อัพเดทโปรแกรมการจัดฟันในปี 2022 มีกี่แบบ? แบบไหนเหมาะกับเรามาดูกัน ปัจจุบันภาพลักษณ์เป็นสิ่งที่คนในสังคมให้ความสำคัญกันมากขึ้น เพราะการมีภาพลักษณ์ที่ดีจะทำให้เรามีความมั่นใจและมีภาพจำที่น่าประทับใจสำหรับคนรอบข้าง โดยเฉพาะการมีรอยยิ้มที่สดใส เรื่องทันตกรรมเป็นอีกหนึ่งปัญหาด้านสุขภาพและบุคลิกภาพที่เรามักจะพบได้ทั่วไปในคนส่วนใหญ่ ตามธรรมชาติแล้วฟันคนเราอาจไม่ได้เรียงตัวสวยงามแบบในอุดมคติ การจัดฟันจึงเป็นหัตกรรมยอดฮิตที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหา ฟันเก ฟันยื่น/เหยิน ปรับปรุงโครงสร้างเดิมให้ออกมาดูปังสมใจปรารถนา การจัดฟันออกแบบมาเพื่อเสริมความงาม ลดความเสี่ยงการเกิดฟันผุและโรคที่เกี่ยวข้องกับเหงือก บทความนี้จะพามาอัพเดทโปรแกรมการจัดฟันในปี 2022 ว่ามีอะไรบ้าง? แบบไหนที่จะตอบโจทย์เราที่สุด
1.จัดฟันโลหะ การจัดฟันแบบโลหะเป็นนวัตกรรมแบบแรกๆที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องฟันให้เรียงตัวสวย แก้ฟันไม่สบกันพอดี เป็นลักษณะการติดอุปกรณ์โลหะที่หน้าฟันและใช้ยางโอริงสีสันต่างๆเพื่อเสริมความกระชับของอุปกรณ์ จำเป็นต้องให้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการปรับแต่งอุปกรณ์ทุกเดือน ใช้ระยะเวลา 2 ปีขึ้นไปตามสภาพโครงสร้างฟัน จุดเด่น: เป็นที่นิยมมากที่สุด ทนทาน แข็งแรง แก้ปัญหาฟันที่มีความซับซ้อนได้ดี ราคามิตรภาพสำหรับคนอายุน้อยที่มีกำลังจ่ายไม่มาก เลือกยางสีสันได้ตามใจวัยรุ่น จุดด้อย: ไม่สามารถถอดเครื่องมือได้ โลหะอาจเสียดสีทำให้เกิดรอยในกระพุ้งแก้ม พูดหรือออกเสียงไม่ชัดเจน 2.จัดฟันเซรามิก การจัดฟันแบบเซรามิกจะมีความคล้ายคลึงกับการจัดฟันแบบโลหะ คือต้องติดอุปกรณ์ตลอดเวลาจนกระทั่งการรักษาเสร็จสมบูรณ์ มีความแตกต่างในเรื่องวัสดุที่ใช้ติดหน้าฟันจะทำมาจากเซรามิก มีความใกล้เคียงสีฟันสูง สำหรับคนที่ไม่ต้องการให้คนภายนอกสังเกตเห็นเครื่องมือจัดฟัน ในขณะเดียวกันก็ใช้ยางใสและลวดเพื่อพยุงทิศทางฟันเช่นเดียวกับแบบโลหะ ต้องพบแพทย์เพื่อปรับแต่งเครื่องมือทุกเดือน ใช้ระยะเวลาในการรักษาประมาณ 2 ปีขึ้นไปตามแต่ละกรณี จุดเด่น: อำพรางการมองเห็นเครื่องมือจัดฟัน ทนทาน แข็งแรง แก้ปัญหาฟันที่มีความซับซ้อนได้ จุดด้อย: ราคาสูงกว่าแบบโลหะเล็กน้อย ไม่สามารถถอดเครื่องมือได้ พูดหรือออกเสียงไม่ชัดเจน 3.จัดฟันดามอน การจัดฟันดามอนเป็นเทคโนโลยีแบบใหม่ ที่ไม่ต้องใช้ยางโอริงช่วยเสริมความกระชับให้กับเครื่องมือจัดฟัน ตัวอุปกรณ์เป็นลักษณะบานพับเล็กๆ ทั้งแบบโลหะและแบบใส ลดความฝืดระหว่างหน้าฟัน ออกแบบมาให้มีกลไกตัวล็อคเลื่อนเพื่อฟันเคลื่อนตัวได้เร็วขึ้นกว่าการจัดฟันแบบโลหะและเซรามิก ระยะเวลาการรักษาประมาณ 1.5 ปีขึ้นกับความซับซ้อนของแต่ละกรณี ควรเข้าพบทันตแพทย์ในการตรวจสอบเครื่องมือทุก 1.5 - 2 เดือน จุดเด่น: ฟันเคลื่อนตัวไวกว่าแบบทั่วไป แก้ปัญหาฟันที่มีความซับซ้อนได้ดี ลดการเกิดบาดแผลที่กระพุ้งแก้ม ไม่รู้สึกเจ็บในขณะปรับเครื่องมือเหมือนแบบทั่วไป ทำความสะอาดง่ายกว่าแบบมียางโอริง จุดด้อย: ราคาสูงกว่าแบบโลหะและเซรามิก ไม่สามารถถอดเครื่องมือได้ พูดหรือออกเสียงไม่ชัดเจน 4.จัดฟันใส การจัดฟัน invisalign นวัตกรรมที่ถูกคิดค้นจากประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ดารานักแสดงและผู้ที่เน้นดูแลภาพลักษณ์เป็นพิเศษ สามารถถอดอุปกรณ์ได้ รวมทั้งมองไม่เห็นเครื่องมือการรักษา ตัวเครื่องมือทำมาจากวัสดุพิเศษคล้ายคลึงพลาสติกโปร่งใสคุณภาพสูงครอบแนบตัวฟัน ช่วยแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันได้อย่างทรงประสิทธิภาพ คนไข้เพียงใส่เครื่องมือให้ได้อย่างน้อย 22 ชั่วโมงต่อวัน และทำการเปลี่ยนชุดเครื่องมือทุกๆ 1-2 เดือน จนกว่าการรักษาจะเสร็จสมบูรณ์ โดยทั่วไปการรักษาจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนหากเคยจัดฟันมาแล้ว ไปจนถึง 2 ปีหากเป็นเคสซับซ้อน จุดเด่น: มองไม่เห็นอุปกรณ์การจัดฟัน ใส่-ถอดเครื่องมือได้ด้วยตนเอง แก้ปัญหาฟันที่มีความซับซ้อนได้ดี ไม่ต้องพบแพทย์บ่อย ทำความสะอาดง่าย พูดได้ชัดเจน ใช้เวลารักษาไม่นาน จุดด้อย: ราคาสูงที่สุดเมื่อเทียบกับการรักษาแบบอื่น คลินิกที่ให้บริการรักษายังคงมีน้อย ไม่ครอบคลุม สรุป การตัดสินใจเลือกจัดฟันอาจพิจารณาจากเงื่อนไขของแต่ละบุคคล เช่น ความจำเป็นในการอำพรางเครื่องมือจัดฟันเพื่ออาชีพ ความสะดวกด้านเวลาในการรักษา การเข้าปรับเครื่องมือกับแพทย์ รวมทั้งความพร้อมด้านงบประมาณค่าใช้จ่าย เพราะทุกประเภทล้วนให้ผลลัพธ์เป็นฟันที่เรียงตัวสวยทั้งสิ้น ควรเลือกใช้บริการจากแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเพื่อลดความเสี่ยงที่ไม่คาดคิด เช่น การบาดเจ็บ โรคแทรกซ้อน หรือความล่าช้าจากการรักษาที่ไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้สถานให้บริการจำเป็นต้องมีสุขอนามัยที่ดี การบริการจากทีมงานที่เป็นมิตรเพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการรักษา |
บทความทั้งหมด
|
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [