ชั้นหนังสือในวันธรรมดา ชั้นหนังสือในห้องไม่ได้จัดมาเนิ่นนานแล้ว วันนี้เห็นต้องจัดการเสียที หลายเล่มซื้อมายังไม่ได้อ่าน ลืมเสียสนิทว่ามี ซื้อซ้ำอยู่ก็บ่อยพอมาค้นเจอก็นึกเสียดาย บางเล่มซื้อซ้ำ 3 ครั้งยังเคย นี่แหละนิสัยคนเรา คิดว่าอยู่กับเราแล้ว ไม่ใส่ใจ ไว้ก่อน ๆ จนในที่สุดก็หลงลืมกันไป ยังดีนะที่เป็นหนังสือ ถ้าเกิดเป็นคน เราเผลอไผลไปลืมเขาเข้า คงเรื่องใหญ่ ทำร้ายจิตใจกันน่าดู แต่ใครว่าหนังสือไม่มีชีวิตคงไม่จริง ฉันเถียง ชีวิตมากมายบรรจุอยู่ในกระดาษปึกนั้น หลายครั้งหลายหนอ่านจบแล้วยังนึกสงสัย เจ้ากระดาษปึกนี้มีโลกอีกโลกหนึ่งซ่อนอยู่ได้อย่างไร แล้วหนังสือบางเล่มก็เหลือร้าย ทำให้เราร้องไห้ เสียน้ำตาไปกับมันได้ ฉันชอบหาเวลาจัดชั้นหนังสือในวันธรรมดา หยุดงานสักวัน อาจฟังดูไม่มีเหตุผล แต่นี่แหละคือเหตุผลของฉัน คงคล้ายกับเพื่อนคนหนึ่ง สนิทกัน เขามักหยุดงานทุกวันศุกร์ราวปลายเดือนเพื่อนั่งฟังเพลง ฟังเพลงอย่างเดียวจริง ๆ นะเธอ หยิบแผ่นโน้นแผ่นนี้มาเปิดอยู่ได้ทั้งวัน ฉันเคยไปนั่งฟังกับเขา ความรู้สึกในการฟังเพลงวันธรรมดากับวันหยุดสุดสัปดาห์มันไม่เหมือนกัน เขาตอบ วันธรรมดามันสงบนิ่งกว่ามาก เอาเข้าไปคนเรา แต่ฉันเข้าใจ... เข้าใจความรู้สึกเช่นนี้ดี เสียงนกตัวเล็กตัวน้อยร้องจิ๊บจั๊บอยู่ข้างหน้าต่าง ฉันจำมันได้อยู่ตัวหนึ่ง มันชอบเอาปากมาเคาะกระจกเหนือบานหน้าต่างในตอนเช้า ๆ ตั้งใจจะปลุกกันหรืออย่างไรก็ไม่รู้ใจนก ขนาดคนเราพูดคุยกันรู้เรื่องยังเอาใจไม่ถูกเลย ฟังเสียงนกไปจัดชั้นหนังสือไปมีความสุขดีเหมือนกัน หนังสือบางเล่มเปิดดูแล้วก็ใจหาย น้ำตาคลอขึ้นมาซะเฉย ๆ เคยไหม ด้วยคิดถึงใครบางคนที่ตกหล่นไปตามรายทางระหว่างชีวิต ไม่อยากเสียน้ำตา ก็อย่าสร้างความหลังกับใคร ๆ ไว้มากมายเกินความจำเป็น...ประโยคนี้ฉันชอบ ลองนึกดูก็จริง ถ้าตอนแก่หง่อม ไร้เรี่ยวแรง ต้องนั่งอยู่เฉย ๆ แล้วไม่มีอะไร ไม่มีใครให้นึกถึงเลยนี่คงแย่น่าดู บางทีนะ... ยอมเสียน้ำตาอาจจะดีกว่า รื้อหนังสือเจออยู่เล่มหนึ่ง ไม่ได้เห็นหน้าตาซะนาน ชื่อหนังสือเช๊ยเชย อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะ...ที่รัก ของไพลิน รุ้งรัตน์ ใครบางคนมอบให้เมื่อวันเกิดหลายปีผ่าน คิดยังไงเธอถึงให้หนังสือเล่มนี้กับฉันเนี่ย ก็รู้อยู่ว่าไม่ชอบอ่านนิยายน้ำเน่าชวนฝันแบบนี้ แค่เห็นหน้าปกก็เลี่ยนแล้ว ดูสิคนเรานี่ก็แปลก ปากบอกไม่ชอบ แต่เชื่อไหมฉันอ่านหนังสือเล่มนั้นรวดเดียวจบเลย ยังงงอยู่เหมือนกัน หนังสือบางเล่มนี่ร้าย เพียงแค่ประโยคเดียวเอาเราอยู่หมัดเลย ประโยคที่ดูเหมือนน้ำเน่าประโยคนั้นแหละ อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะ...ที่รัก เป็นเรื่องรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง อ่านแล้วน่ารักดี เกิดอยากหาหนังสือที่นางเอกแนะนำให้พระเอกมาอ่านบ้าง... รักกันได้โดยมีหนังสือเป็นกามเทพ ชวนฝันสุด ๆ เธอว่า นึกแล้วก็ตลกตัวเอง หลังจากอ่านเล่มนี้แล้ว ฉันลืม เชคอฟ สไตน์เบ็ค เฮสเส หรือโกลดิ้ง ไปเป็นเดือนเลย ขนหนังสือแนวนี้มาอ่านอีกเป็นตั้ง จนเธอเห็นแล้วยังแซวอยู่บ่อย ๆ เขาว่าเซลส์และลักษณะที่บ่งบอกความเป็นตัวเราจะเปลี่ยนทุก 7 ปี เธอเมื่อ 7 ปีก่อน ก็จะไม่ใช่คนเดียวกับเธอในวันนี้ เธอบอก ค้นไปเจอหนังสืออีกเล่มหนึ่ง ราวกับเจอเพื่อนเก่า "ดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง และรู้ว่าเธอยังอยู่กับฉันแม้ไม่เหลียวแลมานาน" หนังสือเล่มบาง หน้าปกสีชมพูเชย ๆ ไม่น่าสนใจเอาเสียเลย ครั้งนั้นฉันเห็นแล้วทำหน้าเหยส่ายหัว บอก...ไม่ชอบอ่านนิยายวิทยาศาสตร์ เธอว่าอย่าตัดสินหนังสือจากหน้าปก Bicentennial Man ของไอแซ็ค อาซิมอฟ เล่มนี้... ไม่เคยคิดเลยว่านิยายวิทยาศาสตร์จะทำให้เราน้ำตาคลอได้ ตัวเอกหุ่นยนต์ในเรื่องถูกมนุษย์สร้างขึ้นมาไว้ใช้งาน แต่เกิดผิดพลาด มีความนึกคิดเป็นของตนเอง หลัง ๆ เข้าหุ่นยนต์ตัวนั้นเกิดอยากมีความรู้สึกเช่นมนุษย์ อยากรู้ร้อน รู้หนาว รู้เจ็บปวด รู้จักรัก และท้ายที่สุดเขาอยากรู้จักกับความตาย หลังจากอยู่มานานกว่า 200 ปี นั่นเป็นสิ่งที่หุ่นยนต์ตัวนั้นต้องการ แต่มนุษย์เรากลับปฏิเสธ ปฎิเสธในของขวัญอันวิเศษสุดที่พระเจ้ามอบให้ ถ้าให้เลือกอยากมีอายุอยู่ถึง 200 ปีไหม ? คำถามเก่าล่องลอยมาตามสายลม ไม่หรอก มันทรมานเกินไปที่จะเห็นคนที่เรารักมากมายตายไปต่อหน้าต่อตา คนแล้วคนเล่า จะมีประโยชน์อันใดกับการที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวทรมานอย่างนั้น ในขณะที่คนอื่น ๆ ในรุ่นเธอเขาจากไปหมดแล้ว ใครว่าหนังสือไม่มีชีวิตคงไม่จริง ฉันเถียง ชีวิตมากมายบรรจุอยู่ในกระดาษปึกนั้น หนังสือบางเล่มเปิดดูแล้วก็ใจหาย น้ำตาคลอขึ้นมาซะเฉย ๆ เคยไหม ด้วยคิดถึงใครบางคนที่ตกหล่นไปตามรายทาง... Free TextEditor แวะมาทักทายค่ะ ชอบอ่านหนังสือค่ะ แต่มีค่อยได้จัด บ้านเราเลยรก
โดย: Summer Flower วันที่: 26 เมษายน 2551 เวลา:13:57:22 น.
อืมม์...
สนใจทั้งสองเล่มที่ถูกกล่าวเลยค่ะ ทั้งของคุณไพลินและของคุณอาซิมอฟ (เรื่องหลังนี่มีแปลเป็นไทยมั้ยหนอ?) น่าสนใจค่ะ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 26 เมษายน 2551 เวลา:14:22:40 น.
อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะ...ที่รัก น่าอ่านมากเลยคะ ไม่รู้ยังหาซื้อได้มั้ย
โดย: หมูย้อมสี วันที่: 26 เมษายน 2551 เวลา:18:40:57 น.
อ่านเรื่องของคุณ เราเริ่มรู้สึกว่า ควรจะต้องหาวันหยุด มาจัดชั้นหนังสือบ้างดีกว่า
ไม่งั้น ก็ต้องซื้อหนังสือซ้ำ อีกหลายครั้ง ไอ้ประเภทซ้ำ แล้วปกแตกต่างเนี่ย ไม่เท่าไหร่ ...อาจเป็นเพราะความหลงลืมของเราเอง แต่ที่ซื้อซ้ำมาแบบเหมือนกันแป๊ะ ฉบับพิมพ์ครั้งเดียวกัน สนพ.เดียวกันเนี่ย ....ต้องเป็นเพราะความเฟอะฟะอย่างมากมายของตัวเองประการเดียวเลย โดย: นัทธ์ วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:10:54:59 น.
จะจัดชั้นหนังสือแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับอารมณ์ตอนนั้น
และใช้เวลา 2-3 วันถึงจะเสร็จ จัดทีละเล่มทีละเล่ม หยิบเล่มโน่นเล่มนี่ขึ้นมาดู บางเล่มอ่านจบแล้วร้องไห้ บางเล่มอ่านเอาเป็นเอาตายกว่าจะจบ บางเล่มสุขจนยิ้มคนเดียวยามอ่าน เวลาเจอหนังสือเล่มที่ไม่ได้เห็นหน้าเห็นตามานาน จะชอบเปิดหาข้อความ หรือตอนที่เคยชอบ อ่านซ้ำไปซ้ำมา..เคยเป็นไหม? ปล. พิบูลศักดิ์ ละครพลเขียนไว้ในเรื่อง "ชูมาน" ประมาณว่า... ไม่มีใครคิดถึงใครจนตายหรอก มีแต่หัวใจวายตาย ..น่าคิด :) โดย: pangz วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:12:44:03 น.
เป็นคนชอบซื้อหนังสือครับ
เยอะแยะเลยที่บ้าน ยังไม่ได้อ่านอีกตรึม คงต้องจับมาแยกและไล่เรียงใหม่ ว่าไหนอ่านแล้ว และยังไม่อ่าน โดย: ตุ๊กตาไล่ฝนจากดวงตา วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:20:29:01 น.
อยากจะลุกขึ้นมาจัดชั้นหนังสือเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ได้ฤกษ์ซักที ความขี้เกียจเกาะกุมอยู่ทุกรูขุมขนค่ะ
โดย: vanillahome วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:15:54:39 น.
|