ในหลวงพระราชทานพรปีใหม่ 2555


ในหลวงพระราชทานพรปีใหม่ 2555




อัปโหลดโดย realmkii เมื่อ 31 ธ.ค. 2011






ในหลวงพระราชทานส.ค.ส.ปีใหม่

ในหลวงพระราชทาน ส.ค.ส. ปีใหม่พร้อมพระราชทานพรปีใหม่แก่ชาวไทย ให้เตรียมตัวพร้อมกับการเผชิญปัญหา ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท มีสติรู้ตัวและปัญหารู้คิดกำกับ


วันที่ 31 ธันวาคม 2554 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน ส.ค.ส.ปีพุทธศักราช 2555 แก่ประชาชนชาวไทย โดยส.ค.ส.พระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปีพุทธศักราช 2555 นี้ เป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์สากลสีเทาลายริ้วสีอ่อน ปกด้านซ้าย ทรงประดับเข็มเครื่องหมายมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ มูลนิธิที่พระราชทานกำเนิดและทรงดำรงตำแหน่งพระบรมราชูปถัมภก ทรงผูกเนคไทสีแดงมีลวดลายสีทอง เข้าชุดกับผ้าปักพระกระเป๋า ฉลองพระองค์ชั้นในเป็นเชิ้ตขาว ประทับบนพระเก้าอี้ ด้านข้างพระเก้าอี้ที่ประทับทั้งสองข้าง มีโต๊ะกลม โต๊ะด้านขวาวางแจกันแก้วขนาดเล็กปักดอกไม้หลากสี ทรงฉายกับสุนัขทรงเลี้ยง คือ คุณทองแดงที่ทรงเลี้ยงมาตั้งแต่ปี 2541 สวมเสื้อสีทอง หมอบอยู่แทบพระบาท หน้าพระเก้าอี้ด้านซ้าย


ด้านหลังพระเก้าอี้ที่ประทับตกแต่งเป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับ ด้านซ้ายมีระแนงไม้สีขาว ประดับอักษรสีชมพู ข้อความภาษาไทยว่า สวัสดีปีใหม่ และข้อความภาษาอังกฤษว่า Happy New Year ด้านขวามีต้นสนประดับเครื่องตกแต่ง ฉากหลังเป็นผ้าม่านสีเทาอ่อน ด้านซ้ายบนมีตราพระมหาพิชัยมงกุฎประดับ ส่วนด้านขวามีผอบทองประดับ
ตรงกลาง ส.ค.ส.ด้านขวา มีข้อความจากบทพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก ซึ่งเป็นคำตอบที่พระมหาชนกทรงตอบนางมณีเมขลาว่า "ถึงจะมองไม่เห็นฝั่ง เราก็ต้องพยายามว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร โภคะทั้งหลาย มิได้สำเร็จด้วยเพียงคิดเท่านั้น" ทรงเตือนสติให้คนไทยทั้งหลายมีความเพียร เช่นเดียวกับพระมหาชนก ที่ทรงอดทนว่ายน้ำในมหาสมุทรด้วยความเพียร จนรอดชีวิต ประโยชน์ทั้งหลายที่เกิดขึ้น ล้วนเกิดจากการกระทำไม่ได้เกิดจากแค่เพียงคิด
ตรงกลาง ส.ค.ส.ด้านซ้าย มีข้อความภาษาไทยพิมพ์ด้วยสีชมพูขอบสีเหลืองว่า ขอจงมีความสุขความเจริญ 2555 และข้อความภาษาอังกฤษพิมพ์ด้วยสีแดงขอบสีเหลืองว่า Happy New Year 2012
ด้านล่างของ ส.ค.ว.มุมล่างขวามีข้อความ ก.ส.9 ปรุง 185029 ธค.54 พิมพ์ที่โรงพิมพ์สุวรรณชาด ท.พรหมบุตร, ผู้พิมพ์โฆษณา พริ้นเทด แอ้ท เดอะ สุวรรณชาด , ดี.พรหมบุตร พับลิชเชอร์
กรอบของ ส.ค.ส.พระราชทานฉบับนี้ เป็นภาพใบหน้าคนเล็กๆ เรียงกัน ด้านซ้ายและด้านขวาเรียงกันด้านละ 3 แถว ส่วนด้านบนและด้านล่างเรียงกันด้านละ 2 แถว ทุกหน้ามีแต่รอยยิ้ม
พร้อมกันนี้ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานพรปีใหม่แก่ประชาชนทั้งหลาย ความว่า ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ท่านทุกๆ คน และขอขอบใจท่านเป็นอย่างมาก ที่ร่วมกันจัดงานฉลองอายุครบ 7 รอบให้อย่างเหมาะสมงดงาม ระหว่างปีที่แล้ว เหตุการณ์ต่าง ๆ ในบ้านเมืองนับว่าเป็นปรกติดี แต่พอเข้าปลายปี ก็เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ เป็นเหตุให้ประชาชนหลายจังหวัด ต้องประสบอันตราย และความเดือดร้อนลำบาก ความเสียหายครั้งนี้ ดูจะร้ายแรงกว่าครั้งไหนๆ ที่ผ่านมา ข้อนี้ น่าจะเป็นเครื่องเตือนใจอย่างสำคัญ ดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้หลายครั้งแล้วว่า วิถีชีวิตของคนเรานั้น จะต้องมีทุกข์ มีภัย มีอุปสรรค ผ่านเข้ามาเนืองๆ ไม่มีผู้ใดจะอยู่เป็นปรกติสุกอย่างเดียวได้ ทุกคนจึงต้องเตรียมกายเตรียมใจ และเตรียมการไว้ให้พร้อมเสมอ เพื่อเผชิญและป้องกันแก้ไขความไม่ปรกติเดือดร้อนต่างๆ ด้วยความไม่ประมาท ด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา และด้วยสามัคคีธรรม
ในปีใหม่นี้ จึงขอให้ประชาชนชาวไทยได้ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท โดยมีสติรู้ตัวและปัญญารู้คิดกำกับอยู่ตลอดเวลา ผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใด ก็เร่งกระทำให้สำเร็จลุล่วงไปให้ทันการณ์ทันเวลา ผลงานทั้งนั้น จะได้ส่งเสริมให้แต่ละคนประสบแต่ความสุขความเจริญ และทำให้ชาติบ้านเมืองดำรงมั่นคง และก้าวหน้าต่อไปด้วยความผาสุกสวัสดี
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน ให้มีความสุข ไม่มีทุกข์ ไม่มีภัย ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน


--------

ขอคุณภาพ และข่าวจาก นสพ คมชัดลึก

//www.komchadluek.net/detail/20111231/119158/.html









Create Date : 31 ธันวาคม 2554
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2555 22:07:59 น.
Counter : 2185 Pageviews.

1 comments
สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ…วางแผนการเงินอย่างไร ให้เหลือใช้ถึงปลายเดือน! สมาชิกหมายเลข 7654336
(13 เม.ย. 2567 02:04:45 น.)
สรุปวิชาสังคมไทยสังคมโลกในศตวรรษที่ 21 เรื่องปราชญ์ท้องถิ่น นายแว่นขยันเที่ยว
(10 เม.ย. 2567 03:05:45 น.)
โรงงานผลิตอาหารเสริมผู้ชาย ตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ได้คุณภาพ สมาชิกหมายเลข 7213059
(3 เม.ย. 2567 00:10:02 น.)
กาแฟคั่วเข้ม เหมาะกับเมนูไหนดี สมาชิกหมายเลข 7983004
(29 มี.ค. 2567 02:14:10 น.)
  
เดือนกุมภาพันธ์ นี้ดีใจจริงที่ได้เห็นในหลวงของเราชาวไทย 2 ครั้ง
หลังจากที่ฟังข่าวว่าพระองค์ทรงประชวน
เพราะทอดพระเนตรข่าวน้ำท่วมเป็นเวลานาน
การเห็นพระองค์ท่านอีก2 ครั้งก็เนื่องจากพระองค์ท่าน
ลงมาตรวจดูน้ำ และทรงให้คำแนะนำเรื่องการป้องกันน้ำ

ภาพคลิปข่าวขอบคุณเจ้าของคลิปอย่างสูงยิ่งคะ


ในหลวงเสด็จทอดพระเนตรน้ำ 22-2-55


โดย boy221133 เมื่อ 22 ก.พ. 2012
ในหลวง เสด็จทองพระเนตรน้ำ บริเวณท่าน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา โรงพยาบาลศิริราช วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555
ข่าวพระราขสำนัก 22 02 2012


โดย Multi4914 เมื่อ 22 ก.พ. 2012
ในหลวง"ทอดพระเนตรสภาพน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา พระพักตร์แจ่มใส

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินจากที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช โดยรถเข็นพระที่นั่ง ในฉลองพระองค์เชิ้ตแขนสั้นพิมพ์ลายโทนสีเขียวอ่อน สนับเพลาสีดำ พระหัตถ์ซ้ายทรงจูงคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยง และทรงคล้องกล้องถ่ายภาพที่พระศอด้วย

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงสักการะและถวายพวงมาลัยข้อพระกรพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก จากนั้นเสด็จฯ ไปทรงสักการะและถวายพวงมาลัยข้อพระกรพระรูปสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเสด็จฯ ไปสักการะและถวายพวงมาลัยข้อพระกรพระบรมรูปสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ก่อนเสด็จฯ ไปยังท่าน้ำบริเวณลานสระว่ายน้ำสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อทอดพระเนตรทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยา การนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ เป็นผู้เข็นรถพระที่นั่งถวาย โดยมี ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ร่วมคณะด้วย ทั้งนี้ การเสด็จฯ ครั้งนี้เป็นการเสด็จฯ ส่วนพระองค์

ในขณะเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระพักตร์สดใส แย้มพระสรวลให้แก่พสกนิกร ซึ่งต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วทั้งโรงพยาบาลศิริราช มีประชาชนมารอเฝ้ารับเสด็จอยู่ตามสองฟากฝั่งถนนทั้งในและนอกของโรงพยาบาลศิริราชอย่า­งเนืองแน่น กระทั่งเวลา 19.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเสด็จฯ ขึ้นไปยังชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติที่ประทับ รวมเวลาประทับอยู่ที่ท่าน้ำบริเวณลานสระว่ายน้ำสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชฯ ประมาณ 2 ชั่วโมง

------------------------------------






---------------

ในหลวงมีพระราชดำรัสแก้ปัญหาน้ำท่วมเพิ่มโทษตัดป่าและปลูกต้นไม้เนื้อแข็ง อ่อนทดแทน@240255



โดย realmkii



ในหลวงทรงแนะปลูกต้นไม้กันน้ำท่วม
"ในหลวง" พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ "กยอ.-กยน." เข้าเฝ้าฯกราบบังคมทูลรายงาน ทรงมีพระราชดำรัส "คนโลภตัดไม้ทำลายป่าต้นเหตุน้ำท่วม" พร้อมทรงแนะปลูกไม้โตเร็วผสมไม้โตช้าป้องกันน้ำท่วม ดินถล่ม
เวลา 17.49 น.วันที่ 24 กุมพาพันธ์ พ.ศ. 2555 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุมสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) และคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานเรื่อง การวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการวางแผนเพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ และรับพระราชทานพระราชดำริเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงาน


โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสว่า "การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนั้นต้องหาวิธีระบายน้ำ ให้น้ำไหลได้อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้นยังมีเรื่องดินและเรื่องป่าไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องแก้ไขปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าให้ได้ด้วยการเพิ่มบทลงโทษ ขณะเดียวกัน ต้องเร่งปลูกต้นไม้ขึ้นมาทดแทนป่าไม้ที่ถูกทำลาย โดยปลูกทั้งไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อนผสมกัน เพราะไม้เนื้ออ่อนโตเร็ว แต่รากไม่ยึดดินเท่ากับไม้เนื้อแข็งที่โตช้ากว่า แต่หยั่งรากลึก ช่วยป้องกันดินถล่มได้

ก็ยากที่จะพูด แต่ว่าข้อสำคัญเป็นการไหลของน้ำ หากให้สามารถ ให้น้ำมันไหลสม่ำเสมอ อย่างที่เห็นมา ในปีที่ผ่านมา น้ำลงมาพรวดพราด แล้วก็ไม่ลง ไม่ยอมลงที่มีปัญหาสำคัญก็เรื่องของป่าไม้ เรื่องต้นไม้ ตลอดตั้งแต่ภาคเหนือ มาถึงภาคกลาง แล้วในภาคใต้ก็มีปัญหาเป็นแห่งๆ ที่แสดงให้เห็นว่าในประเทศไทยและในต่างประเทศเห็นว่า เพราะว่าป่าไม้ถูกทำลาย

ป่าไม้มีหลายชนิด โดยเฉพาะ 2 ชนิด ป่าไม้ที่ขึ้นเร็ว โตเร็ว และทำลายเร็ว และมีต้นไม้ที่ขึ้นช้า และถูกทำลาย ก็เลยทำให้ไม่สามารถที่จะแก้ไขต้นไม้ที่โตเร็ว ทำลายเร็ว ก็ทำให้มีดินถล่มทุกแห่ง จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ทางภาคเหนือก็มีมาก แต่ก่อนนี้ไม่มี ก่อนนี้มีแต่ภาคใต้ ที่มีเพราะว่า มีต้นไม้ที่โตเร็ว ก็ทำลายเร็ว ความเร็ว และก็มีอันตรายมาก มาเดี๋ยวนี้ไปถึงภาคเหนือเกือบทุกแห่ง มีการทำลาย ทลายของดิน ของภูเขา อันนี้ก็อันตรายมาก และแก้ไขยาก ก็ต้องหาวิธีที่จะแก้ไขเรื่องป่าไม้เป็นสำคัญ ที่ลำบากเพราะว่า ความโลภของคน ต้นไม้ที่ชอบ ที่ถูกทำลายคือต้นที่มีคุณภาพ ต้นไม้แข็ง ก็หมายความว่าเป็นต้นไม้ที่ถูกทำลายแล้วขึ้นช้า แล้วจะทำอย่างไร เพราะว่า ความโลภของคน ความโลภของ โดยเฉพาะเราตำหนิข้าราชการที่โลภและก็อยากได้เงิน แต่อันนี้ลำบาก ต้นไม้ที่ช่วยในเรื่องของน้ำท่วมนี่ ก็จะขึ้นช้า ปลูกยาก แต่หลักการที่จะต้องทำก็คือ จะต้องปลูกต้นไม้ขึ้นเร็วผสมกับต้นไม้ที่ขึ้นช้า และก็ช่วยในการป้องกันน้ำท่วม ก็ต้องปลูกต้นไม้ที่เรียกว่า หาไม้แข็ง และขึ้นช้า แต่ว่าเมื่อขึ้นช้าก็ป้องกันยากที่จะไม่ถูกทำลาย พอถูกทำลาย ปลูกแทนมันยาก และก็ต้นไม้ที่ไม้แข็งย่อมขึ้นช้า อันนี้จะต้องหาวิธีที่จะป้องกันไม่ให้มีการทำลาย และก็ให้มีการลงโทษหนัก เพื่อจะไม่ให้ถูกทำลาย การปลูกก็ควรจะปลูกต้นไม้ที่ขึ้นช้า ที่เป็นไม้แข็ง ไม้รากลึก ทำให้ป้องกันการดินถล่ม อันนี้ก็เป็นปัญหายากมาก วิธีจะทำก็ต้องปลูกผสมพวกต้นไม้ ไม้อ่อนและขึ้นเร็วกับไม้แข็งที่ขึ้นช้า

เพราะฉะนั้น จะต้องหาวิธีที่จะป้องกันการทำลาย เพราะว่า ต้นไม้ไม้แข็งเมื่อถูกทำลายแล้วก็กว่าจะแทนที่ได้ ก็กินเวลานาน อย่างที่กรุงเทพฯ ได้ปลูกต้นไม้แข็ง เช่น ไม้สัก และไม้ยาง ไม้สักก็กินเวลาหลายสิบปีกว่าจะโตและแกร่ง ไม้ยางขึ้นได้เร็วกว่า แต่อย่างไรก็กินเวลานาน 60 ปี กว่าจะใช้ได้ หมายความว่า เป็นงานหนักและการปลูกต้นไม้ที่จะช่วยให้เป็นไม้ที่จะช่วยในเรื่องของที่เรา ปัญหาที่เราทำคือน้ำท่วม ดินถล่ม ต้องใช้เวลาเป็นแรมปีถึงจะดีขึ้นได้

วิธีทำก็หลีกปัญหา ก็จะต้องปลูกต้นไม้ที่ขึ้นเร็ว หมายความว่าประมาณ 10 ปี ก็โตแล้ว ใช้การได้ แล้วก็ผสมกับต้นไม้ที่ต้องใช้เวลานาน กว่าจะใช้งานได้ ก็ใช้งานทั้งในฐานะเป็นไม้และในฐานะเป็นต้นไม้ที่จะป้องกันน้ำท่วม เป็นเวลาหลายสิบปี ก็ความคิดที่จะทำก็คือปลูกต้นไม้ที่เกิด ที่ขึ้นเร็ว ที่จะใช้งานได้ ขายได้ ได้รายได้ ส่วนหนึ่ง แล้วก็ไม้แข็ง ไม้ที่มีคุณภาพ ไม้ที่แพง ไม้ที่คนชอบไปตัดแล้วไปขาย ก็ต้องพยายามที่จะทำป่าที่ปลูกต้นไม้หลายชนิด"
นายกฯ-กยน.น้อมนำกระแสพระราชดำรัส
เมื่อเวลา 20.50 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ว่า รายละเอียดของการเข้าเฝ้าฯ ขอให้รอวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ โดยจะพูดในเรื่องหลักให้ฟังว่าได้นำคณะไปกราบบังคมทูลรายงานความคืบหน้าหลังจากได้ลงไปดูภารกิจเรื่องน้ำช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พระองค์ท่านทรงห่วงใยเรื่องการดูแลรักษาป่าต้นน้ำ ซึ่งวันนี้ปัญหาคือเรื่องของการตัดไม้ทำลายป่า และต้องเร่งรัดเรื่องการปลูกป่า ถึงแม้จะเป็นการปลูกป่าในระยะยาวก็ต้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะต้นไม้เนื้อแข็ง ที่จะต้องเน้นในเรื่องการอุ้มน้ำและรักษาหน้าดิน รวมทั้งเรื่องการระบายน้ำ
"พระองค์ท่านทรงห่วงใย อยากให้มีการระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญการระบายน้ำในเขื่อนต้องระบายตามหลักของการรักษาความสมดุล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง และเกษตรกรรม ซึ่งทางคณะ กยน.ได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสนำไปปรับปรุง การกราบบังคมทูลรายงานทำให้คณะที่เข้าเฝ้าฯ มีความมั่นใจในเรื่องทิศทางการทำงานมากขึ้น"

(ขอบคุณ ข่าวจาก คมชัดลึก //www.komchadluek.net/detail/20120225/123851/ในหลวงทรงแนะปลูกต้นไม้กันน้ำท่วม.html
โดย: หนึ่งคิด วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:07:05 น.

Sang.BlogGang.com

หนึ่งคิด
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]

บทความทั้งหมด