เจ็บใจดีกว่า…เจ็บหัวใจ

อุ๊ย…เจ็บใจใครๆ ก็คงเคยเป็นใช่ไม๊คะ  และดูจะเป็นเรื่องธรรมดา…
แต่ถ้าโอ๊ย…เจ็บ “หัวใจ” นี่ซิคะที่เป็นเรื่องใหญ่… วันนี้ Nurse ฝ้าย มีบทความดีมาแนะนำเกี่ยวกับเรื่องหัวใจค่ะ มาลองอ่านกันดูนะคะ



เพราะในปัจจุบันโรคหัวใจนะคะ เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเป็นอันดับหนึ่งของประชากรโลกเลยทีเดียวค่ะ

โดยเฉพาะอาการหัวใจวายซึ่งจะมีอาการเริ่มต้น เช่น อาการเจ็บหน้าอก หรืออาการเจ็บหัวใจแปล๊บๆ ขึ้นมาค่ะ

เหมือนใครเอาเข็มมาทิ่มมาแทง บางทีก็เหนื่อยง่าย ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนของภาวะหัวใจวาย

หรืออาการหัวใจล้มเหลวกะทันหัน (Heart Attack) ย้อนรอยไปจะพบว่าการเกิดหัวใจวายส่วนใหญ่มีสาเหตุ

จากโรคหลอดหัวใจตีบหรืออุดตันซึ่งเกิดมาจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือดค่ะ  และการปริแยกหรือ

การฉีกขาดของเจ้าก้อนไขมันนี้ ภาษาแพทย์เราเรียกว่า“Plaque  rupture ”ในที่นี้ Nurse ฝ้าย ขอเรียกว่า

ตะกอนไขมันในหลอดเลือดก็แล้วกันนะคะ


โดยปกติแล้วนะคะเยื่อบุผนังหลอดเลือดของเราจะมีความสามารถในการป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือด

และป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด แต่ถ้าการทำงานของเจ้าเยื่อบุผนังหลอดเลือดนั้นเสียไปนะคะหรือ

มีการเสื่อมไปของเยื่อบุผนังหลอดเลือด ก็จะทำให้เกิดมีการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือดได้โดยง่ายและก็จะ

เกิดเป็นตะกอนไขมันขึ้นในหลอดเลือดซึ่งก็คล้ายๆ กับการเกิดสนิมขึ้นในท่อประปาทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียน

ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้สะดวกค่ะ


พบว่าถ้ามีการอุดตันของตะกอนไขมันมากกว่า70% ของขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางหลอดเลือดแล้ว ก็จะทำให้เกิด

อาการหัวใจขาดเลือดขึ้นได้ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บหน้าอกในช่วงที่ได้ออกกำลังกายหรืออาจจะมีอาการเหนื่อยง่าย

แต่ถ้ามีการปริหรือฉีกขาดของตะกอนไขมันเกิดขึ้นไขมันและสารต่าง ๆในตะกอนไขมันที่ออกมาภายในหลอดเลือด

จะกระตุ้นทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด (Thrombosis) ขึ้นอย่างรวดเร็ว  ทำให้มีอาการเจ็บที่หน้าอก

อย่างรุนแรงแล้วหัวใจวายหรือเสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วนโดยไม่มีอาการอะไรนำมาก่อนเลยค่ะ


ปัจจัยที่มาทำให้เกิดการปริหรือฉีกขาดของตะกอนไขมันนั้นนะคะ  อาจมีได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นความเครียด

อารมณ์โกรธหรือเสียใจอย่างรุนแรง (มักจะเห็นได้ในละครตอน 2 ทุ่มช่วงที่ยุงชุมๆแหละค่ะ) หรือการออกกำลังกาย

ที่หนักจนเกินไป ซึ่งเราก็เคยเห็นจากข่าวที่นักฟุตบอลต่างประเทศที่เกิดหัวใจวายกลางสนาม ทำให้เป็นที่น่าสงสัย

ว่านักกีฬาอาชีพก็เป็น  Heart Attack ได้นะเหมือนกันนะคะ ดังนั้นคนธรรมดาแต่เท่ห์ไม่ธรรมดาอย่างพวกเรานั้น

จึงไม่ควรประมาทกับเจ้าภัยเงียบนี้โดยเด็ดขาดนะคะ


สำหรับวิธีที่เราจะป้องกันไม่ให้เกิดอาการเจ็บหัวใจนะคะ ก็มีวิธีง่ายๆ โดยเน้นๆ เลยคงเป็นการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ

ที่จะทำให้หลอดเลือดอุดตัน เช่นเลิกสูบบุหรี่ ดูแลเรื่องไขมันในเลือด รวมทั้งควบคุมความดันโลหิตไม่ให้สูงขึ้น

(แต่ความดันทุรังสูงอาจจะไม่เกี่ยวนะคะ) ในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดก็เป็นสิ่งจำเป็น

นอกจากนี้สิ่งสำคัญคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ และการควบคุมน้ำหนักตัวก็สามารถช่วยลด

ความเสี่ยงนี้ได้มากทีเดียวค่ะ


ที่นี้ถ้าเกิดเราหรือญาติสนิทเรานะคะ ต้องเผชิญหน้ากับเจ้าโรคร้ายนี้แบบปัจจุบันทันด่วนนี้ คือมีหลอดเลือดหัวใจ

อุดตันแบบเฉียบพลันขึ้นมาก็อย่าเพิ่งตกใจไป  ขอให้ตั้งสติให้ดีก่อนนะคะ แล้วรีบมาพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเลยค่ะ

ปัจจุบันการรักษาจะทำด้วยการขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน การทำบอลลูนก็คือการเจาะผ่านหลอดเลือดแดง

บริเวณขาหนีบหรือบางกรณีอาจทำที่บริเวณข้อมือก็ได้ค่ะซึ่งเรียกว่า Transradial เพราะจะทำให้ผู้ที่ป่วยได้รับ

ความสะดวกสบายมากกว่า โดยสามารถทำได้ในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่มีความพร้อม หรือถ้ายังไม่พร้อม

ในการทำบอลลูนก็อาจทำการละลายลิ่มเลือดที่อุดตันออกโดยการใช้ยาละลายลิ่มเลือดก็ได้ค่ะ


การตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำก็มีความสำคัญมากนะคะ ที่จะทำกันได้ไม่ยุ่งยากคือ การตรวจเช็คร่างกายค่ะ

โดยวิธีเดินบนสายพานจะทำให้เราทราบค่ะว่า…ขณะออกแรงเต็มที่หัวใจเต้นผิดปกติอย่างไรบ้าง  และถ้ามีภาวะ

หลอดเลือดตีบจะพบว่ากราฟไฟฟ้าของหัวใจจะผิดเพี้ยนไปจากมาตรฐาน ทำให้แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยและ

ให้การรักษาได้ทันท่วงที


วิธีการตรวจร่างกายโดยเดินบนสายพานนี้นะคะควรทำเมื่อมีอาการของโรคหลอดเลือด

หัวใจตีบคือมีเจ็บแน่นหน้าอก เหนื่อยง่ายหรืออาจไม่มีอาการเลยก็ได้แต่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ง่าย

เช่น ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจตั้งแต่อายุน้อยๆ (เหมือนได้รับมรดกนั่นแหละ) ในผู้ชายถ้ามีอายุเกิน 40ปี

หรือผู้หญิงอายุเกิน 50ปี ดังนั้นเราควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีนะคะ


สุดท้ายนี้ขอฝากบัญญัติ  10  ประการ เพื่อป้องกันโรคหัวใจวาย ดังนี้ค่ะ
1. ควบคุมน้ำหนักตัว โดยเฉพาะในคนที่อ้วน (obese) หรือมีน้ำหนักเกิน(Over weight)

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ (เน้นแอโรบิก แต่ไม่หักโหม)

3. เลิกสูบบุหรี่ (ทั้งของไทยและเทศ)

4. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ปกติ  โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานอาจต้องใช้ยาหรือ Insulin

5. ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

6. รักษาระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติโดยการหมั่นตรวจเช็คสุขภาพและควบคุมอาหาร

7. ในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงอาจต้องใช้ยาบางชนิดเช่น  ยาต้านเกร็ดเลือด

8. ลดความเครียด เช่นไม่อ่านหนังสือพิมพ์แนวการเมืองหนักๆ (แต่ถ้าแนวขำๆคงไม่เป็นอะไร)

9. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ไวน์หรือเบียร์วันละ 1 แก้วเล็กพออนุโลม)

10. เพศสัมพันธ์…ตามความเหมาะสม (กรุณาปรึกษาแพทย์ก่อน หากมีปัญหาโรคหัวใจ!!!)



เป็นไงบ้างคะ เมื่อรู้เรื่องของเจ้าโรคร้ายอย่างนี้แล้ว Nurse ฝ้าย อยากฝากให้ทุกท่านนะคะ

ไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และป้องกันด้วยบัญญัติ 10 ข้อ ที่ Nurse ฝ้าย ได้บอกไว้ด้วยนะคะ


ฝากติดตามและติชม บทความดีๆ จาก Nurse ฝ้ายด้วยนะคะ



โรงพยยาบาลสมิติเวช









Create Date : 11 ตุลาคม 2554
Last Update : 17 ตุลาคม 2554 15:05:50 น.
Counter : 738 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Samitivejhospitals.BlogGang.com

samitivej
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

บทความทั้งหมด