You do speak French, don’t you?
Unfortunately no, but I do kiss that way.
(จากภาพยนตร์The Naked Gun2 1/2,1991)
นักดูภาพยนตร์คงจะคุ้นเคยกับสำนวนที่แสนจะอิโรติกข้างต้นและอาจทำให้ใครต่อ ใครพร่ำเพ้อที่จะมีประสบการณ์ French kiss หรือการจูบแบบลึกซึ้งดูดดื่ม นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานสนับสนุนว่า การจูบที่ดูดดื่ม เป็นกิจกรรมหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย กระตุ้นสมองให้หลั่งสารลดความเครียด และสร้างความรู้สึกผูกพันระหว่างกันซึ่งช่วยให้ชีวิตครอบครัวยั่งยืน แต่ช้าก่อน.. ก่อนที่จะบรรจงจูบใครอย่างดื่มด่ำ โปรดทราบว่า การจูบกันอาจทำให้ติดเชื้อโรคบางชนิดได้ ซึ่งโอกาสติดเชื้อระหว่างกันผ่านการจูบนั้น หากจูบดื่มด่ำมาก ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสการติดเชื้อมากขึ้น
เชื้อโรคชนิดแรกที่ติดต่อกันได้จากการจูบ ก็คือ เชื้อไวรัสไข้หวัดทุกประเภท ทั้งไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ไข้หวัดนก หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่2009 เพราะเชื้อไวรัส สามารถติดต่อกันทางลมหายใจ
เริมบริเวณริมฝีปากหรือ Herpes Simplex เป็นไวรัสที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับไข้สุกใส(Chickenpox) หรืองูสวัด(Herpes Zoster) ซึ่งอาการของเริมที่ริมฝีปาก จะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสๆ มีอาการแสบและคัน หากเป็นมากๆหลายๆตุ่ม ก็อาจจะเกิดการบวมของริมฝีปากและเจ็บมาก การรักษาโรคนี้ต้องใช้ครีมต้านไวรัสทาที่บริเวณรอยโรค โรคเริมติดต่อกันโดยการสัมผัสโดยตรง โดยเฉพาะหากมีรอยโรคที่เป็นตุ่มน้ำใสและกำลังจะแตก
เชื้อแบคทีเรีย Streptococcus mutans ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของฟันผุ และเชื้อแบคทีเรียอีกหลายชนิดที่เป็นสาเหตุของเหงือกอักเสบ ก็ติดต่อกันได้ด้วยการจูบ และการใช้ช้อนส้อมในการรับประทานอาหารร่วมกัน
การเกิดแผลในปาก จากเชื้อ Ebstein-Barr virus หรือแม้กระทั่ง เชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori ซึงเป็นสาเหตุของแผลในกระเพาะอาหารและแผลในลำไส้เล็กแบบเรื้อรัง ก็อาจติดต่อกันด้วยการจูบ
โรคที่ติดต่อกันทางเลือด เช่น ไวรัสเอชไอวี หรือโรคเอดส์ และ เชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ก็ติดต่อกันได้ด้วยการจูบอย่างดูดดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคู่รักมีแผลในปาก
ไม่เฉพาะการจูบกันระหว่างคู่รักเท่านั้นที่เป็นการแพร่เชื้อโรค พ่อแม่ที่ชอบจูบปากลูก ผู้ใหญ่ที่ชอบจูบเด็กตัวเล็กๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กป่วยได้ทั้งระบบทางเดินหายใจเช่น เป็นหวัด ปอดอักเสบ หรือป่วยระบบทางเดินอาหาร เช่นอาการท้องเสีย ฟันผุ เป็นต้น ในครอบครัวที่ผู้ใหญ่เคี้ยวข้าวก่อนป้อนให้เด็ก หรือการป้อนข้าวเด็กด้วยช้อนส้อมที่ผู้ใหญ่ใช้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กได้ รับเชื้อโรคจากผู้ใหญ่ด้วยเช่นกัน แม้ว่าผู้ใหญ่จะไม่มีอาการป่วย แต่เด็กซึ่งมีภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรงพออาจป่วยจากเชื้อโรคของร่างกาย ผู้ใหญ่(normal flora)
อย่างไรก็ตาม ชีวิตรักที่ปราศจากการจูบก็เหมือนกาแฟที่ไม่ได้ใส่ครีมเทียม ขาดความกลมกล่อมในชีวิตคู่เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นการจูบจึงไม่ใช่กิจกรรมต้องห้ามสำหรับคู่รัก แต่จะจูบอย่างไรให้สุขภาพดี?
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการจูบอย่างสุขภาพดีก็คือ การดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้ดีอยู่เสมอ เมื่อมีอาการฟันผุหรือเหงือกอักเสบ ควรปรึกษาทันตแพทย์ การตรวจฟันและขูดหินปูนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งช่วยในการคัดกรองว่าฟันซี่ไหนที่เริ่มมีปัญหา จะได้รักษาทันที เพราะความผิดปกติของเหงือกและฟันทำให้เชื้อแบคทีเรียสะสมที่เหงือกและฟันมาก ขึ้น
การแปรงฟันอย่างถูกวิธีทั่วทุกซี่อย่างน้อย 3 นาที โดยวิธีขยับปัดขึ้นลงทุกซี่ การถูไปมาบริเวณหน้าตัดของฟันกราม และการแปรงลิ้น ทุกครั้งหลังอาหาร การใช้ไหมขัดซอกฟัน และการใช้น้ำยาบ้วนปาก จะช่วยลดการสะสมเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ลดกลิ่นปากซึ่งจะทำให้การจูบมีปัญหา คงจะไม่ดีแน่หากลีลาในการจูบของคุณน่าหลงใหลยิ่งกว่าชาวฝรั่งเศส แต่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวเนื่องจากภาวะเหงือกอักเสบ พึงระลึกอยู่เสมอว่า การใช้สเปรย์ดับกลิ่นปาก ไม่ได้ช่วยป้องกันไม่ให้ติดเชื้อโรคจากการจูบ
การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ เพราะเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการเกิดไข้หวัดตามฤดูกาลนั้น แตกต่างกันในแต่ละปี และควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ให้ครบ 3 เข็ม เป็นภูมิป้องกันตนเอง
ควรงดจูบหากพบว่าตนกำลังป่วยด้วยโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ กำลังเป็นหวัด มีแผลในปาก ฟันผุ หรือมีตุ่มน้ำที่ริมฝีปาก
เพียงเท่านี้ เราก็มั่นใจได้ว่า ทุกๆการจูบของเราจะไม่เป็นการแพร่เชื้อโรคให้ผู้อื่น และเราก็มีภูมิคุ้มกันโรคจากการจูบด้วย
เราไม่จำเป็นต้องรู้วิธี French kiss เพราะการจูบที่รุนแรงและยาวนานนั้นเพิ่มโอกาสในการแลกเปลี่ยนเชื้อโรคซึ่ง กัน การจูบเพียงเบาๆ ก็เป็นการแสดงความรักได้ แต่อย่าลืมว่าการจูบที่ดีเริ่มต้นจากสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี การดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้ดีอยู่เสมอจึงควรเป็นสิ่งพึงกระทำ และร่างกายต้องมีภูมิคุ้มกันต่อโรคติดเชื้อ
แต่หากคุณยังยืนยันที่จะพูดประโยค “I don’t speak French, but I do kiss that way.” กับคู่ควงละก็ เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำในบทความนี้ คุณก็สามารถพูดด้วยความมั่นใจมากขึ้นว่า “Not only French kiss I can do, I also do healthy kiss.”
ด้วยความปรารถนาดี จากโรงพยาบาลสมิติเวช//www.samitivejhospitals.com/healtharticle_detail/จูบสุขภาพดี_599/th