เราจำเป็นต้องเป็นหนี้ซึ่งกันและกัน
ถ้าเราใคร่ครวญอย่างลึกซึ่งยังไงก็ดีกว่าหนี้นอกระบบ

ทุกคนเป็นหนี้ในด้านความรัก

..........มีหนี้อยู่อย่างหนึ่งที่เราทุกคนติดอยู่ และเป็นหนี้ที่ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย " อย่าเป็นหนี้อะไรใครนอกจากหนี้ความรักที่มีต่อกัน " ...แม้ว่าเราเป็นคนที่ไม่ชอบยืมสิ่งใดจากใครก็ตาม แต่ในด้านความรักแล้วจำเป็นต้องเป็นหนี้ซึ่งกันและกัน เราทุกคนจะพบว่าเราได้เป็นหนี้ความรัก ( แต่บางคนก็ต้องเป็นหนี้สินมาตั้งแต่เกิด ) คือเราเป็นหนี้ความรัก และความช่วยเหลือของพ่อแม่ เมื่อเข้าโรงเรียนก็เป็นหนี้ความรักของครู เมื่อทานข้าวเราก็เป็นหนี้ของชาวนา เราทั้งหลายต่างก็เป็นหนี้ของสังคม และประเทศชาติ อาจมีบางคนกล่าวว่า " ทำไมต้องเป็นหนี้ในเมื่อฉันจ่ายเงินซื้อของสิ่งเหล่านั้นแล้ว " ...ขอพี่น้องอย่าคิดเช่นนั้นเลย เพราะว่าแม้เราจ่ายเงินแล้วก็ตาม แต่เรายังเป็นหนี้ในส่วนของความรัก และการทำงานที่พวกเขาทำ มีความคิดอยู่หนึ่งแบบว่า " ข้าพเจ้าเป็นหนี้ประชากร " การที่มีความคิดเช่นนี้ทำให้มีความพยายามทำงานต่อไปตลอดชีวิต .....คนที่คิดว่าตัวเองเป็นหนี้พ่อแม่และพยายามทำตัวให้เป็นลูกที่ดีต่อพ่อแม่เขาให้ได้ หนี้แบบนี้เราทุกคนควรนำมาใช้หนี้ให้ได้ด้วย



ความคิดในฐานะ เจ้าหนี้และลูกหนี้

..........ถ้าเราใช้ฐานะของหนี้เป็นตัวกำหนดคนที่ดำเนินอยู่ในโลกนี้มี 2 ประเภท คือ

1. คนที่มีความคิดว่าเป็นเจ้าหนี้ในการดำเนินชีวิตจะคิดว่าทุกคนจะต้องใช้หนี้เขา เขาเป็นผู้ที่สมควรที่จะได้รับการบริการจากคนทั่วๆไป

2. คนที่มีความคิดว่าเป็นลูกหนี้ในการดำเนินชีวิต คือ คนที่คิดว่าเขามีหนี้สินต่อคนจำนวนมากที่เขาจะต้องใช้คืน เขาจึงปราถนาที่จะต้องรับใช้คนอื่นๆ

..........คนที่เป็นเจ้าหนี้คิดว่าตนเองจะต้องนั่งอยู่ในที่สูงกว่าคนอื่น และจะต้องได้รับความเคารพจากคนอื่น .....แต่ความคิดของคนที่เป็นลูกหนี้ คิดว่าตนเองนั่งต่ำกว่าคนอื่น และต้องไปแสดงความเคารพต่อคนอื่นก่อนเสมอ เพราะว่าทุกสิ่งที่เขาได้นั้นมาโดยพระคุณ เขาคิดว่าตนเองต้องช่วยเหลือคนอื่นๆ และภายในจิตใจก็รู้สึกขอบพระคุณเมื่อมีใครมาปรนนิบัติเขา แต่คนที่เป็นเจ้าหนี้เขาจะไม่รู้สึกชื่นชมเลย เพราะเขามีความปราถนาหลายอย่างที่ยังไม่สามารถปราถนา เขาต้องการรับหลายอย่างจากคนอื่น คนที่เป็นเจ้าหนี้มองคนอื่นต่ำกว่า คนที่เป็นลูกหนี้มองคนอื่นว่าเป็นผู้ที่สมควรได้รับพระคุณเช่นกัน


( ลักษณะผู้เป็นหนี้ คือ ไม่เหลืออะไรเลย )

..........ผู้เป็นหนี้ ( ลูกหนี้ ) มักจะถูกปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม ต้องแบกภาระ และความวิตกกังวล ความกระวนกระวายใจ เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ และคนรอบข้างมักจะไม่ค่อยเชื่อถือคำพูดของเขา ลูกหนี้ก็เลยดูไร้ค่าไปเลย

..........เงินเป็นต้นทุนที่ทำให้คนทะเลาะกัน ไม่เว้นแม้แต่พ่อกับลูก พี่กับน้อง เงินเป็นสาเหตุให้คนฆ่ากันตาย หรือบาดเจ็บปางตาย ที่หาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้ และยังเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงความเชื่อของคนเราได้อีกด้วย

..........การที่เราดำเนินชีวิตอยู่บนโลกนี้บางครั้งหากจำเป็นต้องยืมเงินจากผู้อื่น หรือ ผู้ต้องการยืมเงินจากเรา ควรมีท่าทีอย่างสมควรต่อเรื่องนี้ คือ ถ้าต้องยืมเงิน (ลูกหนี้) ของผู้อื่น เราต้องมีความตั้งใจว่า ต้องชะระเงินแก่เจ้าหนี้อย่างแน่นอน .....และถ้าเราเป็นผู้ให้ยืม (เจ้าหนี้) ต้องมีความคิดว่าเงินที่ให้เขายืมไปแล้วนั้นเป็นเงินที่ให้ไปฟรีๆ ไม่จำเป็นต้องรับคืน เพราะเราคิดเช่นนี้เราอาจต้องเสียใจกับบทบาทการเป็น ลูกหนี้ เจ้าหนี้ อย่างแน่นอน และบางครั้งเราอาจจะเสียเพื่อนที่ดีไปด้วยก็ได้เพราะ หนี้




Create Date : 12 ตุลาคม 2552
Last Update : 12 ตุลาคม 2552 14:13:56 น.
Counter : 1176 Pageviews.

0 comments
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
The Last Thing on My Mind - Tom Paxton ... ความหมาย tuk-tuk@korat
(1 ม.ค. 2567 14:50:49 น.)
พบเจอภาพอะไร? ส่วนหนึ่งของภาพน่าสนใจจึงตัดมาใช้ คุกกี้คามุอิ
(1 ม.ค. 2567 03:56:23 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Suwannaphoom.BlogGang.com

Kasaem
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด