สมิติเวช เตือน 5 โรคอันตรายของผู้หญิง


(ข้อมูลจากนิตยสาร AIGLE เดือนตุลาคม)

คำพูดที่ว่า “เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก” นั้นมันไม่ผิดเลยจริงๆ มีเรื่องราวมากมายให้ต้องคิดให้ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลความเป็นอยู่ของครอบครัวแล้ว บางคนยังมีเรื่องการงานที่ต้องทำอีกด้วย ยิ่งถ้าเป็นหญิงเก่งด้วยแล้ว ต้องเหนื่อยเป็นพิเศษกว่าเดิม แต่ไม่ว่าจะเก่งกาจอย่างไรถ้าไม่ดูแลตัวเองให้ดีๆ ก็อาจลำบากมากกว่าเดิมได้ เพราะฉะนั้นควรดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดี

Dr.Carebear หมอหมีใจดีตัวแทนสมิติเวชบนโลกแห่งออนไลน์ภายใต้ Facebook/drcarebear มีข้อแนะนำมาฝากคุณผู้หญิงว่า “ตามสถิติทั่วโลกแล้ว โรคอันตรายที่ผู้หญิงควรระวังนั้นมี 5 โรคด้วยกัน คือ โรคหัวใจ มะเร็งเต้านม กระดูกพรุน โรคซึมเศร้า และโรคภูมิคุ้มกัน Autoimmune ลองมาดูกันว่าแต่ละโรคมีความเสี่ยงจากอะไรและสามารถป้องกันได้อย่างไร”

โรคหัวใจ เป็นสาเหตุการตายของทั้งผู้ชายและผู้หญิงเป็นอันดับต้นๆ ในผู้หญิง โรคหัวใจเป็นสาเหตุการตายสูงถึง 29% ที่สำคัญคือ เป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรและอาจทำให้ทุพพลภาพได้ หรือทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลงได้ ส่วนใหญ่แล้วโรคหัวใจจะพบในผู้ชายได้มากกว่า แต่ที่น่าสนใจคือ ผู้หญิงที่เป็นโรคหัวใจ ไม่ได้รับการตรวจรักษา หรือได้รับการตรวจวินิจฉัยช้ากว่าที่ควร อาการของโรคหัวใจในผู้หญิง อาจจะไม่ใช่แค่อาการเจ็บหน้าอก แต่บางคนมาด้วย อาการปวดที่บริเวณขากรรไกร ปวดที่บริเวณหัวไหล่ หรือมีคลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อย ซึ่งทำให้ไม่คิดว่าเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ
ปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจได้แก่
• อายุที่มากขึ้น
• เพศชาย (มักจะเกิดโรคหัวใจในช่วงอายุที่น้อยกว่า)
• พันธุกรรม
• สูบบุหรี่
• คอเลสเตอรอลในเลือดสูง
• ความดันโลหิตสูง
• ไม่ค่อยออกกำลังกาย
• นํ้าหนักเกินมาตรฐาน
• เป็นโรคเบาหวาน

จากปัจจัยเสี่ยงที่พบ อาจแบ่งออกเป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ และปัจจัยที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ดังนั้นจึงควรแก้ไขในส่วนที่จัดการได้ เช่น การออกกำลังกาย การควบคุมนํ้าหนัก งดสูบบุหรี่ ควบคุมระดับไขมันในเลือด ซึ่งจะทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดสมองได้

มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิง และถ้าพิจารณาจากสาเหตุการตายจากมะเร็งในผู้หญิง มะเร็งเต้านมเป็นสาเหตุการตายอันดับสองรองจากมะเร็งปอด บางครั้งความวิตกกังวลว่าจะพบมะเร็งเต้านม ทำให้ผู้หญิงหลายๆ คนไม่กล้าไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจ หรือเมื่อพบว่าเป็นแล้วทำให้มีการตัดสินใจในการเลือกวิธีการรักษาที่อาจจะเกินกว่าข้อบ่งชี้ตามมาตรฐาน หรืออาจจะไม่จำเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านมได้แก่
• อายุที่มากขึ้น
• พันธุกรรม เกือบ 5% ถึง 10% ของมะเร็งเต้านมสัมพันธ์กับความผิดปกติของยีน ที่รู้จักกันดีคือ ยีนที่มีชื่อ
ว่า BRCA1 และ BRCA2 genes
• ประวัติในครอบครัวมีผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านม
• เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน
• เคยมีประวัติการตัดเชื้อเต้านมผิดปกติ
•1เคยมีประวัติการได้รับการฉายแสงที่บริเวณหน้าอก
• เริ่มมีประจำเดือนตั้งแต่อายุน้อยกว่า 12 ปี หรือคนที่เข้าสู่วัยหมดประเดือนหลังจากอายุ 55 ปี
• หญิงที่ไม่เคยมีบุตร
• เคยได้รับยาบางอย่างเช่น diethylstilbestrol (DES)
• ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
• อ้วน

ถึงแม้ว่าในครอบครัวของคุณไม่เคย มีประวัติเรื่องของมะเร็งเต้านมก็ไม่ได้ หมายความว่าคุณไม่ได้เสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม ดังนั้น คุณควรพยายามควบคุมนํ้าหนัก ออกกำลังกาย งดสูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และพบแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงและตรวจร่างกาย เพื่อที่จะเลือกการตรวจคัดกรองที่เหมาะสมกับคุณ

โรคกระดูกพรุน อาการหลังค่อม หลังงอ ปวดหลัง หรือการที่กระดูกหักได้ง่ายกว่าปกติ เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในผู้หญิงสูงวัย ซึ่งภาวะนี้สามารถป้องกันได้ตั้งแต่ยังสาว เนื่องจากร่างกายจะสร้างมวลกระดูกสะสมไว้ จนกระทั่งอายุประมาณ 30 ปี และเมื่อกระดูกไม่สามารถสร้างเพิ่มขึ้นได้ การรักษามวลกระดูกที่มีอยู่
เป็นเรื่องที่จะต้องทำต่อเนื่องโดย การรับประทานแคลเซียมให้เพียงพอ คือประมาณ 1,000 - 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน นอกจากการรับประทานแคลเซียมให้เพียงพอแล้ว การออกกำลังกาย ชนิดที่ทำให้ร่างกายได้รับนํ้าหนัก เช่นการวิ่ง การเดินเร็ว ไม่มีคำว่าสายไปในการที่จะดูแลกระดูกให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการแตกหัก
ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน ได้แก่
• เพศหญิง
• อายุที่มากขึ้น
• โครงร่าง โครงกระดูกที่ค่อนข้างเล็ก
• คนเอเชียและคนขาวมีความเสี่ยงที่จะเกิดกระดูกพรุน มากกว่า
• ประวัติโรคกระดูกพรุนในครอบครัว
• การที่มีประจำเดือนไม่สมํ่าเสมอ หรือมีระดับฮอร์โมนเพศตํ่ากว่าปกติ
• การเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
• การขาดสารอาหาร
• การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือยากันชัก
• การสูบบุหรี่
• การรับประทานแอลกอฮอล์มากเกินขนาดเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ผู้หญิงควรเริ่มทำการตรวจความหนาแน่นกระดูก

โรคซึมเศร้า (Depression) เป็นโรคที่พบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเกือบเท่าตัว ผู้เชี่ยวชาญแสดงความคิดเห็นว่า ผู้หญิงต้องการสายสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ในชีวิตผู้หญิงต้องการที่พึ่งพิงทางใจ ซึ่งถ้าไม่มีที่พึ่งพิงหรือคนที่คอยเป็นกำลังใจให้ ก็จะทำให้เกิดโรคซึมเศร้าได้บางครั้งการเปลี่ยนแปลง ของฮอร์โมน อาจจะเป็นปัจจัยกระตุ้นต่อการเกิดภาวะนี้ โดยเฉพาะหลังคลอด หรือเมื่อเข้าช่วงวัยหมดประจำเดือน
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าได้แก่
• เคยมีประวัติการเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน
• มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคซึมเศร้า
• มีประวัติของปัญหาโรคหัวใจ
• เจ็บป่วยเรื้อรัง
• มีปัญหาในชีวิตแต่งงาน
• เคยใช้สารเสพติด
• มีการใช้ยาบางชนิดที่กระตุ้นให้เกิดการซึมเศร้าเช่น ยากันชัก ยาลดความดัน
• มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นในชีวิต เช่น การออกจากงาน การเสียคนที่รัก
• โรคบางโรคจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคซึมเศร้าได้เช่น ไทรอยด์ หรือการขาดวิตามิน
• การที่เพิ่งผ่านการเจ็บป่วยหนักร้ายแรงหรือการผ่าตัดใหญ่
• มีประวัติการถูกทารุณในวัยเด็ก
• เป็นโรคความวิตกกังวล
• มีความผิดปกติในการรับประทานอาหาร

เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคซึมเศร้า ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้หากิจกรรมต่างๆ ทำ เช่น การทำงาน การเข้าสังคม การทำงานอาสา เลี้ยงสัตว์ พยายามหาเหตุผลในการที่จะลุกขึ้นทำสิ่งต่างๆ

ความผิดปกติของภูมิคุ้มกันของร่างกาย (Autoimmune Diseases) เป็นกลุ่มของโรคที่เกิดจากความผิดปกติ ของภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่ทำลายเซลล์ปกติของร่างกาย มีโรคในกลุ่มนี้มากกว่า 80 ชนิด เช่น โรค SLE โรคไทรอยด์บางชนิด เป็นต้น และที่สำคัญคือ 75% ของผู้ที่เป็นโรคกลุ่มนี้คือผู้หญิง ซึ่งโรคกลุ่มนี้ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้หญิงที่เป็นแย่ลง สาเหตุที่ทำให้เป็นโรคในกลุ่มนี้ ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ปัจจัยในเรื่องของ พันธุกรรม ฮอร์โมน และสิ่งแวดล้อมอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องได้ และเนื่องจากไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนที่บอกได้ ทำให้โรคในกลุ่มนี้เป็นโรคที่ป้องกันได้ยาก สิ่งที่ทำได้คือหากมีความผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกาย ควรรีบพบแพทย์ เช่น การมีผื่นผิดปกติ อาการปวดบวมของข้อ นํ้าหนักตัวที่เปลี่ยนแปลงโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการบวม ปัสสาวะผิดปกติไป ผมร่วง ซึ่งอาการทั้งหมดนี้ เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้จากความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน ของร่างกายตัวเอง อย่าเพิกเฉยต่ออาการผิดปกติเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม จะได้ให้การรักษาตั้งแต่ระยะแรก
อ่านความรู้เพื่อเป็นแนวทางป้องกันดูแลชีวิตและสุขภาพได้ในนิตยสารรายเดือน ไอเกิล (AIGLE) หรือ //www.aiglemag.com และพบบทความสุขภาพออนไลน์อีกมากมายที่ //www.facebook.com/DrCareBear
ไอเกิล เป็นนิตยสารรายเดือนเพื่อไลฟ์สไตล์และสุขภาพดีที่สามารถ interact กับผู้อ่านได้อย่างสนุกสนาน ท้าทาย เหมาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายคนทำงานรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในสุขภาพ ต้องการสร้างความสมดุลของร่างกาย ความคิด อารมณ์ สังคม และจิตใจ เพื่อความอยู่ดีมีสุข หาอ่านได้ที่ สมิติเวช, Au Bon Pain, Greyhound, Absolute Yoga, True Fitness, California WOW, หมู่บ้านเครือแสนสิริ, ธ.ธนชาต, ธ.ทหารไทย และโรงแรมในเครือ Amari
***************************************



Create Date : 19 ตุลาคม 2554
Last Update : 19 ตุลาคม 2554 10:27:10 น.
Counter : 1044 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Samitivejhospitals.BlogGang.com

samitivej
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

บทความทั้งหมด