ความหมายวันวิสาขบูชา ในแง่คติจากพระชนมชีพของพระบรมศาสดา


 
 
- ความหมายของวันวิสาขบูชา  ในแง่คติจากพระชนมชีพของพระบรมศาสดา
 

     การประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นตรงกันในวันเดียว ความหมายของเหตุการณ์ทั้งสามนั้นก็เกี่ยวพันประสานกันเป็นอันเดียว
 
     การประสูติ  ของพระองค์  มีความหมายเตือนให้เราระลึกว่าคนทุกคน   แม้จะเริ่มต้นชีวิตโดยความเป็นมนุษย์  มีกำเนิดไม่แตกต่างกัน  แต่ต่อจากจุดเริ่มต้นนั้นแล้ว  มนุษย์ก็แสดงความเป็นสัตว์ประเสริฐออกมา  ด้วยความเป็นผู้สามารถที่จะฝึกฝนอบรม
 
     บุคคลผู้มีจุดหมายอันสูงส่ง  มุ่งบำเพ็ญความดีงามปรับปรุงตนอยู่ตลอดเวลา  อาศัยความเพียรและสติปัญญาฝึกฝนตนให้บรรลุความเป็นมนุษย์ผู้เยี่ยมยอดได้  กลายเป็นศาสดาที่เคารพบูชาของปวงเทพและหมู่มนุษย์  นำประโยชน์สุขมาให้ไม่เฉพาะแก่ตนเองผู้เดียว  แต่เกื้อกูลแก่ชาวโลกทั้งหมดด้วย
 
     พระพุทธเจ้าทรงเป็นตัวอย่างแสดงประจักษ์พยานของภาวะเช่นนี้   ทุกคนจึงควรมีกำลังใจเพียรพยายามใช้สติปัญญาพิจารณา  บำเพ็ญความดีงาม  ฝึกฝนปรับปรุงตนให้เป็นมนุษย์ที่ประเสริฐยิ่งขึ้นอยู่เสมอ
 
     การตรัสรู้  เป็นเครื่องเตือนให้ระลึกว่า สิ่งสำคัญที่เป็นผลสำเร็จ และเป็นจุดมุงหมายแห่งความเพียรพยายามและการใช้สติปัญญาของพระพุทธเจ้า ซึ่งทำให้พระชนมชีพของพระองค์กลายเป็นสิ่งมีคุณค่าอย่างสูงสุดนั้น หาใช่การได้มาซึ่งสิ่งสำหรับปรนเปรอบำรุงบำเรอความสุขส่วนตนไม่ แต่เป็นการเข้าถึงความดีงามอย่างสูงสุด ที่ทำให้พระชนมชีพของพระองค์เต็มเปี่ยมสมบูรณ์ พร้อมทั้งเผื่อแผ่ขยายความเต็มเปี่ยมสมบูรณ์นั้นออกไปให้แก่ชีวิตอื่นๆ ด้วย เรียกว่านำมาซึ่งประโยชน์สุขแก่โลก
 
     การเข้าถึงความดีงามนี้เอง  ที่ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะผู้เป็นมนุษย์  กลายเป็นพระพุทธเจ้า ทำให้มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลก    ความดีความงามที่ว่านี้  คือสิ่งที่เรียกว่า  “ธรรม”  หรือ “พระธรรม”
 
     การเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้า ทำให้ธรรมปรากฏขึ้นในโลก ธรรมปรากฏขึ้นแล้ว ก็กระจายความดีงามออกไป ด้วยคำสอนที่สาดแสงสว่างส่องทางแห่งการดำเนินชีวิตที่ดีงาม  นำไปสู่ประโยชน์สุข และความอยู่ร่วมกันอย่างสงบร่มเย็น
 
     นอกจากนี้  การตรัสรู้ยังสอนเราด้วยว่า  การบรรลุผลสำเร็จที่ดีงามนั้น  มิใช่จะกระทำได้ง่าย
 
     พระพุทธเจ้า   กว่าจะตรัสรู้ได้   ต้องทรงบำเพ็ญเพียรพยายาม  ใช้สติปัญญาแสวงหาค้นคว้าทดลองด้วยความเด็ดเดี่ยวและอดทน   จนบางคราวแทบจะสิ้นพระชนมชีพ  ตลอดเวลายาวนานถึง ๖ ปี
 
     ครั้นตรัสรู้แล้ว   เมื่อทรงนำธรรมอันเป็นหลักแห่งความจริงความดีงามนั้น  ไปสั่งสอนผู้อื่น ก็ต้องทรงเสียสละลำบากพระกาย   เสด็จเที่ยวไปทุกถิ่น  แม้ที่แสนจะกันดารและฝ่าภยันตราย
 
     บุคคลที่จะทำความดีงาม บำเพ็ญประโยชน์สุขแก่หมู่ชนก็ควรดำเนินตามพุทธปฏิปทา โดยการเพียรพยายามด้วยความเสียสละ อดทน ไม่ยอมท้อถอย
 
     การปรินิพพาน  มีความหมายที่เป็นอนุสติให้ระลึกว่าพระชนมชีพของพระพุทธเจ้า ในฐานะที่เป็นชีวิตมนุษย์   เมื่อถึงคราวสิ้นสุด  ก็ดับสิ้นไปตามกาลเวลา  แต่พระธรรมที่ได้ทรงค้นพบ เปิดเผยไว้   ทำให้ปรากฏในโลกแล้ว  เป็นหลักแห่งความจริง และความดีงามอันอมตะ ไม่เคลื่อนคลาดแตกดับ เป็นสิ่งไม่ตาย ยังคงส่องทางแห่งปัญญาเพื่อบรรลุประโยชน์สุขแก่หมู่มนุษย์สืบต่อไป และทั้งพระพุทธเจ้ายังได้ทรงตั้งคณะสงฆ์ไว้ทำหน้าที่รักษาสืบทอดส่งต่อประทีปแห่งธรรมแทนพระองค์ต่อๆมาอีกด้วย
 
     แม้ว่าพระพุทธเจ้าจะทรงหยุดเลิกพุทธกิจ  ก็ได้ทรงหยุดเลิกในเมื่อมีอมตธรรมสำหรับอำนวยอมตประโยชน์สืบต่อมา   การปรินิพพานเป็นการดับสนิทในเมื่อกิจสำเร็จ
 
     การดำเนินให้เข้าถึงอมตธรรม และบรรลุอมตประโยชน์เป็นหน้าที่ของเราทั้งหลาย   ทั้งที่จะต่างคนต่างทำ และร่วมกันช่วยกันทำต่อไป
 
     อย่างไรก็ตาม  หากจะมองความหมายให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก  ย่อมเห็นได้ว่าบรรดาเหตุการณ์สำคัญ ๓ อย่าง ในพระชนมชีพของพระพุทธเจ้านั้น การตรัสรู้ต้องนับว่ามีความสำคัญสุดยอด
 
     การเริ่มต้น และการสิ้นสุดของชีวิต  ที่เรียกว่าการเกิดการตายนั้น  มนุษย์ทุกคนมีเสมอเหมือนกัน แต่ข้อพิเศษอยู่ที่ชีวิต ซึ่งเป็นไปในระหว่างจุดต้นและปลายสุดทั้งสองนี้
 
     สิ่งที่ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะเป็นพระพุทธเจ้า และทำให้เราเคารพบูชาพระองค์  ก็คือการตรัสรู้   อันพ่วงพร้อมมาด้วยการกระทำต่าง ๆ เพื่อการตรัสรู้ และพุทธกิจต่างๆ ที่ได้ทรงบำเพ็ญอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการตรัสรู้   แต่เพราะพระชนมชีพของพระองค์เป็นฐานที่ตั้งที่อาศัยแห่งการตรัสรู้ และการบำเพ็ญพุทธกิจเหล่านั้น วันประสูติ และวันปรินิพพานของพระองค์ จึงย่อมพลอยมีความสำคัญตามไปด้วย

     ความเป็นพระพุทธเจ้า อันเกิดจากการตรัสรู้ และการทรงบำเพ็ญประโยชน์แก่มนุษยชาติ ที่เรียกว่าพุทธกิจนี้โดยแท้  ที่เป็นฐานรองรับความสำคัญ และความน่าอัศจรรย์ทั้งหมดที่เกี่ยวกับพระองค์เป็นเหตุให้พุทธศาสนิกชนเคารพบูชาพระองค์ และเป็นส่วนสาระสำคัญที่พุทธศาสนิกชนจะพึงสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับพระองค์ ดังคำพรรณนาแสดงพระคุณของพระพุทธเจ้า ที่เหล่าชนมากหลาย ได้กล่าว และบันทึกเอาไว้เป็นประจักษ์พยาน 
 
     

 

 



Create Date : 14 พฤศจิกายน 2567
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2567 11:55:43 น.
Counter : 69 Pageviews.

0 comments
สัดส่วนความถูกความดี ปัญญา Dh
(30 ม.ค. 2568 07:53:07 น.)
รวมธรรม25 นาฬิกาสีชมพู
(25 ม.ค. 2568 12:40:37 น.)
ธรรมะวันนี้ ๒๑ ม.ค. ๒๕๖๘ **mp5**
(21 ม.ค. 2568 08:16:37 น.)
หลักธรรมะ ปัญญา Dh
(18 ม.ค. 2568 02:10:16 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Samathijit.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]

บทความทั้งหมด