ใช่เพียงพบผ่าน
สวยเลือกได้: มีเรื่องให้ช่วยอ่ะ

หล่อแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว: เรื่องไรอ่ะ ว่ามาก่อนจิ

สวยเลือกได้: ก็...อืม เราจะไปตามหาญาติ แม่เขาไม่สบาย ติดต่อไม่ได้เลย

หล่อแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว: จริงดิ ไหงงั้นอ่า แล้วญาติที่ว่าอยู่ไหนเหรอ

สวยเลือกได้: กรุงเทพแหละ

หล่อแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว: แถวไหนล่ะ

สวยเลือกได้: สุขุมวิท

หล่อแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว: เอ่อ ส่วนไหนของสุขุมวิท เอาแบบแคบๆได้ป่าว

สวยเลือกได้: ไม่รู้สิ รู้แค่เขาทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

หล่อแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว: เอ้า แล้วจาเจอป่ะเนี่ย รู้ที่อยู่ก็ยังดี ข้อมูลน้อยอย่างนี้ จะหาเจอเหรอ

สวยเลือกได้: ไม่รู้เหมือนกัน แล้วนายจะช่วยเราป่าวล่ะ

หล่อแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว: ช่วยไงอ่ะ บอกมาก่อน

สวยเลือกได้: ก็ไปตามหาญาติเป็นเพื่อนเราหน่อย เราไม่เคยไปกรุงเทพ ก็เลยไม่รู้จะตั้งตนยังไง

หล่อแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว: เอางั้นเหรอ อืมๆก็ได้ แล้วจะมาเมื่อไหร่ล่ะ

สวยเลือกได้: มะรืนนี้


.................................................


ผมล้มตัวลงนอนบนเตียงแบบงงๆ กับสิ่งที่ผมรับปากเธอไป
เธอนะเหรอ ชื่อฝ้าย แชทคุยกันทุกวัน เธอคุยสนุก ร่าเริง บางทีก็ไม่เต็ม
เผลอนินทาเธอไปได้ไงเนี่ย แต่ก็มาวันนี้แหละที่ดูเธอไม่ค่อยจะร่าเริงเอาเสียเลย
ผมเดาเอาจากการคุยผ่านหน้าจอ ไม่รู้สิ ผมว่าผมมีเซ็นส์นะ

เราแลกเบอร์โทรเอาไว้เพื่อการติดต่อ นี่เป็นครั้งแรกสำหรับผมที่ได้เบอร์จากคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากันเลย
ผมไม่เคยโชว์รูปผมในดิสเพลย์ ฝ้ายเองก็เช่นกัน ผมไม่เคยคาดเดาว่าหน้าตาเธอจะเป็นยังไง
ความจริงผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรหรอกแค่รู้สึกว่าอยากช่วยเธอก็เท่านั้น ก็คนคุยกันทุกวัน
ถึงไม่เคยเห็นหน้าแต่จะเรียกว่าเป็นเพื่อนก็คงไม่แปลก

ติ่ง ติ่ง ตะลิ่ง ติ่ง ติง เสียงโทรศัพท์ผมดังซะลั่นห้อง
แล้วมันทำให้ผมอึ้ง ผมเพิ่งเม็มชื่อเธอไว้ในเครื่องเมื่อตะกี้
ไม่นึกว่าจะโทรมา รับดีไหมนะหรือผมควรจะเล่นตัวให้ดูน่าค้นหา

'สวัสดีครับ ฝ้ายเหรอ ไม่นึกว่าเธอจะโทรมา'

'เอ่อ คือ เราทำให้นายต้องลำบากหรือเปล่า ที่ขอให้นายช่วย'

'ไม่ไม่ ไม่เลย'

'อืม ขอบใจนะ แล้วเจอกัน'

เธอวางสายขณะที่ผมกำลังอึ้ง ผมน่าจะพูดอะไรมากกว่านี้หรือดีกว่านี้ ช่างเถอะ มะรืนนี้เธอก็จะมาแล้ว
แต่เสียงของเธอเพราะมาก เอ๊ะ นี่ผมกำลังคิดถึงเธอเหรอเนี่ย

.
.
.

'เอกหรือเปล่าอ่ะ'

'เอ่อๆ ใช่ๆ'

'เราฝ้ายนะ ไม่นึกว่านายจะใส่เสื้อสีชมพูมาจริงๆ'

'แหะๆ ก็กลัวเธอหาเราไม่เจอนิ่'

'ไปกันเถอะ'

'ไม่พักกินข้าวกินน้ำก่อนเหรอ มาเหนื่อยๆ'

'ไม่อ่ะ ไปกันเลยนะ'


แล้วผมก็พาเธอมาถึงสุขุมวิท และเริ่มต้นหา แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ยิ่งกว่างมเข็มในคลองแสนแสบซะอีก
สีหน้าเปื้อนยิ้มของฝ้ายค่อยๆลดลงเรื่อย เม็ดเหงื่อผุดเต็มหน้าของเธอ
ผมพยายามชวนเธอพัก แต่เธอก็ไม่ยอม ญาติของเธอคนนี้คงสำคัญมาก
ผมคงทำได้เพียงเดิน วิ่ง เป็นเพื่อนเธอ นี่ก็ยังไปไม่ถึงไหนเลย ผมชักจะสงสารเธอแล้วล่ะ

'ฝ้ายๆ ค่ำแล้วนะ พักก่อนไหม กินข้าวก่อนเดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไป เราอุ้มไม่ไหวหรอก'

'บ้า อืม...พักก็ได้ จะว่าไปก็เหนื่อยเหมือนกัน'


หลังจากกินข้าวเสร็จผมพาเธอไปนั่งพักที่สวนสาธารณะ
ลมเย็นพัดมาเบาๆ คงพอทำให้เธอสดชื่นขึ้นมาบ้าง


เรานั่งมองไปข้างหน้าโดยที่ไม่ได้พูดอะไรเลย อยู่ๆก็ไม่มีเรื่องที่จะพูดคุยกับเธอ
มันไม่เหมือนในโลกไซเบอร์ที่มีฉากกั้นความเป็นตัวตนของเรา ในนั้นเราเป็นอะไรก็ได้
แต่ตอนนี้โลกแห่งความเป็นจริง ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ผมควรจะทำสิ่งใด
แล้วไหล่ผมก็รู้สึกหนัก ผมได้แต่ชำเลืองมองโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
เธอคงเหนื่อยและหากผมพอจะช่วยได้ ผมจะให้เธอซบจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น


'นายเคยรักใครหรือเปล่า' เธอทำลายความเงียบด้วยคำถามนี้

'หืม...ถามทำไม'

'นายก็ตอบมาสิ'

'ก็ พ่อ แม่ พี่น้อง'

'นายก็รู้ว่าเราไม่ได้หมายถึงแบบนั้น'

'ไม่เคยอ่ะ'

'จริงดิ่ อยู่หน้าจอแล้วทำเป็นเว่อร์คุยเก่ง ที่แท้ตัวจริงนายก็ไม่กล้า'

'แหม ใครจะกล้าเปิดเผยอะไรทุกอย่างได้เล่า แล้วเธอถามทำไม'

'อืม ขอโทษนะ ความจริงเราไม่มาตามหาญาติหรอก เรามาตามหาคนที่เรารัก
เขาหายไปนานเหลือเกิน เราอยากเดินมาหาความจริง ว่าที่จริงแล้วเป็นเพียงเราฝ่ายเดียวหรือเปล่าที่เป็นแบบนี้
เราเจอเขาในโลกไซเบอร์นี่แหละ เราติดต่อกันมานาน นานจนเราเรียกมันว่ารัก เขาเองก็เคยบอกว่ารัก
เราเชื่อนะ นายว่าเราอ่อนไหวไปหรือเปล่า โง่ไปหรือเปล่า เพราะสุดท้ายสิ่งที่เราตามหาคือความว่างเปล่า'


'เราตอบไม่ได้หรอก เธอต่างหากที่รู้ว่าความจริงกำแพงแห่งโลกไซเบอร์กั้นตัวตนของเธอกับเขาไว้มากแค่ไหน กะเทาะเปลือกจนรับรู้สิ่งที่เรียกว่าจริงมากเท่าไหร่ สำหรับเรา เรายอมรับอย่างไม่อายว่าเราเองก็ไม่สามารถบอกสิ่งที่เป็นเราผ่านโลกจอมปลอมนั้นได้ทั้งหมด ถ้าไม่ได้เจอกันจริงๆเธอก็ไม่รู้หรอกว่าเราเป็นคนขี้อายขนาดนี้ ใช่ป่ะ'

'อืม นายผิดไปจากที่ฉันคิดมากเลยนะ แล้วฉันล่ะ ผิดไปจากที่นายคิดหรือเปล่า'

'ก็ ไม่ค่อยนะ จะต่างก็ตรงที่แววตาของเธอ มันดูเศร้ากว่าที่ฉันคิดไว้'

'เหรอ'

บทสนทนาต่างไปจากการคุยผ่านฉากกั้น ถึงผมจะไม่อาจแน่ใจได้ทั้งหมดว่ามันคือความจริง แต่เสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นก็ต่างกันลิบลับกับการพิมพ์บอกอาการลงบนหน้าจอ

.
.
.

สวยเลือกได้: หวัดดี ขอบใจนายมากนะเรื่องที่ช่วยเราอ่ะ

หล่อแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว: อืม

สวยเลือกได้: อืม อย่างเดียวเหรอ เป็นไรป่ะ

หล่อแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว: เปล่า ถามหน่อยสิ เธอจะปล่อยใจตัวเองรักความว่างเปล่าอีกไหม

สวยเลือกได้: หืม ไมถามงี้อ่ะ

หล่อแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว: ก็...เอ่อ...เราโทรหานะ
.
.
'หวัดดี ทำไมถามเราแปลกๆ กลัวเราให้นายช่วยอีกหรือไง โธ่ เหนื่อยก็บอกมาเหอะ'

'เปล่า เราเต็มใจช่วยเธอได้ทุกอย่างแหละ ที่ถามไปเพราะอยากรู้ ตอบได้ป่ะล่ะ'

'ก็...เฮ้อ ไม่รู้สิ'

'ฝ้าย'

'หืม'

'ต่อไป ถ้าใครคนนั้นที่เธอตามหา ขอให้เป็นเราได้ป่ะ'

'บ้า'
....
....
....
....
17-11-50



Create Date : 17 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2550 10:59:04 น.
Counter : 668 Pageviews.

0 comments
๏ ... รบ หรือ รัก ... ๏ นกโก๊ก
(1 ธ.ค. 2567 21:00:20 น.)
142. ความหลงยึดมั่นถือมั่น ในร่างกายของตน คือมูลเหตุของความทุกข์ ตอนที่ 1 chancamp
(30 พ.ย. 2567 07:34:02 น.)
๏ ... คู่กัด-คน-กัดคู่ ... ๏ นกโก๊ก
(30 พ.ย. 2567 01:04:13 น.)
นิยายชีวิตบทที่ 3 - "ศพเหม็นคาว" ดอยสะเก็ด
(29 พ.ย. 2567 21:42:55 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Tanada.BlogGang.com

tanada-จัง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด