แล้วน้องออสก็พาพวกเรามาถึงจุดหมาย"ท่าปอมคลองสองน้ำ" Unseen Thailand ที่นี่ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาครามห่างจากตัวเมืองประมาณ 34 กิโลกว่าๆ หลังจากจ่ายกระตังค์ค่าเข้าชมเรียบร้อยแล้ว..จะเห็นทางเดินศึกษาธรรมชาติ....ไปกันเลยไหมคะเรามาเกือบจะ 4 โมงเย็นแล้ว...ดีนะเค้ายังให้เข้าชมตอนนี้....เงียบมาก....มีเรากํบนักท่องเที่ยวหนุ่มหัวทอง 2 คนเดินตามมาเป็นเพื่อนกันเดินมาแบบหวาดๆ กลัวๆ เพราะวังเวงเหลือใจแต่ไม่ทันไรพอเห็นภาพป่าพรุท่าปอมตรงหน้า.......อยากตะโกน...."โอวววววแม่เจ้า.....รักเธอประเทศไทยยยยยย"สวยป่าล้ำป่าเหลือ...อแม๊ซซิ่งแต้ๆ....ชั่วแค่ไม่กี่ก้าวที่เราเดินเข้ามาตามทางผ่านป่าชายเลนที่มีต้นโกงกางอวดรากระโยงระยางมาจนสุดทางมีบันไดลงไปที่สายน้ำ...แต่ดันมีป้ายห้ามว่าห้ามเล่นน้ำ.....ง่ะเดินดูน้ำใสๆ ก็ได้...สะพานศึกษาระบบนิเวศยาวประมาณ 700 เมตรนะคะ เดินเล่นชิวๆ ..สบายๆ โซนที่เห็นเริ่มอเปลี่ยนจากป่าชายเลนเข้ามาสู่"ป่าพรุน้ำจืด" ที่เค้าว่าหาดูยากนักหนา แถมป่าพรุท่าปอมดันพิเศษกว่าป่าพรุอื่นอีก ตรงมองดูเป็นพื้นดินเปียกๆ ไม่ท่วมขังเหมือนที่เราเห็นตรงป่าพรุท่าเตียว สระมรกตรากไม้หงิกงออันเป็นเสนห์ของที่นี่มีทั้งต้นตังหนใบเล็ก และชมพู่น้ำ ที่กลายเป็นพระเอกของป่าพรุท่าปอม นอกจากรากไม้ที่แผ่ขึ้นมาเพื่อหายใจเอาอากาศรีวิวมาบอกว่ามีพูพอนหรือส่วนของต้นไม้ที่แผ่กว้างออกจากโคนต้น.... ไหนน้อ...มองดูเหมือนหัวเขาที่แช่ลงไปในน้ำ....เอิ๊กกกก....ว่าแล้วดันนั้น..แฮ่ๆ...แอบเอาขาแช่ลงไปติ๊ดนึงมีใครว่าไหมเนี้ยะ(เลียนแบบฝรั่ง 555) บรรยากาศตอนนี้...อยากนั่งแช่ขาอยู่ที่นี่นานๆ จังลืมบอกไปว่าที่นี่บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนตำบลเขาครามนะคะน่าชื่นชมที่จัดการได้ดีมาก สะอาดสะอ้านแต่ถ้าเปลี่ยนไม้ระแนงพื้นสะพานเป็นไม้จริงแทนไม่เทียม..คงจะดูแข็งแรงปลอดภัยทนทานมากกว่าที่เห็นอะ ฝากบอกนะคะ!! น้ำที่ใสแจ๋ว....ก็เกิดจากกระบวนการตกตะกอนเนื่องจากปูนแคลไซด์ไล่จับสารแขวนลอยในน้ำแล้วกอดพากันไปใต้คุ้งน้ำ....แบบที่สระมรกตเปี้ยบนั่งสักพักนึกได้ว่า..เราน่าจะลองถ่ายสายน้ำพริ้วๆ แบบโปรกล้องเค้าดูบ้างเอ้า..เอาก็เอาลองดูๆ....ขาตั้งกล้องก็ไม่มี...แช่ะๆๆๆ โอเครป่ะคร๊าบบบถ่ายไปก็นึกเสียดายที่มาไม่ตรงเวลาที่ดอกชมพู่น้ำบานว่ากันว่าร่วงลอยตามสายน้ำใสๆ ..แค่จินตนาการก็..โรแมนติกข่าหนาดเน๊อะ ^^ คลองท่าปอมที่เห็นมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไหลลงมาจากต้นน้ำผุดบนเขาช่องพระแก้วผ่านป่าท่าปอมแล้วจึงลงสู่ทะเลอันดามัน ป่าท่าปอมจึงเป็นรอยต่อระหว่างจืดกับน้ำเค็ม ยามน้ำทะเลขึ้น ช่วงขึ้น 12 ค่ำ ถึง แรม 5 ค่ำน้ำในคลองจะเป็นน้ำกร่อย แต่เมื่อน้ำทะเลลงน้ำจืดจากป่าก็จะผลักน้ำเค็มออกทะเล กลายเป็นป่าพรุท่าปอม คลองสองน้ำ..ตามชื่อที่ตั้งนั่นเองอะก๊าบบบบในช่วงน้ำทะเลหนุนเข้ามาในคลองท่าปอม ชาวบ้านเรียกกันว่า“น้ำใหญ่”น้ำคลองท่าปอมจะมีสีฟ้าค่อนข้างขุ่นพอน้ำทะเลลงน้ำจืดที่ใสแจ๋วก็เข้ามาแทนที่ คงเป็นแบบที่เห็น...ท่าปอมคลองสองน้ำ เลยเป็นระบบนิเวศพิศดารที่มีป่า 3 ประเภท ทั้งป่าชายเลนในระบบนิเวศน้ำกร่อยป่าพรุในระบบนิเวศที่น้ำท่วมขัง และป่าดิบชื้น....หลากหลายจริงๆ ความหลากหลายทางชีวภาพของทั้งไม้ที่พบสัตว์น้ำที่เจอ...มากมายไปหมด ทั้งน้ำจืดน้ำกร่อยเราเดินตามสะพานศึกษาธรรมชาติลัดเลาะริมคลองท่าปอมไปเรื่อยๆ เจอเวิ้งน้ำกว้าง...และต้นโกงกาง...อีกรอบเขาที่เห็นข้างหลังคงเป็นเขาพระแก้วที่ส่งน้ำใสๆ ลงมาที่คลองท่าปอมส่วนนี่ป่าด้านซ้ายมือของสะพาน..เอ..แล้วสภาพแบบนี้...เป้นป่าพรุรึป่าว...ต่างจากด้านขวามือที่มีคลองท่าปอมไหลเลียบเลยเห็นเจ้าโกงกางขึ้นตรึมในป่าพรุสภาพดินจะมีความเป็นกรดทำให้ต้นไม้ธรรมดาๆ ทนไม่ได้ตายหมด..เราเลยจะเห็นเจ้าชมพู่น้ำเยอะมาก...แต่ในรูปไม่ใช่นะค่ะ เป็นต้นโกงกางส่วนด้านล่างเป็นไม้น้ำระดับล่าง....สวยอะ..เชื่อไม๊..ไม่เชื่อตามมาดูเลยค่ะไม้น้ำพวกนี้เวลาจมอยู่ในน้ำใบจะโบกไปมาตามคลื่นน้ำ....พริ้วๆ สวยมากกกนี่ไงค่ะชัดๆ.....ดูเหมือนสาหร่ายไงไม่รู้บอกไม่ถูกนึกถึงฉากใน Little mermaid อะ...ท่าปอมมีเรื่องเล่านะค่ะว่าเป็นดินแดนอาถรรพ์ที่ชาวบ้านเกรงกลัว จนมีชาวบ้านผู้กล้า“โต๊ะปอม” “โต๊ะหมัน” และ “นายกาแมะ” เป็นผู้นำเข้ามาอาศัยในป่าแห่งนี้เชื่อกันว่าป่าท่าปอมมีจระเข้ขาวคอยดูแลคุ้มครองอยู่และจะไม่ลงเล่นน้ำในวันเสาร์และอังคารเพราะจะทำให้เกิดเหตุร้ายในหมู่บ้านภาพข้างหน้า...ทำให้รู้สึกคุ้มค่าจริงๆ กับการตัดสินใจไม่ไปพีพี..แต่เลือกขับรถตะเวนเที่ยวในตัวจังหวัด...จริงๆ ทางอบต. อนุญาตให้เล่นน้ำได้ในบ้างช่วงเวลาแต่ตอนเราไปได้ยินเสียงเล่นน้ำอยู่ไกลๆ...ไม่รู้ตรงไหนยังไปไม่ถึงรู้มาอีกด้วยว่ามีเรือแคนนูบริการนักท่องเที่ยวพายชื่นชมธรรมชาติในลำคลองท่าปอมเสียดายที่มาถึงซะเย็น...เลยอดแต่ตั้งใจไว้แล้วว่าเมื่อไหร่ ได้กลับมาอีกครั้งจะไม่พลาดเป็นครั้งที่ 2เดินเข้ามาถึงช่วงที่ริมทางเดินมีต้นไม้ดอกสีม่วงๆ ขึ้นเป็นกอ...สวยอีกแระน่าจะต้นเหงือกปลาหมอคุณสมบัติทางยาเยอะแยะเลยอะ เดินไปต่อ สภาพป่าเริ่มกลางเป็นป่าดิบชื้นคลองท่าปอมไหลเอื่อยๆ กลางป่าทึบ..เสียงหัวเราะ...เสียงคนเล่นน้ำนี่นา...ใกล้ๆ นี่เอง..ตรงไหนน้า...เดินไปดูตรงนี้นี่เอง...ก่อนที่จะเลี้ยงไปปากคลองเป็นบริเวณที่ทาง อบต.อนุญาตให้ลงเล่นน้ำได้รากไม้สวยๆ เลยกลายเป็นที่เกาะยึดไปซะแระเรายังคงเดินไปตามทางเรื่อยๆโดยมีฝรั่งรูปหล่อ 2 คนเดินเป็นเพื่อนเพราะพยายามอธิบายเรื่องราวของพรุ...ของป่าเมืองไทยให้เค้าฟัง.....พยายามจนเหนื่อยนิ บริเวณนี้ดูน้ำไม่ใสสะอาดเหมือนด้านในแถมมีขยะเครื่องใช้ของ"คน" ปะปนเป็นพักๆคงใกล้ชุมชน...ใกล้ที่พัก..ใกล้สังคม..ใกล้พวกเรา.....เห็นเรือหาปลาจอดนิ่ง...รอเวลาออกเรือ..ใกล้ชุมชนแล้วจริงๆ....เราใช้เวลาเดินเกือบ 2 ชั่วโมง...พอออกไปเจอร้านค้าชาวบ้านขายเจ้านี่ที่เค้าเรียกว่า "มะมุด"คนขายบรรยายว่าเหมือนมะม่วงแต่กลิ่นแรง...แถมไม่ยอมขายให้เราอีก เพราะว่ากลัวเราทำกลิ่นรบกวนคนอื่น เอ..งงนะเหลือบไปเห็นเปลือกหอยชักบาทาวางอยู่ใกล้ๆ ถามดูเผื่อไม่ขายอีก...แต่เฮ้ย..ขายแฮ่ะ..แต่เราไม่ซื้อ 555 ไม่รู้จะเอาไปทำไรนี่นาว่าแล้วก็เกือบลืมทานหอยชักตรีนนนนนอาหารประจำถิ่นเมืองกระบี่....ไปตระเวนหากันดีกว่า...ฟิ้วววววด้านหน้าท่าปอมคลองสองน้ำมีสวนปาล์มให้บริการดูแลน้องออสของเราด้วยค่ะ ^^ ต้องขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตที่ทำให้กระบี่ที่รักขึ้น Top blog of the week นะคะถ้าอยากตามไปกอดเมืองกระบี่ให้หนำใจแล้วไปเดินเล่นชิวๆ ที่เกาะภูเก็ตต่อกับมัจฉานุก็ทางนี้เลยนะคะ ... ::::::::::::::: "วันที่เท้าถึงดินแดนที่ชื่อกระบี่ ไปกินโรตีที่คิดถึงกัน" "ไปแหวกทะเลที่ทะเลแหวก" "ลอยคอดูปลาทะเล" "ไร่เลย์...เค้าปลูก snack กันเป็นไร่เหรอ?" "หน้าผาสูงใหญ่..ยืนอยู่ใกล้ๆ คลื่นลมที่ไร่เลย์" "วิถีชุมชน คนกระบี่" "เดินผ่าป่าพรุ ไปทะลุสระมรกต" "ลมหายใจสะดุดที่สระน้ำผุด...เมืองกระบี่" "ดูลูกปัดหิน..แล้วบินไปพักใจเงียบๆ ที่ท่าเรือ" "เหมือนจะหลงรัก...ท่าปอมคลองสองน้ำ " "ชะโงกดูเขาขนาบน้ำบนฝั่งน้ำกระบี่ " "กอดลากระบี่มาต่อที่เกาะภูเก็ต " "เดินเล่นเย็นๆ ใจในเกาะภูเก็ต ๑ :: สี่เหลี่ยมปริศนาถนนกระบี่ - ถนนเยาวราช - ถนนดีบุกและถนนสตูล " "เดินเล่นเย็นๆ ใจในเกาะภูเก็ต ๒ :: อังหมอเหลาบนถนนกระบี่ - ของกินถิ่นๆ ที่สุ่นอุทิศ " ปล.๑ กระบี่ทริปนี้ดองไว้ไม่พอเค็มเท่าไหร่ เพราะเพิ่งไปเมื่อมีนาที่ผ่านมา หวังว่าจะเข้าท่าเข้าทางคนชมนะคะปล.๒ อะ..ลืมบอกว่าทริปนี้เป้นทริปฟรีๆ แอบทำตัวเป้นกลุ่มแม่บ้านตามเค้าไป แต่ตอนจบดันไม่ฟรีซะงั้น เดี๋ยวมาเล่าต่อละกัน 555ปล.๓ เป็นครั้งแรกที่ไปเหยียบเมืองกระบี่ ... ประทับใจซะละสิ...คงต้องหาทางไปสำรวจให้พรุนอีกสักครั้ง ^^ ปล.๔ ลิงค์บทความ "ปลาสลิดหินบั้งเขียวเหลือง"นะคะ ลองเข้าไปอ่านกันดูปล.๕ ลิงค์เรื่องเล่า "ถ้ำพระนาง " จร้าาา ปล.๖ ลิงค์ข้อมูลดีและคำอธิบาย "เรื่องราวสระมรกต " จร้าาาปล.๗ ลิงค์เรื่องราว "ควนลูกปัด...คลองท่อม " ปล.๘ ท่าปอมคลองสองน้ำ อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 34 กิโลกว่าๆ ตามรายละเอียดทางนี้นะคะ "ท่าปอมคลองสองน้ำ" ปล.๙ คุยกันเรื่องโรตี...เราเห็นที่นี่มีเจ้าดังในเมือง 2 เจ้า ที่หน้าแบงค์กรุงเทพฯ กะแถวสี่แยกมนุษย์โบราณ ส่วนตัวเราว่าหน้าแบงค์หร่อยกว่าค่ะปล.๑๐ ขอบคุณเมโลดี้น่ารักจาก ??? (Jeon Su Yeon) ชื่อเพลง Smile Smile Smile กับเด็กๆ น่ารักจากบ้านคุณยายกุ๊กไก่นะคะ
ต้องขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตที่ทำให้กระบี่ที่รักขึ้น Top blog of the week นะคะถ้าอยากตามไปกอดเมืองกระบี่ให้หนำใจแล้วไปเดินเล่นชิวๆ ที่เกาะภูเก็ตต่อกับมัจฉานุก็ทางนี้เลยนะคะ ... ::::::::::::::: "วันที่เท้าถึงดินแดนที่ชื่อกระบี่ ไปกินโรตีที่คิดถึงกัน" "ไปแหวกทะเลที่ทะเลแหวก" "ลอยคอดูปลาทะเล" "ไร่เลย์...เค้าปลูก snack กันเป็นไร่เหรอ?" "หน้าผาสูงใหญ่..ยืนอยู่ใกล้ๆ คลื่นลมที่ไร่เลย์" "วิถีชุมชน คนกระบี่" "เดินผ่าป่าพรุ ไปทะลุสระมรกต" "ลมหายใจสะดุดที่สระน้ำผุด...เมืองกระบี่" "ดูลูกปัดหิน..แล้วบินไปพักใจเงียบๆ ที่ท่าเรือ" "เหมือนจะหลงรัก...ท่าปอมคลองสองน้ำ " "ชะโงกดูเขาขนาบน้ำบนฝั่งน้ำกระบี่ " "กอดลากระบี่มาต่อที่เกาะภูเก็ต " "เดินเล่นเย็นๆ ใจในเกาะภูเก็ต ๑ :: สี่เหลี่ยมปริศนาถนนกระบี่ - ถนนเยาวราช - ถนนดีบุกและถนนสตูล " "เดินเล่นเย็นๆ ใจในเกาะภูเก็ต ๒ :: อังหมอเหลาบนถนนกระบี่ - ของกินถิ่นๆ ที่สุ่นอุทิศ " ปล.๑ กระบี่ทริปนี้ดองไว้ไม่พอเค็มเท่าไหร่ เพราะเพิ่งไปเมื่อมีนาที่ผ่านมา หวังว่าจะเข้าท่าเข้าทางคนชมนะคะปล.๒ อะ..ลืมบอกว่าทริปนี้เป้นทริปฟรีๆ แอบทำตัวเป้นกลุ่มแม่บ้านตามเค้าไป แต่ตอนจบดันไม่ฟรีซะงั้น เดี๋ยวมาเล่าต่อละกัน 555ปล.๓ เป็นครั้งแรกที่ไปเหยียบเมืองกระบี่ ... ประทับใจซะละสิ...คงต้องหาทางไปสำรวจให้พรุนอีกสักครั้ง ^^ ปล.๔ ลิงค์บทความ "ปลาสลิดหินบั้งเขียวเหลือง"นะคะ ลองเข้าไปอ่านกันดูปล.๕ ลิงค์เรื่องเล่า "ถ้ำพระนาง " จร้าาา ปล.๖ ลิงค์ข้อมูลดีและคำอธิบาย "เรื่องราวสระมรกต " จร้าาาปล.๗ ลิงค์เรื่องราว "ควนลูกปัด...คลองท่อม " ปล.๘ ท่าปอมคลองสองน้ำ อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 34 กิโลกว่าๆ ตามรายละเอียดทางนี้นะคะ "ท่าปอมคลองสองน้ำ" ปล.๙ คุยกันเรื่องโรตี...เราเห็นที่นี่มีเจ้าดังในเมือง 2 เจ้า ที่หน้าแบงค์กรุงเทพฯ กะแถวสี่แยกมนุษย์โบราณ ส่วนตัวเราว่าหน้าแบงค์หร่อยกว่าค่ะปล.๑๐ ขอบคุณเมโลดี้น่ารักจาก ??? (Jeon Su Yeon) ชื่อเพลง Smile Smile Smile กับเด็กๆ น่ารักจากบ้านคุณยายกุ๊กไก่นะคะ
ปล.๑ กระบี่ทริปนี้ดองไว้ไม่พอเค็มเท่าไหร่ เพราะเพิ่งไปเมื่อมีนาที่ผ่านมา หวังว่าจะเข้าท่าเข้าทางคนชมนะคะปล.๒ อะ..ลืมบอกว่าทริปนี้เป้นทริปฟรีๆ แอบทำตัวเป้นกลุ่มแม่บ้านตามเค้าไป แต่ตอนจบดันไม่ฟรีซะงั้น เดี๋ยวมาเล่าต่อละกัน 555ปล.๓ เป็นครั้งแรกที่ไปเหยียบเมืองกระบี่ ... ประทับใจซะละสิ...คงต้องหาทางไปสำรวจให้พรุนอีกสักครั้ง ^^ ปล.๔ ลิงค์บทความ "ปลาสลิดหินบั้งเขียวเหลือง"นะคะ ลองเข้าไปอ่านกันดูปล.๕ ลิงค์เรื่องเล่า "ถ้ำพระนาง " จร้าาา ปล.๖ ลิงค์ข้อมูลดีและคำอธิบาย "เรื่องราวสระมรกต " จร้าาาปล.๗ ลิงค์เรื่องราว "ควนลูกปัด...คลองท่อม " ปล.๘ ท่าปอมคลองสองน้ำ อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 34 กิโลกว่าๆ ตามรายละเอียดทางนี้นะคะ "ท่าปอมคลองสองน้ำ" ปล.๙ คุยกันเรื่องโรตี...เราเห็นที่นี่มีเจ้าดังในเมือง 2 เจ้า ที่หน้าแบงค์กรุงเทพฯ กะแถวสี่แยกมนุษย์โบราณ ส่วนตัวเราว่าหน้าแบงค์หร่อยกว่าค่ะปล.๑๐ ขอบคุณเมโลดี้น่ารักจาก ??? (Jeon Su Yeon) ชื่อเพลง Smile Smile Smile กับเด็กๆ น่ารักจากบ้านคุณยายกุ๊กไก่นะคะ