6 วันในการเดินทาง [กทม.-เกาะสุรินทร์-ระนอง-กทม.] "กลับสู่กรุงเทพ"
จบการเดินทาง กลับบ้าน มู่งสู่กรุงเทพฯ

10 มกรา อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ระนอง


วันนี้ผมตื่นมาราวๆ ตี 5 ได้
สภาพรอบๆ ยังมืดเกือบสนิท แต่ยังพอมีแสงจากห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลนัก
ผมกะว่าจะรอเช้าหน่อยแล้วค่อยเก็บเต๊นท์
แต่นึกได้ว่าเมื่อวานกว่าจะสว่างก็ 6 โมงจะครึ่ง
ขืนรอไม่แน่ใจว่าจะทันหรือเปล่า
เลยเก็บเต๊นท์ตอนนั้นเลย
ใช้เวลาอยู่ครึ่งชั่วโมง กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยดี
แปรงฟัน ล้างหน้า และก็ถึงเวลาต้องไปจากที่นี่ละ

เดินออกมาท่ีป้อมจุดตรวจ
กะว่าจะทักทายพี่กาญ ที่ช่วยเหลือผมสารพัด
แต่ดันไม่เจอกันซะนี่

ผมออกมารอรถที่ฝั่งตรงข้ามอุทยาน
ตอนนั้นยังมืดๆ มองไม่ค่อยเห็นรถนัก
เวลารถมาก็จะไม่แน่ใจด้วยว่า มันใช่รถโดยสารป่าวหว่า -_-'
มีรถคันนึงผ่านมา โล่งด้วย เราก็ดีใจ วิ่งไปโบก
ไม่รู้ว่าทำไมไม่รับคนหว่า ทำเราไม่มั่นใจไปเลย

รออีกสักพัก ก็มีรถคันนึง ออกมาจากบ้านหงาว
เราคิดว่าคันนี้ชัวร์
พอรถจอด คนเต็มคันรถเลย
ไอ้เราก็กระเป๋าใบใหญ่มาก
แต่คนบนรถก็น่ารัก ช่วยเหลืออย่างดี
ผมคิดว่าถ้าเป็นที่กรุงเทพฯ คงโดนสายตารังเกียจแน่ๆ

นั่งรถท่ามกลางอากาศเย็นๆ สบายๆ
ประมาณ 20 นาทีได้
ผมก็มาถึงท่ารถ ที่ระนอง
ตอนแรกงงๆ มันอยู่ไหนหว่า เห็นริมถนนเป็นตึกๆ แต่ดูโล่งๆ
ต้องถามคนแถวนั้น มันต้องเดินไปอีกนิดนึง

ตอนนั้นยังไม่ 7 โมง
ผมกะว่าจะหาไรกินเล่น ทำตัวสบายๆ แถวนี้สักพัก
แต่พอไปถึงท่ารถ มีคนถามผมว่า ไปไหน
ผมบอกว่า กรุงเทพฯ
เขาบอก "ขึ้นเลยๆๆๆๆ" รถจะออกแล้ว
เราก็เอ๋อๆ งงๆ เฮ้ย ไรรถรอบ 7 โมงเลยเหรอ
ไม่ใช่ 8 โมงเหรอ
เขาบอกไม่มีครับ(ไม่รู้ว่าโกหกป่าวนะ)
มีตอนน้ีเลย เราก็ เออออกับเขา รีบขึ้นไปเลย -_-'
แต่หิวข้าว บอกว่า เหลืออีก 3 นาที ขอซื้อข้าวกล่องก่อน
มื้อนั้นเลยไม่เป็นดั่งฝัน
ได้อาหารใต้เป็นกับข้าว กินไม่ค่อยเป็นอีกต่างหาก
ตอนเลือกพยายามเลือกอันที่เราน่าจะกินได้แล้ว
แต่สุดท้ายก็กินได้นิดเดียว-_-'
คิดในแง่ดี ก็ยังดีกว่าไม่ได้กินแล้วมาขึ้นรถ ไม่งั้นเป็นลมแน่

รถท่ีผมขึ้น เป็นรถ ป.2 ราคา 333 บาท(เลขสวยแฮะ)
ส่วนตั๋วรถที่ได้เป็นตั๋วรถเมล์ -_-' ยาวโคดๆๆๆ
ขึ้นรถมา มีที่ว่างเยอะแยะไปหมด นั่งสบายมากๆเลย

ผมเพิ่งนึกได้ว่า จีอึนกับโซเฟียถามผมว่า ป.2 ต่างกับ ป.1 และวีไอพียังไง
ผมตอบไปแค่ว่า ต่างกันตรงที่นั่ง ป.2 40ที่นั่ง ป.1 30 กว่าๆ
วีไอพีก็ 32 ละมั้ง
แต่จริงๆ แล้ว ผมก็เพิ่งนึกได้ตอนมานั่งเองว่า
ความต่างของป.2 คือ วิ่งช้าและขับนอกเส้นทางบ่อยๆ เพื่อรับผู้คนเป็นระยะๆ


เหตุผลหลักๆ ที่ผมเลือกจะกลับตอนเช้า
แทนที่จะอยู่เที่ยวเต็มวันแล้วกลับตอนเย็น
คือไม่อยากกลับดึก -_-'
กลับดึกแล้วไม่ได้นอน ถึงบ้านก็เช้า ก็นอนไม่หลับอีก
เลยกลับเช้าดีกว่า
ดูวิวเรื่อยๆ เปื่อยๆ
กลับบ้านตอนเย็นกินข้าวท่ีบ้าน ได้หลับสบายๆ ด้วย

แม้จะเดินทางคนเดียว แต่การมีเพลงดีๆ เป็นเพื่อนร่วมทาง
ไม่มีหรอกคำว่าเบื่อ :D
แต่กรณีผมเบื่อนิดหน่อยตรงหูฟังที่พี่กีบให้มา มันเจ๊งซะแล้ว
อาการเสียแบบเดียวกับหูเก่าผม คือเสียงแตกพล่า และดังไม่เท่ากันอย่างมาก
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเพลงที่เราฟังหรือเปล่า
เราชอบฟังเพลง shoegaze ซาว์นก้องๆ แตกพล่าๆ
ซึ่งพวกนี้ก็ชอบบันทึกเสียงเบาๆ จัง เราเลยต้องมาเร่งเปิดเสียงเอง ;p


ระหว่างที่บ่นกับตัวเอง ก็มองไปนอกหน้าต่าง
ส่งสายตาล่องลอยไปกับวิวข้างทาง
คิดอะไรเรื่อยๆ เปื่อยๆ
หยิบโทรศัพท์มาดู แล้วคิดว่า คนเกาหลี เขาจะโทรหาเราไหมนะ
และก็นึกไปถึงมิวสิค เหงาไม่มีวันหยุด ^^'
ท่ีมิวสิคนางเอกจดเบอร์โทรไว้แล้วมันเปียกน้ำ โทรหาอีกฝ่ายไม่ได้ ฮ่าๆ

จริงๆ เราไม่ได้เหงาไม่มีวันหยุดแบบนั้นเลย
แต่ก็อยากได้ยินเสียงของคนผู้ร่วมทางโดยบังเอิญนะ
มันรู้สึกดี
คนต่างทิศ ต่างถิ่น ต่างภาษา แต่มารู้จักกันได้
เพราะดันซื้อตั๋วที่ข้าวสาร ตลกดีเหมือนกัน

คิดถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แต่อมยิ้ม
มีแต่เรื่องสนุก เรื่องดีๆ มากมาย
ตั้งแต่เที่ยวมา ครั้งนี้รู้สึกสนุกที่สุดเลย
สถานที่ ทิวทัศน์ก็น่าประทับใจ
ผู้คนก็ดีมาก
ได้มิตรภาพที่ไม่คิดว่าจะได้ก็เยี่ยมยอด
ได้พูดอังกฤษเยอะสุดตั้งแต่เกิดมา ^^'
พูดได้เต็มปากเลยว่า เป็นประสบการณ์ชีวิตที่คุ้มค่ามาก
:D


รถที่ผมนั่งมา แวะจอดท่ีประจวบ เพื่อกินข้าวเที่ยง
อาหารไม่ฟรี รสชาติก็โอเค ไม่เลวร้ายนัก

ข้อดีอีกของการเที่ยวภาคใต้ของผมคือ
เวลากลับบ้านค่อนข้างสบาย
ให้รถมาจอดที่แสมดำ แล้วนั่งรถเมล์กลับบ้านชิวๆ

รถโดยสารมาจอดท่ีแสมดำ ตอนเกือบๆ 4 โมง
(มานึกดูแล้ว เราเดินทางทั้งวันเลยแฮะออก 7 โมงถึงบ้าน 4 โมงกว่าๆ ;p)
ตอนลงรถโดยสาร แท็กซี่ก็กะว่าเราคงต้องขึ้นแท็กซ่ีแน่ๆ
หิ้วของเยอะแยะขนาดนี้
แต่คราวนี้เราแน่วแน่อย่างมากที่จะขึ้นรถฟรี -_-'
และเราก็ทำสำเร็จด้วย ฮ่าๆๆ > <

มีแต่สายตาแบบว่า... มึงจะขึ้นรถเมล์ทำไมเนี่ย แบกกระเป๋ามาเยอะขนาดนี้

ผมกลับมาถึงบ้านประมาณ 4 โมงครึ่ง
อาหารจานแรกของที่บ้าน
ให้แม่ผัดไทยให้กิน อร่อยมากมาย :D
ผัดไทยที่บ้านอร่อยที่สุด

ผมเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นให้แม่ฟัง
ไม่ว่าจะเป็น เที่ยวกับคนเกาหลี ดำน้ำ หลงป่า
หรือกางเต๊นท์นอนคนเดียวที่น้ำตกหงาว
แม่ฟังแล้วก็ เหรอๆๆ ดีเว้ย อย่างงู้นอย่างงี้
มีสายตาหมั่นไส้จากพี่สาว ปล่อยรังสีเป็นระยะๆ
คือพี่สาวเราไม่ค่อยอยากให้เราไปไหนน่ะ
แต่สุดท้ายถึงเวลาจริงๆ ก็จะเป็นคนที่เป็นห่วงผมอย่างออกนอกหน้าเสมอ

เวลาแบบนี้ผมจะนึกถึงหนัง Happy together
ที่เหลียงเฉาเหว่ยไปบ้านของอีกตัวละครนึง ที่ทำร้านอาหาร
แล้วพบว่าตัวละครนั้นไม่ว่าจะไปไหน เขารู้ที่ที่เขาจะกลับมาได้เสมอ
ผมชอบความรู้สึกนั้นมากเลย:D

ปล. เมื่อไหร่รถไฟฟ้า จะมาสร้างแถวพระรามสองนะ ผมจะได้รู้สึกเหมือนฉากจบ
ที่นั่งรถไฟฟ้านั่นอะ ฮ่าๆๆ

พบกันใหม่ทริปหน้าเด้อ



Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2552 0:35:37 น.
Counter : 1303 Pageviews.

4 comments
บ้านต้นไทร @ ตำบลประตูชัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
(18 มี.ค. 2567 14:55:17 น.)
We by Samkwan บางแสน ชลบุรี แมวเซาผู้น่าสงสาร
(18 มี.ค. 2567 16:02:00 น.)
สุดเส้นทางประเทศไทยที่สุไหงโกลก ชีริว
(16 มี.ค. 2567 17:59:13 น.)
ขนมเครปญี่ปุ่น กับร้านYotha Crepe สาขา MRT ท่าพระ นายแว่นขยันเที่ยว
(15 มี.ค. 2567 00:29:03 น.)
  
อ่านแล้วประทับใจด้วยจัง
โดย: เบิด IP: 125.24.167.116 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:19:41 น.
  
^
^
ดีใจแทน ได้เที่ยวอีกแล้ว
โดย: yuttipung IP: 61.90.87.127 วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:13:25:21 น.
  
น่าสนุก
โดย: Moon~JulY วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:18:09:25 น.
  
อาไรเนี่ย หายไปนานเลยคราวนี้
โดย: yuttipung วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:1:54:01 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Supercar.BlogGang.com

วัชเจียเหว่ย
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด