ชื่อหนังสือ : มายานาง เขียนโดย : อวี๋ฉิง (Yu Qing)แปลโดย : พวงหยกพิมพ์ครั้งที่ ๒ : มีนาคม ๒๕๕๖สำนักพิมพ์ : แจ่มใสจำนวน ๔๖๔ หน้า ราคา ๒๖๙ บาท กระซิบก่อนอ่าน หลังจากใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่บนเตียง ไม่ค่อยได้พบเจอผู้ใดเพราะร่างกายแสนจะอ่อนแอ ในที่สุดวาระสุดท้ายก็มาเยือน ซี่ซุ่นหวา ทายาทคนสุดท้ายของอดีตตระกูลมหาเศรษฐีชั้นทองแห่งเป่ยถัง ทว่าเรื่องน่าเหลือเชื่อกลับบังเกิดขึ้น เมื่อสวรรค์ยังไม่เรียกให้นางกลับไปที่นั่น ซ้ำยังมอบโอกาสให้นางได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง...ในร่างของคนอื่น ณ ช่วงเวลาหนึ่งปีก่อนที่วาระสุดท้ายของซี่ซุ่นหวาจะมาเยือน แต่ทำไมกันหนอ ผู้คนมีเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่น เหตุไฉนคนที่สวรรค์ส่งให้นางมาอยู่ในร่างกลับเป็น ชุยซุ่นหวา โฉมสะคราญผู้เป็นหนึ่งในสี่ประมุขตระกูลใหญ่ คนที่ใคร ๆ ต่างก็เรียกขานว่า นางมารร้าย คนนั้น ทำไม ! ขอบคุณรายละเอียดและภาพปกจาก... แจ่มใส ... นะคะ แวะเคาะประตูร้านหนังสือ เขียนความรู้สึก...บันทึกหลังอ่าน สวรรค์เล่นตลก เมื่อ ซี่ซุ่นหวา ทายาทคนสุดท้ายของอดีตตระกูลมหาเศรษฐีชั้นทองแห่งเป่ยถัง ได้รับโอกาสกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ณ ช่วงเวลาหนึ่งปีก่อนที่วาระสุดท้ายของ ซี่ซุ่นหวา จะมาเยือน ในร่างของ ชุยซุ่นหวา โฉมสะคราญผู้เป็นหนึ่งในสี่ประมุขตระกูลใหญ่ คนที่ใคร ๆ ต่างก็เรียกขานว่า นางมารร้าย ทว่า ๑๙ ปีที่ผ่านมานั้น นางใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่บนเตียง ไม่ค่อยได้พบเจอผู้ใดเพราะร่างกายแสนจะอ่อนแอ นางจะใช้ชีวิตหนึ่งปีหลังจากนี้ได้อย่างไร เพิ่งจะรู้ตอนนี้เองว่านางไม่ได้สวมรอยเป็นคุณหนูตระกูลชนชั้นสูงทั่วไป และโลกก็ไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างที่คิด นางไม่เคยก่อกรรมทำเลวแม้แต่อย่างเดียวแต่กลับต้องทนรับสายตาผู้คนที่ทำให้นางอับอายจนอยากปิดหน้าหนี แม้จะอยากกู่ร้องก่นว่า 'สีจื๋อบ้าบอ สีต๋าบ้าบอ จักรพรรดิคังหนิงบ้าบอ'ให้ดังก้องไปทั่วทั้งเป่ยถัง ก็ไม่สามารถทำได้ดังใจปราราถนา เมื่อศักดิ์ศรีของ ประมุขสกุลชุย อันสูงส่งที่นางจำต้องกล้ำกลืนสวมรอยแทน ชุยซุ่นหวา ตัวจริงมันค้ำคอ นางไม่อาจทำตัวเหมือนเด็กน้อยไร้พิษสงแห่ง สกุลซี่ ได้อีกแล้ว โอ ! สวรรค์ตลอด ๑๙ ปีที่ผ่านมา นางยังทุกข์ทรมานไม่พอหรืออย่างไรกัน ! 'คนเรามักมีอิทธิพลต่อกันและกันเสมอ ทุกการกระทำทุกคำพูดที่พวกเรานึกว่าจบลงแค่นั้นความจริงแล้วส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่โดยไม่รู้ตัว ระหว่างที่สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นบนโลกตามครรลองของมัน พวกเราดูเหมือนเป็นแค่ผู้รู้เห็นเหตุการณ์ แต่แท้ที่จริงแล้วมีส่วนร่วมในการผลักดันให้มันเกิดขึ้นมาโดยตลอด...สีจื๋อไม่มีทางคาดคิดเลยว่าคนที่ยิงธนูใส่นางกลางสนามรบคือมหาเศรษฐีชั้นทองสกุลซี่ และยิ่งคิดไม่ถึงว่าความดวงดีของนางจะทำให้สกุลซี่ย่อยยับอับปางลงทั้งตระกูล หากจักรพรรดิคังหนิงไม่ขี้ระแวงก็จะไม่มีธนูดอกนั้น และซี่ซุ่นหวาในปัจจุบันก็จะมีนิสัยก้าวร้าว ชอบวางอำนาจบาตรใหญ่เหมือนอย่างชุยซุ่นหวา เส้นทางชีวิตของคนเรามักจะซ้อนทับกันเสมออย่างนี้นี่แหละ' อ่าน จากใจนักเขียน ประโยคข้างต้นที่หวานเย็นยกมา ใครที่เป็นแฟนนิยายของ อวี๋ฉิง คงพอเดาได้ว่า มายานาง เป็นเรื่องราวต่อเนื่องมาจาก หลงเงานาง ทว่าตัวละครในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพื่อน ญาติ พี่น้อง หรือคนรู้จักกันแต่อย่างใด เป็นแต่เพียงมีเรื่องราวความแค้นเกี่ยวเนื่องกันมาประหนึ่งปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องเชื่อมโยงกันมาจากการกระทำที่ไม่มีจุดจบ ฉะนั้น ใครที่ไม่เคยอ่าน หลงเงานาง มาก่อนก็สามารถอ่าน มายานาง ได้นะคะ แต่... จะมีปัญหาที่เป็นปฏิกิริยาลูกโซ่แบบว่า... อยากอ่าน หลงเงานาง ขึ้นมาเหมือนหวานเย็นในตอนนี้เท่านั้นเองค่ะ (ฮา ) มายานาง เป็นเรื่องราวของ ซี่ซุ่นหวา ทายาทคนสุดท้ายของ ตระกูลซี่ ที่สิ้นใจตายจากการถูกวางยาพิษ แล้ววิญญาณออกจากร่างไปเข้าร่างของ ชุยซุ่นหวา ประมุขสกุลชุยที่แสนร้ายกาจที่บังเอิญถูกพิษตายไปเมื่อช่วงเวลาหนึ่งปีก่อนหน้านาง โดยไม่มีใครล่วงรู้ หวานเย็นชอบการผูกเรื่องในจุดนี้มาก ๆ เลยค่ะ ประมาณว่า คุณอวี๋ฉิง ผู้เขียนเข้าใจเชื่อมโยงประเด็นการตายของ ซุ่นหวา ทั้งสองคนเข้ากับความเชื่อเรื่องคำสาปของ สกุลซี่ ที่ว่า 'กรรมจะสนองกรรม' ได้อย่างเนียบเนียน น่านับถือพรสวรรค์ในการผูกเรื่องมาก ๆ เลยค่ะ หวานเย็นชอบ... พัฒนาการของตัวละครอย่าง ซี่ซุ่นหวา ก็เป็นอะไรที่ทำได้ดีไม่แพ้กันค่ะ จากหญิงสาวผู้อ่อนแอขี้โรคคนหนึ่ง เมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้ต้องกลายเป็นประมุขของหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ที่ไม่สามารถไว้ใจใครได้แม้แต่คนใกล้ตัว นางก็พร้อมที่จะเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์ กระทั่งสามารถรับมือกับปัญหาได้มากขึ้นทีละน้อย...ทีละนิด จุดนี้ก็ทำได้ดีค่ะ ฉากหวาน ๆ ระหว่างพระนางก็ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป กำลังพอเหมาะพอดี ความซับซ้อนของเรื่องก็พอประมาณให้ได้แอบลุ้น การเฉลยปมก็ใช้ได้ค่ะ นับได้ว่าเป็นแนว มากกว่ารัก ที่เข้มข้น ชวนติดตาม หวานเย็นแนะนำให้อ่านนะคะเล่มนี้ สนุกค่ะ ขอขอบคุณ น้องขวัญ อีกครั้งนะคะที่ทำให้หวานเย็นได้มีโอกาสอ่านหนังสือสนุก ๆ เล่มนี้ ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ
กระซิบก่อนอ่าน หลังจากใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่บนเตียง ไม่ค่อยได้พบเจอผู้ใดเพราะร่างกายแสนจะอ่อนแอ ในที่สุดวาระสุดท้ายก็มาเยือน ซี่ซุ่นหวา ทายาทคนสุดท้ายของอดีตตระกูลมหาเศรษฐีชั้นทองแห่งเป่ยถัง ทว่าเรื่องน่าเหลือเชื่อกลับบังเกิดขึ้น เมื่อสวรรค์ยังไม่เรียกให้นางกลับไปที่นั่น ซ้ำยังมอบโอกาสให้นางได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง...ในร่างของคนอื่น ณ ช่วงเวลาหนึ่งปีก่อนที่วาระสุดท้ายของซี่ซุ่นหวาจะมาเยือน แต่ทำไมกันหนอ ผู้คนมีเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่น เหตุไฉนคนที่สวรรค์ส่งให้นางมาอยู่ในร่างกลับเป็น ชุยซุ่นหวา โฉมสะคราญผู้เป็นหนึ่งในสี่ประมุขตระกูลใหญ่ คนที่ใคร ๆ ต่างก็เรียกขานว่า นางมารร้าย คนนั้น ทำไม ! ขอบคุณรายละเอียดและภาพปกจาก... แจ่มใส ... นะคะ
แวะเคาะประตูร้านหนังสือ
สวรรค์เล่นตลก เมื่อ ซี่ซุ่นหวา ทายาทคนสุดท้ายของอดีตตระกูลมหาเศรษฐีชั้นทองแห่งเป่ยถัง ได้รับโอกาสกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ณ ช่วงเวลาหนึ่งปีก่อนที่วาระสุดท้ายของ ซี่ซุ่นหวา จะมาเยือน ในร่างของ ชุยซุ่นหวา โฉมสะคราญผู้เป็นหนึ่งในสี่ประมุขตระกูลใหญ่ คนที่ใคร ๆ ต่างก็เรียกขานว่า นางมารร้าย ทว่า ๑๙ ปีที่ผ่านมานั้น นางใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่บนเตียง ไม่ค่อยได้พบเจอผู้ใดเพราะร่างกายแสนจะอ่อนแอ นางจะใช้ชีวิตหนึ่งปีหลังจากนี้ได้อย่างไร เพิ่งจะรู้ตอนนี้เองว่านางไม่ได้สวมรอยเป็นคุณหนูตระกูลชนชั้นสูงทั่วไป และโลกก็ไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างที่คิด นางไม่เคยก่อกรรมทำเลวแม้แต่อย่างเดียวแต่กลับต้องทนรับสายตาผู้คนที่ทำให้นางอับอายจนอยากปิดหน้าหนี แม้จะอยากกู่ร้องก่นว่า 'สีจื๋อบ้าบอ สีต๋าบ้าบอ จักรพรรดิคังหนิงบ้าบอ'ให้ดังก้องไปทั่วทั้งเป่ยถัง ก็ไม่สามารถทำได้ดังใจปราราถนา เมื่อศักดิ์ศรีของ ประมุขสกุลชุย อันสูงส่งที่นางจำต้องกล้ำกลืนสวมรอยแทน ชุยซุ่นหวา ตัวจริงมันค้ำคอ นางไม่อาจทำตัวเหมือนเด็กน้อยไร้พิษสงแห่ง สกุลซี่ ได้อีกแล้ว โอ ! สวรรค์ตลอด ๑๙ ปีที่ผ่านมา นางยังทุกข์ทรมานไม่พอหรืออย่างไรกัน ! 'คนเรามักมีอิทธิพลต่อกันและกันเสมอ ทุกการกระทำทุกคำพูดที่พวกเรานึกว่าจบลงแค่นั้นความจริงแล้วส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่โดยไม่รู้ตัว ระหว่างที่สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นบนโลกตามครรลองของมัน พวกเราดูเหมือนเป็นแค่ผู้รู้เห็นเหตุการณ์ แต่แท้ที่จริงแล้วมีส่วนร่วมในการผลักดันให้มันเกิดขึ้นมาโดยตลอด...สีจื๋อไม่มีทางคาดคิดเลยว่าคนที่ยิงธนูใส่นางกลางสนามรบคือมหาเศรษฐีชั้นทองสกุลซี่ และยิ่งคิดไม่ถึงว่าความดวงดีของนางจะทำให้สกุลซี่ย่อยยับอับปางลงทั้งตระกูล หากจักรพรรดิคังหนิงไม่ขี้ระแวงก็จะไม่มีธนูดอกนั้น และซี่ซุ่นหวาในปัจจุบันก็จะมีนิสัยก้าวร้าว ชอบวางอำนาจบาตรใหญ่เหมือนอย่างชุยซุ่นหวา เส้นทางชีวิตของคนเรามักจะซ้อนทับกันเสมออย่างนี้นี่แหละ' อ่าน จากใจนักเขียน ประโยคข้างต้นที่หวานเย็นยกมา ใครที่เป็นแฟนนิยายของ อวี๋ฉิง คงพอเดาได้ว่า มายานาง เป็นเรื่องราวต่อเนื่องมาจาก หลงเงานาง ทว่าตัวละครในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพื่อน ญาติ พี่น้อง หรือคนรู้จักกันแต่อย่างใด เป็นแต่เพียงมีเรื่องราวความแค้นเกี่ยวเนื่องกันมาประหนึ่งปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องเชื่อมโยงกันมาจากการกระทำที่ไม่มีจุดจบ ฉะนั้น ใครที่ไม่เคยอ่าน หลงเงานาง มาก่อนก็สามารถอ่าน มายานาง ได้นะคะ แต่... จะมีปัญหาที่เป็นปฏิกิริยาลูกโซ่แบบว่า... อยากอ่าน หลงเงานาง ขึ้นมาเหมือนหวานเย็นในตอนนี้เท่านั้นเองค่ะ (ฮา ) มายานาง เป็นเรื่องราวของ ซี่ซุ่นหวา ทายาทคนสุดท้ายของ ตระกูลซี่ ที่สิ้นใจตายจากการถูกวางยาพิษ แล้ววิญญาณออกจากร่างไปเข้าร่างของ ชุยซุ่นหวา ประมุขสกุลชุยที่แสนร้ายกาจที่บังเอิญถูกพิษตายไปเมื่อช่วงเวลาหนึ่งปีก่อนหน้านาง โดยไม่มีใครล่วงรู้ หวานเย็นชอบการผูกเรื่องในจุดนี้มาก ๆ เลยค่ะ ประมาณว่า คุณอวี๋ฉิง ผู้เขียนเข้าใจเชื่อมโยงประเด็นการตายของ ซุ่นหวา ทั้งสองคนเข้ากับความเชื่อเรื่องคำสาปของ สกุลซี่ ที่ว่า 'กรรมจะสนองกรรม' ได้อย่างเนียบเนียน น่านับถือพรสวรรค์ในการผูกเรื่องมาก ๆ เลยค่ะ หวานเย็นชอบ... พัฒนาการของตัวละครอย่าง ซี่ซุ่นหวา ก็เป็นอะไรที่ทำได้ดีไม่แพ้กันค่ะ จากหญิงสาวผู้อ่อนแอขี้โรคคนหนึ่ง เมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้ต้องกลายเป็นประมุขของหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ที่ไม่สามารถไว้ใจใครได้แม้แต่คนใกล้ตัว นางก็พร้อมที่จะเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์ กระทั่งสามารถรับมือกับปัญหาได้มากขึ้นทีละน้อย...ทีละนิด จุดนี้ก็ทำได้ดีค่ะ ฉากหวาน ๆ ระหว่างพระนางก็ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป กำลังพอเหมาะพอดี ความซับซ้อนของเรื่องก็พอประมาณให้ได้แอบลุ้น การเฉลยปมก็ใช้ได้ค่ะ นับได้ว่าเป็นแนว มากกว่ารัก ที่เข้มข้น ชวนติดตาม หวานเย็นแนะนำให้อ่านนะคะเล่มนี้ สนุกค่ะ ขอขอบคุณ น้องขวัญ อีกครั้งนะคะที่ทำให้หวานเย็นได้มีโอกาสอ่านหนังสือสนุก ๆ เล่มนี้ ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ
อาจตัดใจทั้งสองเรื่องซะเลย 555++