ชื่อหนังสือ : สะพานดาวเขียนโดย : ทมยันตีพิมพ์รวมเล่มครั้งที่ ๔ : ๒๕๕๑สำนักพิมพ์ : ณ บ้านวรรณกรรมจำนวน ๔๙๖ หน้า ราคา ๓๐๐ บาท กระซิบก่อนอ่าน สักวัน...ฉันอาจจะขอแต่งงานกับคุณ น้ำเสียงย้ำหนักแน่น ถ้าผู้ชายที่เราชอบไม่ขอแต่งงานกับเรา ทำไมเราไม่มีสิทธิเดินไปถามเขาว่า คุณจะแต่งงานกับฉันไหม ถ้าเขาเซย์โน แปลว่าเราหมดหวัง เราอาจเซย์เยสกับผู้ชายอีกคน ที่เดินเข้ามาขอเราแต่งงานก็ได้ เรื่องของ จักร คนที่พ่อเรียกอย่างภาคภูมิใจว่า ไอ้ลูกชาย กับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่จักรมั่นใจว่า... เธอเป็นคนจริง เธอชื่อปูเป้ สวย...รวยมาก และฉลาดเป็นกรด จักร-ปูเป้ ต่างคือเพื่อนแท้ชั่วนิรันดร์ และเสียงย้ำหนักแน่นข้างต้น คือหัวใจของปูเป้ ผู้หญิงที่จริง ตรงและไม่มากเรื่อง จักร-ปูเป้-ไอ้ดำ-ประธาน-แบงก์-ปา เป็นความรักบริสุทธิ์ สัจจะลูกผู้ชาย ความเด็ดเดี่ยวของลูกผู้หญิง และบ่งถึงยากดีมีจนก็ไม่พ้นต้อง ปากกัดตีนถีบ ไปคว้าดวงดาว เงินตรา ความรัก ความเอื้ออาทร ยากที่ใครสักคนจะมีครบ มีเต็ม แต่บางคน เป็นสุข ทั้ง ๆ ที่ยังขาด และ เป็นทุกข์ น้อยมากกว่าคนที่มีอย่างเหลือเฟือ !ไขว่คว้าหาดวงดาว... แม้ไม่มีสะพานใดทอดยาวไปถึง หากหัวใจโน้มเข้าหากันบ้าง สะพานนั้นก็มิได้แสนไกลเกินพลัง สะพานดาว สร้างด้วยหัวใจที่โน้มเข้าหากัน ขอบคุณรายละเอียดและภาพปกจาก... ณ บ้านวรรณกรรม ... นะคะ แวะเคาะประตูร้านหนังสือ เขียนความรู้สึก...บันทึกหลังอ่าน จักร ใช้ชีวิตต่อสู้ดิ้นรน ทำมาหาเลี้ยงปากท้องของตนกับ ไอ้ดำ น้องชายต่างบิดาที่มีพัฒนาการทางสมองช้ากว่าอายุ แม้ผิวพรรณจะดำคล้ำบ่งถึงสายเลือดที่ไหลเวียนในกาย ทว่า...หัวใจของไอ้ดำไม่ดำเลย สมองมันอาจพัฒนาช้ากว่าอายุ หากเป็นหัวใจอ่อนโยน รู้จัก เมตตาปรานี รู้จักคำว่า แบ่งปัน มันเคยขโมย แต่รู้จักเก็บไว้เผื่อแผ่เขา ! กระทั่ง เขาได้พบ มิสเตอร์ลาร์ฟ ชีวิตที่หิวโหย อดมื้อกินมื้อก็เปลี่ยนไป จากที่เคยเร่ร่อนหางานทำ แล้วต้องเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่นเมื่อถูกจับได้ว่าไร้คุณวุฒิ ก็กลับมีหน้าที่การงานที่มั่นคง ซ้ำ มิสเตอร์ลาร์ฟ ยังเมตตา รักใคร่ด้วยใจจริงถึงขั้นเรียกแทนตัวเขาอย่างภาคภูมิใจว่า ไอ้ลูกชาย และหนึ่งในโอกาสที่ มิสเตอร์ลาร์ฟ หรือ ปา มอบให้ คือ... ทำให้เขามีโอกาสได้รู้จัก ปู้เป้ ผู้หญิงสวย รวยมาก และฉลาดเป็นกรด ผู้หญิงที่เปรียบสะพานดาว อยู่ห่างไกลเกินเอื้อมคว้า แต่ใครเลยจะรู้ว่า ดวงดาวไกลลิบพริบโน้น ปลอบโยนบอกดิน อย่าสิ้นหวัง มิได้ห่างแสนไกล เกินพลัง สะพานดาว ก่อสร้างด้วย หัวใจ ครั้งหนึ่ง สะพานดาว เคยสร้างเป็นละครทางช่อง ๗ สี หวานเย็นเองก็ไม่ค่อยได้ติดตามสักเท่าไรค่ะ ตามประสาคนที่ไม่ค่อยได้ชมละครหลังข่าว นาน ๆ จะมีสักหนึ่งเรื่องที่ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ แม้จะไม่ค่อยได้ติดตาม แต่ก็พอจำได้เลือน ๆ ลาง ๆ ว่าเป็นอีกเรื่องที่สนุกน่าดู พอมีโอกาสได้พบหนังสือเล่มนี้จึงไม่ลังเลที่จะคว้ามาอ่านแบบไม่รีรอใด ๆ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ ค่ะสำหรับเรื่องนี้ อ่านสนุก เพลิดเพลินไปกับการต่อสู้ดิ้นรนของแต่ละชีวิตในเรื่องราวที่ดำเนินไป แลมองเห็นสัจธรรมที่สะท้อนว่า ...ตรงไหนสุขจริง ทุกข์จริง สุข-ทุกข์ของมนุษย์ใช้มาตรฐานตนเองวัด แล้วมาตรฐานแต่ละคน ยังไม่เหมือนกันเสียอีก ตรงไหนล่ะเที่ยงแท้ ? เศรษฐีที่หลายคนมองว่าสุขล้นในชีวิต แท้จริงก็ทุกข์ทนกับความสุขที่ไม่พอดี ยาจกที่หลายชีวิตทุกข์หนักหนาในความข้นแค้น อาจสุขได้ในบางเวลา แล้วสิ่งใดที่จริงแท้แน่นอน ? หากใครที่ชื่นชอบนิยายแนวสะท้อนสังคม แนะนำให้อ่านนะคะ... สำหรับ สะพานดาว สะพานซึ่งถักทอด้วยหัวใจ เพื่อก้าวไปให้ถึงดาวดวงนั้นที่เฝ้าฝัน คะนึงหา !
กระซิบก่อนอ่าน
สักวัน...ฉันอาจจะขอแต่งงานกับคุณ น้ำเสียงย้ำหนักแน่น ถ้าผู้ชายที่เราชอบไม่ขอแต่งงานกับเรา ทำไมเราไม่มีสิทธิเดินไปถามเขาว่า คุณจะแต่งงานกับฉันไหม ถ้าเขาเซย์โน แปลว่าเราหมดหวัง เราอาจเซย์เยสกับผู้ชายอีกคน ที่เดินเข้ามาขอเราแต่งงานก็ได้ เรื่องของ จักร คนที่พ่อเรียกอย่างภาคภูมิใจว่า ไอ้ลูกชาย กับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่จักรมั่นใจว่า... เธอเป็นคนจริง เธอชื่อปูเป้ สวย...รวยมาก และฉลาดเป็นกรด จักร-ปูเป้ ต่างคือเพื่อนแท้ชั่วนิรันดร์ และเสียงย้ำหนักแน่นข้างต้น คือหัวใจของปูเป้ ผู้หญิงที่จริง ตรงและไม่มากเรื่อง จักร-ปูเป้-ไอ้ดำ-ประธาน-แบงก์-ปา เป็นความรักบริสุทธิ์ สัจจะลูกผู้ชาย ความเด็ดเดี่ยวของลูกผู้หญิง และบ่งถึงยากดีมีจนก็ไม่พ้นต้อง ปากกัดตีนถีบ ไปคว้าดวงดาว เงินตรา ความรัก ความเอื้ออาทร ยากที่ใครสักคนจะมีครบ มีเต็ม แต่บางคน เป็นสุข ทั้ง ๆ ที่ยังขาด และ เป็นทุกข์ น้อยมากกว่าคนที่มีอย่างเหลือเฟือ !ไขว่คว้าหาดวงดาว... แม้ไม่มีสะพานใดทอดยาวไปถึง หากหัวใจโน้มเข้าหากันบ้าง สะพานนั้นก็มิได้แสนไกลเกินพลัง สะพานดาว สร้างด้วยหัวใจที่โน้มเข้าหากัน ขอบคุณรายละเอียดและภาพปกจาก... ณ บ้านวรรณกรรม ... นะคะ
แวะเคาะประตูร้านหนังสือ
จักร ใช้ชีวิตต่อสู้ดิ้นรน ทำมาหาเลี้ยงปากท้องของตนกับ ไอ้ดำ น้องชายต่างบิดาที่มีพัฒนาการทางสมองช้ากว่าอายุ แม้ผิวพรรณจะดำคล้ำบ่งถึงสายเลือดที่ไหลเวียนในกาย ทว่า...หัวใจของไอ้ดำไม่ดำเลย สมองมันอาจพัฒนาช้ากว่าอายุ หากเป็นหัวใจอ่อนโยน รู้จัก เมตตาปรานี รู้จักคำว่า แบ่งปัน มันเคยขโมย แต่รู้จักเก็บไว้เผื่อแผ่เขา ! กระทั่ง เขาได้พบ มิสเตอร์ลาร์ฟ ชีวิตที่หิวโหย อดมื้อกินมื้อก็เปลี่ยนไป จากที่เคยเร่ร่อนหางานทำ แล้วต้องเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่นเมื่อถูกจับได้ว่าไร้คุณวุฒิ ก็กลับมีหน้าที่การงานที่มั่นคง ซ้ำ มิสเตอร์ลาร์ฟ ยังเมตตา รักใคร่ด้วยใจจริงถึงขั้นเรียกแทนตัวเขาอย่างภาคภูมิใจว่า ไอ้ลูกชาย และหนึ่งในโอกาสที่ มิสเตอร์ลาร์ฟ หรือ ปา มอบให้ คือ... ทำให้เขามีโอกาสได้รู้จัก ปู้เป้ ผู้หญิงสวย รวยมาก และฉลาดเป็นกรด ผู้หญิงที่เปรียบสะพานดาว อยู่ห่างไกลเกินเอื้อมคว้า แต่ใครเลยจะรู้ว่า ดวงดาวไกลลิบพริบโน้น ปลอบโยนบอกดิน อย่าสิ้นหวัง มิได้ห่างแสนไกล เกินพลัง สะพานดาว ก่อสร้างด้วย หัวใจ ครั้งหนึ่ง สะพานดาว เคยสร้างเป็นละครทางช่อง ๗ สี หวานเย็นเองก็ไม่ค่อยได้ติดตามสักเท่าไรค่ะ ตามประสาคนที่ไม่ค่อยได้ชมละครหลังข่าว นาน ๆ จะมีสักหนึ่งเรื่องที่ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ แม้จะไม่ค่อยได้ติดตาม แต่ก็พอจำได้เลือน ๆ ลาง ๆ ว่าเป็นอีกเรื่องที่สนุกน่าดู พอมีโอกาสได้พบหนังสือเล่มนี้จึงไม่ลังเลที่จะคว้ามาอ่านแบบไม่รีรอใด ๆ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ ค่ะสำหรับเรื่องนี้ อ่านสนุก เพลิดเพลินไปกับการต่อสู้ดิ้นรนของแต่ละชีวิตในเรื่องราวที่ดำเนินไป แลมองเห็นสัจธรรมที่สะท้อนว่า ...ตรงไหนสุขจริง ทุกข์จริง สุข-ทุกข์ของมนุษย์ใช้มาตรฐานตนเองวัด แล้วมาตรฐานแต่ละคน ยังไม่เหมือนกันเสียอีก ตรงไหนล่ะเที่ยงแท้ ? เศรษฐีที่หลายคนมองว่าสุขล้นในชีวิต แท้จริงก็ทุกข์ทนกับความสุขที่ไม่พอดี ยาจกที่หลายชีวิตทุกข์หนักหนาในความข้นแค้น อาจสุขได้ในบางเวลา แล้วสิ่งใดที่จริงแท้แน่นอน ? หากใครที่ชื่นชอบนิยายแนวสะท้อนสังคม แนะนำให้อ่านนะคะ... สำหรับ สะพานดาว สะพานซึ่งถักทอด้วยหัวใจ เพื่อก้าวไปให้ถึงดาวดวงนั้นที่เฝ้าฝัน คะนึงหา !