แม่ ....ผู้ให้ชีวิตแก่ลูก ๆ ทุกคน




แม่ ....ผู้ให้ชีวิตแก่ลูก ๆ ทุกคน

กิจกรรม นี้ เป็นกิจกรรมที่ทีมบล็อกแก๊ง จัดขึ้น เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ฉันรู้สึกว่า เป็นกิจกรรมที่ดีมากทีเดียว 
เป็นการให้ลูก ๆ ได้เขียน ได้รำลึกถึง ความทรงจำที่เรามีต่อแม่ของเรา เพื่อเป็นการเพิ่มพลังจิตได้คิดถึงแม่ อันเป็นที่รักยิ่งของลูก ๆ
      เรื่องราวของ "แม่ของฉัน" มีมากมายที่ฉันจำได้เสมอ เมื่อวัยเด็ก ฉันเป็นเด็กอ่อนแอ เจ็บป่วย เป็นประจำ 
แม่เล่าว่า อุ้มฉันหาหมอทั่วกรุงเทพฯ ที่ไหนมีข่าวว่า หมอคนไหนเก่ง แม่ก็จะอุ้มฉันไปหาหมอ  เวลาฉันดื้อ ฉันเกเร 
แม่มักจะ กล่าวแบบขำ ๆ ว่า "แกนี่ ทรมานฉันตั้งแต่อยู่ในท้องเลยนะ
กว่าจะคลอดแก ฉันต้องวิ่งไปโรงพยาบาลถึง 3 ครั้ง" 
หมายความว่า แม่เจ็บท้องจะคลอด แต่พอไปถึงโรงพยาบาลแล้วก็ไม่ยอมคลอด นอน 2 วัน แม่ก็เบื่อต้องกลับบ้าน 
ครั้งที่ 3 ฉันจึงยอมออกมาดูโลกอันสดใสงดงามใบนี้ นึกแล้วก็อดขำแม่ไม่ได้นะ ตอนเด็ก ฉันฟังแม่เล่าแล้วก็เฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่เมื่อโตขึ้น  รู้ความมากขึ้น ก็รู้สึกสำนึกถึงความยากลำบาก ยากเย็นของแม่ที่ต้องเลี้ยงดูเด็กขี้โรคอย่างฉัน
           สมัยเป็นวัยรุ่น  ฉันเคยทำให้แม่เสียใจอย่างมากอยู่ครั้งหนึ่ง ด้วยความน้อยใจ ที่แม่รักแต่น้องชาย ซึ่งตามธรรมดาความรู้สึก
ของชนชาวจีน  มักจะรักลูกชาย มากกว่าลูกสาว เพราะถือว่า ลูกชายเป็นผู้สืบตระกูล  ผู้หญิงพอโตเป็นสาว ออกเรือนไป 
ก็เป็นสมบัติของคนอื่นไปเสียแล้ว  เหตุการณ์ครั้งนั้น ฉันทะเลาะกับน้องชายและตีน้องชายซึ่งทำผิด  แม่ใช้คำพูดที่ค่อนข้างรุนแรง
กับฉัน  ซึ่งฉันรับไม่ได้จริง ๆ  ตอนนั้น ฉันเป็นวัยรุ่นที่เรียกว่า ใจร้อน เจ้าอารมณ์  คิดหนีออกจากบ้านไปตายเอาดาบหน้า 
พอแม่รู้เท่านั้น  แม่ร้องไห้ และบอกว่า ที่ใช้คำพูดที่รุนแรงนั้น เพราะอารมณ์โกรธ ไม่ใช่ไม่รัก พอเห็นน้ำตาแม่ ฉันก็ใจแป้ว
แม่กับฉันก็เข้าใจกันแล้ว  นี่เป็นครั้งหนึ่งที่ฉันรู้สึกบาปมากที่ทำให้แม่ร้องไห้  ฉันมักงอนกับแม่  ไม่พูดกับแม่ อดข้าวประท้วง
ถ้าแม่ไม่มาง้อเรียกกินข้าว  ก็ประท้วงไม่กินข้าว (แอบให้หลานไปซื้อข้าวเหนียวสังขยามาทาน  ก็มันหิวนี่นา ) ในที่สุด แม่ก็ทนไม่ไหว
ยอมแพ้  มาเรียกไปทานข้าว ฤทธิ์เดชของฉันมากมาย
ที่ทำกับแม่  แต่แม่ ก็ไม่ได้โกรธจริงจัง  ฉันเองก็รู้ว่า แม่รักฉันมากทีเดียว เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่  รู้ความมากขึ้น ฉันก็รู้สึกบาปมาก
ที่งอนและประท้วงแม่ไว้หลาย ๆ เรื่อง  โดยเฉพาะเรื่องการเรียน  แม่เป็นผู้หญิงค่อนข้างมีความเชื่อว่า  ลูกผู้หญิงไม่ต้องเรียนอะไร
ให้มากมายหรอก  ออกเรือนไป สามีก็เลี้ยงดู จะเรียนมาก ๆ ไปทำไม แนวคิดนี้  ฉันต่อต้านมาก  โดยมีความคิดว่า 
ทำไมจะต้องให้สามีเลี้ยงดู  ถ้าแต่งไปแล้ว เขาไม่เลี้ยงดู  เราไม่มีความรู้ มิต้องทนอยู่กับเขาไปตลอดชีวิตหรือ แต่ถ้าเรามีความรู้ 
ย่อมเลี้ยงดูตัวเองได้  โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร  นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราแม่ลูก  ความเห็นไม่ได้ตรงกัน  แต่ในที่สุด  ฉันก็ชนะ 
เพราะสามารถเรียนจบปริญญาจนได้  และสามารถแสดงให้แม่เห็นได้ว่า การศึกษามีความสำคัญมาก  เพราะทำให้เราสามารถ
ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยใคร  ซึ่งน้อง ๆ ไม่มีใครชอบเรียนสักคน  พอสิ้นพ่อ ก็ต้องทำงานที่ลำบาก เงินเดือนก็น้อย 
ถึงตอนนี้ แม่เห็นด้วยกับฉันแล้ว  ฉันรู้ว่า  แม่รักฉันมาก ก่อนฉันจบการศึกษาและจะต้องกลับมาอยู่ที่บ้าน  แม่ภูมิใจมาก
อย่างน้อยแม่ก็มีลูกสักคนเรียนจบปริญญา  เชิดหน้าชูตา  พอแม่รู้ว่า ฉันจะกลับมาอยู่บ้านกับแม่แล้ว  แม่เตรียมซื้อโต๊ะ เก้าอี้ 
สำหรับฉันใช้เวลาเตรียมการสอน  ซื้อเตียง ซื้อตู้เสื้อผ้า  ไว้พร้อมสรรพ เพื่อต้อนรับฉันกลับสู่บ้านอันอบอุ่น  จะได้อยู่ด้วยกัน
พร้อมหน้าพร้อมตา  แต่น่าเสียดาย พ่อจากฉันไปตั้งแต่ฉันอยู่ปีหนึ่ง  ฉันยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณอะไรพ่อเลย 
คงต้องเป็นชาติหน้าถ้ามีจริง น่ะนะ   แม่ภูมิใจในตัวฉัน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อรู้ว่า ฉันจะได้รับปริญญาบัตรจากพระหัตถ์
ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ฉันทำงานแล้ว  ตัดชุดใหม่ให้แม่ใส่ไปงานรับปริญญาบัตรของฉัน  แม่เป็นคนไม่ชอบถ่ายรูป
จึงมีรูปน้อย  ฉันหาได้จากงานรับปริญญาของฉัน เพียง 2 ใบเท่านั้น ค่ะ 



ภาพนี้ เป็นภาพที่แม่ไปร่วมงานรับปริญญาของฉัน  โดยมีครอบครัวของคนในอดีตของฉันเอารถมารับไปงานและมีเพื่อนรักร่วมสถาบันและเพื่อนไปร่วมแสดงความยินดี ค่ะ  



            รูปนี้ ถ่ายกับพะเยาว์เพื่อนรักด้วยค่ะ 

             เรื่อง ความรัก  ความผูกพันระหว่างแม่ลูก ของฉันกับแม่  มีมากเกินกว่าที่จะเล่ากันได้หมด  โดยเฉพาะ  
หลังจาก พ่อถึงแก่กรรม  น้อง ๆ มีครอบครัวกันไป เหลือเราสองคนแม่ลูก
ุฉันต้องไปทำงาน คือสอนหนังสือ  สอนพิเศษ 
วันไหน ที่ฉันไม่ต้องสอนพิเศษ  แม่จะรอฉันกลับมาทานข้าวมื้อเย็นด้วยกันเสมอ  แม่เป็นคนมัธยัสถ์เสมอ  การสอนของแม่ 
ฉันจำได้เสมอ  ถึงแม้ครอบครัวเราจะพอมีพอกินในสมัยที่พ่อยังเปิดโรงงานทำน้ำหวานอยู่  แต่แม่สอนให้พวกลูก ๆ 
รู้จักค่าของเงินเสมอ   เราจะได้เงินค่าขนมสัก สองสลึงในสมัยนั้น  เราต้องถูกบ้านเสร็จก่อน  เราจึงจะได้สองสลึงไปซื้อขนม 
ฉันมีโอกาสได้อยู่กับแม่หลังเรียนจบและทำงาน เพียง 13 ปี แม่ก็จากฉันไป  เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ฉันเสียใจมากที่สุด
ที่ฉันมีโอกาสตอบแทนบุญคุณแม่น้อยนัก  ได้แต่หวังว่า  ชาติหน้าหากมีโอกาสเกิดมาเป็นแม่ลูกกันอีก คงได้มีโอกาสตอบแทนพระคุณแม่
ได้มากกว่าในชาตินี้ ค่ะ  
             ฉันหวังว่า เรื่องราวที่ฉันเขียนมานี้  คงจะมีข้อคิด ให้ผู้อ่านที่ยัง มีพ่อ มีแม่ นำไปใคร่ครวญ ว่า ท่านโชคดีมาก
ที่ยังมีโอกาสได้ดูแล พ่อ แม่  ชอให้มีความกตัญญู ให้ความห่วงใย ดูแลท่านทั้งสองเป็นอย่างดี  อย่าได้ขี้งอน  โกรธแม่  
อย่าทำเรื่องราวที่จะทำให้แม่เสียใจ  ใครที่ยังมีลักษณะนี้อยู่ก็ปรับแก้นิสัยก่อนที่จะสายไป นะคะ 




Create Date : 16 สิงหาคม 2559
Last Update : 16 สิงหาคม 2559 21:01:16 น.
Counter : 2539 Pageviews.

30 comments
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
ทนายอ้วนจัดดอกไม้ - จัดดอกไม้ง่ายๆ – แจกันสวัสดีปีใหม่ 2567 - กุหลาบพวงสีชมพู - ขาว ทนายอ้วน
(2 ม.ค. 2567 15:16:32 น.)
ทนายอ้วนจัดดอกไม้ - จัดดอกไม้ง่ายๆ – แจกันสวัสดีปีใหม่ 2567 - กุหลาบพวงสีชมพู - ขาว ทนายอ้วน
(2 ม.ค. 2567 15:16:32 น.)
ประสบการณ์ ทำพาสปอร์ตที่สายใต้ใหม่ newyorknurse
(2 ม.ค. 2567 17:45:17 น.)
  
ผมรู้สึกว่ามันก็ต้องมีบ้างแหละครับที่จะทะเลาะกันและไม่เข้าใจกัน ผมมองว่ามันเป็นเหมือนช่วงเวลาที่แทบทุกคนต้องผ่านมา

งอนเชื่อว่ามีบ้าง แต่โกรธเกลียดนี่คงหาได้ยาก แต่ใช่ว่าจะไม่มี ผมเคยเจอคนด่าพ่อตัวเอาแบบหยาบๆ ด้วยนะเออ ผมนี่อึ้งไปเลย

อาจารย์สุวิมล Diarist
+
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:0:11:30 น.
  
สาวอยู่กับแม่ค่ะงอนกันประจำ ท้ายสุดแม่ก็เป็นคนที่รักเราและเรารักที่สุด
โดย: sawkitty วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:6:25:09 น.
  
เป็นคนไม่ชอบคนงอน และตัวเองไม่ทำ
ถ้ารู้สึกน้อยใจ จะบอกไปตรงๆเลยค่ะ
ไม่ชอบอะไรที่คาราคาซัง

โดยรวมแล้ว อาจารย์กับคุณแม่ก็มีเรื่อง
ประทับใจร่วมกันไม่น้อยนะคะ ยินดีด้วย
ที่ในที่สุดอาจารย์ทำใจได้ว่า แท้จริง
สัมพันธภาพระหว่างแม่ลูกควรเป็นอย่างไร

เขาว่าเมื่อคนเราพบกันในชาติหนึ่งแล้ว
จะมีบุญกรรมผูกพันให้ได้พบกันในชาติภพ
ต่อไป แต่จะในลักษณะไหนก็ต้องแล้วแต่
ผลของกรรมเก่า

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:11:21:42 น.
  
โหวต Diarist ครับอาจารย์

อ่านเรื่องราวในบล็อกแล้วรู้สึกเลยว่า
คนจีนในสมัยก่อนยังไงก็รักลุกชายมากกว่าลุกสาว
ครอบครัวผมก็เป็นครับ 555
แต่สุดท้ายพี่ๆน้องๆก็รักกันดี ไม่มีปัญหาอะไร
ตอนนี้น้องสาวคนเล้กของผม พ่อจะรักมากที่สุดด้วยซ้ำ เพราะอ้อนเก่ง
ดูแลพ่อดีกว่าลูกๆทุกคนครับ 5555


วันนี้ที่บ้านก็ไหว้สารทจีน
ครอบครัวผมก็มีเชื้อสายคนจีนแต้จิ๋วครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:19:25:20 น.
  
555 สมัยสาวๆนี่ อ.สุ ก้ไม่ใช่เล่นๆเหมือนกันนะครับนี่

นี่โชคดีที่กลับใจทัน ไม่หนีออกจากบ้านนะครับ
ไม่งั้นเดือนร้อน มูลนิธิปวีณา กระจกเงา
ต้องช่วยตามหากันอีก อิอิ

ส่วนเรื่องการศึกษานี่ โชคดีที่ อ.สุ เป็นคนกล้าคิด กล้าตัดสินใจนะครับ ถ้าตอนนั้น ไม่ได้เรียนหนังสือละก็

อ.เต๊ะ ทายว่าตอนนี้ อ.สุ ต้องมีลูกเป็นขโยง 10คนเป็นอย่างน้อยๆ
รูปร่างคงจะ อ้วนตุ๊ต๊ะ ทำงานบ้าน หน้ามันแผลบ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง แน่นอนเลยละครับ อิอิ

อ.สุ ร้องกรี๊ดดด เอ็งก้พุดเกินไป เอ็งแค้นอะไรข้าหรือเปล่าเนี่ย
ใส่ร้ายข้าซะขนาดนี้ เดี๊ยะ เอ็งจะโดน ฮึ่มมๆ 555

จริงๆนี่ อ.เต๊ะ ว่าเรื่อง ความกตัญญู การตอบแทนบุญคุณ บิดามารดานี่ ไม่ว่าลูกชายลูกสาว ก็สามารถทำได้เท่าเทียมกันละนะครับ

เผลอๆลูกสาว น่าจะปรนนิบัติพัดวี ได้ดีกว่าลูกชายอีกนะครับ

แล้วก็สำหรับครอบครัวคนที่เรารักอย่าง พ่อแม่นี่
เมื่อยังมีโอกาสมีเวลา ตอนที่ท่านยังแข็งแรง
ก้ต้องพยายามดูแล เอาใจใส่ท่านให้มากๆ

ดีกว่าไปทำตอนท่านแก่ชรา หรือเจ็บป่วย
เพราะช่วงชีวิตคนเรานี่ ผ่านพ้นไปไวมากๆเลยนะครับ

อ.เต๊ะ ชื่นชมคนที่กตัญญูรู้คุณพ่อแม่ทุกคน อ่านแล้วก็ตื้นตัน
และซาบซึ้งไปด้วยเลยนะครับ

แล้วก้อ.สุ อยู่คนเดียวแบบนี้ ก้ต้องดุแลสุขภาพให้มากๆเลยนะครับ
อย่าลืม ข้อเสนอเรื่อง ผู้จัดการส่วนตัวของอ.เต๊ะ ด้วยนะครับ แฮ่ๆ 555



บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: multiple วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:20:52:00 น.
  
ที่คุยกัน ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ หรือพวกวัยรุ่น ผมก็คงไม่รู้สึกแปลกใจ แต่ที่เคยเจอนี่โตขนาดมีครอบครัวแล้วด่าพ่อตัวเอง แบบ...... ขออภัย (ด่าตัวเงินตัวทอง) ผมว่ามันไม่ใช่แล้วล่ะ อายุขนาดนี้ไม่รู้ดีชั่ว มันไม่ถูกต้องแล้ว

ถ้าลูกของเขาก็จะทำกับเขา บอกตรงๆ ผมสงสารจับใจนะ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของผมอยู่ดี
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:0:43:25 น.
  

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:6:29:31 น.
  
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog


สวัสดีค่ะอาจารย์สุวิมล
ความรักของแม่ยิ่งใหญ่มหาศาลนะคะ
แม่รักลูกโดยปราศจากเงื่อนไข แม้ลูกจะเป็นคนเลว
เป็นฆาตกร ต้องติดคุกติดตะราง ถูกสังคมประนาม
แต่แม่ก็ยังรักลูกเป็นห่วงลูกเสมอ แม่ตัดลูกไม่ขาด
แม้ลูกจะเป็นภาระอันหนักหน่วง แต่คนเป็นแม่ก็พร้อม
ที่จะแบกภาระนั้นด้วยความเต็มใจ
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:7:21:54 น.
  
อาจารย์ดื้อเหมือนกันนะคะนี่ มีประท้วงไม่กินข้าว
แต่ได้กินขนมข้าวเหนียวสังขยาแทน
อย่างนี้มันน่า.....จริงๆ เฮี้ยวได้ที่นะคะแต่ละวีรกรรม
แต่คุณแม่น่ารักเสมอจริงๆ ไม่เคยโกรธจริงสักที และไม่เคยตัดลูกน้อยแสนน่ารักอย่างพวกเราได้สักที
พอเราได้เป็นแม่คนบ้าง ก็เป็นความรู้สึกเดียวกันจริงๆ

g หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กิ่งฟ้า Diarist ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: ตุ๊กจ้ะ วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:9:35:19 น.
  
สวัสดีคะอาจารย์

คุณแม่ของอาจารย์น่ารักดีนะคะ

โหวตให้เลยคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนสวยที่ไม่เคยสวย Klaibann Blog ดู Blog
กิ่งฟ้า Diarist ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
อุ้มสี Music Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Health Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Diarist ดู Blog
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
ตุ๊กจ้ะ Parenting Blog ดู Blog
sawkitty Parenting Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:11:24:40 น.
  
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ขุนเพชรขุนราม Cartoon Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
Opey Beauty Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

จริงค่ะ อาจารย์
อย่าทำให้แม่โกรธ หรือ เสียใจ
ควรแก้ไขก่อนจะสายไป
โดย: Close To Heaven วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:14:34:56 น.
  
ใส่ <*center>เพื่อให้อยู่ตรงกลาง
ตัวอย่าง ต้องเว้นวรรคให้สวยงามอย่าพิมพ์ติดกันยาวเป็นพืด

แม่ ....ผู้ให้ชีวิตแก่ลูก ๆ ทุกคน

กิจกรรม นี้ เป็นกิจกรรมที่ทีมบล็อกแก๊ง จัดขึ้น เนื่องในวันแม่แห่งชาติ
ฉันรู้สึกว่า เป็นกิจกรรมที่ดีมากทีเดียว
เป็นการให้ลูก ๆ ได้เขียน ได้รำลึกถึง ความทรงจำที่เรามีต่อแม่ของเรา
เพื่อเป็นการเพิ่มพลังจิตได้คิดถึงแม่ อันเป็นที่รักยิ่งของลูก ๆ

ใส่ลายคั่น
<*img src=//i314.photobucket.com/albums/ll440/irqq/monpetitparadis126019358731_gros.gif>



เรื่องราวของ "แม่ของฉัน" มีมากมายที่ฉันจำได้เสมอ เมื่อวัยเด็ก
ฉันเป็นเด็กอ่อนแอ เจ็บป่วย เป็นประจำ
แม่เล่าว่า อุ้มฉันหาหมอทั่วกรุงเทพฯ ที่ไหนมีข่าวว่า หมอคนไหนเก่ง
แม่ก็จะอุ้มฉันไปหาหมอ เวลาฉันดื้อ ฉันเกเร แม่มักจะ กล่าวแบบขำ ๆ
ว่า "แกนี่ ทรมานฉันตั้งแต่อยู่ในท้องเลยนะ



กว่าจะคลอดแก ฉันต้องวิ่งไปโรงพยาบาลถึง 3 ครั้ง"
หมายความว่า แม่เจ็บท้องจะคลอด แต่พอไปถึงโรงพยาบาลแล้ว
ก็ไม่ยอมคลอด นอน 2 วัน แม่ก็เบื่อต้องกลับบ้าน
ครั้งที่ 3 ฉันจึงยอมออกมาดูโลกอันสดใสงดงามใบนี้ นึกแล้วก็อดขำ
แม่ไม่ได้นะ ตอนเด็ก ฉันฟังแม่เล่าแล้วก็เฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่เมื่อโตขึ้น รู้ความมากขึ้น ก็รู้สึกสำนึกถึงความยากลำบาก ยากเย็น
ของแม่ที่ต้องเลี้ยงดูเด็กขี้โรคอย่างฉัน

โดย: ชมพร วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:15:58:53 น.
  
คุณน้องลอง Save As Draft ก่อน อย่าเพิ่งใส่จริง แก้ไขให้สวยงามก่อน
ค่อย Publish
โดย: ชมพร วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:16:16:10 น.
  
วันนี้ออกไปซูเปอร์ เดินเยอะไปหน่อย
ชักอยากนอนแต่หัวค่ำ แต่เดี๋ยวก็คงยาว
จนดึกจนได้ แวะมาส่งเข้านอนก่อนนะคะ
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:21:04:52 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมเป็นลูกคนกลาง
พ่อแม่มีลูก 4 คน
หัว ท้ายนี่พ่อแม่รักมากเป็นพิเศาครับ 555
พี่ชายผมเสียไปแล้ว

ตอนนี้คนที่ดูแลพ่อมากที่สุดก็น้องสาวคนเล้กของผม
ผมเองทำแต่งานครับ ไม่ใช่แนวอ้อนเลย 5555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 สิงหาคม 2559 เวลา:22:40:56 น.
  
สวัสดีค่ะอาจารย์

อาจารย์อัพบล๊อกทำไมไม่เห็นขึ้นหน้าหลักค่ะ หรือว่ากาญจะไม่เห็นเอง
เรื่องราวสมัยเด็กของอาจารย์ก็ไม่ธรรมดาเลยนะคะ
ถึงกลับจะหนีออกจากบ้าน โชดดีมากที่ไม่หนี ไม่งั้นอาจารย์ก็คงจะไม่ได้เรียน
สมัยก่อนยิ่งคนจีนลูกชายต้องมาก่อน ลูกสาวเรื่องเรียนไม่สนับสนุน(ให้สามีเลี้ยง)
เหมือนอย่างที่อาจารย์บอก ดีนะคะที่อาจารย์ไม่สนข้าจะเรียนซะอย่าง
จนได้รับความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่มีใครเราก็หาเลี้ยงตัวเองได้เน๊าะอาจารย์
อาจารย์ยังโชดดีได้ดูแลแม่หลายปี กาญอยู่ห่างไกลแม่ ได้ก็แค่โทรไปถามข่าวคราว
นานๆถึงจะมีโอกาสได้ดูแลแม่ แต่ก็เป็นเวลาสั้นๆ
ถ้าใครยังมีโอกาสก็ทำโอกาสนั้นให้ดีที่สุดก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ตอบแทนพระคุณแม่

กาญไม่รู้อาจารย์อัพบล๊อกใหม่ แวะมาเยี่ยม โหวตก็หมด พรุ่งนี้แวะมาใหม่ค่ะ
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะอาจารย์

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:2:38:05 น.
  
สวัสดีค่ะอจ.
บล็อกนี้ของอจ.ไม่เห็นขี้นหน้าหลักนะคะ

หลังไมค์ค่ะ
โดย: ืnewyorknurse IP: 192.95.30.51 วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:6:25:51 น.
  

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:6:47:02 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

************************

อ่านแล้วซึ้งค่ะ คิดถึงแม่

รุ้งโชคดีคุณแม่ยังอยู่ นึกถึงว่าไม่รู้ว่าวันพรากจากจะมาวันไหนแล้ว

วันนี้ก็อยากจะใช้เวลาร่วมกันกับพ่อและแม่ให้มากที่สุด

เพราะอดีตคือสิ่งที่เราเรียกคืนไม่ได้ มีแต่ต้องอยู่กับปัจจุบัน

ส่วนอนาคตก็ไม่ใช่สิ่งที่จะคาดหวังได้เช่นกัน

ตอนนี้ถ้าไปเที่ยวไหนก็พยายามพาแม่ไปด้วยในวันที่แม่ยังคงเที่ยวด้วยกันไหว เก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกันให้มากที่สุด
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:10:17:55 น.
  
สวัสดีคะอาจารย์..

แวะมาบอกว่า อ้อมแอ้มเขียนถึงคุณแม่ตอนที่ 3 แล้วนะคะ

มาเขียนกันต่อคะ

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:14:05:56 น.
  


การใส่ <*center> เพื่อให้รูปหรือข้อความอยู่ตรงกลาง
ป้าจะเอามาใส่ก่อนเขียนข้อความหรือใส่รูป
แต่ต้องลบ*ออกก่อน

ส่วนลายชอบอันไหนก็ก๊อปไปใส่ได้ใส่เหมือนใส่รูป
โดย: ชมพร วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:15:49:03 น.
  
ยามเย็นๆ มาเยี่ยมเยี่ยนอีกรอบค่ะอาจารย์
โดย: sawkitty วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:18:49:42 น.
  
สวัสดีค่ะอาจารย์

แวะมาอ่านเรื่องราวน่ารักๆของแม่กับลูกค่ะ
สมัยนั้นครอบครัวคนจีนคงไม่นิยมส่งลูกสาวเรียนสูงๆนะคะ
อาจารย์โชคดีและเก่งมากเลยค่ะ

แม่ของหนูก็เรียนไม่สูงค่ะ
แต่ท่านเป็นแม่บ้านที่เก่ง ดูแลลูกๆและทุกคนในครอบครัวดีมาก
ว่าแล้วก็กลับไปเขียนบทความถึงแม่บ้างดีกว่า
เอาไว้บล็อกหน้าค่อยเอามาลง อิอิ

โหวต Diarist ตามเพื่อนๆ นะคะ


โดย: ผีเสื้อยิปซี วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:19:05:47 น.
  
จริงๆต้องเรียกว่าคนรองใช่ไหมครับ 555
ผมมีพี่น้อง 4 คน พี่ชาย แล้วก็ผม น้องสาวสองคน
ตอนนี้ผมกลายเป็นพี่ใหญ่ไปแล้ว

หนังสือของพี่โดมมีเสน่ห์ตรงการเล่าแบบตรงไปตรงมาครับ

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:21:51:16 น.
  
มาส่งกำลังใจให้ค่ะอาจารย์

อาจารย์สุวิมล Diarist

หลับฝันดีนะคะ
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 20 สิงหาคม 2559 เวลา:0:52:39 น.
  
สวัสดีค่ะอจ.
วันก่อนแวะมา คะแนนหมด วันนี้แวะมาใหม่นะคะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog
โดย: newyorknurse IP: 192.99.15.166 วันที่: 20 สิงหาคม 2559 เวลา:2:31:19 น.
  


สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 สิงหาคม 2559 เวลา:6:34:15 น.
  
ประวัติโชคโชนเลยค่ะอาจารย์
อ่านแล้วขำเลย ที่แท้อาจารย์ก็ร้ายมิใช่เล่นนะคะ แอบรู้แระๆ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชายคาตะวัน Photo Blog ดู Blog
ซองขาวเบอร์ 9 Literature Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: จี๊ดจ๊าด (บ้านต้นคูน ) วันที่: 20 สิงหาคม 2559 เวลา:8:13:36 น.
  
"ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ">>>> จริงแท้แน่นอนเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะอาจารย์
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 20 สิงหาคม 2559 เวลา:9:23:38 น.
  
อ่านเรื่องราวความรักระหว่างอาจารย์สุวิมลและคุณแม่แล้ว
รู้สึกซาบซึ้งกินใจจนไม่รู้จะคอมเม้นต์อะไรต่อเลย
ผมเองตอนนี้ทำงานเพื่อดูแลพ่อแม่อยู่เหมือนกัน
เมื่อมีโอกาสอยู่ก็พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ครับ ^^
โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 20 สิงหาคม 2559 เวลา:11:56:20 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Suvimol.BlogGang.com

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]

บทความทั้งหมด