เส้นทางสู่เมืองสามหมอก


จบทริปตุรกีไปแล้วได้เวลารายงานทริปปีใหม่เสียทีครับ โอ้ ปีนี้ไม่เลทเท่าไหร่เนาะ ดองไว้ 4 เดือนเอง Smiley

แต่ละปีบ้านผมจะหาที่เที่ยวสุดยอดช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ ตั้งแต่ปี 2012 ก็ไปหนองคาย 2013-เชียงราย 2014-กาฬสินธุ์ 2015-ภูเก็ต และเป้าหมายการเดินทางของปีนี้ก็คือจังหวัดที่เรายังไม่เคยไปกันมาก่อน นั่นคือแถ่มแท้ม... แม่ฮ่องสอนครับ! //ได้ยินเสียงโห่กันเกรียวกราว คาดว่าหลายๆท่านเหยียบแม่ฮ่องสอนกันจนชาชินแล้ว แต่ที่บ้านผมยังไม่เคยไปจังหวัดนี้จริงๆนะ ก็มันไม่มีประวัติศาสตร์และซากอิฐอะไรให้ไปดูน่ะสิ! (พอได้ยินแบบนี้หลายๆท่านก็หันกลับมาอ่านล็อกชีริวที่ไม่ต้องทนดูรูปซากอิฐ) จุดขายของจังหวัดนี้คือบรรยากาศสวยสงบกับธรรมชาติที่สวยงาม และเส้นทางที่ท้าทายนักท่องเที่ยว แม้หลังๆถนนหนทางจะสะดวกขึ้นมาก แต่จังหวัดที่ไกลอยู่สุดขอบประเทศไทยแห่งนี้ก็ยังมีกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าๆหลงเหลืออยู่มาก

นี่คือเส้นทางพันโค้งหฤโหดที่นักท่องเที่ยวหลายคนขยาดครับ หลายๆคนขับขึ้นจากเชียงใหม่ผ่านปายไปถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอนแล้วตีกลับทางเดิม แต่ไหนๆก็มาได้ค่อนทางขนาดนี้แล้วก็วนให้ครบรอบไปเลยสิ ทีแรกเราตั้งใจจะเข้าทางเชียงใหม่แล้วลงทางฮอด แต่เนื่องจากวันแรกจะขนของไปให้คุณพ่อของน้องสะใภ้ที่ฮอด เลยวิ่งสวนจากฮอดไปลงที่เชียงใหม่แทน



เส้นทางตามแพลนเป็นแบบนี้ครับ: ฮอด --> แม่สะเรียง --> แม่ลาน้อย --> ขุนยวม --> เมืองแม่ฮ่องสอน --> ปางมะผ้า --> ปาย --> ลงทาง อ.แม่แตง ผ่านเส้น 107 เข้าตัวเมืองเชียงใหม่

ถึงจะบอกว่าเป็นทริปปีใหม่ แต่ทริป 5 วันนี้อยู่ในปี 2558 ทั้งหมดนะครับ รีบหนีฝูงมหาประชาชนช่วงปีใหม่น่ะสิ เพราะแม่ฮ่องสอนก็ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวไม่น้อย เราออกจากบ้านตี 5 แวะกินข้าวเช้าที่ตลาดนายประยูร จ.สิงห์บุรี กินข้าวเที่ยงระหว่างทาง แล้วแวะไปพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน เพื่อกินเฉาก๊วยมุกดาที่อร่อยที่สุดในเมืองมนุษย์ (อันนี้คอร์สบังคับ) แวะวัดมหาวัน เช่าพระรอดไปฝากที่บ้านน้องสะใภ้ ถึง อ.ฮอดประมาณ 4 โมงเย็นครับ

บ้านพ่อน้องสะใภ้เป็นเกษตรกรอยู่นอกตัวเมืองฮอดซึ่งไฟฟ้าเพิ่งจะเข้าถึงเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ตื่นตีห้าจูงวัวไปกินหญ้าทุกเช้า แล้วทำสวนจนถึงเย็นทุกวันๆ นอกจากวัวยังเลี้ยงน้องไก่กุ๊กๆ (ตอนไปบ้านเห็นฝูงลูกเจี๊ยบเดินตามแม่เรียงกันน่ารัก... อ่อ เลี้ยงไว้กินนะ) แล้วก็หมาๆไว้เฝ้าสวนลำไยด้วย ลำไยที่ตั้งใจปลูกแบบไม่ใช้สารเคมีก็กำไรดี๊ดีนะครับ (ประชด) ปีที่แล้วขายได้โลละ 6 บาท จะเก็บเงินซื้อพัดลมสักตัวยังแสนยากเย็น น้องสะใภ้ที่ทำงานกรุงเทพถึงเงินเดือนจะไม่มากแต่ก็ซื้อของส่งกลับบ้านให้พ่อใช้ได้สบายๆ แล้วจะไม่ให้ประเทศไทยเกิด urbanization ได้ยังไงล่ะครับ?



มะนาวลูกเท่าส้มนี่ก็เป็นความอลังการของพืชผลแถวนี้ น้ำมากพอๆกับมะนาว 5-6 ลูกได้


นี่คือกับข้าวมื้อหรูที่ทางบ้านพ่อเตรียมไว้ต้อนรับพวกเรา สารพัดผักจิ้มน้ำพริก! (ส่วนปลาทูนั่นซื้อจากตลาดเมืองลำปาง ที่ฮอดหากินยาก)

ที่พักที่ฮอดครั้งนี้ยังคงพักที่โรสเฮาส์ ได้บ้านไปนอนหลังละ 400บาท/2 คน มี wifi ฟรีด้วยนะครับ เมืองนี้มีเซเว่นมาถึงแล้ว และช่วงหลังเริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นทางไปแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างออบหลวง ดอยอินทนนท์ หรือเส้นทางสู่แม่ฮ่องสอนด้วย เลยเริ่มมีที่พักดีๆผุดขึ้นเรื่อยๆ





ตอนเช้าแวะซื้อข้าวเช้าในตลาดฮอด คุณพ่อน้องสะใภ้อุตส่าห์ขี่มอเตอร์ไซค์เอาไก่ต้มมาให้กินระหว่างทางสองตัว! (ไม่แน่ใจว่าใช่ตัวที่เห็นเมื่อวานหรือเปล่า?) 4 คนนั่งกินไก่ไป 2 มื้อใหญ่ๆเลยครับ จากนั้นก็ได้เวลาออกเดินทาง!



เส้นทางทริปนี้เกาะเส้น 108 ไปจนถึงแม่ฮ่องสอนครับ จากหอนาฬิกาเมืองฮอดไปจนถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอนจะต้องผ่าน 1,864 โค้ง และจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไปจนถึงทางลงแม่แตงจะผ่านอีก 2,224 โค้ง (ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นคนนับ) รวมแล้ว 4,088 โค้งจ้า! นั่งรถให้เมาหน้ามืดกันไปเลย Smiley

จุดแวะเที่ยวแห่งแรกยังคงอยู่ในเขต อ.ฮอดครับ เลยออบหลวงไปสักพักใหญ่ๆจะเจอ สวนสนบ่อแก้ว ของกรมอุทยานแห่งชาติ เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของฮอดอีกแห่งหนึ่งที่น้องสะใภ้ภูมิใจนำเสนอ ซึ่งสวนสนนี้ส่วนหนึ่งเป็นที่ทดลองปลูกสนเพื่อเอาไปทำเยื่อกระดาษนะครับ กระดาษบ้านเราส่วนใหญ่ใช้เยื่อยูคาลิปตัสที่เป็นเยื่อใยสั้น แต่ส่วนที่เป็นเยื่อใยยาวที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดาษมาจากเยื่อสน ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ ถ้าบ้านเราปลูกเองได้ก็แหล่มแมว แถมตอนเป็นต้นสูงๆยังเป็นวิวสวยๆให้นักท่องเที่ยวแวะชมถ่ายรูปได้ด้วยนะ เจ๋งกว่าเกาะนามิอีก



พอเข้ามาในเขต จ.แม่ฮ่องสอน ที่แรกที่เราตั้งใจแวะเที่ยวคือตัว อ.แม่สะเรียง ที่เป็นเมืองเก่าแก่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 19 และมีพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองด้วย ที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแจ่มๆแบบนี้ย่อมต้องมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นอันเป็นที่เชิดหน้าชูตา ซึ่งวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปชมพิพิธภัณฑ์แม่สะเรียงที่บอกเล่าประวัติความเป็นมาของเมืองนี้ และวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของแม่สะเรียงด้วย.... แต่พิพิธภัณฑ์นี้เพิ่งโดนไฟไหม้ไปเมื่อเดือน ต.ค. 2558 ที่ผ่านมา เลยอดเที่ยวครับ (เวรกรรม)


อีกจุดขายหนึ่งของแม่สะเรียงคือเหล่าเจดีย์ 4 จอม ประจำมุมเมืองแม่สะเรียงที่ถูกสร้างมาพร้อมๆกับเมืองนี้คือ พระธาตุจอมมอญ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) พระธาตุจอมแจ้ง (ตะวันออก) พระธาตุจอมทอง (ตะวันออกเฉียงใต้) และพระธาตุจอมกิตติ (ตะวันตกเฉียงใต้) อันนี้ พระธาตุจอมมอญ ครับ เสียดายตอนไปบูรณะอยู่ แต่ถึงจะมาก่อนนี้ก็ไม่ได้เห็นเจดีย์องค์เดิมหรอกครับ เขาบูรณะครอบของเก่าไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2457



ถนนขึ้นมายังเจดีย์เป็นถนนเลนเดียวรถสวนไม่ได้ครับ ขับไปก็ภาวนาอย่าให้เจอรถคันอื่นแล้วกัน ด้านบนของพระธาตุจอมมอญเป็นจุดชมวิวเมืองแม่สะเรียงยอดนิยมครับ



มาถึงแม่สะเรียงยังไม่ได้เที่ยวอะไรที่สมเป็นแม่สะเรียงเท่าไหร่ ด้วยความขุ่นข้องใจเลยแวะมั่วครับ ระหว่างทางเห็นป้าย วัดถ้ำพระโบราณ เลยแวะเข้าไปดูสักหน่อย วัดนี้สร้างในปี พ.ศ.2440 โดยหลวงพ่อใจซึ่งธุดงค์มาจากเชียงตุง อื้ม มีถ้ำ มีพระ แต่ไม่โบราณครับ เดิมเคยมีพระเก่าๆอยู่แต่คนขโมยไปหมดแล้วน่ะ ถึงคนจะน้อยแต่เขาก็ดูแลบริเวณวัดสะอาดสะอ้านดี



เข้าเขตแม่ลาน้อย... มาถึงครึ่งทางแล้วครับ ต้องช่วยกันลุ้นว่าวันนี้จะไปถึงเมืองแม่ฮ่องสอนหรือไม่ สถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดของแม่ลาน้อยคงไม่พ้น ถ้ำแก้วโกมล ที่มีผลึกแคลไซต์สวยงามที่สุดในประเทศไทย ที่นี่เพิ่งถูกค้นพบในปี พ.ศ.2536 โดยวิศวกรเหมืองแร่ของสำนักงานทรัพยากรธรธีแม่ฮ่องสอน ในถ้ำมีการตกผลึกของแคลเซียมคาร์บอเนตและไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมภายนอกทำให้ผลึกมีสีขาวบริสุทธิ์ ถ้ำนี้เดิมมีชื่อว่าถ้ำผลึกแคลไซต์แม่ลาน้อย ซึ่งฟังดูวิทยาศาสตร์จ๋า เดี๋ยวชาวบ้านจำไม่ได้ เลยเปลี่ยนให้ฟังดูลิเกเป็นถ้ำแก้วโกมลลลล พระราชทานนามใหม่โดยราชินีสมัยมาเที่ยวถ้ำนี้ในปี พ.ศ.2544 จะเที่ยวที่นี่ต้องจ่ายค่าเข้าผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ต่อคิวนั่งรถจากที่ทำการอุทยานเข้าไป ในถ้ำอับอากาศมาก สุขภาพไม่ดีไม่ต้องลงไปนะครับ และด้วยความที่ผลึกมีความเปราะบางต่อสิ่งรบกวนมาก แค่หายใจรดผลึกก็โตผิดรูปร่างแล้วครับ เขาเลยจำกัดคนเข้ารอบละ 20 คน และไม่ให้ถ่ายรูปด้วยจ้า ไม่เป็นไรครับ ผมมีรูปหน้าถ้ำมาฝาก พร้อมลายเซ็นหลักฐานว่าราชินีเคยมาเที่ยวที่นี่นะจ๊ะ (อยากชมรูปสวยๆพบได้ตามเว็บหน้า 1 กูเกิ้ลทั่วไป)



และแล้วเราก็มาถึงเมืองแม่ฮ่องสอนในเวลา 15.30 น. เร็วกว่าที่คิดมากเลยครับ มีเวลาเที่ยวเตร่ในเมืองพอสมควร ที่แรกที่แวะถ่ายรูปคือ อนุสาวรีย์พญาสิงหนาทราชา ผู้เป็นเจ้าเมืองคนแรกของแม่ฮ่องสอน เทียบแล้วก็ยศฐาระดับเล็กกว่าพระเจ้ากาวิละเจ้าเมืองเชียงใหม่ในสมัยรัตนโกสินทร์ครับ เพราะเป็นเจ้าเมืองภายใต้อาณัติเมืองเชียงใหม่ที่อยู่ภายใต้กรุงเทพอีกที



แถบนี้เป็นพื้นที่ของชาวไทใหญ่ที่มีบทบาทเป็นดินแดนกันชนระหว่างพม่ากับล้านนา แต่กว่าจะมีความเป็นเมืองขึ้นมาได้ก็ล่วงไป พ.ศ.2374 เมื่อเจ้ามโหตรประเทศเจ้าเมืองเชียงใหม่คนที่ 5 ส่งคนมาจับช้างป่า ได้เห็นว่าแถวนี้มีพื้นที่เหมาะสมสำหรับฝึกช้าง เลยสร้างหมู่บ้านขึ้นให้ชื่อว่าแม่ฮ่องสอน (หมู่บ้านที่มีร่องน้ำสำหรับฝึกช้าง) จากนั้นในสมัยของเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่คนที่ 7 ได้ยกฐานะแม่ฮ่องสอนเป็นเมืองหน้าด่าน และตั้งพญาสิงหนาทราชาเป็นเจ้าเมืองคนแรกในปี พ.ศ.2417 จึงนับว่าประวัติศาสตร์เมืองแม่ฮ่องสอนเพิ่งเริ่มต้นขึ้นในสมัย ร.5 นี่เอง และเนื่องจากตำแหน่งเจ้าเมืองถูกยกเลิกไปในสมัย ร.6 เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนจึงมีเพียง 4 คนเท่านั้น
  1. พญาสิงหนาทราชา (พ.ศ.2417-2427)
  2. เจ้านางเมี๊ยะ (พ.ศ. 2427-2434)
  3. พญาพิทักษ์สยามเขต (พ.ศ.2434-2450)
  4. พญาพิศาลฮ่องสอนบุรี (พ.ศ.2450-2453)


เลยจากอนุสาวรีย์พญาสิงหนาทราชาขึ้นไปจะพบ วัดพระนอน วัดที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของเมืองแม่ฮ่องสอนมากที่สุด เพราะสร้างพร้อมๆกับเมืองแม่ฮ่องสอนในปี พ.ศ.2418 หลังพญาสิงหนาทได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าเมือง และสร้างพระนอนยาว 12 เมตร เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอนไว้ในวัดนี้



ด้านซ้ายขององค์พระนอนมีพิพิธภัณฑ์เจ้าคุณโสภณสามัคคีนุสรณ์ที่เก็บรวบรวมพระพุทธรูปและข้าวของเครื่องใช้เก่าๆไว้มากมาย ไฮไลท์คือพระบัวเข็มคู่หรือพระเจ้าห้าพระองค์ (รูปซ้าย) ที่อัญเชิญมาจากวัดหนองอินเลย์ในพม่า ไม่ใช่พระเก่าแก่ครับ สร้างในปี พ.ศ.2500



บันไดด้านหลังวัดเดิมเป็นทางขึ้นพระธาตุดอยกองมู แต่ปัจจุบันทำทางรถขึ้นไปแล้ว ทางนี้ก็ถูกทิ้งร้างครับ หน้าบันไดคือสิงห์คู่ที่สร้างในปี พ.ศ.2430 โดยเจ้านางเมี๊ยะ เจ้าเมืองคนที่สอง ที่สร้างพระนอนต่อจากสามีที่สร้างไว้ไม่เสร็จก็ถึงแก่กรรมเสียก่อน โดยเจ้านางเมี๊ยะได้สร้างสิงห์ให้สามีตนหนึ่งตามชื่อสิงหนาทราชา และสร้างเป็นของตนเองอีกตนหนึ่ง เป็นสัญลักษณ์ที่คอยปกป้องเมืองแม่ฮ่องสอนสืบมา ส่วนภาพขวาคือด้านบนหลังขึ้นบันไดไปครับ สุดทางแค่พระพุทธรูปบนยอดเขานี้ทางไปต่อเขากั้นไม่ให้ไปแล้ว



ด้านหน้าวิหารพระนอนเป็นสถูปที่เก็บอัฐิเจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนทั้ง 4 องค์ พร้อมชายา เหมือนวัดสวนดอกที่เป็นเก็บอัฐิเจ้าเมืองเชียงใหม่ครับ



ตรงข้ามวัดพระนอนคือ วัดก้ำก่อ เก่าแก่ไล่เลี่ยกับวัดพระนอนครับ วัดนี้สร้างในปี พ.ศ.2433 เป็นที่เก็บตำราประวัติศาสตร์ของไทใหญ่กับพระเจ้าอโนรธามังช่อด้วย



บัดนี้เป็นเวลาสี่โมงครึ่ง ได้เวลาอันสมควรที่จะขึ้น วัดพระธาตุดอยกองมู เพื่อเก็บภาพก่อนและหลังพระอาทิตย์ตกกันครับ นี่เป็นที่เที่ยวที่โด่งดังที่สุดของตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเพราะมันมองลงมาเห็นตัวเมืองครับ วัดนี้สร้างในปี พ.ศ.2403 ก่อนมีเมืองแม่ฮ่องสอนอีกนะ จึงนับว่าเป็นวัดแรกที่สร้างขึ้นในแม่ฮ่องสอน  ชาวบ้านแถวนั้นเป็นคนสร้างเจดีย์ขึ้นครับ โดยจองตองสู่และภรรยาสร้างขึ้น บรรจุอัฐิของพระโมคคัลลานะที่พระอู่ปั่นเต้กต๊ะ (ชื่อคนแถวนี้อ่านยากจริง) นำมาจากพม่า แล้วพระอู่ปั่นเต้กต๊ะก็ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสคนแรก หลังจากสร้างเมืองแม่ฮ่องสอนในปี พ.ศ.2417 พญาสิงหนาทก็สร้างพระธาตุบนดอยกองมูขึ้นอีกองค์ข้างๆกันแต่มีขนาดเล็กกว่าองค์แรก บรรจุอัฐิพระสารีบุตร เรียกว่ามาไหว้ที่นี่ได้ไหว้อัครสาวกทั้งเบื้องซ้ายเบื้องขวาเลยทีเดียว ซึ่งคนนำอัฐิของพระสารีบุตรมาจากพม่า มีชื่อว่าพระอู่เอ่งต๊ะก๊ะ (พอเถอะ....อย่าให้ผมต้องอ่านชื่อพระพวกนี้อีกเลย T^T)



ถัดจากร้านกาแฟขึ้นไปจะมีจุดชมทิวทัศน์ที่คนนิยมมาชมพระอาทิตย์ตกลับแนวเขาถนนธงชัยที่ยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตา



ส่วนอีกมุมหนึ่งมีจุดชมเมืองแม่ฮ่องสอนที่มองเห็นหนองจองคำกลางเมือง ด้านขวามีวัดจองคำและวัดจองกลาง เดี๋ยวคืนนี้จะลงไปถ่ายรูปมาให้ดูครับ เปรียบเทียบรูปซ้ายตอนสว่างกับรูปขวาตอนมืด ได้อารมณ์สวยคนละแบบนะ แต่ที่แย่ที่สุดคือผมไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไป



คืนนี้พักที่บ้านร่วมไม้ ห้องละ 900 บาทครับ ถึงจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ที่พักแม่ฮ่องสอนนั้นแพงโคตรๆครับ แบบถูกๆ 300-500 ก็มีนะ แต่ต้องนอนตามบ้านคนอื่นเป็นผีบ้านผีเรือน ที่พักคืนนี้จองผ่านเว็บ booking ไว้ และเป็นที่พักเดียวที่จองไว้ล่วงหน้าครับ คืนที่เหลือไม่มั่นใจว่าจะไปได้ถึงไหน ไปหาเอาดาบหน้าแล้วกัน



ซึ่งที่พักนี้ก็ไกลจากถนนคนเดิน 3 กม. เดินไปไม่ไหวละครับ ต้องขับรถออกไปหาที่จอดเอาในซอยแถวๆนั้น หน้าถนนคนเดินมีจุดถ่ายภาพยามกลางคืนยอดนิยมคือ หนองจองคำ ที่จะสะท้อนเงาของวัดจองคำและวัดจองกลางอย่างงดงาม ...ซึ่งก็น่าเสียดายอีกเช่นเคยที่ผมไมได้เอาขาตั้งกล้องมา



ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน ที่นี่ก็เป็นเช่นถนนคนเดินที่มีอยู่แทบทุกจังหวัดในประเทศไทย แต่บรรยากาศสบายๆ อากาศเย็น การแสดงที่สะท้อนวัฒนธรรมชาวเหนือ ก็ยังคงเป็นสเน่ห์ของถนนคนเดินในภาคเหนือตอนบนที่ๆอื่นเลียนแบบกันไม่ได้ ตัวถนนคนเดินเป็นรูปตัว L ล้อมหนองจองคำไว้ เดินไปสุดถนนเที่ยววัดจองคำและวัดจองกลางต่อได้เลยครับ





วัดจองคำและวัดจองกลาง อยู่ในกำแพงรั้วเดียวกันครับ บางทีก็สับสนว่าวัดไหนคือวัดไหนกันแน่ เอาเป็นว่าถ้าเราหันหน้าเข้าหาวัด วัดจองกลางจะอยู่ด้านขวา และวัดจองคำจะอยู่ด้านซ้ายมือครับ ทั้งสองวัดนี้สร้างขึ้นราวปี  พ.ศ.2470 ในภาพคือเจดีย์ประธานของวัดจองกลาง



พระเจ้าอินทร์สานในวิหารวัดจองกลาง



วัดจองคำมีวิหารประดิษฐานหลวงพ่อโต พระพุทธรูปศิลปะพม่าผสมอมราวดี สูง 5.6 เมตร



ตอนที่ไปวัดจองคำได้อัญเชิญพระอุปคุตแกะจากไม้โพธิ์อายุหลายร้อยปีจากพม่ามาให้สักการะช่วงปีใหม่ปีละครั้ง



ออกจากถนนคนเดินตอนสองทุ่มครึ่ง กลับไปที่พักจากนั้นก็เข้านอนคืนที่สองครับ วันนี้เที่ยวคุ้มจริงๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้โปรแกรมจัดหนักยิ่งกว่านี้ (โปรดวางใจใช้บริการชีริวทัวร์ เที่ยวกันจนตายไปข้างนึง) คืนนี้โรงเรียนข้างๆมีจัดชกมวยเสียงดังกระหึ่มทั้งคืน โชคดีที่ผมมีจิตผ่องใสบริสุทธิ์ หลับได้ในทุกสภาวะ หรือพูดง่ายๆก็คือขี้เซานั่นเอง Smiley



ช่วงเช้าหมอกลงจัดสมชื่อเมืองสามหมอก (มีหมอกทั้งสามฤดู) เรามาหาข้าวเช้ากินที่ ตลาดสายหยุด ตลาดนี้เปิดตั้งแต่ตีห้า โซนด้านหน้าแบ่งที่ให้ชาวเขาเอาของมาวางขายด้วย ไปเที่ยวชมพวกผักพื้นเมืองหรืออาหารพื้นเมืองที่ไม่ค่อยได้เห็นที่อื่นได้นะครับ (พื้นเมืองเสียจนแม้แต่น้องสะใภ้ผมที่เพิ่งซื้อแกงหนังควายในตลาดฮอดกินก็ยังไม่สามารถกินอาหารพื้นเมืองในตลาดสายหยุดได้)



แต่เป้าหมายหลักของเราคือโจ๊กขึ้นชื่อของเมืองแม่ฮ่องสอน "โจ๊กเสวย" ที่ขึ้นเสิร์ฟเชื้อพระวงศ์มารุ่นต่อรุ่น ซึ่งพอหาร้านจนเจอก็พบว่ามันปิดไปแล้ว (เวรกรรม!) เลยกินโจ๊กหน้าตลาดแทน ก็อร่อยดีครับ ส่วนน้องกับแม่แยกไปกินถั่วพูอุ่น อันนี้เป็นอาหารพื้นเมืองชาวไทใหญ่ เอาถั่วเหลืองมาต้ม บด ผสมขมิ้น กินกับเส้นข้าวซอย และแป้งถั่วพูทอดครับ ผมดอดไปชิมคำนึงอร่อยดีนะ



ใส่บาตรพระแม่ฮ่องสอนครับ ชีวิตนี้จะมีสักกี่ครั้งที่มีโอกาสได้ทำบุญกับพระแม่ฮ่องสอน



หน้าตลาดติดกับ วัดหัวเวียง สร้างในปี พ.ศ.2406 เดิมเคยอยู่ด้านเหนือสุดของเมืองแม่ฮ่องสอน เลยได้ชื่อว่าวัดหัวเวียง แต่ตอนนี้เมืองขยายตัวขึ้นวัดเลยมาอยู่กลางๆเวียงแล้วครับ



ไฮไลต์ของวัดนี้ต้องนี่เลย พระเจ้าพาราละแข่งเป็นพระพุทธรูปฝีมือช่างมัณฑะเลย์จำลองจากพระมหามุนีที่พม่า พวกเราไปถึงวัดกันตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า แต่พระท่านมาเปิดวิหารให้เข้าไปชมได้ องค์พระอยู่ในตู้กระจกอีกชั้นหนึ่ง เลยถ่ายตรงกลางไม่ได้ครับ ติดสันตู้



ตอนหมอกลงที่ไหนๆก็สวยน่าเที่ยวขนาดนี้ต้องรีบทำเวลาขึ้นไปเที่ยวตอนบนของเมืองแม่ฮ่องสอนแล้วละครับ ที่เที่ยวแจ่มๆรอท่านอยู่มากมาย... Smiley

แล้วเราก็ออกจากเมืองมาเจอถนนห่วยๆ หมอกกับฝุ่นควันปนกันมั่วไปหมดจนต้องร้องเพลงพี่เบิร์ด หมอกจางๆและควัน คล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้~♫ แปดโมงเรามาถึง สะพานไม้ซูตองเป้ ที่ทีแรกไม่ได้บรรจุไว้ในแผนเที่ยว (เพราะเพิ่งสร้างเมื่อปี พ.ศ.2554 นี้เอง หนังสือท่องเที่ยวยังไม่มี) แต่แม่แนะนำให้มาชม นี่เป็นสะพานไม้ยาว 500 เมตร ให้ผู้คนและพระสงฆ์บิณฑบาตข้ามทุ่งนาไปยังสวนธรรมภูสมะได้โดยไม่ต้องเหยียบพืชผลเสียหาย ระหว่างเดินก็ชมวิวทุ่งนาในสายหมอกไปด้วย เท่ ♥





จากนั้นดิ่งขึ้นเหนือต่อ เป้าหมายคือปางตอง ปางอุ๋ง และหมู่บ้านรักไทยที่อยู่เกือบถึงชายแดนพม่า พระตำหนักปางตอง นี่คาดหวังว่าจะมีดอกไม้งามๆแบบสวนแม่ฟ้าหลวง แต่ก็ไม่มีอะไรเท่าไหร่ อย่าใช้เวลากับมันเยอะเลยครับ ซิ่งไปปางอุ๋งต่อทันที



ปางอุ๋ง เป็นสถานที่ๆเห็นรูปจากหลายๆเว็บแล้วอยากมาม้ากกก และมันเป็นปกหนังสือแผนที่ ESRI ปี 55 เล่มแรกที่ผมใช้ด้วย ขณะเราขับขึ้นไปคนอื่นเขาก็สวนลงมากันหมดแล้วครับ ที่นี่ต้องเที่ยวตอนเช้าๆที่หมอกลงเยอะๆถึงจะสวยสินะ

....แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆครับ เรามาถึงปางอุ๋งตอน 10.00 น. ไม่เหลือหมอกแล้วมันก็เป็นแค่อ่างเก็บน้ำธรรมดาๆนี่เอง ผมว่าเราโปรโมทแหล่งน้ำภาคเหนือหลายๆที่ให้ดังเท่าปางอุ๋งได้ง่ายๆเลยนะ ตอนมีหมอกมันสวยเหมือนกันแหละ เข้าถึงง่ายกว่าด้วย



ทิวสนที่ต้องแสงยามเช้าสวยงามในหนังสือท่องเที่ยว มาดูตอนสิบโมงแล้วก็งั้นๆอะ หรอมแหรมกว่าสวนสนบ่อแก้วที่ฮอดเยอะเลยด้วย



ขึ้นมาต่อจนสุดจะถึง บ้านรักไทย หรือบ้านแม่ออ (มาจากภาษาจีนว่าหมี่ออแปลว่าที่เก็บข้าว) เป็นชุมชนชาวจีนฮ่อ และเป็นหมู่บ้านสุดท้ายก่อนถึงชายแดนพม่า ในปี พ.ศ.2511 ทหารจีนยูนนานลี้ภัยคอมมิวนิสต์มาที่หมู่บ้านนี้ และครอบครัวทหารได้ติดตามเข้ามาปลูกสร้างบ้านเรือนจนกลายเป็นชุมชนของชาวจีนยูนนานขนาดใหญ่ขึ้นมา บรรยากาศในหมู่บ้านจะเหมือนบ้านในเมืองยูนนานครับ บ้านบางหลังทำด้วยดินผสมฟางแบบในหนังจีน



ด้านบนหมู่บ้านมีหอประวัติศาสตร์ ต้องเดินไป 500 เมตร ว่าแล้วก็ลองสักหน่อย แต่ 500 เมตรที่ว่านี่ไกลกว่าที่คิดโคตรๆเลยครับ ต้องขึ้นทางชันด้วย ใช้เวลาเดินยี่สิบนาที จนถึงบ้านบนก็มีห้องเก็บรูปถ่ายเล็กๆที่ล็อคอยู่ แต่ชะโงกเข้าไปดูแล้วก็มีแค่รูปกับคำบรรยาย ไม่มีของจัดแสดงอะไรน่าสนใจ แต่ด้านหน้านี่สิ เป็นคุกใต้ดินไว้ขังทหารผิดวินัยครับ



กลับลงมาที่ตัวหมู่บ้านก็ได้เวลามื้อเที่ยงพอดี ที่นี่ขายชามันเกือบทุกร้าน ซึ่งผมกินไม่เป็นแนะนำไม่ได้ว่าอร่อยว่าชาแม่สลองหรือเปล่า แต่ที่ตั้งใจมากินที่นี่คือขาหมูยูนนานครับ และร้านเก่าแก่ที่หนังสือแนะนำก็คือจี๋หลี้ร้านนี้เอง อยากกินทั้งขาหมูหมั่นโถทั้งสุกี้ยูนนาน เลยเอามันทั้งสองอย่างครับ (มั่นใจในพลังการกินของน้องและน้องสะใภ้) ขาหมูยูนนานรสชาติจืดและออกมันเยอะตามสไตล์อาหารจีน แต่ไม่แพงครับขานี้ 300.- แต่ไอ้สุกี้เนี่ยสิ! มีไข่ม้วนทรงเครื่องเป็นเครื่องหลัก ใส่ผักกับเส้นบุก ที่เห็นในรูปนี้เป็นชุดเล็ก ราคา 800.- (แพง!) น้ำซุปไม่ค่อยมีรสชาติครับ จะคาดหวังให้ความอร่อยของเนื้อสัตว์มันค่อยๆละลายลงไปตอนต้มมันก็ไม่ค่อยมีเนื้ออะไรให้ละลายน่ะสิ แต่กลิ่นผักนี้มาเต็มมาก



ออกจากบ้านรักไทยแล้วกลับมาแล่นเส้น 1095 เหมือนเดิมครับ ที่เที่ยวต่อไป - ถ้ำปลา ตัวถ้ำเป็นถ้ำเล็กๆใต้ภูเขามีน้ำไหล แต่จุดขายของที่นี่คือปลาพลวงจำนวนมาก แถมไซส์อย่างเบิ้ม จะว่าน่ากินก็กินไม่ลงหรอกครับ ปลาพลวงมันชอบกินลูกไม้ป่าที่มีพิษเนื้อมันก็เลยมีพิษไปด้วยจ้ะ



ที่ผ่านมาเส้น 108 มันเบๆ จากนี้ไปจะเป็นถนนพันโค้งของจริงแล้วครับ ซึ่งเส้นทางจากเมืองแม่ฮ่องสอนไปถึงปางมะผ้านี่แหละ โหดที่สุดในรูท 4,088 โค้งแล้ว! ด้วยความที่เป็นพื้นที่เขาตลอดเส้นทาง มีทั้งโค้งหักศอก โค้งขึ้นเนิน โค้งลงเนิน แต่ผมสบายๆครับ เพราะน้องขับ (นั่น! กูนึกแล้ว!) ขับต่อมาจนถึง อ.ปางมะผ้า นี่เป็นอำเภอที่มีถ้ำมากที่สุดในประเทศไทยครับ ตอนอ่านหนังสือถ้ำถิ่นเหนือผมอยากมาที่นี่มากๆ แต่ด้วยเวลาที่ไม่เอื้ออำนวย และหลายๆถ้ำยากแก่การเข้าถึงเลยตัดไปตัดมา.... เหลือถ้ำลอดอันเดียวจ้าาาาา

ถ้ำลอด เป็นถ้ำที่โด่งดังที่สุดของปางมะผ้า ซึ่งถ้ำนี้มีทุกอย่างที่เที่ยวถ้ำควรมี ทั้งหินงอกหินย้อย ภาพเขียนสี โลงยุคก่อนประวัติศาสตร์ และธารน้ำไหล ขาดก็แต่ผลึกแคลไซต์กับรูปแกะสลักพระพุทธรูปเท่านั้นเอง เรียกว่าเที่ยวถ้ำเดียวคุ้มเลยครับ

ค่าแพ 400 นั่งได้ 4 คน ค่าคนนำทาง+ตะเกียงอีก 150 บาท ครับ บ้านเรามาสี่คนพอดี คุ้ม



จากทางเข้าต้องนั่งแพเข้าไปด้านใน และแพจะจอดให้แวะชมเป็นจุดๆ ภายในมีสามคูหาใหญ่ๆ คือ ถ้ำเสาหิน (มีเสาหินปูนขนาดใหญ่หลายต้น), ถ้ำตุ๊กตา (มีหินงอกเป็นปุ่มๆคล้ายตุ๊กตาเล็กๆจำนวนมาก) และถ้ำผีแมน (มีโลงศพไม้สมัยก่อนประวัติศาสตร์)



นี่คือภาพเขียนสียุคก่อนประวัติศาสตร์ในถ้ำตุ๊กตาครับ เงาตรงกลางคือกวาง ด้านซ้ายคือธนู และพระอาทิตย์ อายุ 2-3 พันปีตอนนี้ลบเลือนจนดูยากแล้ว

โลงผีแมนเป็นโลงไม้ขุดอายุประมาณ 2,000 ปี พบในหลายๆถ้ำของภาคเหนือ ซึ่งชาวบ้านมักเรียกถ้ำที่พบโลงศพว่าถ้ำผีแมน ตามความเชื่อว่าผีแมนคืออมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในถ้ำ ซึ่งในปางมะผ้ามีถ้ำผีแมนอยู่ถึง 74 แห่ง


ตัวถ้ำยาว 200 เมตร พอไปจนสุดทางเขาจะล่องแพกลับทางเดิมให้ครับ



ออกจากถ้ำห้าโมงเย็น ตอนนี้คิดว่าคงไปนอนที่ปายนั่นละครับ ทีแรกพยายามหลีกเลี่ยงเมืองนี้ซึ่งช่วงปีใหม่คนจะแน่นล้านเปอร์เซ็นต์ และกลัวว่าโปรแกรมเที่ยววันนี้เยอะจะไปไม่ถึงปายด้วย แต่ในเมื่อทำเวลาได้ดี (และตัดที่เที่ยวถ้ำจนเหลืออันเดียว) แล้วก็ดิ่งไปนอนปายกันเถอะครับ ระหว่างทางมี จุดชมวิวดอยกิ่วลม ที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม





ถึงปายประมาณทุ่มนึง รีบหาที่ซุกหัวนอนก่อนครับ ลองตระเวนถามโรงแรมต่างๆแล้วตกราคา 6 พัน - 1 หมื่นทั้งนั้น ราคาอย่างกับอยู่หาดทับแขก พลังแฟชั่นสโลวไลฟ์มันมีอานุภาพร้ายแรงขนาดนี้เชียวรึ ปายมันถึงเล่นตัวได้ขนาดนี้!?! โชคดีไปเจอเจ้าของห้องพักแห่งนึงที่เต็มแล้วเขาแนะนำที่พักของเพื่อนให้ เพิ่งเปิดใหม่ ชื่อปายพอเพียง อยู่ใกล้วัดพระธาตุแม่เย็น นอกตัวเมืองปายออกไปพอสมควรราคาเลยต่ำลงมาหน่อย ได้ห้องละ 1,000 ครับ



ออกไปเดิน ถนนคนเดินปาย ที่เป็นจุดขายของปายเสียหน่อยซิ จะเหนือกว่าถนนคนเดินแม่ฮ่องสอนเมื่อคืนสักแค่ไหน เราเอารถไปจอดไว้ในโรงเรียน เสียค่าจอด 20 บาทครับ จากนั้นก็เข้ามาที่ถนนคนเดิน ซึ่งถนนคนเดินจะกินพื้นที่ ถ.ชัยสงคราม และ ถ.รังสิยานนท์ สองเส้นเลย ยาวกว่าถนนคนเดินที่อื่นมากมายครับ นอกจากของทำมือและอาหารที่พบได้ตามถนนคนเดินทั่วไปแล้ว ที่นี่มีร้านที่มีชื่อเสียงไม่น้อยอย่างน้ำกระบอกเมืองปาย ข้าวซอยเส้นสด ร้านเค้กโกโอ (หน้าเค้กหนาสะใจมากๆ) และอื่นๆอีกมากมาย ร้านขายของทำมือเยอะๆแบบนี้ คนต่างชาติเยอะๆแบบนี้ ....นี่มันถนนข้าวสารนี่หว่า! ถ้าหมอกไม่ลงปายมันก็คือถนนข้าวสารดีๆนี่เอง







หลังจากนี้ผมไม่ได้วางโปรแกรมอะไรแล้วครับ ตามแผนไม่มีธุระอะไรกับปายทั้งนั้น แต่ไหนๆก็มาถึงปายแล้ว น้องเลยหาข้อมูลที่เที่ยวสำหรับวันพรุ่งนี้เพิ่มเติมจากโปรแกรม

ที่แรกคือวัดพระธาตุแม่เย็น (เที่ยวมันหน้าที่พักนี่ละครับ) วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองปาย แต่ไม่มีหลักฐานการก่อสร้างใดๆครับ ไหนๆมาถึงปายแล้วก็ไหว้วัดคู่บ้านคู่เมืองเขาหน่อย



อันนี้จุดชมทะเลหมอกของปาย เรียกว่าทะเลหมอกหยุนไหล ค่าเข้า 20 บาท วันนี้เราออกกันค่อนข้างสาย กว่าจะถึงทะเลหมอกก็แปดโมง โชคดีที่มันยังเหลือหมอกบางๆให้ดูนะครับ ด้านบนมีขายอาหารก็นั่งกินมันตรงนี้แหละ มีข้าวต้มรสชาติเหมือนอาหารคุกขาย ปรุงให้ตายก็ไม่อร่อย เน้นวิวครับ ซึ่งวิวก็สวยคุ้มที่ขึ้นมาจริงๆ มีแจ็คสแปโรว์บริการถ่ายรูปให้ด้วยนะ





ขาลงมาจากทะเลหมอกผ่านชุมชนเขากำลังทำพิธีอะไรกันอยู่ ชาวบ้านกำลังช่วยกันเตรียมกับข้าว

บ้านสันติชล เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานอีกแห่งหนึ่ง ที่ชาวจีนอพยพหนีภัยคอมมิวนิสต์มาตั้งรกรากในปี พ.ศ.2518 ไล่เลี่ยกับบ้านรักไทยเลย ที่นี่เคยมียาเสพติดระบาดหนัก แต่เจอสงครามยาเสพติดลุงทักกี้ปี 46 เข้าไป ตอนนี้เป็นหมู่บ้านปลอดยาแล้วจ้ะ ทางการสนับสนุนให้ชาวบ้านทำการเกษตร และพัฒนาเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว แสดงวัฒนธรรมประเพณีชาวจีนยูนนานที่น่าสนใจ ของขายมีหลากหลายกว่าที่บ้านรักไทยครับ มีทั้งเครื่องประดับ เกาลัด บัวหิมะ น้ำผึ้ง ร้านอาหาร ชิงช้าโบราณ บริการถ่ายรูปคอสเพลย์ ฯลฯ มีบ้านที่คงสภาพเครื่องใช้ความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมไว้โชว์นักท่องเที่ยวด้วยนะ





วัดน้ำฮู เป็นที่ประดิษฐานพระอุ่นเมือง พระพุทธรูปอายุ 500 ปีที่มีพระเศียรกลงมีน้ำซึมออกมา ซึ่งวัดจะนำไปผสมน้ำเป็นน้ำมนต์แจกจ่ายให้ผู้มีจิตศรัทธา



ร้านกาแฟ Coffee in Love ไม่รู้ว่ากลายเป็นสัญลักษณ์ของปายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ในป้ายสถานที่ท่องเที่ยวมีรูปร้านนี้ตลอดเลย มีจุดถ่ายรูปสวยๆหลายจุดครับ กาแฟรสชาติอร่อยดีนะ แต่ขายในเพิงทางขวานะ ไม่ได้ขายในตึกเหลืองๆนี้นะ



สะพานประวัติศาสตร์ปาย เรียกว่าสะพานท่าปาย เดิมเป็นสะพานไม้ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2484 เพื่อให้ทหารญี่ปุ่นใช้เคลื่อนพลข้ามลำน้ำปาย แต่หลังจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นก็เผาสะพานไม้เดิมทิ้ง สะพานถูกสร้างขึ้นใหม่โดยใช้โครงเหล็กที่รื้อจากสะพานนวรัฐจังหวัดเชียงใหม่มาประกอบเป็นสะพานท่าปายในปัจจุบัน สะพานนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องปายอินเลิฟด้วยนะ



จบเรื่องราวกับปายแล้วครับ ขาลงไปยังแม่ริมเราไม่ได้เติมน้ำมัน เลยลุ้นระทึกกันหลายเฮือก ....อย่ากระนั้นเลย แวะซื้อน้ำมันขวดเติมเลยดีกว่า ปกติพวกร้านค้าริมทางจะมีน้ำมันใส่ขวดสำหรับพวกมอเตอร์ไซค์มาซื้อเติมอยู่แล้ว มีทั้งเบนซินและดีเซล คุณภาพเดียวกับ ปตท. นะครับ เพราะเอาน้ำมันจาก ปตท. นั่นแหละ ราคาแพงกว่าที่ปั๊มพอสมควร แต่ก็ต้องซื้อจ้ะ ไม่อยากเข็นรถขึ้นภูเขา เติมไป 4 ขวด น้ำมันเด้งขึ้นมา 1 ขีด พอแล่นลงที่แม่แตงได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล

จบแล้วครับทริปแม่ฮ่องสอน ขากลับเราแวะเที่ยวเชียงใหม่นิดหน่อย ก่อนไปกินข้าวเย็นและพักที่ลำปาง มื้อเย็นที่ร้านไข่มุกยังคงอร่อยเฟร่อเช่นเดิม แต่ที่พักลำปางเริ่มแพงแล้วครับ พิณโฮเต็ลขึ้นจาก 500 เป็น 800 รอบนี้เลยไปนอนพีเอสอพาร์ทเม้นท์ ขึ้นจาก 350 เป็น 450 ถือว่าแพงขึ้นไม่มาก

จากนั้นก็เดินเที่ยวข่วงนครลำปางครับ ซึ่งงานปีใหม่ลำปางก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง แสงสีจัดเต็มมาก ไม่รู้ว่าใช้งบเท่าไหร่ แต่คงไม่แพงเท่าไฟ 39 ล้านของ กทม. ของกินก็อร่อยราคาถูกเช่นเดิม







หลังจากปีใหม่ปีนี้ยังไม่มีทริปยาวๆอีกเลย ครั้งหน้าคงเป็นหยุดยาววันแรงงานปลายเดือนนี้ครับ ส่วนสงกรานต์ยังนึกไม่ออกเลยจ้ะว่าจะไปไหน ขอแบบ ใกล้ๆ เย็นๆ ไม่เปียก ....อ่อ เดินห้างนี่เอง

เที่ยวสงกรานต์กันให้สนุกนะครับ Smiley







Create Date : 10 เมษายน 2559
Last Update : 5 มีนาคม 2560 18:59:14 น.
Counter : 17465 Pageviews.

67 comments
หนึ่งวัน พันกว่าเรื่อง จันทราน็อคเทิร์น
(20 มี.ค. 2567 16:40:41 น.)
พังงา เมืองสวยในหุบเขา สมาชิกหมายเลข 4313444
(16 มี.ค. 2567 20:58:32 น.)
สุดเส้นทางประเทศไทยที่สุไหงโกลก ชีริว
(16 มี.ค. 2567 17:59:13 น.)
คิดถึงรัชโยธิน จันทราน็อคเทิร์น
(15 มี.ค. 2567 23:19:40 น.)
  
เก็บพื้นที่ได้เยอะเลยนะเนี่ย
ชื่อพระ ... พยายามอ่านแล้ว จำไม่ได้ซักที --"
ถ้าเอาออกสอบคงเขียนสะกดผิดๆถูกๆแหง

เคยไปแค่ปาย ไม่ได้แวะลงแม่ฮ่องสอนเลยเจ้าา
อดกิ๋นถั่วพูอุ่น
แล้วเมนู royal porridge
นั่นไหงเค้าไม่ขายแล้วอ่ะเสียดายเนอะ

เมืองสามหมอกนิหมอกเยอะจริงอะไรจริงไหมล่ะ
ชอบภาพ สะพานไม้ซูตองเป้ ดูมันดั้งเดิมดี บรรยากาศดิบๆดีแต๊

เห็น ปาย แล้วรู้สึกไปเองรึปล่าวไม่รู้ มันดูรกๆขึ้นจัง
พอมันเริ่มป๊อบ ก็รู้สึกว่ามันไม่ต่างไปจากสถานที่อื่นๆเลย

ค่าที่พักก็เริ่มพุ่งเลยแฮะ ...
เห็นปางอุ๋งแล้ว อิอิ มันไม่ฟุ้งๆ ไง
เลยเป็นอ่างเก็บน้ำธรรมดาๆ ต้องถ่ายแบบฮิปสเตอร์ถึงเข้าท่า
ถ้ำผีแมนอ่ะ ตอนนั้นก็แอบเรียกว่าถ้ำขี้ค้างคาว
ส่วนถ้ำปลา อารามณ์เหมือนโดนหลอก
แม่เจ้ามีปลาอยู่ที่กระจุกเล็กเอ๊งงงงง...

+

โดย: กาบริเอล วันที่: 10 เมษายน 2559 เวลา:10:18:44 น.
  
คุณชีริว เขียนการท่องเที่ยวได้สนุก กว่าการ์ตูนตั้งเยอะ

ผมนั่งอ่าน ดูภาพไล่ลงมาช้า ๆ น่าสนใจ น่าเดินทาง(บางช่วง)

เส้นทางนั้น ผมเดินทางไปเพียง แม่สะเรียง เจอฤดูแล้งด้วย
เลยดูแห้งแล้ง.. เลยเดินทางกลับ ชม.

แต่ถ้า อ.ปาย ไปบ่อยหน่อยเพราะเป็น อำเภอบ้านเกิด
ถ.รังสิยานนท์ เป็นนามสกุลของคุณตาผมเอง คงตั้งขึ้น
คราวที่คุณตาไปเป็นนายอำเภอ ก่อนผมเกิดแน่เลย

ราคาที่พัก อ.ปาย แพงเกินความเป็นจริง..ผมก็ไปพักแถว
แม่เย็น เป็นส่วนใหญ่(ญาติไม่เหลือกันแล้ว 555)

ผมตื่นเช้า กะไปดักถ่ายภาพเมืองปาย.. รอนานมาก เกือบ
สิบโมงเช้า หมอกจึงสลาย เลยได้ถ่ายภาพเมือง..

คุณชีริวรอไม่นานแค่แปดโมงก็ได้ถ่าย

งั้นโหวตให้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
pantawan Health Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
ณ ปลายฉัตร Literature Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
NENE77 Literature Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 10 เมษายน 2559 เวลา:12:02:20 น.
  
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ
บล็อกนี้ครบรสเลย พี่ก็ชอบเที่ยวภาคเหนือช่วงหน้าหนาว
ตอนเช้า ๆ หมอกลงได้บรรยากาศท่องเที่ยวดีค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
haiku Art Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
ณ ปลายฉัตร Literature Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
ชมพร Cartoon Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
โดย: เนินน้ำ วันที่: 10 เมษายน 2559 เวลา:12:59:29 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
patthanid Travel Blog ดู Blog
puipom Home & Garden Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog

ตามน้องมาท่องเที่ยวด้วยคนจ๊ะ
โดย: อุ้มสี วันที่: 10 เมษายน 2559 เวลา:15:10:16 น.
  
แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่ยังไม่เคยไปและอยากไปมากมาย
ชอบหลายอย่างที่นั่นไม่ว่าจะเป็นอากาศ ความเป็นอยู่ของผู้คน
และมีสถานที่ๆน่าสนใจเยอะไปหมด
อีกทั้งอาหารการกินที่หลากหลาย
ยิ่งเห็นในบล็อกวันนี้ยิ่งอยากไปเที่ยวสุดๆ
อยากไปชมถ้ำลอด สวยอเมซิ่งจริงๆ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: mambymam วันที่: 10 เมษายน 2559 เวลา:15:29:29 น.
  
ศซํศโ๊๕๋ธ๕ูร๙๊ณฺซ..

แม่ฮ่องสอน เคยไปมา 2-3 ครั้ง
ถ้ำปลาแวะไป 2 ครั้งค่ะ
ชอบค่ะ..ปลาตัวใหญ่ดี
โหวตให้เลยค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
patthanid Travel Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 10 เมษายน 2559 เวลา:17:17:16 น.
  
(ตอนไปบ้านเห็นฝูงลูกเจี๊ยบเดินตามแม่เรียงกันน่ารัก... อ่อ เลี้ยงไว้กินนะ) - เอ่อออออออออ คุณคะะะะะะะ 5555555

ชื่อเรียกยากอย่างนั้นหละค่ะ ทางนั้นส่วนใหญ่ไทยใหญ่ แต่ลองออกเสียงสิ น่ารักน้าา อุเองต๊ะก๊ะ อิอิ


เขียนละเอียดมาก ไม่ได้ไปแม่ฮ่องสอนสิบกว่าปีได้แล้วค่ะ เห็นแล้วก็คิดถึง


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Sai Eeuu Food Blog ดู Blog
ปรัซซี่ Food Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 เมษายน 2559 เวลา:19:06:40 น.
  
นี่ ๆ ๆ ๆ ตัวเธอ
รูปสวยมากกกกอ่ะ
เค้าพูดจริงจังนะ
ชอบรูปพระบิณฑบาต
กับสวนสนอ่ะ สวยมาก ๆ
โดย: Close To Heaven วันที่: 10 เมษายน 2559 เวลา:20:35:37 น.
  
งั้นพี่ก็คงล้าหลังกว่าเราอีกนะ

เพราะพี่ก็ไม่เคยไปแม่ฮ่องสอน 555

ทั้งภาพ ทั้งข้อมูล ครบถ้วนมากเลยจ้า


โหวตเป็นกำลังใจให้จ้า
โดย: แม่โอ๋เรนเจอร์ วันที่: 10 เมษายน 2559 เวลา:20:59:39 น.
  
เป็นเมืองขายท่องเที่ยวไปหมดละ เชียงคายกำลังจะตามไปในอีกไม่ช้าค่ะ
+
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 10 เมษายน 2559 เวลา:22:17:11 น.
  
ตามมาเที่ยวด้วยครับ ผมไปไกลสุดแค่ปายเอง


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog
โดย: The Kop Civil วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:1:10:46 น.
  
thx u crab
โดย: Kavanich96 วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:3:44:42 น.
  
สวัสดียามเช้าครับ


ดองไว้ 4 เดือน
บล็อกเลยจัดเต็ม
ครบครันทั้งกิน เที่ยว ดู ชม ทำบุญ

น้องชีริวความจำดีมาก
เป็นพี่ก๋าลืมข้อมูลหมดแล้วครับว่าอะไรเป็นอะไร 5555


แม่ฮ่องสอนเคยไปครั้งนึงชอบมากครับ

แต่ไม่เคยขับไปทางเส้นฮอด แม่สะเรียง
พี่ก๋าไปทางปายนี่ล่ะครับ

โหวต travel blog ให้เลยครับ




ปล. ภาพในบล็อกพี่ก๋าเมื่อวาน
เป็นทางเดินในสวนที่บ้านครับ 555
คนสวนเค้าตัดต้นไม้เป็นแผ่นๆเหมือนเขียง แล้วก็ปูเป็นทางเดินในสวนครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:6:31:39 น.
  
หงา คาราวาน และวิสา คัญทัพ ร่วมในการเมืองเต็มๆทั้งสองคน
แต่อยู่คนละขั้วอีกต่างหาก ฟาดฟันกันเต็มที่เลย
แปลกดีเหมือนกัน
ขอบคุณที่แวะฟังจ้ะ


โดย: mambymam วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:7:03:00 น.
  
สวัสดีอีกรอบจ้าซีริว

เชื่อมั้ยว่าเมื่อก่อนเป็นคนไม่ชอบอาหารญี่ปุ่นเลย แต่อยู่กับเพื่อนที่ชอบ จนตอนนี้ชอบไปแล้ว 555

เรื่องอัพบล็อกถี่..จำเป็นจ้ะ นี่พี่ยังกำลังจะอัพมากกว่าหนึ่งบล็อกต่อวัน (เกินห้าเอนทรี่ต่อสัปดาห์) เลย เพราะตอนนี้ที่ทำเซฟดราฟท์ไว้แล้ว อัพได้ทั้งปีแล้ว แต่กองดองยังเหลืออีกเพียบอ้ะ

ก็เลยคิดว่า คงต้องอัพเพิ่ม ถ้าอยากให้กองดองมันหมดจริงๆ น่ะ ฮือออ


เฮ้ยย คอไก่ร้านมายยูตอนนั้นอร่อยมากนะ อร่อยแบบที่ไม่เคยกินที่ไหนเลย แต่พอกินที่นี่ เฉยๆ แฮะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:8:40:10 น.
  
อ.เต๊ะ เห็นด้วยทุกเม้นท์ ทุกความเห็นเลยนะครับ

แค่นี้นะครับ อิอิ

คุณซีริวบอก เออ เอาที่เอ็งสบายใจก็แล้วกัน เย้ย
เดี๊ยะๆ เอ็งมาบล็อกข้า อ่านไป 7 บรรทัด แล้วจะมาเม้นท์ แค่บรรทัดนึงนี่ เอ็งจะเดินกลับไปดีๆ หรือคลานกลับไปเอ็งเลือกมาเล้ยยย 555

อ.เต๊ะ ก็ ตะเองง ผีเข้าหรือเปล่านี่ อัพบล็อกอะไรซะยาวเหยียดขนาดนี้ ถ้าเป็นบล้อกเค้าละก็ เรื่องขนาดนี้ เค้าอัพได้ 5ปี สบายๆเลยนะ 555

คราวที่แล้วบล้อก ตรุกีก้ทีนึงแล้ว เค้าต้องมาเม้นท์ 3วัน3คืน กว่าจะจบ นี่ยังเอาอีก แง๊ๆๆ

บล็อกแก๊ง นี่ชักอยู่ยากขึ้นทุกวันแล้ว 555

เดี๋ยว อ.เต๊ะ ขอกลับ ไปทำใจก่อนนะครับ
เขียนซะขนาดนี้ ต้องโดนหนักแน่นอน
อ.เต๊ะ ไม่ปล่อยลอยนวลไปเด้ดขาดหรอกนะครับ555

โดย: multiple วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:8:48:33 น.
  
กุ้งผัดพริกเกลือเคยรีวิวไปแล้วค่ะ
"ที่นี่ค่ะ"
พริกแดงจินดาคือพริกเม็ดสีแดง ขนาดใหญ่กว่าพริกขี้หนูแต่เล็กกว่าพริกชี้ฟ้าค่ะ
โดย: เนินน้ำ วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:10:46:52 น.
  
ทำใจได้นิ้ดนึง กลับมาใหม่ เริ่มอ่านทีแรก หลงดีใจว่า

จะได้ชมธรรมชาติสวยๆ ขุนเขาทะเลหมอกอะไรเงี้ย
เผลอแผลบเดียว อาเฮียพาเข้า พิพิธภัณฑ์ อีกแระ แง๊ๆๆๆ 555

เอาฟร่ะ แต่อย่างน้อยๆ ก่อนมา ก้ยังได้สัมผัสอาหารพื้นถิ่น น้ำพริกผัก
แล้วก้ไก่ต้ม ชะตาขาด ที่น่าสงสาร 2ตัว 555

แต่จะว่าไป พิพิธภัณฑ์แม่สะเรียง ที่คุณซีริวไม่มีวาสนาได้ชมนี้ อิอิ

อ.เต๊ะ ว่าเด็ดที่สุดในแม่ฮ่องสอนแล้วละครับ
ทั้งรูปแบบอาคาร งานสถาปัตยกรรม รวมทั้งสิ่งของโบราณ เก่าแก่ที่จัดแสดงข้างใน มีคุณค่าในทางประวัติศาสตร์ มากมายมหาศาล

แต่เป็นที่น่าเสียดาย ที่มาถุกไฟไหม้ เพราะ เดินสายไฟไม่ดี เวรกรรม จริ้งๆเลยนะครับนี่

ส่วนที่เที่ยวอื่นๆ เบี้ยบ้ายรายทาง ที่คุณซีริวว่างั้นๆ
อ.เต๊ะ รีบเชื่อตามนั้นเลยละครับ ไม่ขอพุดถึงเหมือนกัน อิอิ

มาดุทีเด็ด นี่ดีฝ่า วัดพระธาตุดอยกองมู วิวบนยอดเขา มองลงมาเห็นเมืองแม่ฮ่องสอนนี่สวยงามมากมาย

แต่ที่น่าโมโห คือ ทำไมไม่เอาขาตั้งไปเนี่ยซี้
มันน่าตีให้ขาหักซะจริงๆ ห่วงแต่กินไก่ต้มอยู่นั่นแหละ เย้ย 555

อ้าวตายจริง เม้นท์เพลิน ฝืนกฏบล้อกแก้ง อีกแล้ว เค้ายิ่งห้ามเม้นทืเกิน 7 บรรทัด อยู่ด้วย

งั้นเอาไว้ต่อคราวหน้าก้แล้วกันนะครับ อิอิ






โดย: multiple วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:13:07:06 น.
  
เคยไปแม่ฮ่องสอนเมื่อ 40 ปีที่แล้วด้วยรถตู้
แต่ไปไม่กี่คนหรอก เมารถกันหมด ยกเว้นพี่
แต่พอไปถึงแม่ฮ่องสอน ไข้กินเลย ไม่รู้ทำไม
ตอนนั้นพี่ว่าทั้งเมืองของเค้ายังบ้านๆป่าๆมาก
เลยนะ ธรรมชาติเยี่ยม ตอนนี้ไม่รู้เป็นงัยแล้ว
ไว้มาตามเที่ยวอีกครั้งที่นี่

ใครจะเอาแต่ประวัติศ่าสตร์อยา่งเดียวล่ะเนอะ
เปลี่ยนรสชาติไปอย่างอื่นบ้างสิ

วัดวาอารามเหมือนในพม่านะคะ เพิ่งไปพม่ามา
ไกด์เป็นคนไทยใหญ่ เกิดและโตที่แม่ฮ่องสอน
พูดไทยแต่ก็เป็นไทยที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง

ชอบเจดีย์ประธานของวัดจองกลางจัง สวยมาก
จำไม่ได้แล้วว่าคราวที่ไปได้เห็นหรือเปล่า

ไว้กลับมาอ่านต่อนะคะ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ขอบคุณโหวตที่ให้นะคะ

สงกรานต์พี่จะเที่ยววัดในกรุงเทพฯสักสองสามวัด

สุขสันต์สงกรานต์นะคะ

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:13:53:54 น.
  
ภาพสวย บรรยายก็ดีครับ
โดย: ผู้ชายในสายลมหนาว วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:14:14:18 น.
  
สวัสดี น้อง ชีริว

วันนี้ได้อ่านเรื่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนของเธอ ตั้งแต่ ตีสี่มั้ง เพราะเมื่อคืนต้องให้คอมฯทำการกู้รูปที่หายไป ไม่รู้มือไปโดนปุ่มอะไร รูปหายไปเกือบหมด ต้องอัญเชิญลูกศิษย์สุดที่รักมาช่วยตั้งแต่บ่าย แล้วก็ใช้โปรแกรมกู้อะไรของเขา กว่าจะกู้เสร็จก็ประมาณ 4 ทุ่ม แล้วก็ต้องมาเซฟใส่ฮาร์ทดิสทั้งคืน ไปนอนก่อน ตื่นขึ้นมาตี่ 3 กว่า ยังเซฟไม่เสร็จเลย นั่งอ่านคอมเม้นท์ของเพื่อนชาวบล็อก ได้ 2-3 คน ก็ยังไม่เห็นมันจะเสร็จ อ่านของเธอได้ครึ่งเรื่อง ว่าจะให้จบ ก็ไม่ไหว เลยต้องมาอ่านตอนต่อไปตอนเย็น (ไปนอนต่อถึง แปดโมง ดีที่เกษียณแล้ว ไม่งั้นไปโรงเรียนสายแน่ ๆ อิอิ) จากนั้นก็ต้องไปเสียค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์ ไปธนาคาร ฯลฯ ออกจากบ้าน ต้องไปให้คุ้ม อิอิ กลับถึงบ้าน สี่โมงกว่า อิ่มข้าวมื้อเย็น ก็มาอ่านต่อนี่แหละ เธอกับครู นิสัยเหมือนกันนะ ไปเห็น ไปเที่ยวที่ไหน เราก็พยายามศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสถานที่ที่เราไปพบ ไปเห็นมา มาอธิบายให้ความรู้เพิ่มเติม (เอ็งจะอ่านหรือไม่อ่าน ไม่สน อิอิ สังเกตได้นะ ใครได้อ่านอย่างจริงจัง อ่านทุกตัวอักษรหรือไม่ ห้าห้า เราอยากจะให้ความรู้ ก็จะเขียนมให้เต็มสตรีมของเราอย่างนี้แหละ ห้าห้า )เธอนี่ น่าจะเป็นครูนะ เด็ก ๆ คงได้ความรู้จากเธอมากทีเดียว
แม่ฮ่องสอน ครูเคยไปอยู่น่าจะ 2-3 ครั้ง ครั้งแรก ไปกับเพื่อนครูด้วยกัน เมื่อประมาณน่าจะ 40 ปีได้นะ จำได้อยู่แห่งเดียวที่เธอเอ่ยถึง คือ พระตำหนักปางตอง จำได้ว่า เดินกันขาลากเหมือนกัน แต่ก็ภูมิใจ เราเดีนไปถึงเนินหญ้ากว้างใหญ่ ปักธงไทยไว้ แสดงให้เห็นว่าพวกเรามาพิชิต ปางตองได้สำเร็จแล้ว มีการถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกับธงชาติไทยด้วย ไปแม่ฮ่องสอนครั้ง 2-3 ไปเพื่อนำสิ่งของไปเยี่ยมโรงเรียนน้อง โรงเรียน ต.ช.ด. (ที่เท่าไรจำไม่ได้) ซึ่งเป็นโรงเรียนบนเขาสูง เด็ก ๆ น่าจะเป็นเด็กชาวเขาทั้งหมด เห็นแล้วน่าเห็นใจมาก เสื้อผ้าที่ใส่มอมแมม มาก ทหารชายแดนเหล่านี้ เป็นครูไปในตัวด้วย ถ้าครูเป็นผู้ชายนะ อยากอาสาไปสอนหลังเกษียณ คงได้บุญเยอะ อิอิ ไปราชการแบบนี้ ไม่ได้เที่ยวอะไร ค้างที่นี่ 1 คืน ก็ต้องกลับแล้ว เท่ากับไป-กลับ 3 วัน เหนื่อยมาก ถ้ามีโอกาส จะไปเที่ยวอีก เธอโชคดีที่มีรถและไปกับครอบครัว ดูอบอุ่นมากเลยนะเนี่ย กำลังขำ ทำไมปล่อยให้น้องชายแซงหน้า มีน้องสะใภ้ ไปก่อนล่ะ ห้าห้า
ถามครูว่า มีพี่น้องกี่คน ก็น่าจะประมาณ 6-7 คนนะ เสียไปแต่เด็กก็หลายคน ที่รอดมา ทันเห็นหน้าเห็นตา ก็เพียง 5 คน พี่สาว พี่ชาย แล้วก็ครู ตามด้วยน้องสาว และน้องชาย ปัจจุบันเหลือ น้องชายเพียงคนเดียว แยกครอบครัวไปแล้ว ส่วนคนอื่น ๆ เขาก็ไปสบายแล้ว ห้าห้า เหลือแต่เรา นี่แหละ ที่ยังต้องใช้เวรใช้กรรมกันต่อไป คริคริ
ถามว่า โคลงสี่สุภาพที่ยกมาอ้างอิง (ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง) เป็นโคลงที่อยู่ในลิลิตพระลอ ซึ่งเป็นวรรณคดี เรื่องเอก เรื่องหนึ่งของไทยที่ได้รับการวิจารณ์ทั้งแง่บวกและแง่ลบ มากมายเหมือนกัน เป็นวรรณคดี ที่ได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสร ว่า เป็นยอดแห่ง วรรณคดี ลิลิตสุภาพ จ้ะ และก็ยังเป็นปัญหาในเรื่องของสมัยที่แต่ง นักวิจารณ์บางคนว่า แต่งในสมัยบพระบรมไตรโลกนาถ บางคนบอกว่า แต่งในสมัยของ พระนารายณ์มหาราช ถ้าเธออ่านเต็มฉบับได้ เธอจะเห็นภาษาในสมัยนั้น โดยเฉพาะภาษาทางเหนือ เชื่อว่า เป็นเรื่อง ที่เกิดขึ้นที่เมืองสอง จังหวัดแพร่ ภาษาค่อนข้างยาก ศัพท์ยาก ดูเหมือนมีคนถอดความเป็นร้อยแก้วด้วยนะ วันนี้คุยยาวเลย คงไม่เบื่อชะก่อนนะ อิอิ
(บิณฑบาต ตัวบาต ไม่มี ร จ้ะ จำไว้ว่า ตอนเราใส่ บาตร มี ร ตามมา ตอนพระมารับของใส่บาตร ไม่มี ร ตามมา บิณฑบาต )
ขอบใจที่ชมรูปครูเมื่อสมัย 40 ปี หน้าตาครูไม่เปลี่ยนไปเท้่รไร อิอิ เป็นไปไม่ได้หรอก สมัยนั้น น้ำหนักครูประมาณ 40 ตอนนี้ปาเข้าไป 50 กิโลได้แล้วมั้ง อ้วนมากโดยเฉพาะพุง ห้าห้า
โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:20:41:41 น.
  
เป็นทริปที่ดีทริปหนึ่งเลยครับ เก็บแม่ฮ่องสอนได้เยอะเลย ปลายปีวางแผนจะไปมั่ง
โดย: ไอฟายน้อย (Ces ) วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:21:10:13 น.
  
อ่านเพลินเลยค่ะ ... บรรยายสนุกดี :D พี่ขำที่ว่าสงสัยไก่ต้ม มาจากไก่ที่เห็นเดินเมื่อวาน ? 55

แม่ฮ่องสอน พี่ก็ไม่เคยไปซักทีค่ะ สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นวัดกับถ้ำนะคะ ยังมีกลิ่นอายของธรรมชาติ ความเรียบง่ายเยอะเลยเนาะ พี่ชอบแบบนี้นะ ขับรถไปเรื่อย ๆ พักที่นั่น ที่นี่ .. หาของอร่อยกินกันไป ฝันอยากทำแบบนี้ซักวัน แต่คนที่บ้านพี่นี่ ติดบ้านสุด ๆ ถ้าไป สงสัยต้องอำลาไปคนเดียว 55 ..

วัดหัวเวียงสวยจังค่ะ ศิลปะออกไปทางพม่าเนาะ .. การแต่งตัวของเจ้าเมืองสมัยก่อน ก็ดูคล้าย ๆ ถ้ำผีแมนก็ดูแปลกตาดี


มีความสุขกับเทศกาลวันสงกรานต์นะคะ ขอให้ไม่ร้อนมากค่ะ :)

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog
โดย: Tristy วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:22:06:21 น.
  
แว๊กกกก เปิดมาเจอเรื่องเล่าอ่านกันยาว....เลยจร้า
แต่เจอะคำผิดด้วยน๊า...มะได้จับผิดแต่เห็นคำแรกที่อ่านคร้า
ทิปตุรกี งัย สะกดแบบนี้ป่ะ ทริป !

เราอ่านไปพร้อมชมภาพไป คุณชีริวเขียนบรรยายได้ดีในสไตล์ตัวเอง
ยาว แต่อ่านเพลิน สรุปลงตัว เหมือนเราได้อ่านสคริปนำเที่ยว
ที่เคยชมผ่านทางทีวีเลยอ่ะ...เรายังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยว ตปท.
เราเลยชอบดูเขาพาเที่ยว ตปท.ทางทีวี เดี๋ยวนี้สนุกชมตามแล้วอยากไปเองด้วยเลย

ก็เหมือนทริปแม่ฮองสอน ที่คุณชีริวนำเที่ยว...เรายังไม่เคยไปถึงที่นี่จ้า
เพราะกลัวการเสี่ยงชีวิตกับเส้นทางโค้งพันแปด+โค้งอ่ะคร้า
แค่นั่งรถจากน่านไปถึงเชียงราย ยังกลัวและตื่นเต้นไปตลอดทาง

แม่ฮองสอนเดี๋ยวนี้จัดให่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากๆที่อยากตามรอยด้วยคะ
ชมรีวิวได้สาระครบรสหมดทั้งที่พัก-เส้นทาง-อาหาร-สถานที่ท่องเที่ยว เยี่ยมเลย
บล๊อคเกอร์ไกด์ชีริว เขียนหมวดท่องเที่ยว...ผ่านจร้า


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
The Kop Civil Sports Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog

ปล. ยังงัยเด็กปืนก็ยังมีเฮ...ติดท้อป 3 อยู่ตอนนี้แล้ว
ทีมรักของเรา ยังลุ้นงานหนักอยู่ แม้หลังๆจะทำผลงานดีขึ้นๆจร้า
โดย: Tui Laksi วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:22:53:39 น.
  
โห้ววว คุณเอ็มพาเที่ยวได้สะใจมาก
จำได้ไม่หมดว่าจะเม้นอะไร พอเจอตรงนั้นก้อจะเม้นยังงี้ พออ่านๆ ไปอีกก้ออยากเม้นนู่นนี่นั่น สรุป ลืมหมดเมื่ออ่านจบค่ะ
ปางอุ๋งเนี่ย ได้ยินตำร่ำลือมากจริงๆเลยนะคะ เพิ่งรู้หลักของความดัง ยังงี้นี่เอง
อ่ อ คุณเอ็มไม่อัพตะพาบหรอมมมม...
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:1:13:56 น.
  
รูปสวยๆ ทั้งนั้นเลย น่าไปมากค่ะ
โดย: sawkitty วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:19:32:13 น.
  
โหวตท่องเที่ยวค่ะ
พี่มาอ่านใหม่นะ
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:19:40:14 น.
  
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Food Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
คนหัวฟู Travel Blog ดู Blog
The Kop Civil Sports Blog ดู Blog
sawkitty Travel Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


อ่านแล้วอยากตามเลยค่ะ
แม่สะเรียงบ้านเพื่อนอยู่ใกบ้ริมน้ำเมย เขาโพสต์รูปทีนี่อยากหนีตามเที่ยวเลนค่ะ
ป่าสนยังไม่เคยไปค่ะ ฝนนี้คิดว่าอยากไปให้หายอยากค่ะ
แม่ฮ่องยังไม่เคยไปค่ะ หมายถึงในเมืองค่ะ
ปายไปกี่ทีก็ไม่ดบื่อจริงค่ะ เห็นรูปแล้วคิดถึงปายค่ะ

ลำพูนได้เจอแม่โมแน่ค่ะ แต่ขอฝนมาสักสี่ห่าค่อยไปค่ะ ร้อนเกิน

ขอบคุณสำหรับโหวตนะคะ

โดย: mariabamboo วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:20:37:44 น.
  
อ่านแล้วหลาย "ค่ะ" จริงค่ะ
แหะ ๆ
โดย: mariabamboo วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:20:38:52 น.
  
ตามมาเที่ยวแม่ฮ่องสอนด้วยจ้า
น้องซีริว คำพูดอย่าเปลี่ยนดีกว่ามั๊งมันไม่ต่างเลยอ่ะ 55555
โดย: zungzaa วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:20:45:54 น.
  
วันนี้ก็เพิ่งไปเดินห้างมาครับ
พาหมิงหมิงไปซื้อหนังสือ
ได้มาเพียบเลย

ปล. หงส์ไม่ได้แชมป์เราก็เชียร์
เชียร์ไปเรื่อยๆ
เราไม่เหนื่อย เราไม่เครียด 5555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:22:16:05 น.
  
มาเที่ยวด้วยคนครับ
มาบล็อกนี้บล็อกเดียวของคุณชีริว ได้ข้อมูลเกือบครบครับ
ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ยังไม่เคยไปแม่ฮ่องสอนครับ
ชวนใคร ก็ไม่มีใครไป (เค้าไปกันหมดแล้ว)
เลยต้องชวนกันในครอบครัวครับ ไม่ต้นหนาวนี้ ก็ปลายหนาวนี้ครับ
ชีริว Travel Blog ดู Blog
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:23:10:54 น.
  
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
หอมกร Movie Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

มาจัดแระ
โดย: Close To Heaven วันที่: 12 เมษายน 2559 เวลา:23:53:48 น.
  
สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 เมษายน 2559 เวลา:6:37:09 น.
  
การเมืองบ้านเราน่าปวดหัวเนอะ
หลายเรื่องไม่ถูกต้องแต่ไม่มีใครทำอะไรได้
เพราะคนต้นเรื่องใหญ่เกิ๊นนนนน
ประเทศเลยต้องจมปลักอยู่แบบนี้
อืมม พูดเรื่องนี้แล้วความดันขึ้นรัวๆ
ว่าแล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ดีกว่า อิอิ
สุขสันต์ปีใหม่ไทยจ้า

ขอบคุณที่แวะชมใบไม้ด้วยกัน

โดย: mambymam วันที่: 13 เมษายน 2559 เวลา:6:45:52 น.
  
สวัสดีปีใหม่ไทยค่า
โดย: mariabamboo วันที่: 13 เมษายน 2559 เวลา:8:26:02 น.
  
เอ้า เอ้า มาขำชื่อเมนูพี่ซะงั้นเนาะ
จะบอกความลับให้ว่า พวกสูตรสำเร็จน่ะมันแค่สะดวกแต่อร่อยสู้เราปรุงเองไม่ได้หรอกจ้า 555
สงกรานต์เที่ยวไหนคะ ขอให้เปียกนะค๊า
โดย: เนินน้ำ วันที่: 13 เมษายน 2559 เวลา:11:03:04 น.
  
ว้าวๆ มีมะนาวด้วย อิอิ

พระท่านสงบดีครับ เป็นผมมีด่า มาถ่ายรูปทำไม!! ล้อเล่นน่ะครับ 555

ไปตอยบูรณะอยู่ก็ดีไปอย่างครับ ได้ภาพแบบที่คนอื่นไม่ได้ แปลกตาดี ผมเจอบ่อยนะครับ ไปวัดไหนวัดนั้นซ่อม

พระนอนที่เห็นศิลปะออกไปในทางพม่าเลยครับ ในส่วนของวิวมีการเปรียบเทียบกลางวันกลางคืนด้วย มันก็สวยต่างกันไปนะครับ

อาหารยูนนานที่ไทยผมไม่ค่อยอินแหะ ตอนอยู่ที่นั่นไม่ได้แยกว่าเป็นอาหารยูนนานโดยเฉพาะด้วย

เดี๋ยวๆ มีคอสเพลย์ด้วยเหรอ!!
ร้านกาแฟ Coffee in Love ต้องยอมรับว่าดังจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นสัญลักษณ์ไปตั้งแต่เมื่อไหร่เหมือนกัน

สุขสันต์วันสงกรานต์นะครับ



ชีริว Travel Blog
+
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 เมษายน 2559 เวลา:16:46:40 น.
  
555 รู้สึกว่าทริปนี้ คุณซีริว จะพลาดทุกสิ่งทุกอย่างเลยนะครับนี่

ไล่มาตั้งแต่ จะถ่ายภาพแสงสียามราตรี แม่ฮ่องสอน ก็ลืมเอาขาตั้งไป

เช้าจะไปกิน โจ๊กเสวย เค้ารู้ว่า ซีริวจะมาเลยรีบปิดร้านหนีไปก่อน แฮ่ๆ

พอจะไปปางอุ๋ง ชมทะเลหมอกแสนสวย ก้ไปสาย ตลาดหมอกวายซะงั้น 555

ที่พอจะทำคะแนนเพิ่มได้บ้างก็ตรงได้หม่ำ ขาหมูหมานโถว ร้าน จี๋หลี้ นี่แหละ แต่ไม่น่าไปสั่งสุกี้เลยเนอะ

แล้วก้แหม ไปเที่ยวทางเหนือนี่ มันสนุกตรงขับแรลลี่ ดริฟไปตามโค้งบนเขา นี่แหละ ไปปางมะผ้า อุตสาห์มีโค้งให้เทตั้ง 4000 กว่าโค้ง

ซีริว ไม่เอาซะงั้น นั่งอ้วกคอโก่งลูกเดียว น่าจะช่วยน้องดริฟซักหน่อย ก้ไม่มีเล้ย ดูซิคนเรา 5555

แต่ที่ อ.เต๊ะ ชอบมากตรงซีริว พาไปที่ชอบ เย้ย
ที่อับชื้น มืดๆสลัวๆ แบบถ้ำลอด นี่แหละ อเมซิ่ง จิงเกอเบลล์มากๆ ยอดไปเลย555

เอ้า เอาอีกแล้วเม้นท์เพลินเกิน 7 บรรทัด เดี๋ยวคุณซีริว จะท้ออ่านไม่ไหว งั้นโปรดติดตามตอนต่อไป

ซีริวถล่มปายยยย 5555



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

ชีริว Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: multiple วันที่: 13 เมษายน 2559 เวลา:18:40:15 น.
  
พี่อยากไปทางเหนือ หรือไม่ก็ลงทะเลค่ะ ... แต่ส่วนใหญ่จบลงที่กรุงเทพ กับที่บ้าน แหะแหะ ... มีโอกาสกลับทีส่วนใหญ่เป็นช่วงเดือน มิ.ย. ร้อน ๆ เธอไม่อยากกระดิกไปไหนกันเลยค่ะ :D
โดย: Tristy วันที่: 13 เมษายน 2559 เวลา:21:41:23 น.
  
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะคุณชีริว...

มีความสุขมากๆนะคะ
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 13 เมษายน 2559 เวลา:23:57:31 น.
  
ทริปเที่ยวปีใหม่แค่ 4เดือนเองไม่นาน ถ้าบอกว่าตั้ง4เดือนอันนี้นานจริง(จะบ้าเรอะ!)
มาตรงกับช่วงปีใหม่ไทยพอดี ตั้งใจป่าวเนี่ย ^^ ไม่มีภาพซากอิฐก็เหมือนมาไม่ถึงบล็อกชีริวน่ะสิ
งั้นกลับดีกว่า เพราะคงมาไม่ถึงแน่ๆแล้ว ชีริวเปลี่ยนไป ไม่นะช่วยกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย ไม่ชินไงคุณ (55555)



มาฮอดแล้ว ดูปลื้มปลิ่มกับไก่มากนะ ลูกเจี๊ยบน่ารัก แต่พอโตเป็นไก่เลยต้องถูกต้ม (น่าอร่อย ไม่สิน่าสงสารเนอะ อิอิ แต่เราชอบไก่ทอดมากกว่านะคุณ)
ชอบมะนาวผลใหญ่ได้อีก เส้นทางคดเคี้ยวหฤโหดแค่ไหน
ก็ไม่ส่งผลกับกับอาหารที่ต้องกินสินะ(เห็นบอกภาคบังคับ)
ชอบสวนสน สวยจริงๆ น่าเสียดายพิพิธภัณฑ์แม่สะเรียงมากเลย
ไม่งั้นบล็อกนี้คงยาวกว่านี้(ไม่ใช่แระ) จะบอกว่า จะได้ชมภายในพิพิธภัณฑ์แม่สะเรียงโดยไม่ต้องไปเอง เพราะชีริวคงจัดเต็ม(รึเปล่า)
จุดชมวิวเมืองแม่สะเรียงสวยงามตามท้องเรื่อง
งั้นปักหมุดไว้ตรงจุดชมวิวนี้ละกัน 555
ไว้มาเที่ยวต่อคราวหน้านะคุณ

โดย: NENE77 วันที่: 14 เมษายน 2559 เวลา:0:53:22 น.
  
สุขสันต์วันครอบครัวจ้ะ น้องชีริว

สงกรานต์ไปเที่ยวไหน นำมาอัพบล็อก นะจ๊ะ อิอิ
ครูอยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ เพราะร้อนมาก ขนาดเมื่อวาน ลูกศิษย์มารดน้ำดำหัวและไปทานข้าวกัน ในรถแอร์เย็นดี พอออกจากรถ ฮะฮ้า อย่าบอกใคร ร้อนเหมือนผิวจะไหม้ อิอิ
โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 14 เมษายน 2559 เวลา:13:45:09 น.
  
สวัสดีอีกรอบค่า

พี่เรียงลำดับตามที่เค้าพากินจริงเลยค่ะ ซูชินี่เค้าพาไปเป็นร้านสุดท้ายซะงั้นน่ะนะ แหะๆ

ซีริวลืมเลือกร้านอ้ะ ร่วมสนุกมั้ย เผื่อได้เวาเชอร์ตอนสุ่มอะจ้า
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 14 เมษายน 2559 เวลา:16:42:09 น.
  
ชีริว Travel Blog ดู Blog
พญาพิศาลน่าสงสารนะ มีรูปถ่ายตอนชรา เลยดูหมองที่สุด

โดย: หอมกร วันที่: 14 เมษายน 2559 เวลา:21:13:41 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับน้องชีริว

บทกวีนี้
จริงๆเขียนเป็นเนือ้เพลงครับ
เพียงแต่มีสัมผัสเหมือนกลอนน่ะครับ

ภาพชุดนี้มาจากวัดบวกครกหลวง
อายุประมาณ 100 กว่าปี
ฝีมือช่างจีนครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 เมษายน 2559 เวลา:22:42:15 น.
  


ปีใหม่ไทยนี้ขอให้คุณชีริวและครอบครัวเย็นกายเย็นใจไปทั้งปี
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่า
โดย: haiku วันที่: 14 เมษายน 2559 เวลา:23:40:01 น.
  
แวะมาสวัสดีปีใหม่ไทยค่ะคุณเอ็ม

ปีนี้ร้อนเกินไป ไม่ไหวจะออกจากบ้านกันเลยทีเดียว อิอิ

โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:0:37:39 น.
  
ภาพจากบล็อกครับ

โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:0:55:51 น.
  
มอร์นิ่งงงงงงงง
มาชวนไปกินส้มตำค่าาาาาาาา
โดย: เนินน้ำ วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:6:13:35 น.
  
สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:6:37:07 น.
  
ที่บ้าน อ.เต๊ะ มีไม่กี่คน และก้เป็นวันครอบครัวเสมออยู่กันพร้อมหน้าตลอด เช็คชื่อมาครบทุกคนเลย555

แถมอ.เต๊ะ ทำงานน้อย วันหยุดแยะด้วย แต่ว่างยังไงก้ไม่อัพบล็อกนะครับ เอากะมันซี้ แฮ่ๆ

ส่วนเรื่องบล็อกไม่สนุกนี่ สำหรับ อ.เต๊ะ ไม่มีปัญหาอะไรเลย
เดี๋ยว อ.เต๊ะ หาทางเม้นท์ให้สนุกจนได้แหละครับ อย่างบล้อกนี้เป็นต้น เย้ย อะเค้าล้อเล่นน้าาาา แต่ช้าแต่ 555

มาต่อเรื่องปายกันดีฝ่า นี่ขนาดไม่มีธุระกับปาย ยังแวะซะจนน้ำมันหมดเลยนะครับ ถ้ามีธุระละก้ไม่อยากจะนึกเล้ยย อิอิ

ที่ปายนี่ อ.เต๊ะ ชอบ ทะเลหมอกหยุนไหล บรรยากาศดีจัง แต่เห้น แจ็ค สแปโรคืแล้วขัดใจ ทำไมไม่เอาของไทยๆมาแต่งมั่ง อย่างแก้วหน้าม้า ผีเสื้อสมุทร ชูชก อะไรเงี้ย อิอิ

ซีริวบอก ร้านเค้า คงจะขายดีเป้นเททิ้งเลยมั้ง ถ่ายรูปคู่กับชูชกเนี่ย ไอ้บร้า 555

ส่วนลำปางนี่ ไฟยามค่ำคืนสวยจัง ดุๆแล้ว คิดว่าน่าจะใช้งบน้อยกว่า กทม. แหงๆ คงซัก38.99 ล้าน น่าจะได้ 555

เฮ้อ เย้ๆๆๆ เม้นท์จบแล้วดีใจสุดๆ บล็อกซีริวนี่ อ.เต๊ะ เม้นท์ให้ยาวมากๆ 3ตอน มากกว่าเม้นท์ให้สาวๆอีกเดี๋ยวนี้

แต่อย่าคิดว่า อ.เต๊ะ มีใจให้นะครับ เค้าแค่กำลังสับสนอยู่แค่นั้นนะตะเองงง เย้ย 555

ปล.สงกรานตืนี้ คุณซีริวกรุณาอย่าออกจากบ้านไปเที่ยวไหนเลยนะครับ สงสาร อ.เต๊ะมั่งเหอะ ขอร้องละครับ แฮ่ๆ555





โดย: multiple วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:8:42:40 น.
  
สงกรานต์ปีนี้เงียบจริงๆ แถวบ้านไม่ค่อยออกมาเล่นน้ำกันเท่าไหร่
เลยนดูหงอยๆไป คิดว่าอาจจะออกตจว.กันเยอะด้วยนะ
อยู่บ้านคงไม่ไหว เพราะร้อนมหาโหดจริมๆ

โดย: mambymam วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:8:54:18 น.
  
สวัสดี น้องชีริว

แวะมาทักทายตอนสาย ๆ จ้ะ ซื้อทัวร์ไปลังกาวีแล้วเหรอ
ปลายเดือน เมษา คงร้อนมากแน่ ครูไปมกราคม ยังร้อนมากเลย อิอิ แล้วจะรออ่านนะ
ถ้ามีโอกาส ครูก็อยากให้เธอไปเที่ยวเรือสำราญสักครั้ง เพราะมันเป็นประสบการณ์ที่แปลกไปอีกรูปแบบหนึ่ง เหมือนยกสิ่งต่าง ๆ บนบกไปไว้ในเรือเลย อิอิ
โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:10:03:20 น.
  
สวัสดีอีกรอบจ้าา

รับทราบครับซีริว งั้นเอาไว้คราวหน้าเนาะ แฮ่..
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:11:05:26 น.
  
อะไรนะ! เขียนบล็อกเลท 4 เดือน! โห~ ทำไปได้
สมควรได้รับเสียงโห่เกรียวกราวจริง ๆ (เข้าตัวอีกแล้ว :P)

.....

ช่วงเวลาวันหยุดเทศกาลนี่ผมไม่ค่อยอยากไปไหนเลยครับ
เข็ดขยาดกับการเดินทางมาก ๆ ไหนจะต้องแย่งกัน/เที่ยวอีก
(อยากฝึกคาถาลูรา หรือวิชาเคลื่อนย้ายชั่วพริบตาจริง ๆ >_<)
สรุปว่าอยู่มันใกล้ ๆ บ้านนี่แหละ (ประหยัดด้วย จนอะ :P)

ทริปนี้ของคุณชีริวนี่ดีนะครับ ที่ไม่ได้ไปช่วงเทศกาลเหมือนชาวบ้าน
เพราะทางไปแม่ฮ่องสอนนี้ค่อนข้างโหดเลย
ถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นรถคงติดขัด คงลำบากไม่น้อย ^^"

เห็นพูดถึงเรื่องบ้านพ่อน้องสะใภ้เกษตรกรนี่ผมเข้าใจเลยล่ะครับ
(บ้านแม่ผมก็เกษตรกรเหมือนกัน ชาวนาชนบทขนานแท้ @_@)
บ้านญาติผมอยู่เชียงใหม่เค้าก็ปล่อยผลลำไยค้างคาต้นนั่นแหละ
ก็ราคาพืชผลการเกษตรมันต่ำติดดินอย่างงี้ เก็บเองยังไม่คุ้มเลย
ชาวเมืองโลกสวยที่ให้ชาวบ้านท่องคำว่าพอเพียง
กับข้าราชการกินเงินเดือนในส่วนกลางที่ออกนโยบายไม่รู้หรอกว่า...
ราคาพืชผลตกต่ำมันคืออะไร และส่งกระทบอะไร
ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของ "ผู้คนจริง ๆ" อย่างไรบ้าง
คนในท้องถิ่นเค้าถึงไปจากบ้านเพื่อหางานในเมืองไง T^T

เอ๊ะ! นี่ผมมาบ่นอะไรยืดยาวในบล็อกท่องเที่ยวเนี่ย
งั้นขอเขียนอะไรสั้น ๆ เกี่ยวกับเรื่องท่องเที่ยวจั๊กหน่อยแล้วกันนะ
(อ้าว~ ไหงเป็นงั้นล่ะ 55)

.....

โดยรวมแล้วแม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่น่าเที่ยวมากครับ
สิ่งที่ผมชอบมากเป็นพิเศษคืออะไร ๆ ที่เป็นธรรมชาติแหละ
แต่ผมไม่ชอบป้ายดอยกิ่งลมหลากสีอะไรนี่เลย
เหมือนมีไว้ให้คนถ่ายรูปงั้น ๆ (มันน่าจะตั้งในสวนสนุกมากกว่า ^^")
สถานที่แต่ละที่มันต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใครดูแล้วก็รู้สิ
ถ้าไม่มีป้ายนี้แล้วกลัวคนไม่รู้ว่า "เนี่ย~ดอยกิ่วลมนะ" ผมก็ไม่ไปดีกว่า

อืม~~~ ไม่รู้ผมขวางโลกไปหรือเปล่านะ
สงสัยอากาศร้อน โรคพิษสุนัขกำเริบมั้ง 55

โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:11:12:41 น.
  
เจอคุณทุเรียนแววแบบนี้ แล้วผมจะกล้าอัพบล็อกท่องเที่ยวมั้ยล่ะนั่น แหม่....แซวไปได้


ชื่อไม่น่าจำจริงๆ น่ะแหละครับ ถ้าตอนนั้นนึกชื่อออกผมคงตอบไปแค่ว่า จอมมารนักเศรษฐศาสตร์ แค่นี้พอ

จริงๆ มันยังมีด๋อยนักอ่าน หรือพวกที่ทำงานเกี่ยวกับหนังสือ หรือพวกมันสมองอีกหลายตัวนะ ไว้ค่อยๆ เอามาเล่นอีก
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:11:18:38 น.
  
ขอบบคุณสำหรับโหวตนะคะ
แม่โมรอบล๊อกใหม่คุณซีริวนะคะ

รูปสุดท้าย เป็นกาวติดมือโมเสสค่ะ
ปีใหม่ปีนี้ไม่ค่อยเห็นแป้งนะคะ สงสัยจะรณรงค์จนหมดไปแล้ว
อักษรไม่ใช่ศีลธรรมค่ะ มันคืออักษรถนอมสายตา แม่โมกลัวผู้อ่านจะเป็นตากุ้งยิง และอ๊วกพุ่งค่ะ 555 เลยได้เซนเซอร์ไว้ เฮ้อ

สวัสดีปีใหม่ไทย ขอให้คุณซีริวมีความสุข สมบูรณ์ทุกด้านนะคะ
โดย: mariabamboo วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:11:35:06 น.
  
เชอะ! ก็ไม่ได้กะว่าจะผ่อนจ่ายเม้นอะไรนะคู๊ณณณณ ก็วันนั้นมาดึกแล้วนี่นา มันง่วงอ่ะ (เหตุผลตื้นๆงี้แหละ)
คืออ่านเกินเจ็ดบรรทัดแล้วด้วย เลยยิ่งง่วงหนักด้วยไง 55 ก็รู้ๆกันอยู่ว่าอะไรยังไง เชอะ!
แต่ก็นะจริงแล้วบล็อกนี้ก็ไม่ได้ยาวมากนะ ก็ปกติของตาชีริวอยู่แล้วไม่ใช่เรอะ!
( เคๆ อัพบล็อกสั้นไม่เท่ ยาวๆถึงจะเท่สินะ เคๆยอมๆให้ก็ได้ พ่อคนเท่ )
จริงเเล้วกะว่าจะเม้นให้เสร็จๆไปทีเดียวนี่แหละ ไม่ชอบอะไรที่ค้างคาหรอกน่า
ไม่ชอบผ่อนจ่ายเท่าไหร่ด้วย เสียดายดอกเบี้ย แต่ถ้า0% นี่ก็ไม่แน่^^



หลังจากอรัมภบทไปหลายบรรทัดแล้ว หลังจากปักหมุดที่จุดชมวิวจนรู้สึกเบื่อเเล้ว ก็ไปเที่ยวต่อเลยเถอะ ^^
วัดถ้ำพระโบราณ แต่กลับไม่มีพระโบราญเพราะถูกขโมย ไม่ดีเลยเนอะแบบนี้ (พระเก่าๆราคาคงไม่น้อย !!)
ส่วนถ้ำแก้วโกมลก้น่าเสียดายที่ให้ถ่ายภาพไม่ได้ แต่ชอบชื่อถ้ำผลึกแคลไซต์แม่ลาน้อย มากว่านะ เท่กว่ากันเยอะ 55
ทริปเที่ยวช่วงปีใหม่ก็ดีตรงที่อากาศไม่ร้อนนี่แหละ แต่ถ้าหนาวมากเกินก็ไม่ไหวเหมือนกัน
ปางอุ๋งเห็นตามเว็บแนะนำแหล่งท่องเที่ยวแล้วสวยมากจริง ต้องชมฝีมือคนถ่ายภาพจริงๆ
มีหมอกก็เลยช่วยภาพวิวทิวเขาดูสวยขึ้นเยอะเลย ถนนคนเดินคือจะแนวเดียวกันเกือบทุกที่อยู่แล้วเนอะ
ปายก็กลายเป็นที่เที่ยวยอดฮิตไปแล้ว ก็ดีในแง่ส่งเสริมให้คนเที่ยวไทย
เป็นการเที่ยวที่ครบเครื่องทริปนึงเหมือนกันนะ
ได้ไหว้พระ ทำบุญ ได้มีลุ้นกับการเดินทางและหาที่พัก
มีวิวสวยๆให้ชมทั้งกลางวันกลางคืน สวยงามตามท้องเรื่อง
(แต่ไม่มีแมว แถวนั้นเค้าไม่เลี้ยงเเมวกันเรอะ 555 )
ถึงไม่มีซากอิฐแต่ก็มีเสาหินให้ชม ก็พอแทนกันได้
จุดชมวิวดอยกิ่วลมถ้าไม่มีตัวหนังสือสีรุ้งจะดูดีกว่านี้
ดูบดบังธรรมชาติที่สวยงามยังไงไม่รู้
จบทริปด้วยงานปีใหม่ลำปางที่แสงสีจัดเต็มมากมาย ก้สวยงามอีกแล้ว
บรรยากาศหนุกหนานสมกับเป็นช่วงเทศกาลแห่งความสุข
โดยรวมก็ถือว่าคุ้มค่ากับการเดินทางที่หฤโหดนะ ไม่งั้นคนคงไม่เที่ยวกันเยอะแยะ จนที่พักแพงหรอก555
แต่ดีนะที่ได้พักที่ราคาถูกลงจาก 6 พัน -1 หมื่นเป็นหนึ่งพันได้

เที่ยวจบซะที ก็เพลินๆกับวิวสวยๆกันไปจ้า

โดย: NENE77 วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:12:35:58 น.
  
ดองบล๊อกเหรอเนี่ยยย
โดย: Close To Heaven วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:20:55:28 น.
  
สวัสดีค่ะคุณชีริว...

พระพุทธสิหิงค์ มี 3 องค์ในประเทศไทย

1.ในกทม..ในพระบรมมหาราชวัง...2.ที่วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่

3.ที่วัดพระธาตุไชยา จ.นครศรีธรรมราชค่ะ

ในเทศกาลสงกรานต์ จะอัญเชิญออกมาสรงน้ำค่ะ

หรือมีเทศกาลสำคัญๆ จะออกมาแห่ค่ะ..
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:21:08:54 น.
  
"มีข้าวต้มรสชาติเหมือนอาหารคุกขาย"
555555555555555555555555555
ขอหัวเราะก่อนจะโหวตสักหลายๆฮานะ ขำอ่ะ

อ่านเพลินเลยค่ะ
ไปแม่ฮ่องสอนมาต้นเดือนกุมภาที่ผ่านมา
มาทางปางมะผ้าเลยทีเดียว ยืนจอดรถอ้วกนับโค้งได้เลย
เข็ดล่ะ คราวหน้านั่งเครื่องไปลงแม่ฮ่องสอน
แล้วเช่ารถมอไซด์หรือรถยนต์แถวนั้นเอาน่าจะดีกว่า

พี่ชอบบ้านรักไทยนะ
เดินรอบเลย ยิ่งแถวโรงเรียนข้างบนๆๆ
กับหมอกฟูฟ่องตรงเขื่อนในหมอกด้วยนะ
ประทับใจ
โดย: สวนดอกไม้ในความเดียวดายของเธอ วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:23:24:24 น.
  
อุ๊ยยยย ไปกินพายมาแล้วเหรอ
กินเผื่อเค้าป่าวตะเอ๊ง
โดย: Close To Heaven วันที่: 16 เมษายน 2559 เวลา:10:28:40 น.
  
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ
หนองจองคำ สวยมากๆเลยค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
moresaw Funniest Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
mambymam Music Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
Close To Heaven Parenting Blog ดู Blog
haiku Fanclub Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้
โดย: Raizin Heart วันที่: 16 เมษายน 2559 เวลา:23:02:38 น.
  
สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 เมษายน 2559 เวลา:6:26:10 น.
  
จนแล้วจนรอด เพิ่งจะได้แอดวันนี้ ขออภัยสว.
หลงๆลืมๆแล้วจิก๊าบบบบ

วันนี้มาตามเที่ยวต่อ สองอย่างที่ต้องทำเวลาไป
ต่างถิ่นนอกจากดูบ้านดูเมือง ป่าเขาลำเนาไพร
และวัฒนธรรมแล้ว ก็คือ ไปดูตลาดและชิมอาหาร
พื้นเมือง คำสองคำพอรู้รสก็ยังดี ยิ่งถ้ามีคนพื้นเมือง
ชวนกินอะไรสักอย่าง ต้องพยายามกินแบบอร่อย
มากเลยแหละ อิอิ

แล้วตกลงโจ๊กเจ้าอร่อย เค้าปิดเฉพาะวันนั้นหรือ
ปิดกิจการไปเลยคะ

ลำใยกิโลละ 6 บาทเนี่ย น่าปวดใจแทน คนกลาง
มากมายหลายขั้นตอนชุบมือเปิบไปเยอะจนมาถึง
คนกิน ราคาแสบทรวงมาก สงสารคนปลูก มะนาว
ลูกใหญ่น้ำเยอะนั่นอยากปลูกมั่งจัง

ยังจำถ้ำแก้วโกมลได้ ชอบมาก

จขบ.ช่างเล่านะคะ ชอบอ่าน แต่สายตาไม่อำนวย
ต้องซูมถึง 150 จึงจะได้ตัวหนังสืออ่านได้พอดีและ
บรรทัดและภาพไม่เกินจอ วันนี้แอดสำเร็จแล้ว
ได้มาอ่านต่อเรื่อยๆ อยากอ่านให้หมด ตอนนี้ดูภาพ
ได้สองรอบแล้ว ต่อไปอ่านต่อสบายละ

วันนี้ลาไปก่อนนะคะ

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 17 เมษายน 2559 เวลา:10:23:18 น.
  
สองวัดแรก ของทริปนี้คุณชีริว พี่ยังไม่เคยไปเลย (เอาไว้ตามรอย ลอกที่เที่ยวกันแถว ๆ นี้แหละ) ถ้ำแก้วโกมล พี่ก็ชอบนะ ตอนนั้นไปกับอาม่า อาม่าขอบาย ขอรอข้างนอกละกัน ห้ามถ่ายรูปเนาะ ไม่เป็นไร พอเข้าใจได้ค่ะ สวยงามตามท้องเรื่องสมกับที่เค้าพยายามช่วยกันดูแลรักษาล่ะ

หนองจองคำจองกลาง ภาพเปรียบเทียบกลางวัน กลางคืน ทีแย่กว่าไม่ใช่เพราะไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไป แย่มากสำหรับพี่ คือ ภาพเล็กมาก

ทำไมพี่พลาดอาหารพื้นเมือง ถั่วพูอุ่นได้นะ เพิ่งได้ยิน ได้เห็นจากบล็อกคุณชีริวนีแหละ

ปางอุ๋ง ในตอนสาย ไร้สายหมอกบางเบาลอยเหนือน้ำ ที่เค้าขนานนามกันว่า สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย อดสินะ (เวรกรรม)

ปางมะผ้า ต้องเที่ยวถ้ำ ... พี่ก็ไม่ได้ไปอีกแหละ ห้วยยยย ! เปรียบเทียบสถานที่เที่ยวของคุณชีริว พี่พลาดเยอะแล้วเนี่ย

ุถนนคนเดินปาย ... ยังไงก็ต้องเดินค่ะ ตอนพี่ไปแทบไหลไปกับฝูงชน

ทะเลหมอกหยุนไหล พี่ก็พลาดอีก เวลาไม่เอื้ออำนวยค่ะ ยังอยากไปอยู่นะ เสียดายมาก

สุกี้ชุดเล็ก 800 อร่อย จะไม่ว่าอะไรเล้ย

บ้านสันติชล วัดน้ำฮู Coffee in Love สะพานประวัติศาสตร์ปาย ... พี่เก็บหมดแล้ว

คุณชีริวไม่ได้ไปเที่ยวกองแลนเหรอ ปายแคนยอนน่ะ พี่ว่าสวยดีนะ

*** เอาใจช่วยคุณพ่อน้องสะใภ้ค่ะ เกษตรกรขนานแท้และดั้งเดิม ขอให้ยืนหยัดมั่นคง และดำรงอยู่ต่อไปอย่างสง่างามให้ได้ค่ะ

***พี่โหวตไว้ระหว่างทริปทะเลใต้ แวะเข้ามาวันเดียว ที่เหลืออีก 5-6 วัน ทิ้งสิทธิ์โหวตอย่างน่าเสียดาย
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 19 เมษายน 2559 เวลา:15:54:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Shiryu.BlogGang.com

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]

บทความทั้งหมด