เปิดประสบการณ์เที่ยว "วิถีชุมชน คนสาปยา" ตอน ปั่นเปิดโรงพัก บอกรักสรรพยา


























เมืองสรรพยา อำเภอหนึ่งในจังหวัดชัยนาท เมืองเล็กๆแต่น่ารักที่ใครได้เดินทางมาท่องเที่ยวในที่แห่งนี้เป็นต้องหลงใหลเสน่ห์ของที่นี่อย่างไม่รู้ตัวทั้งเรื่องของตำนานเมืองที่มีเรื่องเล่าน่าสนใจ มีเรื่องของความเรียบง่ายที่แสนจะธรรมดาของวิถีชีวิตผู้คนแต่มีเสน่ห์ที่หาดูได้ยากมีความอุดมสมบูรณ์และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสีเขียว อาหารปลอดภัยอีกด้วยเนื่องจากเป็นเขตปลอดโรงงานอุตสาหกรรม



การเดินทางมาที่นี่ง่ายมากอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ  170 กิโลเมตรเองอยู่ ช่วง กม.32 ของถนนสายเอเชีย เส้นทางสู่ภาคเหนือของไทยเราใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆสามารถเช็คอินไปฟินได้ทุกที่ที่อยากไป



แต่จะมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ส่องผ่านกิจกรรมน่ารักๆ “เที่ยววิถีชุมชน คนสาปยา” ตอน ย้อนรอยโรงพักบอกรักสรรพยากันได้เลย งานนี้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 - 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งคุณจักรพันธุ์ ตันติเสรีรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลสรรพยา เลือกกิจกรรมเก๋ไก๋แบบเรียบง่ายชวนชาวสรรพยาทั้งตำบลร่วมแต่งชุดไทย ปั่นเปิดโรงพัก บอกรักสรรพยา โดยมีคุณปริญญา โพธิสัตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาทเป็นประธานในพิธีเปิด




1.โรงพัก ร.ศ. 120 หรือสถานีตำรวจภูธรอำเภอสรรพยา



เป็นอาคารโรงพักของตำรวจสมัยรัชกาลที่5 เป็นทรงปั้นหยาชั้นเดียวยกพื้นสูง มีมุกหน้า เสาเป็นไม้เต็ง ฝาอาคารเป็นไม้กระยาเลยพื้นทำจากไม้ตะแบก มุงด้วยกระเบื้องแบบโบราณ   สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2444 หรือเมื่อ117 ปีที่แล้ว  ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว ทางเทศบาลตำบลสรรพยาจึงร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติบูรณะและปรับปรุงเพื่อใช้เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์ท้องถิ่นสรรพยาเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับคนในชุมชนและนักท่องเที่ยวให้ได้เข้ามาเที่ยวชมและศึกษากัน ถือเป็นโรงพักตำรวจเก่าแก่ที่สุดที่เหลืออยู่ทั่วประเทศในปัจจุบัน























2.เปิดประสบการณ์นั่ง เรือผีหลอกหาปลาในแบบวิถีชุมชนดั้งเดิม





















เป็นกิจกรรมไฮไลท์ที่ได้ลงเรือผีหลอกหาปลาในคืนเดือนมืดขอบอกว่าอะเมซซิ่งและอันซีนมากๆเพราะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวสรรพยาที่ใช้เรือเป็นเครื่องมือหาปลาตามภูมิปัญญาดั้งเดิมอย่างใกล้ชิดโดยคนในชุมชนพาเปิดประสบการณ์ด้วยตัวเองซึ่งกิจกรรมแบบนี้หาดูได้ยากและเรือผีหลอกนั่งได้แค่ 3 คนเท่านั้นหนึ่งในเรือลำนั้นต้องมีคนพายเรือ1 คน เท่านั้น
















ชาวบ้านที่หาปลาบอกว่า การใช้เรือผีหลอกจับปลาให้ได้ครั้งละมากๆ ต้องดูหลายอย่างเรื่องอากาศสำคัญมาก เช่น ถ้าอากาศช่วงกลางวันร้อนและมีฝนตกในเวลากลางคืนและคืนนั้นต้องเป็นคืนเดือนมืดด้วย โอกาสที่จะหาปลาได้มากก็มีสูงเลยทีเดียว




















ชาวบ้านมีความเชื่อกันว่าเวลาปลาเห็นแสงสีขาวจากหลอดไฟดวงเล็กๆกระทบกับแผ่นไม้สีขาวหรือแผ่นสังกะสีที่ทาสีขาวจะตกใจแล้วกระโดดขึ้นเรืออย่างรวดเร็วคนจึงนิยมออกหาปลาในคืนเดือนมืดโดยพายเรือไปตามชายฝั่งของแม่น้ำสงคราม





















ซึ่งในระหว่างที่เรานั่งอยู่บนเรือผีหลอกก็เป็นแบบนี้จริงๆปลาตัวเล็กตัวน้อยพอเห็นแสงไปกระทบแผ่นไม้สีขาวก็กระโดดขึ้นเรือฝั่งที่มีอวนตาข่ายขึงไว้




















 ชาวบ้านบอกว่าบางวันได้ปลาเป็นหลักร้อยกิโล ปลาที่จับได้จะเป็นปลาสร้อย ปลารากกล้วย ปลาชะโด ปลากระทุงเหว ปลาซ่า 





















ดังนั้นแนะนำว่า ถ้าใครสนใจไปเปิดประสบการณ์นั่งเรือผีหลอกหาปลาในแบบวิถีชุมชนดั้งเดิมมาช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค. น่าจะดี ...นับเป็นประสบการณ์ที่ใครมาเที่ยวแล้วต้องห้ามพลาด...

ลักษณะของเรือผีหลอก


เป็นเรือไม้ยาวประมาณ 7 เมตรติดอุปกรณ์ที่กาบเรือทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งติดแผ่นสังกะสีทาสีขาวจุ่มไปในน้ำประมาณ70 เซนติเมตร เอียง 45 องศา ส่วนอีกข้างหนึ่งจะใช้อวนไนล่อนสีฟ้าขนาด 0.9x5.0เมตร ขึงตึงเอียง ทำมุมประมาณ 60 องศาเพื่อกันปลาให้กระโดดขึ้นเรือและไม่ตกออกไปนอกเรือ



3. ล่องเรือหารักแม่น้ำเจ้าพระยาชมพระอาทิตย์ตกดินณ บานประตูแม่น้ำน้อย เขื่อนเจ้าพระยา

กิจกรรมอีกหนึ่งไฮไลท์ของการล่องเรือหารักที่นักท่องเที่ยวเลือกรักได้ เช่น รักธรรมชาติ รักแม่น้ำ รักการพักผ่อนรักผ่อนคลาย รักแฟน รักครอบครัว รักเพื่อน ฯลฯ ช่วง บรรยากาศชิลชิล ฟินฟินเป็นยามเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน



นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้ชมธรรมชาติ2 ฝั่งแม่น้ำ ถ่ายภาพสวยๆ พร้อมรับประทานอาหารบนเรือแบบบุฟเฟ่ต์ได้ 



รวมทุกอย่างหัวละ 600 บาทเท่านั้น ทริปนี้ขึ้นที่ท่าเรือเจ้าพระยาธาราโรงแรมเจ้าพระยาริเวอร์ไซต์ อ.เมือง จังหวัดชัยนาท

เขื่อนเจ้าพระยาแห่งนี้รัชกาลที่5 เคยเสด็จประพาสต้นมาแล้ว การมาล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยาจึงเป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดที่น่าจะแวะมาล่องเรือย้อนรอยเสด็จประพาสต้นรัชกาลที่ 5 ชมเขื่อน 5 รัชกาลหรือเขื่อนเจ้าพระยาที่สร้างสมัยรัชกาลที่ 5 แล้วเสร็จในรัชกาลที่9 วันนี้ชาวเกษตรกรได้ใช้น้ำในเขื่อนทำการเกษตรกรรมกัน

4. แต่ชุดไทยย้อนยุคเดินเล่นตลาด Green Market สรรพยา


เทศบาลตำบลสรรพยาได้มีพิธีเปิดงาน“เที่ยววิถีชุมชนคนสาปยา” ตอน ย้อนรอยโรงพัก บอกรักสรรพยาชาวสรรพยาร่วมแต่งชุดไทยเดินเที่ยวพร้อมถ่ายรูปหน้า โรงพัก ร.ศ.120กันอย่างสนุกสนานคึกคักทั้งงาน



ภายในตลาดสรรพยาเตะตาเตะใจอย่างมากในบรรยากาศตลาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม(Green Market) ชาวสรรพยาเริ่มมีการร่วมรณรงค์ใช้วัสดุธรรมชาติและนำบรรจุภัณฑ์จากบ้านมาใช้กัน ไม่ใช้โฟมบรรจุอาหารและพลาสติกที่ย่อยสลายยากจะไม่ใช้กัน SAY NO TO FOAM/PLASTIC

















มีสินค้าโอท็อปไม่ใช้โฟม/พลาสติก เช่น ข้าวสารสรรพยามาจากไร่ที่ไม่ใช้สารเคมีกิโลละ35 บาทเป็นข้าวใหม่ ส่วนใหญ่แล้วข้าวใหม่ที่ไม่ได้ใช้สารเคมีเวลาหุงสุกแล้วมีกลิ่นหอมเก็บได้นาน 2 วันไม่ค่อยบูด





























หรือส้มโอชาวสรรพยาไม่ใช้ถุงพลาสติกใส่ให้นักท่องเที่ยวหิ้วกลับบ้านจะใช้ผักตบชวาเป็นแพ๊คเกจจิ้งให้หิ้วกลับไปเป็นของฝากน่ารักๆแทน เป็นต้น


















ต้องบอกว่าส้มโอที่นี่อร่อย อร่อยจากความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุในดินที่ชุ่มน้ำ แต่เนื้อส้มโอจะไม่ชุ่มน้ำมากกัดกินคำแรกจะกรุบกรอบเหมือนกัดกินแตงกวา รสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆ มีชื่อพันธุ์ว่าส้มโอขาวแตงกวา เป็นชื่อพันธุ์พระราชทานจากรัชกาลที่ 5ที่เสด็จประพาสทางชลมาคมาอำเภอมโนรมย์ คุณยายทอง ทราบข่าวล้นเกล้าเสด็จมาจึงนำส้มโอจากหลังบ้านมาปอกถวาย และคำแรกที่พระองค์ชิมได้ยินเสียงกรอบเหมือนแตงกวาจึงถามชื่อพันธุ์ซึ่งยายทองตอบไปว่าไม่มีชื่อพันธุ์ พระองค์จึงพระราชทานชื่อให้ว่า ส้มโอขาวแตงกวา


















ภายในตลาดสรรพยา มี Street Art สื่อถึงวิถีชุมชนคนในอดีตให้นักท่องเที่ยวแช็ตแชะ แชร์กัน มีอาหารท้องถิ่นหาทานยาก อย่างข้าวแกงสรรพยาเช่น แกงบอน แกงโบราณที่สืบทอดกันมายาวนานกว่า 200-300 ปี ต้มปลาร้าหัวตาล อาหารคู่บ้านคู่เมืองของสรรพยามาแต่โบราณกาลเนื่องจากพื้นที่สรรพยามีการปลูกต้นตาลเป็นจำนวนมาก จึงนำมาทำเป็นอาหารหัวตาลอ่อนมีฟอสฟอรัสสูง ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงได้


















ปลาร้าทอด ด้วยสรรพยาเป็นอำเภอที่อยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นแหล่งที่มีปลาจำนวนมาก คนในชุมชนจึงมีอาชีพหลักในการหาปลา และมีการแปรรูปอาหารให้หลากหลายมากขึ้น สิ่งที่ชี้วัดคุณภาพของปลาร้า คือ รส กลิ่น สีและมีคุณค่าด้านสารอาหารค่อนข้างสูงกว่า อาหารหมักดองประเภทอื่นๆ ให้โปรตีน ไขมัน เกลือแร่โดยเฉพาะปลาร้าที่มาจากปลาช่อน
















ทริปนี้ได้แวะไปดูการทำปลาร้าบ้านลุงสุบินซึ่งใช้ปลาพื้นถิ่นเจ้าพระยาทำ



















ผัดกระเพราคุกข้าวแดงโรงพัก ข้าวแดงเป็นข้าวที่ไม่ได้ขัดสี มีเปลือกสีแดงหุ้มเมล็ดอยู่ กินไม่อร่อยแต่มีคุณค่าทางอาหารสูง ในสมัยก่อนนิยมนำมาเลี้ยงนักโทษที่ถูกขังในเรือนจำกินเพราะมีราคาถูกกว่าข้าวขาว ปัจจุบัน ข้าวแดง เป็นคำเรียกข้าวพันธุ์หนึ่งเช่น ข้าวมันปู ข้าวสังข์หยด เป็นต้น

ขนมจีนอาม่า เป็นสูตรดั้งเดิมของครอบครัวเมฆศรีสวรรค์มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สมัยก่อนช่วงเทศกาลงานบุญต่าง ๆ ชาวตลาดสรรพยา จะไหว้วานให้อาม่าช่วยทำเพราะมีรสชาติถูกปาก จึงเป็นที่เรียกกันติดปากว่าขนมจีนสูตรอาม่า ปัจจุบันอาม่าอายุกว่า 80ปีแล้ว ส่งต่อเคล็ดลับความอร่อยให้รุ่นลูกและรุ่นหลานโดยรสชาติยังคงความดั้งเดิมอยู่ขนมจีน ไม่ใช่อาหารจีน แต่เป็นอาหารมอญ มาจาก คะนอม ที่แปลว่าเส้นขนมจีน คำว่า จีนมีความหมายว่าสุก

















กิจกรรมพลาดไม่ได้อยู่คู่คนไทยมายาวนานคือการไหว้พระทำบุญที่อำเภอสรรพยามีหลายวัดอายุเก่าแก่ให้กราบไหว้ขอพรเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เช่น หลวงปู่เฟื่อง,หลวงพ่อสำเร็จ,พระพุทธรูปปางกราบพระบรมศพซึ่งเป็นปางสุดท้ายที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน
























 พระพุทธรูปประทับนอนหงายในหีบพระบรมศพพร้อมฝาหีบลงรักปิดทองลายพรรณพฤกษา โดยมีพระสาวกกำลังนมัสการพระบรมศพ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ และหายากคู่บ้านคู่เมืองสรรพยามาช้านาน


















วิหารหลังนี้สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นประมาณครั้งของพุทธศตวรรษที่ 25 ชาวอำเภอสรรพยาได้เห็นความสำคัญของพระพุทธรูปปางนี้จึงได้คิดริเริ่มจัดงานประเพณีวันอัฎฐมีบูชาขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า



































5.ร้านอาหารขึ้นชื่อผัดไทยร้านต้นตะขบ

















ร้านนี้อยู่คู่สรรพยามานานกว่า 30 ปี อาหารจานเด่นคือ ผัดไทยวุ้นเส้นทะเล ที่ให้รสสัมผัสเหนียวนุ่มของวุ้นเส้น มาพร้อมกุ้งสดตัวโตและความหอมของไข่ที่ผัดเคล้ามาอย่างดิบดี เคียงคู่ด้วยหัวปลี ถั่วงอก แตงกวา หากผ่านมาแถวเขื่อนเจ้าพระมิควรพลาดชิม

ตำนาน เมืองสรรพยา



ตำนานเมืองสรรพยา มีความเกี่ยวข้องกับวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ เมื่อครั้ง “พระลักษมณ์”ต้องหอกโมกขศักดิ์ของกุมภกรรณจนไม่สามารถเยียวยาให้ฟื้นคืนสติได้ หนุมานจึงต้องเหาะไปค้นหาพืชสมุนไพร “สังกรณีตรีชวา”บนเขาสรรพยาตามคำแนะนำของพิเภก เนื่องจากมีสรรพคุณในการรักษาอาการบาดเจ็บภายใน 

เมื่อไปถึงเชิงเขาหนุมานได้เรียกหา “สังกรณีตรีชวา”แต่ด้วยต้นไม้ชนิดนี้เป็น ต้นไม้ขี้เล่น เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมออกมาทำให้หนุมานโกรธหักกลางเขาสรรพยาแล้วแบกส่วนของภูเขาที่มีต้น“สังกรณีตรีชวา” กลับมา 

 ระหว่างทางเกิดกระหายน้ำจึงวางเขาอยู่กลางทุ่งนาแล้วขอน้ำดื่มจากเด็กเลี้ยงควายแต่ไม่ให้ จึงไปดื่มน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างนั้น เขาสรรพยากลับงอกรากติดกับพื้นดินยกไม่ขึ้น สุดท้ายต้องหักเฉพาะยอดเขาทางด้านทิศใต้ที่มีต้น“สังกรณีตรีชวา” พร้อมกับสาปด้วยความขุ่นเคืองใจว่า“...บนเขาแห่งนี้มียารักษาได้ทุกโรคแต่คนที่นี่ใจจืดขออย่าให้ได้ใช้ยาถูกกับโรคใดๆเลย...” จึงเป็นที่มาขอคำว่า “เขาสาปยา” ต่อมาชาวบ้านแก้เคล็ดเปลี่ยนเป็นชื่อ“เขาสรรพยา”

นักท่องเที่ยวที่สนใจมาท่องเที่ยวเมืองสรรพยาจังหวัดชัยนาทสามารถติดต่อได้ที่ เทศบาลตำบลสรรพยา 056-499-134 ได้ทุกวันเวลา08.30-16.30 น.





Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2561
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2561 14:45:15 น.
Counter : 2967 Pageviews.

2 comments
แกร็บ รับลูก ททท. เปิดตัวแคมเปญ “สุขทันที…ที่เที่ยวกับ Grab" นายแว่นขยันเที่ยว
(1 เม.ย. 2567 07:40:13 น.)
วันที่หิมะยังคงอยู่ Rain_sk
(27 มี.ค. 2567 02:00:05 น.)
มิ้งค์ พิรดา เตชะวิจิตร์ : ว่าที่นักบินอวกาศไทยคนแรก newyorknurse
(26 มี.ค. 2567 01:56:43 น.)
การประชุมใช้ "หนึ่งผิวหนัง หนึ่งอัตลักษณ์" ล่องแม่ปิง
(14 มี.ค. 2567 21:39:36 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณชมพร

  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
bothlitle Literature Blog ดู Blog
Raveetawan Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: ชมพร วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:22:54:56 น.
  

คุณได้ทำการแปะ หัวใจ ให้กับคุณ Raveetawan เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ หัวใจ อีก 3 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ
โดย: ชมพร วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:22:56:23 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Raveetawan.BlogGang.com

Lovelytrip
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]

บทความทั้งหมด