กลับมาไดเอตใหม่ หลังเลข 6 หวนคืน... ไม่ใช่ใบ้หวยอะไรเลย เลข 6 ที่ว่า ก็คือน้ำหนักที่นำหน้าด้วย 6 นั่นแล ปลายปีก่อน ถึงราวเดือนเม.ย. ปีนี้ รักษาน้ำหนักได้ที่ 57-58 หลังลดฮวบฮาบน่าใจหายเพราะไดเอตมาเป็นปี จากน้ำหนัก 65-67 นับว่าทำได้ค่อนข้างดี ซึ่งตั้งเป้าไว้ (55 kg.) แต่ไปไม่ถึงสักครั้ง แต่พอปิดเทอม summer นี้กลับบ้าน...บ้านที่แม่หุงข้าว stand by ตลอดวันตลอดคืน กับข้าวตลาดเช้า-เย็น ที่แสนคิดถึง และร้านเซเว่นที่เราเป็นแฟนคลับเหนียวแน่น น้ำหนักก็พุ่งพรวดขึ้นมาถึง 61 ภายในเวลา 2 เดือน วันที่ 1 ที่ผ่านมา ได้บัตรทานบุฟเฟต์ ของ Taste โรงแรม The Westin Grand สุขุมวิท จากพันทิป นาน ๆ ทีจะได้รางวัลต้องคุยเสียหน่อย เคยได้รางวัลจากคะแนนสะสม (point) ครั้งแรก คือบัตรชมภาพยนตร์ แต่สละสิทธิ์ เพราะต้องไปรับที่หน้าโรงหนัง แล้วตรูอยู่อุทัยฯ นั่งรถไปกลับก็สี่ร้อยนะ ไม่คุ้มค่าตั๋วร้อยกว่าบาท เวรกรรม เลยต้องสละสิทธิ์ แต่สำหรับ The Taste โฮะ ๆ ตอนคลิกแลกรางวัลไม่ได้แหกตาดูหรอกว่าอะไรเป็นอะไร พอเห็นว่าตัวเองได้ ก็ดีใจ มิใช่เพราะได้กินฟรี แต่ดีใจที่ตัวเองโชคดีว่ะ แลกไปตั้งห้าพันพ้อยท์แน่ะ เลยเข้าไปดูรายละเอียดเสียหน่อย มันคืออะไร 555 เป็น Dinner Buffet เฉพาะศุกร์-เสาร์ นี่เอง หัวละ...ย้ำว่าหัวละ 1,890 บาท! อะไรวะนั่น มื้อเดียวเนี่ยนะ! นี่คือคำอุทานของคนที่เคยกินแต่บุฟเฟต์ (หมูกระทะ) แพงสุดหัวละ 199 โหะ ๆ ไม่นานพันทิปก็ส่งบัตรทานฟรีมาให้ เลยเก็บไว้ เพื่อพาแม่ไปเลี้ยงวันเกิดล่วงหน้า (ท่านผบ.เกิด 13 มิ.ย.) แล้วก็ได้ไปสมใจคือวันที่ 1 ฝนตกหนักราวกับฟ้ารั่วตอนไปถึงโรงแรม หรูหราไฮโซ แต่ทานโทษ เราพาแม่ไปพักโรงแรมรูหนูแถวมาบุญครอง คืนละ 600 เพราะยั่นกับราคาที่ The Westin จำไม่ได้ว่าอย่างต่ำคืนละสี่พันกว่า ๆ ทำนองนั้น เลยอย่าดีกว่า นอนรูหนู แต่กินแบบราชาละกัน ตังค์บ่มี เสียดายไม่กล้าถ่ายรูปมา เพื่อนสนิทติดสอยห้อยตามไปด้วย ร้านไม่ได้ใหญ่โตอย่างที่คิด แต่ก็ไม่คับแคบ พอไปถึงก็แจ้งเลยว่ามากินฟรี 2 ท่าน เขาเลยถีบส่งออกมา อ๊ะ ล้อเล่น พนักงานที่นี่ดีมาก นอบน้อม พูดจาดี เทคแคร์ดีมากแม้เรามากินฟรี มีสองคนที่ถามว่าเราเป็นคนที่ไหน เพราะเราพูดเหน่อ 555 เขานึกว่าคนบ้านเดียวกัน และเพราะความปากหวานปากดีของเรานี่แหละ เขาเลยเอาใจโต๊ะเรากันเต็มที่เพราะไปเป็นพวกแรก ๆ หลังร้านเปิด อาหารลงไลน์หมดแล้ว เราเดินไปยังอาหารที่เราหาข้อมูลไว้ และตั้งใจจะกินแน่ ๆ เอาให้รู้ ให้เคยปาก ก็ไปที่ไลน์อาหารสด ชี้นิ้วเลยละ โฮะ ๆ เอาเนื้อแกะนิวซีแลนด์ ปลาหิมะ แซลมอน กั้ง กุ้ง ย่างมาเลยนะ โดยไม่รู้ว่าพนักงานแอบสั่งให้เราแล้วชุดหนึ่ง เดินไปดูติ่มซำ คนในห้องก้นครัวว่าไม่เวิร์ก เลยไม่แตะ ไปดูพิซซ่า เขาว่าอร่อย เลยตัดมาชิ้นหนึ่ง เป็นอย่างเดียวที่เรากินในโซนอาหารอิตาเลียน แล้วก็ไม่ผิดหวัง อร่อยมากกกกกกกก จนก่อนกลับต้องแวะไปเอามาอีกชิ้น และไฮไลท์ คือขาปูอลาสก้าหรือเปล่าไม่แน่ใจ อันนี้ท่านผบ.ชอบมาก บอกอร่อย เนื้อแน่น เราตักมาตั้งสองจานโต ๆ กับหอยนางรมสด ราดน้ำจิ้มซีฟู้ด เราเคยฝันร้ายกับหอยนางรมสดแช่เย็นมาก่อน คิดถึงทีไรจะอ้วกทุกที แต่หอยที่นี่ใหญ่ เลยคีบมา 3 ตัว เพื่อลบฝันร้าย แล้วก็หายฝันร้าย ขาปูอร่อยมาก หอยก็สดจนออกหวาน เลยไปเอามาอีก คืนนี้ไม่ต้องนอน เดี๋ยวคึกจัด ๆ ออกมาวิ่งที่สนามกีฬาฯ 555 กลับมาที่โต๊ะ ตกใจกับพวกเนื้อย่างมากมายกินไม่หมด และไฮไลท์อีกตัวที่เราตั้งใจมากิน คือฟัวกราส์ เขายกมา 4 ที่ ชิ้นน้อย ๆ ราดซอสส้ม ท่านผบ.ไม่กิน เพื่อนเราชิมไปนิดเดียวแล้วส่ายหน้า เราเลยเหมาหมด! กินฟัวกราส์ 3 ที่ครึ่ง! หอยเกือบสิบตัว ขาปูนับไม่ถ้วน ปลาหิมะย่าง แซลมอนย่าง เนื้อแกะที่เหนียวนิด ๆ กุ้งสด กุ้งย่าง กั้งย่าง พิซซ่า ต้มยำกุ้งที่พนักงานยกมาให้ชิม พุงเริ่มปลิ้นละ เดินไปหยิบชีสหน้าตาแปลก ๆ มากิน ไม่ชอบเท่าไร เลยไปดูของหวาน ขนม เสียดายกินไม่ไหวแล้ว เลยไม่ได้ลองช้อกโกแลตฟองดู หยิบแต่พวกช้อกโกแลตสองสามชิ้น กับขนมหวาน ๆ หน้าตาสวย ๆ อีกไม่กี่ชิ้น คือกินจนพุงตึงเหมือนจะแตกอะ ยังเหลือขนมน่ากินอีกเยอะ แต่ไม่ไหวจริง ๆ ได้แค่ตบท้ายด้วยไอศกรีมราสเบอรี่อีกก้อนหนึ่ง เพื่อนเรายังไปเอาพวกปลาดิบมา ชวนกิน แต่เราปฏิเสธ กลัวพุงระเบิด เป็นมื้อที่อร่อยที่สุด แพงที่สุด ตึงพุงที่สุดในชีวิต แบบว่าคุยได้ไปชั่วโคตรเลยทีเดียว แล้วกลับมานั่งเครียด 555 อยู่บ้านท่านผบ.ไม่กินเนื้อและหมู มีแต่ไก่กับปลา เราก็โอเคนะ แต่ไก่เอยปลาเอยของท่านผบ.มันมากมาย ไหนจะข้าวสวย เราซัดวันละ 2 มื้อ ไม่นับของกินใน 7-11 และนมเมจิรสกาแฟที่เราขาดไม่ได้ ไม่แปลกใจเลยว่าน้ำหนักพุ่งพรวดขึ้นมา 3-4 กิโลฯ ในเดือนกว่า ๆ ได้ยังไง ตอนนี้เลยกลับมาไดเอตอีก เคยทำได้ก็ต้องทำได้อีกครั้ง ตั้งเป้าใหม่ไว้ที่ 55 kg. ภายในเดือนตุลาคม 2555 (ตั้งเป้าแบบไม่กดดันตัวเองเช่นเคย) โดยใช้หลักการเดิม ๆ ที่เหมาะกับตัวเอง คือลดข้าว และอาหารมัน ๆ ลดของโปรด พวกชีส ไก่ทอด และอาหารแป้ง มื้อเย็นกินให้น้อยที่สุด และต้องไม่กินอะไรหลังหกโมงเย็น ดื่มน้ำมาก ๆ เดินมาก ๆ ไม่ใช้ลิฟต์ จอดรถไกลมาก ๆ แล้วเดินไปที่หมาย รวมทั้งชั่งน้ำหนักทุกวัน นี่เป็นหลักที่เราทำจนสำเร็จเมื่อปีกลาย วันนี้หนัก 61.6 kg. (ชั่งที่หน้าเซเว่น) ศุกร์นี้ต้องเหลือ 60 หรือน้อยกว่านั้นให้ได้ เป็นกำลังใจให้สู้ ๆ ค่ะ อายุยังน้อยโอกาสลดน้ำหนักเป็นไปได้ง่าย ถ้าตั้งใจจริง
ป้าพรรณ ก็กำลังจะลดน้ำหนักเหมือนกัน แต่แก่แล้วคงลดได้ยาก ลองมาก็หลายคร้งแล้ว ได้ทีละ2-3 กิโลก็หยุด เที่ยวนี้ก็อยากลดอีกเพราะน้ำหนักทะลุ70 แว้วว...แต่ก็อยากจะลองดุอีกสักตั้ง สู้ๆๆนะคะ โดย: ป้าพรรณ (ประนม ) วันที่: 6 มิถุนายน 2555 เวลา:1:20:03 น.
สวัสดีครับ
ตามมาจากห้องพันทิป ทราบจากห้องนั้นว่า คุณก็เป็นคนหนึ่งที่ลาออกจากการเป็นข้าราชการครูมาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ชีวิตคล้ายกันครับ ถ้าไม่รังเกียจรบกวนสื่อสารทางอีเมล์ บางครั้งผมก็อยากปรึกษากับคนที่เข้าใจกันในเส้นทางที่ได้ตัดสินใจเลือกเดินมา lorpoei@yahoo.com โดย: lesta IP: 202.28.48.2 วันที่: 16 สิงหาคม 2555 เวลา:21:25:07 น.
ว้าว เมื่อไหร่เราจะได้เห็นเลข 5 นำหน้าสะทีนะ นานมากแล้วที่เราไม่ไ้ด้พบกัน ฮ้าๆๆ สู้ๆนะ
โดย: ยัยนู๋เฮฮา วันที่: 25 กันยายน 2555 เวลา:8:48:22 น.
|
บทความทั้งหมด
|
๑JWellnesscoach โค้ชแจ๋
www.facebook.com/HSOonline