รากฐาน-รากเหง้า รากแก้ว-รากหญ้า
รากฐาน-รากเหง้า รากแก้ว-รากหญ้า
คอลัมน์ สยามประเทศไทย
สุจิตต์ วงษ์เทศ
"รัฐธรรมนูญที่กินได้" เป็นสิ่งที่อาจารย์ นิธิ เอียวศรีวงศ์ อธิบายใน มติชนรายวัน (วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม 2550) ว่า หมายถึงรัฐธรรม นูญที่เอื้อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนระดับล่างดีขึ้น ซึ่งต้องประกอบด้วยสิทธิและอำนาจหลายประการ
แต่อาจารย์ ธีรยุทธ บุญมี สมมุติเรียกตามภาษาที่นิยมใช้กันทุกวันนี้ว่า "รัฐธรรมนูญฉบับภูมิปัญญาไทย" (ดูในข้อความปาฐกถาพิเศษในวันนักข่าว เมื่อ 5 มีนาคม 2550) แล้วอธิบายเสริมว่า "ไม่ได้หมายความว่ามีแก่นแท้ความเป็นไทย หรือไทยมีลักษณะพิเศษ แต่หมายถึงการสอดคล้องสถานการณ์ ประวัติศาสตร์"
อาจารย์ธีรยุทธพูดถึงประวัติศาสตร์และสังคมวัฒนธรรมหลายครั้งหลายหนและหลายตอน จะขอคัดตอนสำคัญมาให้อ่านอีกครั้งเกี่ยวกับ ปัญหาภาคใต้และปัญหาก่อการร้ายในเมือง มีดังนี้
ปัญหาภาคใต้และปัญหาการก่อการร้ายในเมือง มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ทั้ง 2 ปัญหาเกิดจากเหตุปัจจัยประวัติศาสตร์ 3 ด้าน
ด้านแรก คือ ความขัดแย้งระหว่างทุนและอารยธรรมตะวันตกกับโลกมุสลิม จึงเกิดการตื่นตัวของคนหนุ่มสาวมุสลิมและภัยก่อการร้ายกระจายไปทั่ว
ด้านที่สอง คือ กระบวนการประวัติศาสตร์ของการเกิดความคิดชาตินิยม ซึ่งเกิดขึ้นในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา โดยชาติต่างๆ พยายามกำหนดเขตดินแดนเพื่อให้เป็นอาณาเขตที่ชัดเจนของรัฐตนเอง เราสร้างความเป็นรัฐชาติไทยได้มั่นคง เป็นที่ยอมรับจากประชาคมโลก แต่โชคร้ายที่ประชากรบางพื้นที่ คือในสามจังหวัดภาคใต้ มีชาวมลายู-อิสลามบางส่วนเกิดกระแสชาตินิยมของตนเองขึ้นมาเช่นกัน จึงเกิดเป็นกระแสสร้างชาติตัวเองหรือแยกดินแดนเป็นระยะๆ และ
ด้านที่สาม เกิดสืบเนื่องจากด้านที่สองคือเมื่อเกิดชาตินิยมมักเกิดระบบการเมืองการปกครอง วัฒนธรรม สังคม ที่ยกย่องคนกลุ่มใหญ่ มีอคติไม่ให้ความยุติธรรมความเคารพต่อคนส่วนน้อย เป็นปัญหาต่อเนื่องเรื่อยมา
ปัจจัยที่หนึ่ง อยู่นอกเหนือความควบคุมของเรา แต่การวางตัวดำเนินนโยบายต่างประเทศให้ถูกต้อง การสอดส่องภายในให้ดี ช่วยผ่อนเบาได้
ปัจจัยที่ 2 แก้ได้ด้วยการแก้ไขประวัติศาสตร์ ด้วยการปรับความคิดมาเป็นการรักชาติ สร้างชาติ ด้วยความคิดที่กว้างขึ้น มีลักษณะเป็นพหุชาติพันธุ์นิยมมากขึ้น เจรจาปรึกษาหารือ สร้างความเข้าใจระหว่างกันมากขึ้น
สำหรับ ปัจจัยที่ 3 ชนชั้นปกครองไทยเข้าใจสภาพปัญหามากขึ้นและ เริ่มต้นแก้ไข แต่ควรทำอย่างจริงใจจริงจังมากขึ้น
ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทยต้องแก้ไข ซ่อม-สร้าง ให้มีลักษณะเป็นดังที่อาจารย์ธีรยุทธเรียก "พหุชาติพันธุ์นิยม" มากขึ้นและกว้างขวางขึ้นโดยเร็ว ถ้าเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่สนใจไยดีสิ่งนี้ ก็ไม่มีวันแก้ไขอะไรได้เลย ไม่ว่าเรื่องเล็กๆ แค่กรุงเทพมหานคร (กทม.) หรือเรื่องใหญ่ๆ คือประเทศไทย
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะมัวแต่ "เทศน์" ตั้งกรรมการกับตั้งกองทุนเท่านั้นก็ "เท่" แล้วหรือไร? หากไม่ประสีประสารากฐาน-รากเหง้าพหุชาติพันธุ์นิยมของ กทม. และเมืองไทย แล้วจะรู้เรื่อง เข้าใจ เข้าถึงรากแก้ว-รากหญ้าได้จริงละหรือ?