ทนายตัวแสบ (The Litigators ).........John Grisham

ผู้แปล  สมพล จาตุศรีพิทักษ์ และ ธัญทิพย์ นันทพัฒน์สิริ

 

โปรยปกหลัง

เขาหนีงานมาจากนรก

ขณะนี้เขาได้พบนรกขุมใหม่จากงาน

ออสการ์ ฟินลีย์ ตำรวจข้างถนนกลายมาเป็นทนายความข้างถนน

วอลลี่ ฟิกก์ ผู้ชำนาญด้านหญิงขายบริการและผู้ไล่ตามรถพยาบาล

เดวิด ซิงก์ จบโรงเรียนกฎหมายจากฮาร์วาร์ด

ทั้งหมด สามผู้แตกต่างร่วมงานกันที่ฟินลีย์และฟิกก์  

ผู้เชี่ยวชาญในคดีเรียกร้องสิน ไหมของการบาดเจ็บ การหย่าร้างที่รวดเร็ว  

และคดีขับรถขณะมึนเมา ไม่มีใครสักคนได้เคยประจันหน้ากับลูกขุนในศาลรัฐบาลกลาง  

แต่พวกเขาก็ได้พบกับคดีเกี่ยวกับบริษัทยาที่ใหญ่ที่สุดบริษัทหนึ่งของรัฐ

เดวิด ทิ้งงานที่มีรายได้อย่างงามจากสำนักงานกฎหมายชั้นนำแห่งหนึ่งในชิคาโก  

เพื่อโอกาสในการช่วยเด็กชายเล็กๆ ต่อสู้กับบริษัทที่ยิ่งใหญ่

แต่ถ้าหากฟินลีย์และฟิกก์มีสิทธิ์  

ทำไมหุ้นส่วนใหม่ต้องรู้สึกอยากมีปืนในกระเป๋าเอกสารของพวกเขา

เดวิดคิดว่า เขาได้เคยตัดขาดจากงานเก่าที่โรแกน รอทเบิร์ก  

แต่นี่คือบางสิ่งบางอย่าง

เขาทราบดีว่า เขาทำถูกที่ออกมา  เขาเพียงอาจอยากจะมีชีวิตอยู่  

เพื่อเสียใจกับการตัดสินใจครั้งใหม่...

 

หลังอ่าน

           เรื่องราวของ 3 ทนายที่ได้โคจรมาร่วมงานกัน  ฟินลีย์และฟิกก์เรียกได้ว่าเป็นทนายข้างถนน พวกเขาคอยวิ่งตามอุบัติเหตุและโรงพยาบาล เพื่อหาลูกค้า 

          ในขณะที่ เดวิดทนายหนุ่มผู้จบจากฮาร์วาด เขาทำงานด้านกฎหมายพันธบัตรระหว่างประเทศให้กับ สำนักงานทนายความที่ใหญ่แห่งหนึ่งในเมือง ที่มีทนายในสำนักงานกว่า 600 คน เขาทำงานหนักแทบไม่มีเวลาให้ครอบครัว จนวันหนึ่งระหว่างที่ไปทำงานปกติประจำวันเขาเกิดอาการสติแตกกะทันหัน ( ผู้แปลใช้คำว่าเกิดอาการแตกหักอย่างเฉียบพลัน  - - ! ) วิ่งออกจากชั้น 93 ของสำนักงาน เข้าไปในบาร์เหล้า ....และสิ้นสุดวันด้วยการมาพบกับสำนักงาน ฟินลีย์และฟิกก์ เพื่อขอทำงานเป็นทนายอีกคนหนึ่งในนั้น..

                 ขณะนั้น วอลลี่ ฟิกก์ กำลังคาดหวังเงินมหาศาลจากการฟ้องร้องบริษัทยาขนาดใหญ่...

ทั้ง ๆ ที่ตัวเขารวมถึงออสการ์ ฟินลีย์ และเดวิด ไม่เคยมีประสบการณ์ในการว่าความในชั้นศาลเลยสักคน  ซึ่งในที่สุดแล้วคดีนี้อาจเป็นหายนะอย่างแท้จริงสำหรับพวกเขา

 

                 การดำเนินเรื่องราวในช่วงแรก ๆ ค่อยข้างเอี่อย ๆ เรื่อย ๆ เน้นที่มา และความเป็นไปของตัวละครแต่ละตัวในเบื้องลึก  กว่าจะเริ่มการสู้คดีจริง ๆ จัง ก็เกินครึ่งเล่มเข้าไปแล้ว  แต่ในช่วงท้าย ในตอนที่เดวิดเริ่มสู้ ( เพราะไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ) ด้วยการไต่สวนพยานฝ่ายจำเลย เขาทำได้ดี  และทำให้เรื่องมีสีสันสนุกขึ้นมาบ้าง  เรื่องนี้ไม่มีการหักมุมอะไร แต่ผู้เขียนก็เลือกที่จะให้ เดวิดได้พบกับอนาคตที่ดีในท้ายที่สุด ...

                    สำหรับจขบ.มีข้อมีเรื่องทีต้องขบคิดคือการกระทำของเดวิด  ในอดีตเขาทำเงินได้มหาศาลต่อปี  แต่เขาไม่เวลาที่จะใช้มัน ไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวแม้แต่จะสร้างทายาท  ในเช้าวันหนึ่งเขาก็เลือกทิ้งมัน  แม้สิ่งที่เขาได้แลกมามันเลวร้าย แต่เขาก็ไม่เสียใจกับมัน ...จุดนี้ชวนให้มองย้อนกลับมาว่า เรามัวมุ่งแต่ทำงานหาเงินจนหลงลืมอะไรไปบ้างหรือเปล่า ....

                         ในส่วนของสำนวนแปล  ต้องบอกว่าไม่ราบรื่นเท่าไรนัก  ภาษาปลายทางของผู้แปล บางคำบางประโยคยังรู้สึกแปลก ๆ และไม่เป็นธรรมชาติโดยเฉพาะในบทสนทนา (เช่น หน้า 74 ตอนที่เฮเลนพูดกับเดวิดในรถ ) เข้าใจว่าเป็นการแปลอย่างตรงตัว   แต่แหมมันช่างมีแต่นมเนยเสียจริง 

ถ้าถามในส่วนของความเข้มข้นของเรื่องเทียบกับงานอื่นๆ ของ John Grisham เราว่ามันกลาง ๆ คือ ดีกว่าพวก The painted house  แต่เทียบกับแนวกฎหมายหักมุมเรื่องอื่น ๆ แล้ว เล่มนี้ไม่ค่อยมีลุ้นอะไรเท่าไร

 

------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

ปล. ฝากถึง สนพ.นะคะ : ในหน้า 380 ผู้แปลใช้คำว่า ยาวันรุ่งขึ้นฉบับยาว ( ซึ่งชวนงงมาก ) แต่พอถึงหน้า 383 ได้พูดถึงยากลุ่มนี้ว่าเป็น ยาคุมฉุกเฉิน ( ซึ่งน่าจะถูกต้องที่สุด ) ถ้ามีการพิมพ์ใหม่ น่าจะปรับแก้ในจุดนี้ค่ะ

 

 

 




Create Date : 12 พฤษภาคม 2556
Last Update : 12 พฤษภาคม 2556 23:33:25 น.
Counter : 1644 Pageviews.

7 comments
  
555 ขำชื่อยา มันจะเข้าใจไหมนั่น

ไม่ได้อ่านงานของจอห์น มานานเหมือนกัน รู้สึกระยะหลังมาเป็นที่นิยมใหม่
โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 13 พฤษภาคม 2556 เวลา:9:25:17 น.
  
เข้ามาฮาชื่อยาด้วย...555

ทำเอาอยากรู้ว่าต้นฉบับคือคำว่าอะไร
ดองหนังสือของกริแขมไว้สามถึงสี่เล่ม ยังไม่มีแรงบันดาลใจพอที่จะอ่านแฮะ
โดย: แม่ไก่ วันที่: 13 พฤษภาคม 2556 เวลา:10:08:29 น.
  
ขำชื่อยาจนกรามค้างครับ 555555.
โดย: อุ้มสม วันที่: 13 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:18:35 น.
  
ชอบอ่านรีวิวหนังสือแปลค่ะ เพราะตัวเองไม่คอ่ยได้อ่านหนังสือแนวนี้เท่าไร
โดย: Sab Zab' วันที่: 14 พฤษภาคม 2556 เวลา:0:32:13 น.
  
เรื่องสำนวนแปลไม่ราบลื่นนี่เป็นปัญหามากเวลาอ่านงานแปล มันชวนหงุดหงิดเนอะ
โดย: ชบาหลอด วันที่: 14 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:41:13 น.
  
^
^
มีเป็นบางคำ บางประโยค ที่อ่านไปก็ขมวดคิ้วไป แต่ภาพรวมเราถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ดีเชียวค่ะ เข้าใจว่าผู้แปลหาคำสลวย ๆ มาใช้ไม่เก่งนัก มันเลยออกมาตรง ๆ ไปหน่อยในบางข้อความ
โดย: Serverlus วันที่: 15 พฤษภาคม 2556 เวลา:0:06:17 น.
  
ชื่อยาชวนงงมากค่ะ
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 15 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:26:55 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Serverlus.BlogGang.com

Serverlus
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]

บทความทั้งหมด