเงินไว้ใช้อย่างอื่นดีกว่า โดย: คุณต่อ (toor36
 ) วันที่: 18 เมษายน 2565 เวลา:21:03:26 น.ณ เวลานี้หลายคนต้อง งดใช้เงิน กิน อยู่หรูซื้อของไปก่อน
เพราะรายได้ลดลงเยอะมาก ของผมแรก ๆ บริษัทเขาลด 20 % ก็โอเค อยู่ ๆ ก็ลด 50 % ก็เห็นใจบริษัทนะครับ ลูกค้าบริษัทแย่ตาม ๆ กัน บริษัทต้อง ยอมลดค่าเช่าไป เพราะลูกค้าเขาก็ขายสินค้าไม่ได้ ส่วนกิจกรรม จ้างนักดนตรีมาเล่นให้ลูกค้าฟัง บางวันตลอดมา หลายปี ตอนนี้ต้องงดจ้าง หุ หุ เพราะห้างต้องเสียค่าใช้จ่ายเฉพาะ แอลกอฮอร์ค่าทำความสะอาดพิเศษ เดือนละหลาย แสนอยู่ ... ตอนนี้แต่ละคน ก็พยายามจ่าย เงินกู้ค่าบ้านให้ตรงได้ก่อนครับ ถ้าลดยอดได้ หรือจ่ายหมดสบาย ๆ ๆ เลยครับ โดย: ไวน์กับสายน้ำ
 วันที่: 18 เมษายน 2565 เวลา:21:19:16 น.สวัสดีค่ะน้องปริ๊นซ์ขอบคุณมากนะคะที่ไปให้กำลังใจที่บล็อกสงกรานต์
ตามมาอ่านงานตะพาบน้องปริ๊นซ์แล้วเห็นด้วยกับน้องปริ๊นซ์เลยนะคะว่าเราต้องเลือกบ้านไว้ก่อนส่วนงานแต่งอาจจัดพิธีทางศาสนาก่อนส่วนงานเลี้ยงค่อยจัดอีกครั้งเมื่อเราพร้อมนะคะ เดี๋ยวนี้เศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วประเทศทั้งยังมีโรคระบาดโควิด-19 มาซ้ำเติม ยังไม่พอภาวะสงครามยูเครนและรัสเซียทำให้เกิดภาวะน้ำมันแพง แก๊สแพง คนไทยระดับปานกลางและมีฐานะจะพออยู่ได้แต่คนรากหญ้าน่าสงสารเดือดร้อนไปทั่วพี่กิ่งว่าเศรษฐกิจแบบนี้อะไรประหยัดได้เราก็ประหยัดไปก่อนนะคะ แฟนน้องปริ๊นซ์น่ารักมากนะคะที่เข้าใจและยอมประหยัดทุกอย่างไปด้วยค่ะ โหวตตะพาบให้นะคะ  โดย: กิ่งฟ้า
วันที่: 18 เมษายน 2565 เวลา:21:51:49 น.โควิดทำให้ทุกคนต้องปรับตัวจริงๆครับ
โดยเฉพาะการวางแผนการเงินในแต่ละเดือน แฟนน้องปริ๊นซ์น่ารักมากครับ เข้าใจสถานการณ์ ถ้าต้องจัดงานแต่งในงบ 1 ล้านบาท แต่ยังมีโควิดอยู่ ก็คาดเดาอะไรไม่ได้เลยครับ โดย: กะว่าก๋า
 วันที่: 18 เมษายน 2565 เวลา:22:00:28 น.สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
เห็นด้วยกับนโยบายประหยัดของน้องปริ๊นซ์เลยครับ ของแบรนด์มันดีต่อใจจริง ๆ นะ พี่ว่าความรัก ความเข้าใจภายในครอบครัวสำคัญที่สุดเลยครับ จากบล็อก พี่ดูหนังไป 4 เรื่องเลยครับ Fantastic, FFL, Morbius, Sonic ชอบทั้ง 4 เรื่องเลยนะครับ รอบนี้เม็นต์น้อยไปหน่อย พิมพ์จากมือถือนะ พี่เดินทางมาราชการที่ต่างจังหวัดอีกละครับ โดย: The Kop Civil
 วันที่: 18 เมษายน 2565 เวลา:23:49:32 น.เมื่ออายุเยอะขึ้น...
อ่านปุ๊บกระทบตรงๆค่ะเรื่องอายุนี่ บ้านและการตกแต่ง งบประมาณที่เตรียมสำหรับตรงนี้คุ้มค่านะคะ สร้างสุขให้เราไปอีกนานๆเลย ขอบคุณน้องปริ๊นซ์แวะชมเมนูบ้านพี่ต๋า ราตรีสวัสดิ์ค่ะ  โดย: Sweet_pills
 วันที่: 19 เมษายน 2565 เวลา:0:45:29 น.เห็นด้วยเลยปริ้นจัดงานแต่งเล็กๆ เฉพาะในหมู่ญาติ
ของทั้งสองฝ่ายพอเนอะ เราอ้างสถานการณ์โควิดไง โดย: หอมกร
 วันที่: 19 เมษายน 2565 เวลา:8:24:02 น.ชุดเจ้าสาวสวยจังเลย..
ว่าแต่อะไรหมื่นสองหมื่น ได้ยินว่ามันมากกว่านั้น.. 55+ โดย: nonnoiGiwGiw
 วันที่: 19 เมษายน 2565 เวลา:12:03:29 น.สวัสดีค่ะ
การปรับเปลี่ยนเพื่อปัจจุบันที่ดีที่สุด อนาคตเราจะไม่เสียใจแน่นอนค่ะ เพราะโควิดจากที่ต้องออกไปทานข้าวนอกบ้านทุกอาทิตย์ก็เปลี่ยนเป็นหมูกระทะข้างบ้านมาสองปีครึ่งแล้วเนี่ย ไม่ชินจะออกบ้านไปผจญโควิดสักที คงต้องรอสาสุขประกาศ เหมือนกรมอุตุที่ประกาศว่าเข้าหน้าร้อนแล้ว จึงจะเข้าหน้าร้อนเนาะ โดย: tuk-tuk@korat
 วันที่: 22 เมษายน 2565 เวลา:13:49:41 น. |
บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [
ลดละเลิกทางอื่นเพื่อมาทุ่มทุนกับสร้างบ้าน
บ้านเสร็จเมื่อไหร่ ขึ้นบ้านใหม่ จัดงานแต่งงานไปด้วย ก็ดีเหมือนกันนะ อิอิ