โปรยปกหลัง
การที่มีโอกาสเห็นสองโลกของปลายจันทร์นั้นหล่อนเองไม่รู้เหมือนกันว่าดีหรือไม่และระหว่างความอยากกับความเข็ดอย่างไหนมีมากกว่ากัน
ถ้าพูดถึงสนุกเจอผีดีๆก็สนุกไม่ใช่เล่นแต่ถ้าเจอตัวร้ายๆนี่สิหล่อนเหนื่อยชะมัดเสี่ยงอันตรายก็เท่านั้นดีไม่ดีอาจบ้าไปก็ได้อย่างบางเรื่องหล่อนแทบจะเอาชีวิตไม่รอดด้วยซ้ำ
บัดนี้หล่อนคิดว่าถึงเวลาต้องอำลามันเสียทีแล้ว
หล่อนไม่วายเหลียวหลังไปมองลำธารเป็นครั้งสุดท้ายเกิดอุปาทานว่ามีเงาจางๆหลายร่างยืนเรียงรายอยู่บนโขดหินคนละก้อนทุกเงายกมือขึ้นในท่าโบกเหมือนส่งสัญญาณลา
แต่พอกะพริบตาความว่างเปล่าก็เข้ามาแทนที่
ตรงช่องว่างระหว่างหมู่ไม้เจดีย์ขาวต้องแสงจันทร์เป็นเลื่อมประกายหล่อน เฝ้ามองอยู่อึดใจนึกถึงภาพต่างๆในปีก่อนที่ผ่านมา
ก่อนจะเก็บภาพนั้นไว้ในความทรงจำ...ส่วนลึกที่สุด
หลังอ่าน
สนุกมากค่ะ....นามปากกานี้น้อยมากที่จะทำให้ผิดหวัง...
เรื่องนี้ออกแนวคอมเมดี้หน่อย ๆ ค่ะ นางเอกของเราที่ไปปฏิบัติธรรมตามเพื่อนซี้ บังเอิญได้มีวิญญาณดวงหนึ่ง เปิดโลกให้เธอกลายเป็น"คนเห็นผี" มันก็เลยเกิดเรื่องราวทั้งหลายแหล่ตามเข้ามา เมื่อบรรดาผี ๆ ต้องการความช่วยเหลือจากเธอ เพราะเธอสามารถสื่อ กับพวกเขาได้...
นางเอกของเรานี่เป็นพิมพ์นิยมสมัยใหม่ค่ะ คือออกแนวห้าว ๆ บ้าพลัง ไม่ห่วงสวย ...ซึ่งพระเอกของเราก็เลยชอบยั่วให้เธอปรี๊ดแตกอยู่เสมอ รวมถึงตัวประกอบน่ารักน่าหยิกอย่างเจ้าซัน (ญาตินางเอก ) ช่วยให้เราอ่านไปอมยิ้มขำไป ตลอดเล่ม....เป็นอารมณ์ขำที่ไม่จำเป็นต้องใช้วลี หรือมุขสมัยใหม่ใด ๆ เข้าช่วยเลย ดังนั้น ไม่ว่าจะผ่านไปกี่สิบปี เชื่อเถอะว่าคนอ่านก็จะยิ้มขันได้เสมอ
แต่เพราะความเป็นแก้วเก้า นิยายเรื่องนี้ก็มีบทสอนใจแทรกอยู่ ช่วยกล่อมเกลาจิตใจคนอ่านได้อย่างแนบเนียน...
ใครยังไม่อ่าน ไปหาอ่านให้ได้นะคะ....
ปล.แอบมาเพิ่มเติมนิดนึง ในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะสมัครงานทางไหน จดหมาย หรือ e-mail เมื่อฝ่ายบุคคลของบริษ้ท ติดต่อกลับมานั้นไม่ว่าจะนัดสัมภาษณ์ หรือรับเข้าทำงาน ล้วนติดต่อทางโทรศัพท์ทั้งสิ้น ดังนั้นไม่น่าจะมีโอกาสให้ป๊านางเอก ได้ฉีกจดหมายรับเข้าทำงาน โดยเด็ดขาดเลย !
เล่มนี้ตั้งเป้าไว้แล้ว คิดว่าไม่พลาดแน่นอนค่ะ
ยิ่งอ่านรีวิวแล้วก็อยากอ่านนนนนน