ล้วงลับเรื่อง ไขมันเกาะตับ


คุณหมอให้ความรู้ว่า ถ้าดูจากฟิล์มอัลตราซาวนด์ สีตับปกติคือสีดำ (สีจริงเป็นสีชมพูอมน้ำตาล) เมื่อไรที่เห็นเส้นขาวๆ แปลว่ามีไขมันแทรกอยู่ จากไขมันส่วนเกินที่ได้รับจากร่างกาย เมื่อไขมันสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จะมีการสลายตัวที่ส่งผลให้เกิดอนุมูลอิสระ กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ซึ่งถ้าเป็นๆหายๆ จะทำให้เกิดพังผืดในเซลล์ตับ นำไปสู่โรคตับแข็งและมะเร็งตับในที่สุด

ภาวะไขมันเกาะหรือพอกตับไม่มีอาการแสดงให้เห็นเหมือนโรคทั่วไป คุณหมอแนะนำให้หมั่นสังเกตผลการเจาะเลือดควบคู่ไปกับการทำอัลตราซาวนด์หรือไฟโบรสแกน

กลุ่มเสี่ยง
คนอ้วนหรือผอมแต่ลงพุง ผู้ชายที่มีรอบเอวมากกว่า 36 นิ้ว หรือผู้หญิงที่มีเอวหนามากกว่า 32 นิ้ว
เป็นโรคเบาหวานหรือมีระดับน้ำตาลเกิน 100 และความดันสูง
มีระดับไขมันในเลือดสูงเกินปกติ
ดื่มสุราเป็นประจำ

เร่งลดแคลอรี่ส่วนเกิน
ตอนนี้ยังไม่มียาที่สามารถรักษาภาวะไขมันเกาะตับ มีเพียงการปฎิบัติตน โดยควบคุมน้ำตาลกับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

1.ลดน้ำหนัก
ควรลดอย่างค่อยเป็นค่อยไป เน้นคุมน้ำหนักให้ได้ในระยะยาว หลีกเลี่ยงการอดอาหาร เพราะจะยิ่งทำให้คุณตบะแตกในมื้อต่อไป
2.คำนวณปริมาณแคลอรี่
ปริมาณแคลอรี่ที่ควรกินในแต่ละวันนั้น นอนจากหลักทั่วไปที่ว่า ผู้หญิงไม่ควรเกิน 1,800 กิโลแคลอรี่ ผู้ชายไม่ควรเกิน 2,000 กิโลแคลอรี่ ยังต้องคิดถึงการใช้พลังงานควบคู่ไปด้วย ถ้าเคลื่อนไหวร่างกายน้อยก็ไม่ควรกินให้ถึงลิมิต อย่างสาวออฟฟิศที่นั่งอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน เสาร์-อาทิตย์นอนดูทีวี จะใช้พลังงานแค่วันละ 1,200 กิโลแคลอรี่ ฉะนั้นถ้ากิน 1,800 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ไม่นานก็อ้วน
3.ออกกำลังกาย
เพื่อลดปริมาณไขมันสะสม เสริมสร้างกล้ามเนื้อที่จะช่วยดึงน้ำตาลในเลือดออกมาใช้ได้เร็วขึ้น คุณหมอให้แรงจูงใจว่าการออกกำลังกายจะช่วยให้กินอย่างที่อยากกินได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอของการออกกำลังกายด้วย

ถ้าไม่อยากเป็นอันตรายจากภาวะไขมันเกาะตับ ต้องถามตัวเองก่อนว่าพร้อมเปลี่ยนนิสัยการกินหรือยัง คุณหมออาจช่วยปรับไลฟ์สไตล์การกินให้แคลอรี่ลดลงบ้าง แต่อย่าลืมว่าวินัยจากตนเองนั้นสำคัญไม่แพ้กัน สำหรับ "จิ๋ว" เริ่มจากการเข้าโปรแกรม "Fatty Liver Club" ที่มีการตรวจตับและสุขภาพทั่วไป มีโภชนากรให้คำปรึกษาในเรื่องการกินที่เหมาะสม เช่น ให้ทดลองตักอาหารอย่างมีคุณค่าพอดีในแต่ละมื้อรวมถึงทัวร์ซุปเปอร์มาเก็ต ช่วยแนะนำการเลือกซื้อของดีมีประโยชน์แถมยังให้คำแนะนำเรื่องการออกกำลังกายควบคู่กัน

...นอกจากสุขภาพตับดีแล้ว ยังได้หุ่นสวยแถมอีกด้วย...


ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการกิน
ผลไม้มีประโยชน์ แต่ต้องเลือกและกินในปริมาณพอดี ไม่กินแทนมื้ออาหาร เพราะผลไม้บางชนิดมีน้ำตาลสูง เช่น กล้วยหอม เงาะ ขนุน มะม่วงสุก ฯลฯ จะทำให้อ้วนได้มากกว่ากินข้าวเสียอีก
กาแฟ 1 ถ้วยที่ผ่านการปรุงรสให้หอมหวานมันนั้น อาจให้พลังงานมากถึง 250-300 กิโลแคลอรี สำหรับผู้ที่ที่ติดกาแฟต้องดื่มวันละหลายแก้ว ควรดื่มเป็นกาแฟร้อน ซึ่งส่วนผสมต่างๆน้อยกว่าแบบเย็นที่ทำเข้มข้นเพื่อใส่น้ำแข็ง หรืออาจใช้ความหอมมันจากนมสดพร่องไขมันและใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลก็ช่วยลดปริมาณแคลอรีได้
การกินอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ (Low Carb) ลดปริมาณน้ำตาลให้น้อยลงได้จริง แต่จำทำให้ร่างการต้องการไขมันและโปรตีนสูงขึ้น เพราะพลังงานทั้งหมดในร่างกายมาจากอาหาร 3 ส่วน คือ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน เมื่อลดปริมาณตัวใดตัวหนึ่งลง จะต้องเพิ่มตัวอื่นแทน

กินเท่านี้ ต้องใช้(เดิน) เท่าไร
ครีม 1 ช้อนโต๊ะ 50 กิโลแคลอรี ต้องเดิน 0.8-1.2 กิโลเมตร
น้ำอัดลม 1 ขวดเล็ก 80 กิโลแคลอรี ต้องเดิน 1.2-1.6 กิโลเมตร
ขนมเค้ก 1 ชิ้น 300 กิโลแคลอรี ต้องเดิน 3.2-5.6 กิโลเมตร

ด้วยความปรารถนาดีจากโรงพยาบาลสมิติเวช : //www.samitivejhospitals.com/healtharticle_detail/ล้วงลับเรื่อง_ไขมันเกาะตับ_514/th



Create Date : 26 กรกฎาคม 2554
Last Update : 26 กรกฎาคม 2554 9:42:50 น.
Counter : 1011 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Samitivejhospitals.BlogGang.com

samitivej
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

บทความทั้งหมด