ทะเลนี้ตั้งตามชื่อผู้รุกราน/ทรราชชาวสเปญ ที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนพื้นเมืองแอสเท็ค Aztec
หนึ่งในสายน้ำของ Lower Colorado River ที่ไหลลงต่อไปในเขตชุ่มน้ำ
และเริ่มมีการฟื้นคืนสภาพแวดล้อมทางระบบนิเวศวิทยา
ที่มาของภาพ
//goo.gl/7vPOUb วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แม่น้ำโคโลราโด้ เธอคงไม่ต้องเปิดจุกแชมเปญฉลองชัย
แต่สำหรับ Jennifer Pitt นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ยิ่งต้องฉลองชัยชนะ
ในการที่แม่น้ำโคโลราโด้ ได้ไหลไปถึงทะเลคอร์เตซ Sea of Cortez อีกครั้ง
เรื่องนี้เป็นวาระที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับนักอนุรักษ์นิยม
ที่ระบุว่าแม่น้ำสายนี้ไม่เคยไหลไปถึงทะเลมามากกว่า 50 ปีแล้ว
เธอเคยไหลไปถึงทะเลชั่วครั้งชั่วคราว 2 ครั้งในปี 1980(2523)
และครั้งสุดท้ายในปี 1998(2541)
" ช่วงจังหวะของการพบกันกับน้ำทะเล
ได้แสดงถึงความสำเร็จของการเดินทางที่ยาวนาน
แสดงถึงสัญลักษณ์ความหวังของพวกเราทุกคน
ที่ได้พยายามคืนสายน้ำให้กับดินดอนสามเหลี่ยม Colorado River Delta
และสำหรับการคืนแม่น้ำอีกหลายสาย
และลุ่มน้ำอีกหลายแห่งในโลกใบนี้
ขณะที่อุณหภูมิโลกเปลี่ยนแปลง
ได้ส่งสัญญาณถึงความไม่แน่นอนของอนาคต "
Pitt ผู้อำนวยการ Environmental Defense Fund's Colorado River Project
กองทุนปกป้องสิ่งแวดล้อมโครงการแม่น้ำโคโลราโด้
53 วันของการเดินทางผ่านดินดอนสามเหลี่ยม แม่น้ำโคโลราโด้ได้พบกับ
น้ำขึ้นน้ำลงของทะเลคอร์เตซ Sea of Cortez (Gulf of California)
Photo credit: Francisco Zamora, Sonoran Institute, with aerial support from LightHawk.
ที่มาของภาพ
//goo.gl/rZoH0g " ฉันคิดว่า เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังมาก
เป็นการจุดประกายไฟที่สร้างความสนใจไปรอบโลก
ในการที่แม่น้ำโคโลราโด้ได้ไหลอย่างสมบูรณ์แบบอีกครั้ง " Pitt กล่าว
หลังจากไหลผ่านดินดอนสามเหลี่ยมกว่าแปดสัปดาห์
สายน้ำจากแม่น้ำโคโลราโด้ก็ได้สัมผัสกับน้ำขึ้นน้ำลงของทะเล
นับเป็นครั้งแรกใน 16 ปีที่แม่น้ำโคโลราโด้
ที่ไหลมากกว่า 1,450 ไมล์ (2,334 กิโลเมตร)
จากต้นน้ำเทือกเขา Rocky Mountains of Colorado
ไปยัง Sea of Cortez (Gulf of California)
ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซิโก
ได้บรรจบจุดหมายปลายทางสุดท้าย
สายน้ำเดินทางถึงทะเลในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตอนเที่ยงวัน
เร็วกว่าที่นักวิทยาศาสตร์คาดคิดและประมาณการไว้มาก
หลังจากเดินทางกว่า 100 ไมล์จากดินดอนสามเหลี่ยม
ที่แห้งแล้งปราศจากพืชผลที่เขื่อนกั้นน้ำโมเรโลส Morelos Dam
ตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย อริโซน่า กับเม็กซิโก
อันเป็นผลมาจากข้อตกลงระหว่างสองประเทศ
หลังจากมีการเจรจาต่อรองกันมาหลายปีแล้ว
แม่น้ำได้ผสมผสานกับน้ำขึ้นน้ำลงของปากอ่าว
Photo credit: Francisco Zamora, Sonoran Institute, with aerial support from LightHawk
ที่มาของภาพ
//goo.gl/rZoH0g มีน้ำเพียงพอสำหรับบ้านกว่า 200,000 หลัง
เป็นเวลาหนึ่งปีตั้งแต่เริ่มปล่อยให้สายน้ำไหล
ในวันที่ 23 มีนาคม เพื่อชุบชีวิตต้นไม้ ชีวิตสัตว์ป่า พืชและสัตว์น้ำ
ที่กลายเป็นที่เสื่อมสลายย่อยยับมาหลายสิบปีแล้ว
หลังจากที่ดินดอนสามเหลี่ยมกลายเป็นที่แห้งแล้ง
แม่น้ำมีต้นกำเหนิดและมีจุดจบปลายทาง
แม่น้ำได้พัดพาตระกอน ธาตุอาหาร และน้ำจึด
จากแผ่นดินไปสู่ที่ราบชายฝั่งทะเล
ช่วยสร้างความยั่งยืนใหักับผลิตผล
และทรัพยากรธรรมชาติในท้องทะเล
ดินดอนสามเหลี่ยมกับเขตแม่น้ำกร่อย(น้ำจืดน้ำทะเลมาพบกัน)
คือ แหล่งที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
เป็นระบบที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
ก่อนที่เขื่อนกั้นน้ำขนาดใหญ่จะถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 20
สารอาหารตามธรรมชาติจากน้ำจืดของแม่นำโคโลราโด้
ได้ผสมผสานกับน้ำเค็มของอ่าวตอนเหนือ
ได้สร้างความสมบูรณ์ทางชีวภาพและเพาะเลี้ยง
สัตว์น้ำชายฝั่งของอ่าวประเภทปลา corvina, totoaba,
กุ้งสีน้ำตาลและสีน้ำเงิน รวมทั้งสัตว์น้ำประเภทอื่น ๆ
ได้สร้างพาณิชยกรรมและวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่
ในเขตภูมิภาคและชนพื้นเมือง Cucapá
แต่ในหลายสิบปีที่ผ่านมา
การพบกันของแม่น้ำกับทะเลขาดหายไป
รวมทั้งการทำประมงที่มากเกินไป
การขาดแคลนน้ำจืดที่ไหลลงทะเล
ทำให้ปริมาณสัตว์น้ำบริเวณอ่าวตอนเหนือ
ลดน้อยหายไปเป็นอย่างมาก
ตั้งแต่ที่เขื่อนกั้นน้ำ Glen Canyon Dam สร้างเสร็จในปี 1963(2506)
แม่น้ำโคโลราโด้ได้สัมผัสกับทะเลเพียงไม่กี่ครั้งเป็นช่วงสั้น ๆ
ส่วนมากมาจากผลของสภาวะอากาศเอลนีโน่ El Niño
ที่นำพาปริมาณหิมะและฝนที่ผิดปกติจากเทือกเขา Colorado Rockies
และจากลุ่มน้ำตอนเหนือหลายแห่งไหลรวมลงไปสู่ทะเล
ครั้งสุดท้ายที่แม่น้ำโคโลราโด้ไปถึงทะเลคือปี 1998(2541)
ตอนนี้บริเวณปากแม่น้ำโคโลราโด้
มีข้อตกลงอนุรักษ์พื้นที่สงวนทางชีวภาพ
เป็นเขตห้ามทำการประมง เช่นเดียวกันกับการอนุรักษ์
ปลาโลมาสายพันธุ์ vaquita ที่มีขนาดเล็กที่สุด
ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ให้เพิ่มจำนวนได้มากขึ้น
สายน้ำที่ไหลมีการจำลองแบบการไหลของน้ำในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
เป็นสัญญาณข้อตกลงทางการเมืองและทางชีวภาพของสองประเทศ
ที่ตกลงให้แม่น้ำได้ไหลกลับคืนสู่ธรรมชาติ
เพื่อฟื้นคืนชีพให้กับสิ่งมีชีวิตในดินดอนสามเหลี่ยม
หนึ่งในนั้นคือ ระบบนิเวศในน้ำของทะเลทรายขนาดใหญ่
(ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในน้ำ
และระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อมในน้ำ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
ที่ครั้งหนึ่งเคยมีพื้นชุ่มน้ำถึง 2 ล้านเอเคอร์
เต็มไปด้วยนกและสัตว์ป่านานาพันธุ์
มากกว่าแปดสัปดาห์แล้ว ที่สายน้ำได้พัดพาน้ำจืด
ฟื้นคืนชีพให้กับดินดอนสามเหลี่ยม
ในขณะที่นักอนุรักษ์นิยมได้ลงมือปลูกต้น
cottonwoods, willows และ mesquite
เพื่อเริ่มต้นเป็นแหล่งอาหารให้กับ
นกและสัตว์ป่าจำนวนหลากหลายสายพันธุ์
การงอกของพันธุ์ไม้พื้นเมืองเหล่านี้
จะช่วยเป็นอาหารในการดำรงชีพ
ของบรรดาสัตว์ที่จะเข้ามาอยู่อาศัยได้
ทั้งยังช่วยการขาดแคลนน้ำ
ของชาวนาจำนวนมากในเขตนี้
ถ้าเปรียบเทียบกับธรรมชาติแล้ว
ก่อนมีการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ
กระแสน้ำที่ไหลผ่านดินดอนสามเหลี่ยม
มีจำนวนน้อยกว่าร้อยละหนึ่งของการไหล
ตามประวัติศาสตร์การไหลของแม่น้ำสายนี้ในอดีต
แต่การไหลของแม่น้ำได้สร้างสมช่วงระยะเวลา
ที่มั่นคงและส่งผลลัพธ์โดยตรงให้กับ
สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติและชีววิทยา
ในเขตดินดอนสามเหลี่ยมและพื้นที่ชุ่มน้ำ
ทีมงานนักวิทยาศาสตร์จำนวนมาก
กำลังเฝ้าสังเกตผลกระทบจาก
ระบบการไหลของน้ำ การปลูกพรรณพืช นกต่าง ๆ
และสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศแห่งนี้
เพื่อตรวจสอบดูว่าอนาคตของกระแสน้ำ
ที่ปล่อยให้ไหลลงมาจะสร้างผลกระทบ
อะไรบ้างที่มากกว่าการคาดการณ์ไว้
VIDEO The Pulse Flow Reaches San Luis Rio Colorado
นักอนุรักษ์นิยมกล่าวว่า
" จะต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเห็นผลลัพธ์ว่า
สภาพแวดล้อมธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปหลังจากสายน้ำไหลผ่าน
แต่ตอนนี้ประชากรในเมือง San Luis Rio Colorado รัฐ Sonora ประเทศเม็กซิโก
ต่างกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขและแห่กันไปชุมนุมกันที่แม่น้ำ
หลังจากที่เธอเริ่มไหลผ่านเมืองแห่งนี้ "
" เรื่องนี้เป็นความสำเร็จของสายน้ำ
ที่ปล่อยให้ไหลตั้งแต่มีนาคม
และมีการไหลลงไปเรื่อย ๆ
เป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ
ที่จะสร้างความร่วมมือในอนาคต
ระหว่างทั้งสองชาติต่อไป "
Sally Spener ประชาสัมพันธ์สตรีของ
International Boundary and Water Commission
คณะกรรมการร่วมเขตแดนและแม่น้ำระหว่างชาติ
" เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากสำหรับพวกเราทุกคน
ที่ได้เห็นสายน้ำไหลลงล่างไปตามสายน้ำต่าง ๆ
ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำโคโลราโด้
และแห้งแล้งไปนานหลายปีแล้ว
การได้พบกันอีกครั้งกับสายน้ำกับทะเล
เป็นเรื่องที่น่าปลื้มใจอย่างยิ่ง "
Edward Drusina กรรมาธิการฝ่ายสหรัฐฯกล่าว
U.S. Commissioner of the International Boundary and Water Commission
เรียบเรียงจาก //goo.gl/x7cAcI (
//readersupportednews.org )
//goo.gl/7vPOUb (
//indiancountrytodaymedianetwork.com )
//goo.gl/rZoH0g (
//newswatch.nationalgeographic.com )