พุทโธวาทก่อนปรินิพพาน (๒๘) แล้วพระศาสดาก็รับสั่งให้พระอานนท์ไปแจ้งข่าวปรินิพพานแก่มัลลกษัตริย์ว่า พระตถาคตจักปรินิพพานในยามสุดท้ายแห่งราตรี เมื่อมัลลกษัตริย์ ผู้ครองนครกุสินาราสดับข่าวนี้ ต่างก็ทรงกำสรดโสกาดูร ทุกข์โทมนัสทับทวี สยายผม ยกแขนทั้งสองขึ้นแล้วคร่ำครวญ ล้มกลิ้งเกลือกประหนึ่งบุคคลที่เท้าขาด ร่ำไรรำพันถึงพระโลกนาถว่า พระโลกนาถด่วนปรินิพพานนัก ดวงตาของโลกดับลงแล้วประดุจสุริยา ซึ่งให้แสงสว่างดับวูบลง" "ด้วยอาการโศกาดูรดังนี้ มัลลกษัตริย์ตามพระอานนท์ไปเฝ้าพระศาสดา ณ สาลวโนทยาน พระอานนท์จัดให้เข้าเฝ้าเป็นตระกูลๆไป แล้วกลับสู่สัณฐาคาร คืนนั้น มัลลกษัตริย์ประชุมกันอยู่จนสว่างมิได้บรรทมเลย "ท่ามกลางบรรยากาศดังกล่าวนี้ นักบวชปริพาชกหนุ่มคนหนึ่ง ขออนุญาตผ่านฝูงชนขอเข้าเฝ้าพระศาสดา พระอานนท์ ได้สดับสำเนียงนั้น จึงออกมารับ และขอร้องวิงวอนว่า อย่ารบกวนพระผู้มีพระภาคเจ้าเลย "ข้าแต่ท่านอานนท์ ปริพาชกผู้นั้นกล่าว ข้าพเจ้าขออนุญาตเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อทูลถามข้อข้องใจบางประการ ขอท่านได้โปรดอนุญาตเถิด ข้าพเจ้าสุภัททะปริพาชก" "อย่าเลย สุภัททะ ท่านอย่ารบกวนพระผู้มีพระภาคเจ้าเลย พระองค์ทรงลำบากพระวรกายมากอยู่แล้ว พระองค์ประชวรหนักจะปรินิพพานในยามสุดท้ายแห่งราตรีนี้แน่นอน" "ท่านอานนท์ สุภัททะวิงวอนต่อ โอกาสของข้าพเจ้าเหลือเพียงเล็กน้อย ขอท่านอาศัยความเอ็นดูโปรดอนุญาตให้ข้าพเจ้าเฝ้าพระศาสดาเถิด" "พระอานนท์ คงทัดทานอยู่อย่างเดิม และสุภัททะก็อ้อนวอนครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ยอมย่อท้อจนกระทั่งได้ยินถึงพระศาสดา พระมหากรุณาอันไม่มีที่สิ้นสุด รับสั่งกับอานนท์ว่า อานนท์ ให้สุภัททะเข้ามาหาตถาคตเถิด" เพียงเท่านี้ สุภัททะปริพาชกก็ได้เข้าเฝ้าสมประสงค์ เขากราบลงใกล้แท่นบรรทมแล้วทูลว่า ข้าแต่พระจอมมุนี ข้าพระองค์นามว่าสุภัททะ ถือเพศเป็นปริพาชกมาไม่นาน ได้ยินกิตติศัพท์เล่าลือเกียรติคุณแห่งพระองค์ แต่ก็หาได้เคยเข้าเฝ้าไม่ บัดนี้ พระองค์จะดับขันธปรินิพพานแล้ว ข้าพระองค์ขอประทานโอกาส ซึ่งมีอยู่น้อยนี้ ทูลถามข้อข้องใจบางประการเพื่อจะได้ไม่เสียใจภายหลัง” "ถามเถิดสุภัททะ" พระศาสดาตรัส “พระองค์ผู้เจริญ คณาจารย์ทั้งหก คือ ปูรณกัสสปะ มักขลิโคศาล อชิตเกสกัมมพล ปกุทธะกัจจายนะ สัญชัยเวลัฏฐบุตร และนิครนถ์นาฏบุตร เป็นศาสดาเจ้าลัทธิที่มีคนนับถือมาก เคารพบูชามาก ศาสดาเหล่านี้ ยังจะเป็นพระอรหันต์หมดกิเลสหรือประการใด” “เรื่องนี้หรือสุภัททะ ที่เธอดิ้นรนขวนขวายมาหาเราด้วยความพยายามอย่างยิ่งยวด" พระศาสดาตรัสทั้งยังหลับพระเนตรอยู่ "เรื่องนี้เองพระเจ้าข้า" สุภัททะทูล |
บทความทั้งหมด
|