ภาพนี้มีสี่เหล่า (ภาพวาดเส้นดินสอ) เฮ้อออ~ ทำงานแทบถึงเช้า กว่าจะได้พัก เอาเวลาพักมาหางานอดิเรกทำดีกว่า ก่อนอื่นต้องชงกาแฟมานั่งจิบๆกันให้ชุ่มชื่นก่อนถึงจะคิดอะไรออก นั่งคิดอยู่นาน ก็คิดขึ้นมาได้ว่า เอ เราก็ติดตามคำกลอนเพราะๆของบล๊อกพี่พันวัตต์อยู่นี่นา ของพี่แกสุดยอดจริงๆ ช่วงนี้เราอยากลองแต่งกลอนดูบ้าง ใช่แล้วเราเคยคิดจะลองอยู่ เลยหยิบปากกากับกระดาษมาแผ่นนึง เอาล่ะ เริ่ม อันดับแรก ต้องคิดก่อน คิดก่อน คิด........................................................เงียบ เงียบอยู่นาน ......................นานมาก..........................นานเกินไป เดาะแล้ว ไอ้อู๋เอ๋ย ริอาจมาก คิดจะแต่งกลอนเรอะ หึหึ ยากเกินไปรึปล่าว จำไม่ได้รึงัยเอ็ง ตอนอยู่ ม.2เองตกภาษาไทยอาจารย์ลัดดาวัล เอาละสิ เอายังงัย แต่งมันอย่างนี้เลยละกัน มันอืดอาด ยืดยาด ฉลาดน้อย เป็นอะไร ไม่รู้ นั่งปากห้อย คำเป็นร้อย คิดไม่ออก โง่จังเลย *เอย **ไม่รู้ล่ะ ยังงัยจบก็ต้องมีเอยไว้ก่อน ครูสอน(อ้างครูไว้ก่อน) สงสัยจะไม่ไหวจริงๆล่ะเรา วาดรูปเหอะ ดีแล้ว สุดท้ายจบที่วาดรูปครับ เหมือนเดิมทั้งชาติ รูปนี้ผมวาดเป็น รูปเกี่ยวกับพุทธศาสนาครับ ไม่รู้ว่าจะมีใครสังเกตุเห็นรึปล่าวก็ไม่รู้นะครับว่าในภาพมีบัวอยู่สี่เหล่ากอด้วยกัน.................... ![]() ไม่เป็นไรครับถ้าใครไม่เห็น แต่ที่แน่นอนคือพระพุทธองค์ทรงเห็นครับ พระพุทธเจ้าแบ่งคนเราออกเป็นสี่จำพวกด้วยกัน คล้ายกับดอกบัวทั้งสี่จำพวกนี้ บัว ๔ เหล่า ได้แก่ ๑.(อุคฆฏิตัญญู)ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที ๒.(วิปัจจิตัญญู)ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า ซึ่งจะบานในวันถัดไป ๓.(เนยยะ) ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอยด้วยศรัทธา ปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า ซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง ๔.(ปทปรมะ)ดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน ไม่รู้นะครับว่าใครเป็นบัวประเภทไหนกันบ้าง แต่ก็ขอให้ทุกคนคิดดีประพฤติดีเป็นโอเคครับ ~ ท้ายนี้ขอลาเพื่อนๆพี่ๆไปก่อนครับ ไม่ไหวแล้วง่วงนอนเหลือเกินขอตัวไปนอนก่อนครับ สวัสดีครับ ![]() เป็นผลงานบรรเจิดเลิศหรูนัก
ได้ประจักษ์ต้องจนเหมือนมนต์ขลัง เส้นลายศิลป์สวยเช่นดูเด่นดัง จะเขียนบ้างหมดหวัง...ทางไม่มี ....................................... ช่วยต่อเติมกลอนห้นะครับ ภาพที่เขียนยามพักของคุณที สวยงามดีครับ....อลังการครับ ![]() ![]() โดย: panwat
วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:8:31:41 น.หวัดดีครับคุณอู๋...
ขนาดวาดยามง่วง รูปยังออกมาสวยเจ๋ง เส้นสายมืออาชึพคงไม่ต้องชมกันแระ ชอบที่มีความหมายดีๆ...บัวของพี่เป็นประเภทแนวที่5 ...กินเต่าและปลาเป็นอาหารครับ 5555 ![]() โดย: Dingtech
วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:12:27:09 น.แวะมาเยี่ยมนะคะ
OK ค่ะกลอนก็กลอน แถมมีจบ เอยด้วย หนุกดีค่ะ เรื่องฝีมือวาดภาพสวยงามอยู่แล้วคะ ความหมายก็ดีอีกต่างหาก ![]() โดย: jamaica
สายัณห์สวัสดีค่ะทีแปลง
+===========================+ มาอ่านคำกลอน...ด้วยลีลาลายเส้นดินสอ คนมีฝี(ใน)มือ วาด ๆ ปาด ๆ ป้าย ๆ ดูเป็นศิลป์เสมอค่ะ ![]() โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น
วันที่: 21 มกราคม 2554 เวลา:18:37:32 น.แวะมาทักทาย และขอบคุณสำหรับภาพที่นำไปฝากค่ะ
แสดงว่าเราก็ยังพอมีดวงตาเห็นธรรมอยู่บ้าง ที่มองออกว่าเป็นภาพวาดทางพระพุทธศาสนา แต่เรายังไม่ลึกซึ้งพอที่จะสังเกตบัวสี่เหล่านี่ล่ะ ก็เห็นเป็นดอกบัวเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร จนได้มาอ่านนี่ล่ะค่ะ ว่างๆ ลองแวะไปที่เว็บนี้นะคะ มีอะไรดีๆ เยอะเลย www.visualizer-club.com โดย: namfaseefoon
วันที่: 22 มกราคม 2554 เวลา:13:55:34 น.ลายเส้นสายสวยแนวพุทธศิลป์ แฝงปรัชญา ชอบค่ะ
เชื่อแล้วว่าตกภาษาไทย ถึงได้ชื่อทีแปลงไง อิอิ ไม่เป็นไรชื่อนี้แหละ เป็นเอกลักษณ์ (ยังไม่ต้องแวะไปบ้านพี่จ้ะ..อาย ไม่มีเวลาอัพใหม่) โดย: พี่โมโม่ (4leafwonder
) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:42:09 น. |














ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
ชอบรูป
ชอบในความพะยายามแต่งกลอนที่จบลงจนได้เอย
ยังไม่ต้องตอบกลับนะคุณที กำลังจะอัพสีน้ำ
ไว้เสร็จแล้วจะบอกค่อยไปที่หัวข้อสีน้ำเถอะ
เพราะเนิ่นช้าในการอัพมานานแล้ว.....เอย