ทราบหรือไม่.? วันนี้คุณรับประทานยาจากธรรมชาติกี่ชนิด


บริโภคผักให้เป็นยา

ตามตำราแพทย์แผนโบราณ เห้งาขิงสดหรือขิงผงสามารถป้องกันอาการเมารถ เมาเรือหรือเมาเครื่องบินได้

+ การบริโภคหอมหัวใหญ่ช่วยป้องกันโรคหัวใจ

+ กระเทียมสดช่วยป้องกันเลือดแข็งตัว อันนำไปสู่อาการหัวใจวายได้ดีพอ ๆ กับแอสไพริน

+ ใบกุยช่ายมีคุณสมบัติร้อน รสเผ็ด สรรพคุณแก้อาการแน่นหน้าอก อาเจียนเป็นเลือด เลือดกำเดาออก ปัสสาวะเป็นเลือด บิด ริดสีดวงทวาร และช้ำใน

+ ตะไค้อุดมไปด้วยแคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส และน้ำมันหอมระเหยช่วยในการทำงานของลำไส้

+ สะระแหน่ ใช้เป็นยาแก้ปวดมวนในท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือรับประทานสดช่วยดับกลิ่นปาก

+ สาร Ditihiolthiones ที่สกัดได้จากกะหล่ำปลี เป็นสารต้านมะเร็งที่ทรงอานุภาพ

+ พริกเป็นยาขับเสมหะ เนื่องจากการรับประทานเผ็ดทำให้มีน้ำเมือกหลั่งในหลอดลม ทำให้เสมหะเจือจางลง

+ มีการใช้แครอทเป็นยาครอบจักรวาล เช่น แก้โรคประสาท โรคผิวหนัง หอบ เป็นต้น

+ ผักชีและเมล็ดผักชีมีรสเผ็ด สรรพคุณในการขับเหงื่อ

+ ปวยเล้ง มีคุณสมบัติเย็น รสหวาน มีสรรพคุณบำรุงเลือด อุจจาระเป็นเลือด และท้องผูก

+ ใบของบวบหอมมีรสขมและเปร้ยว มีคุณสมบัติเย็นเล็กน้อย สรรพคุณดับร้อนถอนพิษ

+ ผลแตงกวามีคุณสมบัติเย็น รสหวานแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ขับปัสสาวะ

+ เมล็ดถั่วเขียวมีสรรพคุณแก้ร้อนใน กระหายน้ำ รักษาฝี แผลไฟไหม้ น้ำร้อนรวก

+ เมล็ดถั่วลิสง มีสรรพคุณในการขับเสมหะ บำรุงพลัง ลดความดันโลหิต

+ การรับประทานถั่วเหลืองครึ่งถ้วยจะมีโปรตีนเพียงร้อยละ 60 ของเนื้อย่าง

+ แกงเผ็ด ผัดเผ็ดเป็นยาธาตุ เครื่องปรุงของแกงเผ็ด ประกอบด้วยพริกแห้ง ข่า ตะไคร้ ผิวมะกูด ลูกจันทร์ ลูกผักชี ยี่หร่า ลูกกระวาน หัวหอม หัวกระเทียม ซึ่งเป็นเครื่องเทศที่เป็นส่วนผสมของยาธาตุ จึงมีสรรพคุณในการช่วยเรียกน้ำย่อย ทำให้เจริญอาหาร และช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้

+ แกงเลียงเป็นยาเรียกน้ำนม เครื่องปรุงประกอบด้วยหัวหอม กระชาย พริกไทย กุ้งแห้งหรือกุ้งสด โขลกพอแหลก ละลายน้ำตังไฟพอเดือดต้มกับบวบ ตำลึง ข้าวโพดอ่อน ฟักทอง ใบแมงลักมีสรรพคุณเป็นยาเรียกน้ำนมในหญิงให้น้ำนมลูก(คุณพ่อห้ามแย่ง)และเป็นยาคุมธาตุ ช่วยเจริญอาหาร และขับเหงื่อ


ข้อมูลสวนผักรักไทย ISBN 974-8369-24-2 ธนาคารกสิกรไทย



รสอาหาร.....กับสรรพคุณของอาหาร

รสฝาด.....ฝาดสมานปิดธาตุ หากรับประทานมาก ๆ ทำให้มีอาการฝืดคอ ท้องอืด ท้องผูก
รสหวาน.....ซึมซาบไปตามเนื้อ ทำให้ชุ่มชื่น บำรุงกำลัง หากรับประทานมากทำให้ลมกำเริบ ง่วงนอน เกียจคร้าน
รสขม รสเมาเบื่อ.....แก้พิษ ฆ่าพยาธิผิวหนัง
รสเผ็ดร้อน.....แก้โรคกองลม ลมจุกเสียด ปวดท้อง ลมแน่น ลมป่อง หากรับประทานมากไป ทำให้อาการอ่อนเพลีย
รสมัน.....แก้เส้นเอ็นพิการ ปวดเสียว ขัดยอก กระตุก
รสหอมเย็น.....แก้หน้ามืดตาลาย วิงเวียนศรีษะ บำรุงหัวใจ
รสเค็ม.....ซึมซาบไปตามผิวหนัง ประดง ชา คัน หากรับประทานมากทำให้กระหายน้ำ ร้อนใน
รสเปรี้ยว.....แก้เสมหะพิการ กัดฟอกเสมหะ กระตุ้นน้ำลาย เจริญอาหาร หากรับประทานมาก ทำให้ท้องอืด แสลงแผล ร้อนใน



" ยิ้มไม่ต้องลงทุน แต่ได้คุณมหันต์ "




Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 13 สิงหาคม 2552 17:25:01 น.
Counter : 973 Pageviews.

2 comments
  
โห ตรงรสชาตอาหารไม่เคยรู้เลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
โดย: tistoo วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:47:22 น.
  
โดย: batzgirl วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:34:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Suwannaphoom.BlogGang.com

Kasaem
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด