นั่งดูทีวีวันนี้.. มีแต่เรื่องกุมขมับ
ในฐานะที่เรียนมาทางสื่อสารมวลชน และในฐานะอดีตคนทำโฆษณา ก็อดไม่ได้ที่จะวิตกจริตเวลานั่งชมอะไรๆ ผ่านตามาทางทีวี

ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปสะท้อนอะไรหลายอย่าง ดูได้ง่ายๆ จากหน้าจอทีวีนี่แหละ

ประการแรก ข่าวทีวีเดี๋ยวนี้ทำตัวประมาณแข่งกับหน้าหนึ่งไทยรัฐ หรือหนังสืออาชญากรรม ภาพเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายหรือศพกลายเป็นอุปกรณ์ในการแย่งซีนหน้าข่าวระหว่างสถานีเป็นที่บันเทิง อุตส่าห์ทำเบลอสักเล็กน้อยพอไม่อุจาด แต่ใครจะห้ามไม่ให้ผ่านตาลูกเล็กเด็กแดงได้ล่ะ

ไปๆ มาๆ ทุกผู้ทุกวัยทั่วไทยแลนด์มีสิทธิ์ที่จะชินชากับความอุจาดและความรุนแรงได้เท่าเทียมกัน

ไม่ต้องไปนึกถึงการให้เกียรติคนตายหรอก มันหายไปจากสังคมไทยนานแร้ว..

อะไรก็ยังไม่เด็ดเท่าฉากการสัมภาษณ์คุณป้าคนนึงที่นอนแบบในโรงพบาลหลังจากถูกซ้อมและข่มขืนโดยพระสงฆ์(ในวัด)!!

รายการสรยุทธยังคงรักษาเรตติ้งกระฉูดได้อย่างหน้าตาเฉย ด้วยอาการไม่รู้ไม่ชี้ต่อจรรยาบรรณสื่อ ทำเป็นเบลอ (อีกเช่นเคย) สักเล็กน้อยบนหน้าตา แต่ท่าทีน้ำเสียงและผู้คนที่ดูแลรายล้อม รวมไปถึงรายละเอียดสถานที่เกิดเหตุ เล่าซะโจ่งแจ้งชนิดไม่แคร์ว่าชีวิตของเหยื่อจะล่มสลายหลังจากนั้น

เหตุการณ์ที่วิปริตจากโลกียะประจำยุคนี้ มันคงเลี่ยงได้หรอกนะ คนดูชาวสยามประเทศก็ดูคุ้นเคยกับข่าวคาวๆ คาบลูกคาบดอกแบบนี้ เอามาเม้าท์ต่อได้บันเทิงปาก..ว่างั้น ขณะที่เรารู้สึกผะอืดผะเอาเป็นอันมาก

จะขายเร็ตติ้งก็เห็นแก่มนุษยธรรมมั่งเหอะ

ทนไม่ไหวเปลี่ยนช่องไปดูอย่างอื่นส่งเดช ก็ไปเจอโคดสะนาบ้าเลือด เอ้า..ไม่เป็นไร ดูเป็นพัฒนาการทางสมองในฐานะนักโฆษณาประชาสัมพันธ์เก่า

ดูไปก็ปลงไปกับวิวัฒนาการของวงการโฆษณา เวลาที่ผ่านไปเป็นสิบปีนั้น ไม่ได้ทำให้วงการบ้านเราพัฒนาไปถึงไหน

ช่วงที่ผ่านมานั้นวัฒนธรรมโฆษณาของบ้านเรายังคงวนเวียนอยู่กับแคมเปญโฆษณาอยู่ 2 แบบ อย่างหนึ่งคือ ขายของกันกระหน่ำ Hard sell กันสุดริด ตามไบเบิลสูตรสำเร็จ ตั้งแต่หนังโปรดักชั่นเนี้ยบๆ แบบแชมพู เครื่องสำอาง ไปจนถึงห่วยๆ แบบยาทาซ่งทีนแก้ฮ่องกงฟุต และอีกอย่างหนึ่งก็คือ หนังทำเกร๋โลกแตกด้วยตลกบ้าบอ ฉีกแนวเดาไม่ได้ ขายไอเดียกระฉูด จำ Product ได้หรือไม่อีกเรื่องนึง

ส่วนหนังแนวขายภาพลักษณ์ (พยายาม)ทำให้ประทับใจก็พอมี แต่ดูไร้ซึ่งกึ๋นในการสร้างและความลึกในแง่ไอเดีย

หนังโปรดักชั่นสวยงามประณีตด้วยสไตล์ล้ำๆ แทบหาดูไม่ได้ นางแบบนายแบบก็ใช้ซ้ำกันจนช้ำ เดี๋ยวก็อั้ม เดี๋ยวก็พลอย เดี๋ยวก็ณเดช เดี๋ยวอนันดา บลาๆๆ จนกรูจำไม่ได้แร้วว่าผลิตภัณฑ์อะไรเป็นอะไร นี่ซันซิลพยายามทำ Teaser อยากเกร๋ว่าเปิดตัวนางแบบใหม่ พอเห็นหน้าลมแทบจับ แม่แพนเค็กหน้าเก่าเล่ายี่ห้อของสินค้าอีกล้านแปดนั่นเอง

มันสะท้อนวิสัยทัศน์ของทั้งเอเยนซี่โฆษณา และตัวบริษัทลูกค้าว่าอยู่ในวังวนของความซ้ำซาก ไร้ซึ่งกลยุทธใหม่ๆ นิยมเลียนแบบกันไปกันมา นี่แหละหรือการตลาดยุคใหม่? เคยวิจัยไหมว่า ไอ้ไอเดียบ้าๆ บอๆ ที่นำเสนอกันจนตาลายทุกวันนี้มันได้ผลในแง่ขายของสักแค่ไหน?

นึกย้อนไปถึงโฆษณาเมื่อวันวาน ยุคสมัยที่เพิ่งเริ่มเฟื่องฟู สมัยที่หนังสวยๆ งามๆ แสดงรสนิยมของโปรดักชั่นชั้นครูยังมีอยู่ หนังเพลงเพราะๆ สะดุดหูมีให้ร้องตามได้บ่อยๆ หนัง Corporate Image ที่ทำได้ดูยิ่งใหญ่ประทับใจ ฯลฯเป็นยุคที่คนทำต้องคิดแล้วคิดอีก และระวังถึงผลที่กระทบต่อกลุ่มเป้าหมาย

เดี๋ยวนี้เหรอ ไม่ต้องคิดมาก ฉีกแควกๆ แหวกแนวไว้ ถ้าได้เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ ลูกค้าก็ปลื้มแระ (ส่วนผู้บริโภคคิดยังไงชั่งหัวมัน) หนังถ่ายมาไม่ต้องเนี้ยบมาก CG ไงครับท่าน แต่งๆ รีทัชเข้าไป เดี๋ยวก็ดูหวือหวาแล้ว

มันสะท้อนอะไร..ก็ความประณีตที่ลดน้อยถอยลงของสังคมไงล่ะ

ถ้ามีโอกาสมองย้อนรอยละครหลังข่าว-ก่อนข่าวสมัยนี้ ถอยกลับไปถึงยุคที่เกิดความเปลี่ยนแปลงจากละครบอกบทสมัยช่อง 4 บางขุนพรหม กลายมาเป็นละครท่องบทแบบสากล ถ่ายในสตูดิโอใหญ่ของช่อง 3

ก็รู้สึกว่าเป็นโชคดีของเราจากการที่เป็น ส.ว. (สูงวัย 555) ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง (ในทางถอยหลังเข้าคลอง) ของวงการมายาบ้านเรา

ชิ้นงานหนัง ละคร โฆษณา ล้วนบ่งบองความเป็นไปของคนในสังคม สะท้อนมิติทางความคิด และรสนิยมที่เปลี่ยนไป

บ้านเรานอกจากเลียน(รูป)แบบของนอกกันเก่งแล้ว เคยเลียนคุณค่าใหม่ๆ ในแง่มุมที่สร้างสรรค์บ้างหรือไม่?

คงต้องรอ(ชาติหน้าตอนค่ำๆ) จาก Role Model ของผู้ใหญ่ในวงการบันเทิง และรัฐบาลเกิดใหม่ สร้างบรรทัดฐานและทัศนคติใหม่ๆ กระมัง

ดูอย่างช่อง Thai PBS จริงๆ แล้วมีโอกาสมากมายที่จะผลิตงานดีๆ ระดับสากลให้เป็นแบบอย่างต่อวงการโทรทัศน์บ้านเรา สร้างมาตรฐานเหมือนที่ BBC ของอังกฤษเคยทำมา แต่ในที่สุดก็ยังย่ำซ้ำซากกลับไปกลับมา

ไม่ใช่ว่าจะไม่มีรายการที่มีคุณค่า มีหลายรายการทั้งสารคดี และรายการอื่นๆ ที่เข้าตาและดูดี ฉีกเนื้อหาและวิธีการนำเสนอไปจากฟรีทีวีทั่วไป แต่ในแง่มุมของละครหรือรายการเกมส์โชว์ ยังคงย่ำอยู่กับแนวโปรดักชั่นถูกๆ และไม่มีอะไรใหม่

หรือทีมผู้สร้างบ้านเรามีฝีมือแค่นี้กันหนอ? คนดีมีฝีมือหายไปไหนกันหมด

ใจกล้าๆ ลงทุนทำของดีๆ ระดับสากลไปเลย ทำตัวให้เป็นแบบอย่างต่อทีวีช่องอื่น ยังไงก็เอาไปขายในระดับโลกได้อยู่แล้ว




Create Date : 09 มิถุนายน 2554
Last Update : 9 มิถุนายน 2554 17:21:28 น.
Counter : 2089 Pageviews.

6 comments
  
บ้านเรานี่แหละ real TV โจ่งแจ้งที่สุด
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:16:31:33 น.
  
เวรกรรมคนดู

โดย: backhold วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:16:38:47 น.
  
นานมาแล้วหลายเดือนแล้วค่ะคุณอาเราเพิ่งกลับจากอเมริกาเขาก็เคยพูดอยู่เหมือนกันว่าข่าวบ้านเราดูรุนแรงจัง เมืองนอกไม่ให้เห็นแบบนี้หรอก ตอนนั้นเราก็อึ้ง (หรือว่าเราจะเฉยแล้วจริงๆ )

โดย: Nameless-Maiden วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:18:47:40 น.
  
เห็นด้วย เห็นด้วย และเห็นด้วย ค ร้ า บ น้องหมี...
ทุกวันนี้พี่ดิ่งดูทีวีน้อยมั่กมาก
ที่เห็นเพราะมันดันผ่านลูกกะตาเอง
วิชาชีพหลายๆอย่างมีจรรยาบรรณควบคุมกำกับ
แต่นักขายข่าวขายของเนี่ยหย่ายมาแต่หนาย
บาง(หลายๆ)ทีก๊อยังขายตัวอีกแน่ะ
บุรุษและสตรีผู้มีอาชีพพิเศษต้องอายม้วนเชียะหละ
คนดีๆก็คงมีอยู่เนาะ แต่ที่น่าหยะแหย็งมันชักมากขึ้นทุกวัน
...พี่ดิ่งปีนี้ประหยัดทั้งค่าไฟเปิดทีวี
กับค่ากระดาษเปื้อนหมึกไปหลายบาทอยู่ครับน้องหมี
โดย: Dingtech วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:19:45:33 น.
  
เห็นด้วยมั่กๆกับความซ้ำซากจ้ะพี่หมี ไม่ว่าเรื่องอะไรจะวนไปวนมา ซ้ำๆกันอยู่อย่างนั้น ดูแต่นักการเมืองปะไร อุ๊บส์ส์..

อ่ะ เราไม่พาดพุงถึงเรื่องทั่นๆดีกั่ว เปลี่ยนช่อง..

เรื่องสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ไม่เคยเห็นภาพคนตายในสื่อต่างๆเลยจ้ะ เห็นได้อย่างมากก็หยดเลือด ศพคนตายที่จะเคลื่อนย้ายเค้าก็เอาพลาสติกผืนโตๆสีฟ้าบังเอาไว้ รายละเอียดของข่าวมีนะ เล่าเหตุการณ์อย่างละเอียดเป็นรูป CG เป็นตัวการ์ตูนไม่มีหน้าตาเคลื่อนไหวได้ ประมาณนั้น.. เหตุการณ์ซึนะมิที่ผ่านมา ไม่เห็นศพคนตายเลยซักศพ สื่อบ้านเรานี่เห็นจนคลับคล้ายจะได้กลิ่นลอยมาซะด้วยงั้นแหละ หุหุ

แต่สื่อที่ไหนๆก็คงเหมือนกันอยู่อย่าง นั่นคือประโคมข่าวที่ขายได้

เอ๊า.. ว่าจะมายกมือเห็นด้วยถัดจากพี่ดิ่งเจ๋ยๆนะนี่ แพล่มอะไรมากจนขนาดนี้ อิชั้น..

ปล.ขอบคุณสำหรับเพลงทางเมล์นะจ๊าาา..
โดย: ป้าโซ วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:22:27:13 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับพี่หมี


ผมไม่เคยโหวตสาขานี้ให้ใครเลย
แต่วันนี้โหวตให้พี่หมี
โดยเฉพาะเรื่องของจรรยาบรรณนักเล่าข่าว
ที่นับวันจะลดน้อยถอยลงไปอย่างเห็นได้ชัดครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:6:34:06 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thaibear.BlogGang.com

Bkkbear
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]