กลับมายืนที่เดิม ที่ที่เคยคุ้นเคย ฮิ้ววว ~
หลังจากหายข้ามปี ณ วันนี้กลับมาแ้ล้วค่า
หน้าย่น เอ๊ยยย เครียดแบบปุ๊ด ๆ มาหลายเดือน (ปานนั้น)
ตอนนี้จบไปอีก 1 งานบิ๊ก ๆ ละ ค่อยชิล ๆ กับชีวิตหน่อย

ที่หายไป ที่จริงไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะ หลอนอยู่แถว ๆ นี้ล่ะ
เพียงแต่สมองและความคิดถูกบีบ ให้ไปสาละวนกับการเตรียมตัว
สารพัด สารพันสิ่งที่ต้องจัดการ จัดเตรียม

เรื่องราวบางอย่าง เราไม่สามารถที่จะหยุดไม่ให้เกิดขึ้นได้เลยเนาะ
สิ่งที่ทำได้ ก็เพียงนั่งนับถอยหลัง จนถึงวันที่ต้องเผชิญ

ใครไม่มาเป็นเราไม่รู้ว่าการที่ต้องไปประชุม กับผู้คนอีก 10 ประเทศนั้น
มัน "เครียด" แค่ไหน หูตูบเอาง่่าย ๆ เลยนะคะ

ถึงจะแค่ไม่กี่วัน แต่การเตรียมตัวเราเตรียมกันเป็นเดือน
กังวลไปหมด ทั้งอาหาร อากาศ เวลาที่ต่างกัน เงิน ผู้คน ภาษา ข้อมูล
เล่นเอาจิตตกมากมาย

แค่เจอค่ารถ taxi ก็แทบกระอักกันเลยที่เดียวค่ะ
ค่า taxi จากบ้านไปกลับสุวรรณภูมิ โดนค่ารถ 2 ขาเกือบ 800 บาท
แอบเคืองบ้านตัวเองว่าอยู่ห่างสนามบินจัง

พอไปถึงที่หมาย จากสนามบินไปโรงแรม ก็เฉี่ยว 3,000 บาทแล้ว
ตรงนี้เคืองมากมาย ทำไมเงินบาทไม่แข็งค่าขึ้นมามาก ๆ เนี่ย
งานนี้แลกเงินไป 5,000 บาท ไว้สำหรับจ่ายค่ารถอย่างเดียว
ส่วนคชจ.อื่น รูดการ์ดสถานเดียว

ตอนผ่านด่าน ทำเราเซ็งจิตได้อีก คือว่าก่อนออกจากบ้าน
ดันคว้ากล่องดินสอที่ใช้ประจำัยัดใส่กระเป๋ามาด้วย
ซึ่งในนั้นมีคัตเตอร์อันโปรด (ที่เอาไว้ตัดหนังข้างเล็บ) 555

พอเค้่าสแกนกระเป๋าปุ้บ โดนเรียกค่ะ จนท.ถามว่าเรามีคัตเตอร์ใช่มั้ย
เราก็...เอ่อ(นึก ๆ) ไม่มีนี่นา เอ๊ะ ...หรือว่า เอ๊ยยย ... มีจริง ๆ
ก็เลยหยิบกล่องดินสอออกมา ใช่เลยค่ะ ... คัตเตอร์จริงด้วย

อารมณ์ตอนนั้นคืออยาก(ตบ) กะโหลกตัวเองมาก
ทำแววตาอ้อนวอนจนท.ว่าไม่เอาไปได้มั้ย
เค้าบอกไม่ได้ มันเป็นกฎ ... แทบร้องไห้เลยค่ะ รักคัตเตอร์อันนี้มาก

ลองคิดดูนะคะว่า พอเค้ารับคัตเตอร์จากเราไป เค้าโยนลงถังทิ้งทันที
เราได้ยินเสียงมันหล่นไปกระทบของอื่น ๆ แล้วใจแทบสลายเลย
เลยบอกจนท.ว่า รู้มั้ยคะว่าคัตเตอร์แบบนี้หาซื้อยากมาก แล้วมาโดนทิ้งเนี่ย

หลังจากนั้นเค้าก็เอากระเป๋าไปสแกนอีก เค้าบอกมีอะไรคล้ายวัตถุน่าสงสัยอีก
เราก็เปิดกล่องดินสออีกครั้ง อ๋า... มันคือไขควงค่ะ (แล้วจะพกทำไมฟระ)
เลยบอกจนท.ว่า ไขควงไว้ไขขาแว่น จะเอามั้ยคะ เอาแว่นไปด้วยมั้ย
(ออกแนวประชดแล้วเรา จิตตกจากคัตเตอร์) 5555 เค้าบอกไม่เอาครับ
เฮ้อ.... เอาไขควงไป แล้วคืนคัตเตอร์มาไม่ได้เหรอ ... ชิส์~


วันแรกไปถึง มีการต้อนรับด้วยเนื้อแพะค่ะ อ๊ากกก.... ช้านจะบร้า
คือว่าจะั่นั่งกันแบบโต๊ะละ 6 คน แล้วอาหารจะถูกส่งเวียนมา
ไอเราก็ไม่ทานเนื้อสัตว์ แต่ปฏิเสธไม่ได้ เลยจำยอมตักมาชิ้นเล็ก ๆ
คิดว่าโอ.. คงฝืน ๆ เคี้ยว ๆ ไป

ที่ไหนได้ .. คำแรก "อึ้ง" คือว่าเหม็นสาบมาก ถึงมากที่สุด
แล้วอาหารที่เวียนกันแต่ละอย่างในค่ำคืนต้อนรับนั้น
ทำเอาเราแทบตายแน่ะ ทำไมว๊า... ตั้งแต่มื้อแรกเลย

การประชุมออกแนวเครียดค่ะ ผู้บรรยายมาจาก UK เสียงแบบว่า
"พาง่วง" สุด ๆ เราคำนับไปหลายทีเลย

จะมาตื่นก็ตรงที่ต้องรายงานผลการทำงานของแต่ละประเทศ
เป็นการคั่นรายการที่ค่อนข้างเฮฮาค่ะ ตาโตช่วงนี้ทุก ๆ 1 ชั่วโมง ฮา~

ตอนที่ประชุม กลายเป็นว่าพวกเราได้ข่าวว่าที่ญี่ปุ่นเกิดสึนาิมิ
เป็นเรื่องเศร้ามากเลยค่ะ เพราะมีคนมาจากญี่ปุ่น 4 คนอยู่กับพวกเรา
คิดดูว่าถ้าเป็นเรา คงไม่มีกระจิตกระใจจะอยู่ประชุมต่อแล้วเนาะ
บ้านเกิดเมืองนอนเกิดเหตุการณ์ประมาณเนี้ย เห็นใจทั้ง 4 คนมากเลย

แต่ที่น่าแปลกที่ไปคราวนี้ มีหลายประเทศถามเราว่าเราเป็นคนจีนเหรอ
ฮ่วยยย ~ หน้าตาอะ.. อาจจะดูคล้าย แต่ข้อยซิเป็นไทย เข้าใจบ่

ส่วนขากลับออกแนวฮาค่ะ ที่ที่เรานั่งดันไปติดกับหนุ่มสาวจีนคู่นึง
เค้าพยายามส่งสายตามาหาเรามาก ประมาณว่าเจอชาติเดียวกัน(มั้ง)
เราก็เลยหันไปคุยกับเค้าแต่เป็นภาษาอังกฤษ เค้าก็ยิ้ม ๆ มา
สงสัยคิดว่าไอ้นี่ลืมกำพืดซะแล้ว ภาษาจีนมีไม่พูด ฮ่า ฮ่า

ทีนี้พอแอร์เอา Thai Immigration Card มาให้ เราก็หย่อนลงกระเป๋า
2 คนนี้ก็แบบว่ามอง แล้วทำหน้าเป็นเครื่องหมายคำถามว่าไม่เขียนเหรอ
เราก็ยิ้มให้ แล้วก็เริ่มหลับ 555

ดูเค้าสงสัยเราตลอดการเดินทาง จนสุดท้ายเราเลยแกล้งหยิบ Passport ออกมา
เค้าคงเริ่มคิดแล้วว่าอ้าวเราไม่ใช่คนจีนนี่หว่า แล้วเค้าก็คุยภาษาจีนกัน
ซึ่งเรา "ฟังไม่ออก"

หลังจากเสร็จทุกอย่าง เราก็เดินออกมา เจอ 2 คนนี่เอง
เราเห็นเค้าสะกิดกัน แล้วก็มองมาที่เรา คงยังสงสัยไม่เลิก
ถ้าสงสัยไม่ถามล่ะ จะได้บอกให้ว่า "ข้อยเป็นเจ้าของประเทศนี้นะ ฮ่า ~


มีสิ่งที่่น่าเซ็งอีกอย่างค่ะ เรื่องมือถือดันไปตายนอกโลก เอ๊ย..นอกประเทศ
ทำเอาเราเอ๋อไปเลย ติดต่ออะไรใครไม่ได้ เหมือนอยู่นอกโลกจริงๆ
ดีที่เอาไป 2 เครื่อง แต่เครื่องที่เสียเป็นเครื่องที่มีสมบัติบ้าอยู่เยอะมาก

รูปดี ๆ ก็อยู่เครื่องนั้น รูปที่พอดูถูๆ ไถๆ กลับอยู่อีกเครื่องที่ไม่เสีย
เลยไม่ค่อยมีรูปอะไรให้ดูมากค่ะ ประมาณว่าอารมณ์ของท้องฟ้าและอากาศ
ของแต่ละวันนั้นไม่เหมือนกัน ก็เลยได้รูปมาให้ดู... นิดหน่อยเองค่ะ

เรื่องมือถือเสีย พอเรากลับถึงเมืองไทยปุ้บ ก็รีบบึ่งกลับบ้านเปลี่ยนชุด
... อ๊ากกก คิดถึงเสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะมั่ก มั่ก

แต่ที่สนามบินดันเจอนักร้องเกาหลีกลับประเทศ ทำให้ออกจากเครื่องไม่ได้
ต้องรอกลุ่ม VIP เสียเวลาไปอีก เฮ้อ~

แล้วรีบบึ่งไปเดอะมอล์ล งามวงศ์วาน วิ่งหูตูบเลยค่ะ เกือบทุ่มครึ่งแล้ว
ไม่รู้ว่าศูนย์ฯปิดกี่โมง พอไปถึงหน้าศูนย์วิ่งเข้าไปจะกดรับบัตรคิว

อ้าว ~ เค้าปิดแล้ว
ถามพนักงานเค้าก็บอกช่างไปแล้ว ถ้ารู้ว่าปิดเร็วแบบนี้ ไม่รีบหรอกนะเนี่ย


วันนี้เลยหยุดซักผ้า อย่างมหาศาลค่ะ ซักตั้งแต่ 8 โมงครึ่งตอนเช้า
มาเสร็จเอาตอน 5 โมงเย็น แบบว่าซักเอาโล่! กันเลย

ที่ซักนานขนาดนั้น เนื่องจากตอนรอเครื่องปั่นผ้า เราหลับไปหลายตลบค่ะ
เลยเสียเวลามากมายปานนั้น

ตอนนี้ยังง่วงอยู่เลยค่ะ 555 แต่ผ้าที่ต้องรีด ... เยอะมว๊ากกกกกกก !
บ้่านยังไ่ม่ได้กวาดเลยด้วย แต่ไม่ไหวล่ะ เหนื่อยสุด ๆ แล้ว

ที่โรงแรมมี Art Space ด้วยอะ


แสงสวยยามอาทิตย์อัสดง เป็นบ้านที่น่าอยู่มาก อยู่หน้าอ่าวเลยค่ะ
มองเห็นตรงเนี้ยจากหน้าต่างห้องนอนเลย


มีเรือส่วนตัว จอดหลายลำอยู่




ที่เนี่ย... อยู่ติดทะเล ไม่ซิ.. อ่าวหรือว่ามหาสมุทรก็ไม่รู้ค่ะ

รูปในมือถือเครื่องส่วนมากเป็นรูปในการประชุมค่ะ รูปเล่น ๆ มีแค่เนี้ย
ส่วนรูปสวย ๆ อีกเพียบ อยู่ในเจ้าเครื่องที่ตายไปแล้ว ยังเอาออกมาไม่ได้
อุตส่าห์ว่าไม่เอาคอมไป ไม่เอากล้องไป พกแต่มือถือ หวังพึ่งพาเต็มที่
ไว้ใจกันไม่ได้เล้ยยยยยยย!


บรรยากาศริมอ่าว... ดูเวิ้งว้างมาก ยิ่งตอนอาทิตย์อัสดง เหงาเป็นที่สุด
และยิ่งเหงาเป็นล้านเท่า เื่มื่อต้องอยู่ท่ามกลางผู้คน....
ที่ไม่ได้พูดภาษาเดียวกับเรา้เนาะ



Create Date : 14 มีนาคม 2554
Last Update : 14 มีนาคม 2554 21:40:42 น.
Counter : 715 Pageviews.

3 comments
คุย โอพีย์
(13 เม.ย. 2567 21:51:16 น.)
ระยองฮิสั้น จันทราน็อคเทิร์น
(12 เม.ย. 2567 15:33:48 น.)
ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 349 "วันใดที่เธอ...." จันทราน็อคเทิร์น
(8 เม.ย. 2567 14:18:13 น.)
ทริปอเมริกา #1 - รีวิวสายการบินฟิลิปปินส์ ไม่แพงมากและดีกว่าที่คิด ฟ้าใสทะเลคราม
(6 เม.ย. 2567 13:46:53 น.)
  
เค้าคงเริ่มคิดแล้วว่าอ้าวเราไม่ใช่คนจีนนี่หว่า แล้วเค้าก็คุยภาษาจีนกัน
ซึ่งเรา "ฟังไม่ออก"


...................

สงสัยเค้าอยากนินทามานานแล้ว
พอรู้ว่าฟังไม่ออก
เลย ฉอด ๆๆๆๆๆ กันเลย อิอิ

โดย: โสดในซอย วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:21:36:16 น.
  
อ๊ากกก.... ทำไมเราลืมคิดในมุมนี้น๊า
อย่าให้เจอกันอีกนะ ฮึ่ม!

แต่ก็เป็นไปได้ค่ะ เพราะเราหลับมาตลอดทาง
หลับแบบคำนับ... นับแทบไม่ทัน ไม่รักษาภาพพจน์กันเลย

ประมาณว่าจะีมีอะไรมา ฉันไม่สน ฉันจะนอนอย่างเดียว
อดหลับอดนอนมาหลายวัน เหนื่อยสุดขั้วแล้ว



5555
โดย: relaxontheweb วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:21:44:38 น.
  
วันนี้เอามือถือไปให้ศูนย์เช็ค ไปถึงก็ส่งให้เค้า
และบอกว่ามือถือดับ ชาร์จไฟไม่เข้า
เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวกระตุ้นแบตให้
รอ 5 นาที ก็ใช้ได้ปกติ

~ฟังดูเหมือนเป็นอาการที่เค้าเจอมาไม่้น้อยเลย~

สรุปคือเค้าบอกว่า "ขั้วแบตหลวม"
ขั้วแบตอยู่ดี ๆ หลวมได้ด้วย เง็งเลยเรา

แต่ก็โอเคล่ะค่ะ ตอนนี้นังหนูใช้ได้ปกติแล้ว
โดย: relaxontheweb วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:0:09:38 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Relaxontheweb.BlogGang.com

ย่องเงียบ สีหน้าเรียบเฉย
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด