นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ นายรังสรรค์ บุศย์เมือง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบน จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ เดินทางลงพื้นที่เพื่อสำรวจการขอรับบริการฝนหลวงบริเวณ ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย โดยมีเกษตรกร และเจ้าหน้าที่ตำบลตับเต่า ให้ข้อมูลพื้นที่การเพาะปลูก และความต้องการน้ำฝนในพื้นที่
พบว่าพื้นที่ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง มีการเพาะปลูกลำไย ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 2,000 ไร่ ปัจจุบันอยู่ในช่วงออกช่อดอกและมันฝรั่ง มีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 4,000 ไร่ ปัจจุบันอยู่ในช่วงออกหัว จึงยังไม่มีความต้องการฝนในช่วงเดือนนี้
ปัจจุบันตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย มีการใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยบ้าน อ่างเก็บน้ำขนาดเล็กในบางพื้นที่ และแม่น้ำ หงาว โดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบนยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดมาใช้ในการวางแผนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวต่อไป
ในส่วนของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดบุรีรัมย์ มีการขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 1 ภารกิจ ขั้นตอนที่ 3 ซึ่งเป็นขั้นตอนการโจมตี ในเวลา 13.00 น.
โดยใช้อากาศยานปีกตรึง ชนิด Caravan จำนวน 2 ลำ ใช้สารฝนหลวง จำนวน 700 กิโลกรัม ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่อำเภอภูสิงห์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ได้ปริมาณน้ำฝนประมาณ 0.1 - 5.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นปริมาณที่น้อยและยังคงต้องการน้ำอยู่
หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดบุรีรัมย์ ยังคงวางแผนช่วยเหลือพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ หากมีสภาพอากาศที่เอื้อต่อการปฏิบัติการฝนหลวงเจ้าหน้าที่จะขึ้นบินปฏิบัติการทันที โดยมีพื้นที่เป้าหมายคือ พื้นที่การเกษตรตอนล่างของจังหวัดศรีสะเกษ และพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กของจังหวัดบุรีรัมย์ นครราชสีมา ศรีสะเกษ และสุรินทร์ เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้แก่เกษตรกร
หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงฯ ในพื้นที่อื่น ๆ ที่ยังไม่ได้ขึ้นบินปฏิบัติการ ยังคงติดตามสภาพอากาศระหว่างวัน หากมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขปฏิบัติการฝนหลวง จะวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำในทุกพื้นที่
เกษตรกรและพี่น้องประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวง และติดตามข้อมูลข่าวสารกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ทางเพจ Facebook, Line official account, Instagram, Twitter และเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตรหรือโทรศัพท์ 02-109-5100