Long Option: Limited Downside Risk, Potential Upside Gain
ปีหน้า Google จะปฏิวัติวงการโฆษณาวิทยุครั้งใหญ่ ด้วยการออกโครงการ Google Radio Ads แหม เจ้าพ่อโฆษณาออนไลน์ จะกระโดดมาลุย โฆษณาวิทยุแบบนี้ หุ้นก็น่าจะขึ้นใช่ไหมครับ แต่ที่เทรดอยู่ตอนนี้ มันปาเข้าไปตั้ง $440 เหรียญต่อหุ้น เงินไม่มีอ่ะ กว่าเงินโบนัสปลายปีจะออก ผมคงต้องไปตามซื้อ ที่ราคากว่า $500 หรือ $600 แน่ ทำไงดี ซื้อตอนนี้ มันน่าจะทำกำไรได้ดีเชียว

(เหตุการณ์และตัวเลขสมมุติ) ทางเลือกหนึ่ง ผมอาจจะไปขอ “ซื้อสิทธิ” ที่จะ “ซื้อ”หุ้น Google 100 หุ้น (“Long” “Call” Options on GOOG) ในอีก 3 เดือนข้างหน้า (expiration date) ที่ให้สิทธิในการซื้อ (Strike price, Exercise price, x-price) หุ้น GOOG ในราคา $460 ต่อหุ้น ก็ได้ และเนื่องจาก ตราสารอนุพันธ์ ประเภท Options ต่างจาก ตราสารอนุพันธ์ ประเภท Futures ตรงที่ Options ให้สิทธิแก่ผู้ถือ ในการที่จะเลือกได้ว่า จะซื้อหรือขาย ตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่ ผมจึงต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้ สิทธิที่จะเลือก นั้นมา (ค่า Premium) …. เมื่อเวลาผ่านไป หากหุ้น GOOG ปรับตัวขึ้นสูง ผมอาจจะขายสิทธินั้น ให้ผู้อื่นก็ได้ หรือ จะรอลุ้น ในวันครบกำหนดใช้สิทธิ ก็ได้ หาก ณ วันใช้สิทธิ ราคาในกระดานของ GOOG ต่ำกว่าคาด ผมก็จะเข้าซื้อในกระดานแทน แล้วปล่อยให้สิทธินั้นหลุดลอยไป (expire) แต่หาก GOOG มีราคาในกระดานสูงมาก ผมก็จะใช้สิทธิ ด้วยการจ่ายเงินซื้อ ในราคาเพียงหุ้นละ $460 แล้วรีบวิ่ง สั่งขายทำกำไรทันที ในกระดาน รวยฉับพลัน!

ตลาดอนุพันธ์ของไทย ก็กำลังจะออก SET50 Index Options เหมือนกัน ผมมีหุ้นบลูชิพอยู่ 15 ตัว มูลค่า 10 ล้านบาท (สมมุติว่าผมรวย) แต่ในใจ ก็หวั่นๆว่า ต่างชาติจะเข็ดขยาด กับมาตรการ Black Tuesday ของแบ็งค์ชาติ ด้วยการขายหุ้นทิ้งโครมๆ ลงมาเป็นร้อยจุด ซึ่งพอร์ตจะเสียหายมหาศาล แต่ครั้นจะขายขาดทุน ในหุ้นบลูชิพที่มีอยู่ในตอนนี้ ก็คงไม่ดีแน่ เพราะความหวั่นๆของผม ยังคงเป็นแค่การมั่วนิ่ม เอางี้ดีกว่า ผมจะไปขอ “ซื้อสิทธิ” ที่จะ “ขาย” SET50 Index ในอีก 3 เดือนข้างหน้าไว้ก่อน (“Long” “Put” Options on SET50 Index) อย่างน้อย เรากำหนด ระดับราคาที่จะขายไว้ล่วงหน้าแล้ว หาก SET50 ปรับลงจริง จะได้มีกำไร จากการที่หุ้นตก มาชดเชยความเสียหายในพอร์ตได้มั่ง ในทางตรงข้าม หากตลาดปรับขึ้นแรง ผมก็จะปล่อยให้ Put Options นั้นหมดอายุ ไม่รู้จะไปใช้สิทธิทำไม มาตั้งหน้าตั้งตา ทำกำไรล็อตใหญ่ จากการขายหุ้นในพอร์ต น่าจะดีกว่า

สำหรับสนามเทรดจริง หากพิจารณาตามลักษณะของ สัญญาที่จับคู่ซื้อขายแล้ว จะประกอบไปด้วย Position ที่เกิดขึ้นในตลาด Options มากถึง 4 positions ซึ่งมีทั้ง Long Call (“ซื้อสิทธิ” ที่จะ “ซื้อ”), Long Put (“ซื้อสิทธิ” ที่จะ “ขาย”), Short Call (“ขายสิทธิ” ที่จะ “ซื้อ”), Short Put (“ขายสิทธิ” ที่จะ “ขาย”) แต่ในเบื้องต้น เราจะเน้นไปที่ Long Position เป็นสำคัญ (Long Call & Long Put) เนื่องจาก การมีสถานะ “Long” ใน Options ให้สิทธิประโยชน์อย่างมากกับผู้ถือ เนื่องจากมีลักษณะของ Limited Loss, Unlimited Gain หากผู้ถือ เห็นว่าตนได้ประโยชน์ ก็เลือกที่จะใช้สิทธิ หากเห็นว่า ตนเสียประโยชน์ ก็จะปล่อยให้ตราสารนั้นหมดอายุไป

กรณีที่เรา “Long” “Call” on KSL (KSL = หุ้นน้ำตาลขอนแก่น) ที่มี Exercise price ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ในราคา 10 บาทต่อหุ้น …. เมื่อถึง expiration date ปรากฏว่า KSL อยู่ที่ 12.60 บาท เราก็จะทำการขอใช้สิทธิ ด้วยการจ่ายเงินซื้อ เพียง 10 บาทต่อหุ้น แล้วนำหุ้นมาขาย ทำกำไรในกระดาน ที่ราคา 12.60 บาท และยิ่งราคา KSL สูงขึ้นเท่าใด กำไรที่ได้จาก Long Call ก็มากขึ้นเท่านั้น เป็นเงาตามตัว (Potential Upside Gain) …. แต่หาก ณ expiration date ปรากฏว่า KSL อยู่ที่ 9.40 บาท เราก็จะไม่ใช่สิทธิซื้อ KSL ที่ราคา 10 บาท เพราะหากยังต้องการซื้อ KSL อยู่ ก็ย่อมสามารถ ซื้อหุ้นได้ ในกระดาน ที่ราคาเพียง 9.40 บาท เมื่อเราปล่อย ให้ตราสารหมดอายุไป ความเสียหายของเราจริงๆ จึงถูกจำกัดไว้เพียง ค่า premium ที่เราจ่ายซื้อสิทธิ ในการที่จะซื้อหุ้น KSL (Limited Downside Risk)

กรณีที่เรา “Long” “Put” on ASCON (ASCON = บริษัทแอสค่อน คอนสตรัคชั่น) ที่มี Exercise price ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ในราคา 14 บาทต่อหุ้น …. เมื่อถึง expiration date ปรากฏว่า ASCON อยู่ที่ 9 บาท เราก็จะทำการขอใช้สิทธิ ด้วยการรับเงินค่าขายหุ้น ในราคา 14 บาทต่อหุ้น แล้วเอาหุ้นในพอร์ต ส่งมอบคู่สัญญาไป หรือ ในกรณีที่ เราไม่มี ASCON อยู่ในพอร์ต เราก็สามารถซื้อหุ้น ในกระดานที่ราคา 9 บาท ไปส่งมอบคู่สัญญา และคู่สัญญาจะจ่ายค่าซื้อหุ้นจากเรา ในราคา 14 บาท ตามที่ตกลงกันไว้ ยิ่งราคา ASCON ต่ำลงเท่าใด กำไรที่ได้จาก Long Put ก็จะมากขึ้นเท่านั้น เป็นเงาตามตัว (Potential Upside Gain) …. ในทางตรงข้าม หาก ณ expiration date ปรากฏว่า ASCON อยู่ที่ 15 บาท เราก็จะไม่ใช่สิทธิขาย ASCON ที่ราคา 14 บาท เพราะเราสามารถเลือก ที่จะขายหุ้นในกระดาน ได้ที่ราคา 15 บาท เมื่อเราปล่อยให้ตราสารหมดอายุไป ความเสียหายของเราจริงๆ จึงถูกจำกัดไว้เพียง ค่า premium ที่เราจ่ายซื้อสิทธิ ในการที่จะขายหุ้น ASCON (Limited Downside Risk)

หากจะซื้อหุ้น ทองคำ หรือ SET50 ด้วยคาดการณ์ว่า ราคาจะขึ้นสูง แต่ยังไม่แน่ใจ หรือ ยังไม่อยากจ่ายเงินก้อน ณ เวลานี้ อย่าลืม Long Call เพื่อล็อคราคาซื้อของเรา ไว้ก่อนนะครับ และ หากจะขายหุ้น ทองคำ หรือ SET50 ด้วยคาดการณ์ว่า ราคาจะปรับลง แต่ยังไม่แน่ใจ หรือ ยังไม่ขายทันที ณ เวลานี้ อย่าลืม Long Put เพื่อล็อคราคาขายของเรา ไว้ก่อนนะครับ และถ้าตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย ซึ่งกำลังร่างกฎกติกา ในการเทรด Options อยู่ในเวลานี้ อนุญาตให้เรา ใช้สิทธิใน Options ได้ก่อน expiration date ก็จะยิ่งเพิ่มความคล่องตัว ในการทำกำไร ให้เรามีโอกาส ล็อคผลกำไร ที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน ระหว่างสัปดาห์ ระหว่างเดือน ได้ดียิ่งขึ้น

ติดตามแนวโน้มตลาดและหุ้นเด่นรายวันได้ที่
//www.ThaiDayTrade.com



Create Date : 28 มกราคม 2550
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:59:35 น.
Counter : 922 Pageviews.

0 comments

Thanapononline.BlogGang.com

thanapononline
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]