มีโอกาสดีได้รับเชิญจากคุณสมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ไปเยี่ยมชมทุ่งดอกไม้ 2 แห่งที่ถือได้ว่าเป็นสุดยอดดอกไม้ในสายอีสาน นั่นคือทะเลบัวแดงที่อุดรธานีและทุ่งซากุระที่ภูลมโล
เริ่มกันที่แห่งแรกเรามุ่งตรงสู่ทุ่งดอกบัวแดง หนองหาน ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ กินพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ใน อ.กุมภวาปีกับบางส่วนในพื้นที่ อ.ประจักษ์ศิลปาคมของ จ.อุดรธานี ที่นี่ถือได้ว่ามีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์วิทยาทีเดียว เพราะก่อเกิดความสัมพันธ์ระหว่างพืช สัตว์ และชุมชน เป็นผลิตผลให้ชาวบ้านได้เก็บเกี่ยวเลี้ยงชีพและหล่อเลี้ยงชุมชน
ทะเลบัวแดงไม่ใช่เพิ่งเริ่มในปีสองปีนี้ แต่มีมาช้านานหากแต่ชาวบ้านคุ้นชินตา จนไม่รู้ว่านี่คือแหล่งท่องเที่ยวที่เชิดหน้าชูตาของอีสานได้เลยทีเดียว จนเมื่อสัก 4-5 ปีมานี้ มีผู้นำไปโปรโมทจนเกิดเป็นกระแสการท่องเที่ยวทะเลบัวแดง ที่ใครๆต้องไปเยือนสักครั้ง เพื่อชมความอุดมสมบูรณ์ของบึงหนองหาน
บัวแดง หรือ บัวสาย ที่บึงหนองหานงอกงามทั่วท้องน้ำไปไกลสุดลูกหูลูกตา จนนับได้ว่านี่คือแหล่งชมทุ่งดอกไม้ตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่มากกว่า 29,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ ทุกปีในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนมีนาคม จะมีดอกบัวสีชมพูเข้มเกิดและออกดอกพร้อมกัน แต่ความหนาแน่นก็ไม่เท่ากันทุกปี และเมื่อหมดฤดูกาลราว 3-4 เดือน ต้นบัวทั้งหมดก็จะหายไป
ความแปลกและสวยงามนี้ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ยกให้เป็น 1 ใน 10 ทะเลสาบที่สวยงามและแปลกที่สุดในโลก ติดอันดับที่ 2
การไปเที่ยวชมทุ่งดอกไม้ นักท่องเที่ยวไปชมตั้งแต่เช้า เพื่อชมความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้น และช่วงเช้าดอกบัวก็จะเบ่งบานสวยงามกว่าช่วงใดๆ โดยใช้เรือใหญ่บรรทุก 10 คน แล่นออกไปชมท้องน้ำที่กว้างไกลสุดสายตา แต่ละปีคาดว่ามีผู้ไปชม 6 แสน- 1 ล้านคนเลยทีเดียว
จากทุ่งบัวแดง เรามุ่งหน้าสู่จังหวัดเลย เพื่อไปชมทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่ถือได้ว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเช่นเดียวกัน นั่นคือที่ภูลมโล ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ จังหวัดเลย จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดพิษณุโลก
จุดสูงสุดของ "ยอดภูลมโล" มีความสูง 1,680 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้อากาศหนาวเย็นตลอดปี และเมื่อความสูงเกิน 1 พันเมตร ทำให้ดอกไม้ชนิดหนึ่งสามารถออกดอกได้ นั่นคือ นางพญาเสือโคร่งที่ถือได้ว่ากินพื้นที่มากที่สุดในเมืองไทย บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ ซึ่งในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี ดอกนางพญาเสือโคร่งจะเปล่งประกายสีชมพูไปทั่วทุกพื้นที่ สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกบนภูลมโลได้ไม่น้อย
การขึ้นไปบนภูลมโลนั้นต้องชำนาญเส้นทาง จึงจำเป็นต้องใช้บริการเหมารถของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ต.กกสะทอน โทรศัพท์ 090-4606040 เพราะทางค่อนข้างชันและไกล ถนนก็ไม่เหมาะที่จะนำรถเก๋งขึ้น
(คุณสมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการภูมิภาคอีสาน ททท.)
ดอกนางพญาเสือโคร่งเมื่อบานสะพรั่งเต็มที่แล้วก็จะร่วงโรยภายใน 1-2 สัปดาห์ ถือว่ามีอายุสั้นมากๆ ใครอยากไปชมความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง ณ ภูลมโล ก็ต้องรีบไปแล้วค่ะ เพราะน่าจะเหลือเวลาบานอีกสักแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น ดอกจะร่วงโรยหมดจนต้องรอชมกันอีกทีปีหน้า
ชีวิตนี้ได้สัมผัสดอกไม้สวยๆช่างมีความสุขดีแท้
Travelista นักข่าวนักเดินทางอยู่ในวงการท่องเที่ยวกว่า 30 ปี มีพ็อคเก็ตบุ๊คท่องเที่ยวไทย 25 เล่ม ปัจจุบันเป็นรองประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว และประธานมีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ คลับ
วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:3:14:02 น.
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [