ไว้อาลัย...
เมื่อแผ่นดินสิ้นความยุติธรรม
จึงเกิดกรรมนำชาติให้ขลาดเขลา
ใช้กฏหมายเป็นเครื่องเสื่อมมอมเมา
น่ายิ้มเย้าเยาะเย้ยเหวยโลกลวง

ขอร่ายกลอนไว้อาลัยคุณสมัคร
ผู้ยึดหลักที่ตนเชื่ออย่างไม่ห่วง
มีชื่อเสียงเกียรติภูมิไม่ตักตวง
แล้ววันนี้ท่านก็ล่วงลับดับไป

ฉันเชื่อว่าความดีนั้นมีจริง
จะเป็นสิ่งเชิดชูแม้อยู่ไหน
ทองคำแท้ไม่ต้องกลัวแม้ต้องไฟ
ถึงมอดไหม้ก็ยังเป็นเช่นเนื้อทอง

คนเรานั้นทุกคนต่างจุดยืน
แต่ผู้ตื่นรู้ตนไม่มัวหมอง
คุณความดีที่ใจจะคุ้มครอง
ให้ได้อยู่เรืองรองแม้สิ้นลม

หากว่าคนเรานั้นเปี่ยมตั้งใจ
ยึดหลักการณ์เป็นไปอย่างเหมาะสม
เพื่อเมืองไทยไม่แคร์ความนิยม
ขอให้ชื่นรื่นรมย์ยามลับลา



Create Date : 24 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2552 23:58:03 น.
Counter : 668 Pageviews.

47 comments
  

--ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการอสัญกรรมของท่าน
อดีตนายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช ด้วยครับ.
โดย: SkyWalker IP: 58.8.157.148 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:41:26 น.
  
--ในฐานะพสกนิกรฯรู้สึกปลาบปลื้มปิติเป็นล้นพ้นในพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯในหลวงของเราที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม...

--ได้ทรงไว้ซึ่งพระราชหฤทัยประสงค์ต่อกิจกรรมงานของ ฯพณฯ สมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศอย่างสมเกียรติดังความละเอียดต่างๆได้แจ้งแล้ว .

-------------------------------------

--บรรยากาศในวันพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ/พิธีอาบน้ำศพ เป็นไปด้วยความเศร้าโศรกสลดนัก แม้ไม่วายมีกลุ่มคนแสดงออกวาจาที่ค่อนข้าง“ไม่สุภาพ”ต่อผู้มาร่วมงานบางท่าน..

--เป็นภาพที่ไม่สมควรนักว่านะ มองว่าควรนำใจเขามาใส่ใจเราบ้างตามกาละเทศะ . ก็หวังว่าคงจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก..มิได้ติเตียนแต่อยากให้สงบสันติ.
---------------------------------------
--โดยเฉพาะในช่วงการสวดพระอภิธรรมที่อยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์เป็นเวลา 7 วันและ/หรือตลอดงานจะเสร็จสมบูรณ์

--มองว่าครั้งสุดท้ายของชีวิตคนเราควรจะมีบรรยายกาศของการประนีประนอมออมชอมหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันปราศจากฝักฝ่าย!!!และ

--ผมใคร่ขออนญาตๆฝากไปทาง รบ.ว่าควรหาวิธี/ช่องทางกฏเกณฑ์การแสดงไว้อาลัยทั่วประเทศอาทิ การลดธงชาติลงครึ่งเสาและ/หรือ 1 ใน 3 จากยอดเสาหรือมีผืนธงชาติไทยคลุมหีบศพฯเป็นต้นจะดีมั๊ย?(แต่หากว่าไม่จำเป็นก็สุดแต่จะเห็นสมควรครับ.)

--วรรคท้ายนี้เป็นเพียงข้อความเห็นให้พิจารณาครับ(หรือทำไปแล้วก็ขออภัย)สำหรับผู้วายชนม์ที่อดีตเป็นถึง—นายกรัฐมนตรี!!! เป็นเรื่องค่อนข้างยิ่งใหญ่สำหรับบ้านเมือง. อาจส่งผลทางด้านจิตวิทยาสังคมได้(จากวิกฤติไปสู่โอกาส)ว่านะ.
--------------------------
--นี้ก็คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ.
โดย: SkyWalker IP: 58.8.157.2 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:26:45 น.
  
แวะมาอ่าน กลอนครับ
โดย: กวินทรากร วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:03:33 น.
  
--- คุณ SkyWalker ---

คำแนะนำที่เขียน เป็น Idea ที่ดีเลยค่ะ @^_^@


--- คุณกวินทรากร ---

ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ :)
โดย: ไร้นาม วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:31:26 น.
  

"ไร้นาม"...คำแนะนำที่เขียน เป็น Idea ที่ดีเลยค่ะ...
-------------------------
--เคสไหนเอ่ยที่ผมยกมา มีตั้ง 2-3 ของคำเสนอแนะ..แล้วจะมีFeedback จากผู้เกี่ยวข้องรึเปล่า?ก็ยังสงสัยนะ..เพราะเงียบ? เอาละผมจะขยายความบางเคสนะที่(อาจ)มีผู้โต้แย้ง!!!

1)การไว้อาลัยโดย"ลดธงชาติไทย"...เพราะ "คนไทย" แปลกแยกหลากหลายความเห็น ไปๆมาๆ ก็แป่ว!?! หรือมิฉะนั้นก็อ้าง กม.ที่จะมารองรับ ฯลฯ ส่วนตัวมองว่า กรณีพิเศษน่าจะกระทำได้กรณีบุคคลสำคัญของประเทศหรือ VIP. ระดับตำแหน่งผู้นำประเทศ.

2) การใช้"ผืนธงชาติไทย"คลุมฯจะใช้กรณีที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการเท่านั้น ก็เป็นที่รู้กันทั่วแหละ ส่วนตัวก็มองคล้ายข้อแรก น่าจะมีกรณีพิเศษที่สามารถนำมาเป็น"ข้อยกเว้น"ได้ ก็มีเท่านี้.
--------------------------
--จะอย่างไรก็ตาม ฯพณฯ สมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 25 ของประเทศไทย ก็ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว จึงขอให้ดวงวิญญาณของท่านไปสู่สุคติด้วยเถิด.
โดย: SkyWalker IP: 58.11.97.22 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:37:51 น.
  
คุณสมัคร สุนทรเวช สำหรับผมแล้ว...


เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดของประเทศไทย ในรอบหลายปีที่ผ่านมาเลยครับ
บทบาทในส่วนนอกสภาก็ยังเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือและน่าเคารพมากๆ
โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:34:47 น.
  

--อันที่จริงการเกิดความสูญเสียบุคลากรทาง "การเมือง"หรือบุคคลสำคัญ ก็มิใช่เรื่องใหม่/แปลกประหลาดอันใด(เกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นธรรมดา องค์ศาสดาตรัสไว้) และส่วนตัวก็มิได้มุ่งที่จะนำไปจุดพลุเป็นประเด็นทางการเมืองแต่อย่างใดเน๊าะ..

--เพราะท้ายที่สุดเมื่อคนรุ่นเก่าต้องอำลาจากโลกใบนี้ไปก็จะมีคนรุ่นใหม่มาทดแทนสืบต่อกันตลอดเรื่อยมาและสำหรับประวัติศาสตร์ชาติไทย/ชาติใดๆในโลกก็หาได้แตกต่างกันในทั้งตัวปัจเจกชนรวมทั้งคนในรุ่นนั้นๆที่ต้องล้มหายตายจากไปคนรุ่นใหม่แทน ก็เท่านั้น!!!

--ส่วนที่จะแตกต่างกันบ้างก็น่าจะเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีปฎิบัติต่อผู้ที่หาชีวิตไม่แล้วโดยเฉพาะกับบุคคลที่เคยทำคุณประโยชน์ต่อบ้านเมือง/มีตำแหน่งสำคัญๆเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่...

--(สำคัญ)การยกย่องสรรเสริญ "โดยวิธีการอันถือเป็นที่ยิ่งแล้ว"ต่อท่านเหล่านี้ตังหากที่เสมือนเป็นกุศโลบายทายทักให้คนรุ่นหลังได้ระลึกนึกถึงคุณงามความดีอันได้เคยสร้างไว้.
-------------
ขออภัย "ไร้นาม" ที่ผมไม่ถนัดเชิง "บทกวี" ก็เลยใช้การเขียนลักษณะคอมเม้นต์ธรรมดา ขอบคุณครับ.
โดย: SkyWalker IP: 58.8.233.182 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:37:05 น.
  
--รายวัน"การเมืองวิพากษ์"ในมุมมองของผมยังคงเกาะติดสถานการณ์ทั้งใน/ต่าง ปท.อย่างไม่ขาดระยะ ตราบที่ "ไร้นาม"เจ้าของบล๊อคยังกรุณาให้พื้นที่อยู่...

--ครั้งนี้ใคร่ขออนุญาตนำผลสรุปไฮไลท์มาขยายผลเนื่องในงานสัมมนาวิชาการของ TDRI ประจำปี 2552 หัวข้อ"การปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อความเป็นธรรมในสังคม"เมื่อช่วงข้ามวันที่ผ่านมา..

--ก่อนอื่นต้องย้อนความซักนิดว่าใน ฐานะ ปชช. ผู้เสียภาษีคนหนึ่งได้เคยชื่นชมและฝากความหวังไว้กับผลงานขององค์กรนี้ในความพยายาม/สรรค์สร้างและพัฒนาสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างเอนกอนันต์มาโดยตลอด...(รวมกับของสถาบัน KPI ด้วย)

--ครั้งนี้ก็เช่นกันผมติดใจในประเด็นน่าสนใจหนึ่งที่ว่าต้นเหตุแบ่งขั้วการเมือง ทำเศรษฐกิจเหลื่อมล้ำแถมลงรายละเอียดพอสรุปได้ว่า ปชช.ต้องการให้แก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองอย่างเร่งด่วน...

--โดยเฉพาะที่ผลการสัมมนาระบุว่า "...การแบ่งขั้วทางการเมืองเป็นเรื่องของคนส่วนน้อย โดยประชาชนคนไทยทั้งประเทศไม่ต่ำกว่า 70% ไม่มีส่วนร่วม..."

--ตรงนี้เป็นคำกล่าวที่มีนัยยะสำคัญครับเนี่ย มาคิดๆดูแล้ว ก็มีคำถามตามมาว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่สนใจเรื่องการเมือง? ผมมิได้แย้งผลสรุปเพียงแต่มองว่า ปชช.เขาสนใจและทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมืองในขณะนี้น่ะ แต่ความซับซ้อนของปัญหามากางกั้นไว้!

--พูดให้ชัดเจนขึ้นก็คือมองว่าเขาสนใจแบบหลวมๆ แบบหาความชัดเจนไม่ได้เพราะไม่รู้มันคือไรกันแน่? มึนๆว่างั้น. และก็แน่นอน ประเภท"ยังงัยก็ชั่ง"ข้าฯขอทำมาหากินดำน้ำไปวันๆได้เป็นพอ !?!

--โดยมิได้ฉุกคิดว่าหากผู้รับผิดชอบทั้งหลายรวมทั้งตัว ปชช.เองมาร่วมช่วยกันแก้ไขปัญหาต่างๆให้ล่วงลุจนเป็นผลสำเร็จแล้ว ก็จะเกิดผลดีสะท้อนกลับมายังตนเอง มันขาดช่วงตอนตรงนี้ไปหรือเปล่า!?!

--หากเป็นเช่นนี้ก็น่าเป็นห่วง วิธีแก้ไขอันดับแรกน่าจะเร่ง ปชส.ให้ ปชช.ได้รับรู้และมีส่วนร่วม(ในทางที่ถูกที่ควร)..มิใช่บิดเบือนกันไปมา จนกลายเป็นเรื่องที่ ปชช.เขาละ..เบื่อ..ประมาณนี้เสียล่ะ!
-----------------------
--ก็ปิดท้ายขอให้ ปชช.คนไทยทั้งมวลหันมาใส่ใจ"การเมือง"เรื่องใกล้ตัวกันมากขึ้นด้วยเถิด แม้จะตื่นตัวกันมากขึ้นแล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอที่พูดได้เต็มปากว่ามีส่วนร่วมดังผลสรุปที่ออกมานั่นแล.
โดย: SkyWalker IP: 58.11.100.215 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:54:36 น.
  
--- คุณ Skywalker ---

ชอบ Idea แรกค่ะ อันนี้:

1)การไว้อาลัยโดย"ลดธงชาติไทย"...เพราะ "คนไทย" แปลกแยกหลากหลายความเห็น ไปๆมาๆ ก็แป่ว!?! หรือมิฉะนั้นก็อ้าง กม.ที่จะมารองรับ ฯลฯ ส่วนตัวมองว่า กรณีพิเศษน่าจะกระทำได้กรณีบุคคลสำคัญของประเทศหรือ VIP. ระดับตำแหน่งผู้นำประเทศ.

เดือนนี้ฟังข่าวว่ารัฐอยากให้เป็นเดือนแห่งการให้อภัย ไม่รู้ว่าคนของรัฐจะทำให้เห็นเป็นตัวอย่างก่อนหรือเปล่า (lead by example) ไม่ใช่แบบบอกให้คนอื่นทำแล้วพอเป็นฝ่ายตนก็ทำอีกแบบ เหมือนที่ประชาชนหลายฝ่ายแอบรู้สึกในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา...

ใช้พื้นที่ได้ตามสบายนะคะ แชร์ความคิดดีๆ ไม่ว่าอะไรเลยค่ะ ^^


--- คุณ ทุเรียนกวน ป่วนรัก 27 ---

ขอบคุณที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นในกระทู้นะคะ
โดย: ไร้นาม วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:11:30 น.
  
--"ไร้นาม" บอกว่า รบ.นี้จะเป็นลักษณะฝ่ายกระทำนำพาให้เดือนนี้ (ธ.ค. 52)เป็นเดือนแห่งการให้อภัยหรือ!?! แถมให้คนของ รบ.น่าจะทำแบบ lead by example...
--"...แต่พอเป็นฝ่ายตนก็ทำอีกแบบ เหมือนที่ประชาชนหลายฝ่ายแอบรู้สึกในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา..." แหม ! ข้อความเห็นตรงนี้ โดนเลยครับ โดนใจมากเลยว่า ท่าน(รบ.)พูดได้สวยงามไพเราะแต่อย่างว่าพวกข้าฯหรือเปล่า? ผมก็ยังสงสัยอยู่น่ะเออนะ.

--ไม่ใช่ไรหรอกครับว่าตามข้อเท็จจริง ยังมีอีกหลายเรื่องที่บ้านเมืองเรายังมีระบบ"อุปถัมภ์"(Patronage System)เกินพอดีกับคำว่าระบบคุณธรรม(merit system)อยู่อีกมากมายหลายกระบุง!?!
---------------------
--ประการสำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือ รบ.ยังไม่เลิกเล่น "การเมือง"จนไม่เป็นอันกินนอน!?! (รึว่าการเมืองมันเข้ามาเล่นเอง)จน รบ.ต้องตั้งการ์ดคุมเชิง/แก้ไขแบบเฉพาะกาลไว้ตลอด ตรงนี้ก็น่าเห็นใจ!!!

--เลยดูเป็นลักษณะออกมาว่าละเลยปัญหาเรื่องปากท้องของ ปชช.แบบทุ่มเทเต็มร้อย แต่ก็ที่เคยให้ความเห็นไปแล้วว่า บางกระทรวงที่รับผิดชอบก็ไม่ออกมาเล่นบทของตนๆให้สมกับได้รับมอบหมาย ?

--เมื่อดูจากประมาณนี้ เรื่องราวต่างๆก็ไปตกอยู่ที่ท่าน"ผู้นำ"รบ.และอีกไม่กี่คน แล้วอย่างนี้ไหนเลยจะรับมือกับปัญหาต่างๆนานาไหว?
Dissolution Of Parliament ดังที่ท่านผู้นำเกริ่นไว้ว่าอาจเป็นจริง!?!
-----------------
--ปิดท้ายด้วยคำขวัญแห่งปี 2552 (ผมยืมมาตั้งเอง)ให้แก่ รบ.ที่กำลัง/และที่จะบริหารประเทศต้อง "ซื่อสัตย์ เป็นงาน บริหารเป็น"

--แหม(ขอแถม)คำขวัญนี้เผอิญไปตรงกับผลสรุปประชุม "หอการค้าไทย"ที่ ชม.ผ่านมาว่า รบ."บริหาร ศก. ไม่เข้าตากรรมการ"อีกแล้ว เฮ้อกลุ้มแฮะ..แต่อย่างไรก็พยายามเอาใจช่วยนะ..วุ่นไม่จบจนไม่รู้ทิศทางบ้านเมืองฯ ก็ต้องร้องเพลง...รอ.. ล่ะครับสวัสดีครับ.
โดย: Skywalker IP: 58.8.160.227 วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:13:02:52 น.
  
--วันคืนแห่งความสุขสันต์ของมวลหมู่คนในชาติได้ผ่านไปอย่างปลาบปลื้มปิติฯ หากเราทุกคนสามารถยังความสุขล้นของชนทุกหมู่เหล่าเช่นว่านี้ไว้ได้ตลอด..ย่อมเป็นที่พึงปรารถนาสูงสุดเป็นแน่แท้.
----------------------------------
---------------------------------
--รายวัน"การเมืองวิพากษ์"บนหน้าต่างนี้ยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง สำหรับครั้งนี้ต้องเกริ่นกล่าวว่า บางครั้งท่านผู้อ่านควรต้องแยกแยะกันระหว่างหัวข้อบล๊อค"ไว้อาลัย..."กับข้อความเห็น/คอมเม้นต์ที่ปรากฏฯดั่งนี้ด้วยครับ...

--แต่ช่างเถอะส่วนตัวมองว่าการสูญเสียบุคคลสำคัญทางการเมืองในครั้งนี้นั้นอาจจะยังสะท้อนต่อผลลัพธ์ต่างๆในหลายประการอย่างมีนัยสำคัญ..แต่ผมก็จะไม่พยายามโยงให้จนมันกลายเป็นเรื่องบาดหมางคลางใจกันมากขึ้นไปอีก...

--ตรงข้ามอยากให้เป็นอนุสติเตือนใจกันด้วยซ้ำ!!!เพื่อนำพาไปสู่ความเห็นอกเห็นใจ ให้อภัยกันและกัน ไปจนถึงความรักใคร่สามัคคีปรองดองของคนในชาติ ประมาณนี้...
---------------------------------------
--หันมาดูสถานการณ์"การเมือง"ยังอยู่ในภาวะ"กระเพื่อม"อย่างไม่ขาดระยะตามวิสัยที่ค่อนข้างเห็นชัดเจนว่า"ลงตัว"ยากสักหน่อย แต่ก็ยังหวังตั้งตา"คอย"ความมีเสถียรภาพซึ่งจะส่งผลต่อความอยู่ดีกินดีของพี่น้อง ปชช.โดยรวมอย่างยั่งยืน...จะให้รออีกนานเท่าใด!?!
---------------------------------------
--ผมมองว่าในช่วง 2 -3 ปีมานี้ พี่น้อง ปชช.ไม่ค่อยเป็นสุขนักกับ "การเมือง"บ้านเรา ก็ดังที่ล่าสุดสถาบัน ทีดีอาร์ไอ ระบุไว้แหละ "...ต้นเหตุแบ่งขั้วการเมือง ทำเศรษฐกิจเหลื่อมล้ำ...ปชช.ต้องการให้แก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองอย่างเร่งด่วน..."

--หากใครจะเห็นว่าเป็นปกติวิสัยของมนุษย์ที่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งที่มากระตุ้น และเรื่องที่ว่าเป็นเรื่องชวนให้เกิดความอึดอัด, กดดัน,ความไม่พึงพอใจ/คับข้องใจ/ไร้ยุติธรรมใดๆฯขึ้นมาแล้ว ก็ย่อมจะเกิดความเครียด/ทุกข์มาก/สุขน้อยลง ผมถือว่าเป็นความคิดเห็นที่เป็นจริงแท้แน่นอน.

--โดยเฉพาะยิ่งเรื่องที่ยากต่อการร่วมกันแสวงหาหนทางแก้ไขก็ย่อมทับทวีความไม่สบายอกสบายใจหนักขึ้น ถามว่า...แล้วจะเยียวยาแก้ไขกันอย่างไร? คำตอบ...ง่ายครับ.แต่..ทำยากและจะปฏิบัติจัดทำกันจริงจังหรือไม่? เป็นคำถามอีกนานไหม?ตอบยาก?

--ผมกำลังพูดถึง"การเมือง"ที่แบ่งขั้วกันจนลืม"หลักการ/หลักเกณฑ์"ที่มวลมนุษย์อุตส่าห์สร้างสรรค์จรรโลงกันมาและผ่านการพัฒนามาหลายร้อยวันพันปี!!! ..แต่ในที่สุดเราๆต่างก็ไม่ยอมรับกฏกติกาดังว่ากันเสียแล้ว?...มันเกิดไรขึ้นกับบ้านเมืองนี้.!?!
--------------------------
--เขียนไป/มาจะจบไม่ลงเอาเนี่ย อิอิ เป็นว่าที่เราบอกมีความทุกข์กันนักหนาสาหัสสากรรจ์ตลอดสองสามปีมาจนถึงปัจจุบันนี้ก็เพราะ
"การเมืองเรื่องผลประโยชน์(ส่วนตัว?)"
--แทนที่จะเป็นเพื่อ"ส่วนรวม" กอปร์กับพัฒนาการ ปชต.ในบ้านเมืองยังไม่ทันได้ผลิ ดอกออกผลลองลิ้นชิมรสนานนัก? แต่ก็มีอันได้แต่ยืนต้นซัดกันนัวเนียยังงี้หรือ!?!

--สรุป(ซะที) ผมเพียงอยากสื่อความหมายว่า ปชช.ที่รัก ปชต.อย่างแท้จริงเขากำลังจะพร่ำเพรียกเรียกร้องหากฏกติกาที่พากันตั้งไว้โดยถูกต้องยุติธรรมมากมายขึ้นทุกขณะจิตแล้วพี่น้อง...แล้วจุดนี้เองที่ผม(หาที่ลง)ได้คือ..เราจะได้คลายทุกข์/คลายเครียด จากสิ่งเร้าฯที่มากระตุ้นให้เกิดปฏิกริยาตอบสนองดังว่ามา..สวัสดี.
---------------------
ขออภัย"ไร้นาม"เขียนยาวมากมายเลยและนี้ก็คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ.



--
โดย: Skywalker IP: 58.8.152.37 วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:2:11:45 น.
  
--"การเมือง"วันนี้น่าจะควรกล่าวถึง "วันรัฐธรรมนูญ" 10 ธ.ค.ของทุกปี แต่มีน่าแปลกใจไปอีกแบบว่าในปี 52 นี้หากจะมีการชุมนุมเพื่อรำลึกถึง รธน. กลับมีผู้คนในบ้านเมืองส่วนหนึ่งต่างก็"เห็นต่าง"ทำนองว่า "ควร/ไม่ควร"ชุมนุมรำลึก!?! เป็นงั้นไป บ้านเราก็เป็น ปชต.แล้วอ่ะนะ..เออ. มิน่าถึงมีคนเขาว่าบ้านเราชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ๆกลับจะให้กลับกลายเป็นเรื่องเล็ก?!

--ผมว่าเราทุกคนควรมองทางสร้างสรรค์กันไปในทิศทางเดียวกันบ้างก็ดี เพราะแต่ละปีก็มี"วันสำคัญ"ของแต่ละประเภทๆที่ได้กำหนดกันขึ้นประจำอยู่แล้ว ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน? หากจะให้ความสำคัญกับการมีกิจกรรมรำลึกถึงวันเหล่านั้น เออนะ.ว่านะ.

--เรื่อง"วันรัฐธรรมนูญ"ก็เช่นกัน ใยต้องมากางกั้นกลัวโน่นเกรงนี่อ้างโน้นนี้? อาจจะมีเหตุผลอยู่บ้างแต่ก็น่าจะให้ความสำคัญกันอยู่! น่าจะเกิดผลดี โดยเฉพาะวันนี้(10 ธ.ค.)ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่า.. และเป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งเสียด้วยซ้ำเพราะ...

--"รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ เป็นเครื่องกำหนดระเบียบแบบแผนของสังคม เพื่อเป็นการระลึกถึงรัฐธรรมนูญฉบับแรก อันเป็นฉบับถาวร และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานให้กับปวงชนชาวไทย ทางราชการจึงกำหนด วันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันรัฐธรรมนูญ."
------------------------------------------
--อ่านจากสื่อต่างๆแล้วก็ให้ไม่สบายใจที่ คนเรามันมักจะตะแบงเอียงข้างโต้แย้งกันในทุกเรื่อง!?!แล้วผมใน ฐานะ ปชช.ผู้เสียภาษีสงสัยเหมือนกันว่า"ความสมานฉันท์"ที่ใฝ่หากันมันจะเกิดขึ้นได้งัย ทะเลาะกันได้เกือบทุกเรื่องพี่ไทยเราเนี่ยนะ..ว่านะ.

--แปลกแต่จริง...ก็จริงอยู่นะที่ทุกคนมีเหตุผลเป็นของตนเอง แต่ก็น่าเสียดายว่าเป็นเหตุผลที่มักจะไม่ลงรอยกันและไม่มุ่งสู่ส่วนรวมกันนัก? จึงไม่น่าแปลกอีกอย่างหนึ่งที่ว่าสังคมเรามิได้พูดคุยกันบนพื้นฐานของ"องค์ความรู้" แต่อยู่บนอารมณ์ความรู้สึกกันซะส่วนใหญ่...จะโทษใคร? "ระบบ กศ.หรือ!?!"ฯลฯ ว่ากันอีกยาว คิดเป็นการบ้านก็แล้วกันครับ.

--สรุป งานวันที่ 10 ธ.ค."วันรัฐธรรมนูญ" โปรดทุกฝ่ายให้ความสำคัญรำลึกกันเถิด ให้สมพระเกียรติกับที่เป็นวันแห่งการได้พระราชทานรัฐธรรมนูญครบ 77 ปี แห่ง พ.ศ. 2552 นี้..สวัสดีครับ.
โดย: Skywalker IP: 58.8.233.36 วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:9:56:02 น.
  
--"การเมือง"เช้าวันนี้ที่ 8 ธ.ค.52 สื่อสิ่งพิมพ์ประเดิมข่าวที่น่าสนใจอยู่ 2- 3 เรื่อง อาทิ .-
1)คดีความที่ขึ้นศาลในประเทศเพื่อนบ้าน จะออกหัว/ก้อยปล่อยให้"ลุ้น"กันหลายๆฝ่าย ก็เป็นเรื่องที่ไปว่ากันตามขั้นตอน กม. ครับ ผิด/ถูกประการใดอยู่ที่ศาลท่านจะพิจารณา ก็มักจะเป็นแบบนี้กันทุกประเทศแหละเรื่องคดีความต่างๆเนี่ยนะ.!?!

2)เห็นจะไม่พ้นเรื่องเดิมๆ "วัน รธน. 10 ธ.ค."กล่าวคือยังมีแปลกๆหลากหลาย"ความเห็นต่าง"ที่จะควรให้จัดลักษณะ"เต็มรูปแบบ/จำกัดกิจกรรม"ที่อ้างความจำเป็นสำคัญ ยังงัยๆก็หวังว่าคงค่อยเจรจากันว่า จะเอางัยดีที่เหมาะสมที่สุด(สำคัญทั้งสองกิจกรรม) อย่าให้ดูเป็นลักษณะที่ชาวบ้านเขาวิเคราะห์ได้จากสื่อฯทำนองว่า ไปๆมาๆ ก็เป็นเรื่อง"แก้เกมส์"?! เฮ้อ!ไม่เกิดผลดีเลยอ่ะนะ ว่านะ.

3)เรื่อง"ภาวะโลกร้อน/Global Warming" ใครบอกไม่เกี่ยวการเมืองก็ให้ไปเกี่ยวการบ้านที่มนุษย์ต้องขบคิดกันหนักแล้วกันเน๊าะ ผมไปเห็น"แผนที่โลกใหม่"(ใบเก่า)แล้ว ก็ต้องชื่นชมความไฮเทคของมนุษย์ที่คาดการณ์อนาคตได้ถึงเพียงนี้ หากเป็นจริงน่าจะมีภูมิศาสตร์หน้าใหม่ระบุว่า โลกเรานี้มีผืนน้ำมากกว่าที่เป็นอยู่ !!!

--โลกยุคข้อมูลสื่อสารมีเรื่องราวมากมายหลายกระบุง อ่านทั้งวันทั้งคืนก็ไม่จบแสดงถึง"ความไม่เที่ยงแท้แน่นอน"ในสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ โดยเฉพาะรู้กันดั่งนี้แล้ว "มนุษย์"ชาติเดียวกันน่าจะแสวงหาความสันติสุขของการอยู่ร่วมกันแทนกระโหมไฟแรงแห่งความขัดแย้ง !?!
-------------------------------
--สรุป วกเข้าสู่เรื่อง"การเมือง"จนได้สิน่า ตกลง 10 ธ.ค.52 "วันรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย"ยังคงจะเป็นอะไรที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกันอยู่ เช่นวันสำคัญอื่นด้วยเช่นกัน อย่ามัวแต่ยื้อกันให้ ปชช.เขาเห็น..เขาเบื่อ...กันนักเลย ที่คิดว่าจะมีนัยแฝงเร้นไรเนี่ย มองในแง่ดีเถอะครับ..ให้สบายใจกันทุกฝ่ายจะดีกว่า ?! สวัสดีครับ.
โดย: Skywalker IP: 58.8.150.95 วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:10:58:52 น.
  
--วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรสยามฉบับถาวร ทางราชการจึงได้กำหนดให้วันที่ ๑๐ ธันวาคมของทุกปี เป็นวันรัฐธรรมนูญ...
---------------------
---------------------
--นับเป็นหลักสากลที่การเมืองการปกครองของทุกประเทศ ย่อมต้องอาศัย กม.รธน.เป็นแม่บทในการปกครองเป็นสำคัญดังนั้นเกี่ยวกับ“การเมืองเรื่องใกล้ตัว” วันนี้ที่ 9 ธ.ค. 52 จึงขออนุญาตสรุปนำ กม.รธน.ของประเทศ มาลงไว้เป็นลักษณะหน้าประวัติศาสตร์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 77 ปี แห่ง “วันรัฐธรรมนูญ” 10 ธ.ค. 2552

--รัฐธรรมนูญที่สำคัญประกาศใช้เป็นหลักในการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งที่เป็นฉบับชั่วคราวและฉบับถาวร โดยรัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้ตั้งแต่ต้น (พ.ศ.2475-ปัจจุบัน)ทั้งหมด 18 ฉบับ ดังนี้ครับ.-

1 . พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475
2.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 (ได้รับโปรดเกล้าฯพระราชทาน เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2475—จึงถือวันที่ 10 ธ.ค. ของทุกปีเป็น“วันรัฐธรรมนูญ”)

3. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2485
4. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489
5. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490
6. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2492
7. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2495 แก้ไขเพิ่มเติม(จาก ฉบับปี พ.ศ.2475)
8. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2502
9. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2511
10. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2515
11. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517
12. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2519
13. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2520
14. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2521
15. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2534
16. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2534
17. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
18. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550

------------------------
สรุป: หากนับช่วงเวลาจาก ปี 75 ถึง 52 เราใช้ รธน.ฉบับละกี่ปีโดยเฉลี่ยละก็บวกลบคูณหารกันเอง (ผมได้ประมาณ 4 ปีกว่าต่อฉบับ)
จะว่า ปชต.ล้มลุกคลุกคลาน? ส่วนตัวยังพูดได้ไม่เต็มปากนัก มองว่า เราอยู่ในช่วงของการพัฒนาการ ปชต. ดังที่คอมเม้นต์ไว้บ้างแล้วและเราคงฝันถึง ปชต.แบบเต็มใบในอนาคตละครับนะ อย่าเพิ่งท้อ!
------------------------
ขออภัย"ไร้นาม"ที่เขียนยืดยาวไปนิดและเช่นเคยนี้เป็นคอมเม้นต์ปกติด้วยเจตนาบริสุทธิ์จากใจจริงครับ.
โดย: Skywalker IP: 58.11.97.203 วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:21:47:10 น.
  

--นับเป็นหลักสากลที่การเมืองการปกครองของทุกประเทศ ย่อมต้องอาศัย กม.รธน.เป็นแม่บทในการปกครองเป็นสำคัญดังนั้นเกี่ยวกับ“การเมืองเรื่องใกล้ตัว” วันนี้ที่ 9 ธ.ค. 52 จึงขออนุญาตสรุปนำ กม.รธน.ของประเทศ มาลงไว้เป็นลักษณะหน้าประวัติศาสตร์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 77 ปี แห่ง “วันรัฐธรรมนูญ” 10 ธ.ค. 2552

--รัฐธรรมนูญที่สำคัญประกาศใช้เป็นหลักในการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งที่เป็นฉบับชั่วคราวและฉบับถาวร โดยรัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้ตั้งแต่ต้น (พ.ศ.2475-ปัจจุบัน)ทั้งหมด 18 ฉบับ ดังนี้ครับ.-

1 . พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475
2.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 (ได้รับโปรดเกล้าฯพระราชทาน เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2475—จึงถือวันที่ 10 ธ.ค. ของทุกปีเป็น“วันรัฐธรรมนูญ”)

3. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2485
4. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489
5. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490
6. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2492
7. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2495 แก้ไขเพิ่มเติม(จาก ฉบับปี พ.ศ.2475)
8. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2502
9. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2511
10. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2515
11. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517
12. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2519
13. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2520
14. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2521
15. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2534
16. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2534
17. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
18. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550

------------------------
สรุป: หากนับช่วงเวลาจาก ปี 75 ถึง 52 เราใช้ รธน.ฉบับละกี่ปีโดยเฉลี่ยละก็บวกลบคูณหารกันเอง (ผมได้ประมาณ 4 ปีกว่าต่อฉบับ)
จะว่า ปชต.ล้มลุกคลุกคลาน? ส่วนตัวยังพูดได้ไม่เต็มปากนัก มองว่า เราอยู่ในช่วงของการพัฒนาการ ปชต. ดังที่คอมเม้นต์ไว้บ้างแล้วและเราคงฝันถึง ปชต.แบบเต็มใบในอนาคตละครับนะ อย่าเพิ่งท้อ!
------------------------
ขออภัย"ไร้นาม"ที่เขียนยืดยาวไปนิดและเช่นเคยนี้เป็นคอมเม้นต์ปกติด้วยเจตนาบริสุทธิ์จากใจจริงครับ.
โดย: Skywalker IP: 58.11.97.203 วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:21:48:48 น.
  

--เพิ่มเติม...ข้อความ ซ้ำละครับขอความกรูณาให้ "ไร้นาม" ช่วย Delete บล็อคบนนี้ (ที่ 14) ออกด้วย ขอบคุณครับ.

--ใกล้ปีใหม่แล้ว"ไร้นาม"วางแผนโปรแกรมเที่ยวรึยังครับ ที่ใหน ? อย่าลืมถ่ายภาพสวยๆมาฝากแฟนคลับด้วยนะครับ.

ส่วนผม ...แป่ว.!.อยู่กับบ้าน แน่นอนเลย วันก่อนแอบไปเพิ่มลงทะเบียนอีก 2 วิชา(LW 419;420) ชอบครับแต่คงอ่านตำราหนักขึ้นละครับ อิอิ
โดย: Skywalker IP: 58.11.97.203 วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:22:07:15 น.
  
--เนื่องในวันจริงวันนี้10 ธ.ค.วัน "รัฐธรรมนูญ"เห็นทีต้องออกมาตอมเม้นต์ต่อจากวานเพื่อให้สะท้อนภาพการพัฒนาการ ปชต.ในบ้านเราซึ่งผมเคยเกริ่นไว้ครั้งหนึ่งจน(อาจ)มีคนหัวเราะจนฟันหักไปว่า ต้องใช้เวลาอีก 2 -3 ชั่วอายุคน จนจะได้ ปชต.แบบเต็มใบ!?!
----------------------
--ความเดิม "...จะว่า ปชต.ล้มลุกคลุกคลาน? ส่วนตัวยังพูดได้ไม่เต็มปากนัก มองว่า เราอยู่ในช่วงของการพัฒนาการ ปชต..." การเพิ่มเติมในส่วนนี้คงไม่ยืดยาวกล่าวคือพยายามตั้งคำถามๆตนเอง(ตอบภายหลัง)ว่า..
------------------------
--หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 แล้วเนี่ย พัฒนาการ ปชต.เพื่อใช้ปกครองบ้านเมืองเรายังเป็นแบบใดกันแน่ระหว่าง..
----1) ประชาธิปไตย(Democrazy-n. Government by/of/for the people, exercised either directly or through elected representatives.)ตามแบบแท้จริงที่เราอยากให้เป็น(เต็มใบ)หรือ..
----2)แบบไม่เต็มใบหรือเรียกภาษาวิชาการให้สมกับเป็น นศ.กม. หน่อยนะว่า"คณาธิปไตย"(Oligarchy--n. Government by a few, especially by a small faction of persons or families. )
--------------------------
--อันที่จริง โจทย์ข้อนี้ตอบไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายนักนา? ตรงที่มันมีเหตุปัจจัยหลายอย่างประกอบกันเพราะห้วงเวลาเกือบแปดสิบปีนี่ แน่นอนที่ภาวะการณ์ต่างๆของบ้านเมืองย่อมแปรเปลี่ยน!!!

--แต่ผมอดสังสัยๆมากๆและอยากรู้ก็คือในบรรดา ประเทศอื่นทั้งที่เจริญ/พัฒนาแล้ว ของเขาทำไมมี รธน.น้อยฉบับจัง ผมไม่ต้องการเป็นประเด็นหรอกนะ เพียงว่าการแปรเปลี่ยนฯการเมืองการปกครองหากฟัง/อ่านจากรอบๆด้าน(พอประมาณ)ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ ถกอีก?!

-ตอบโจทย์แบบหลวมๆของตนเองซะเลยสินะว่า...มันเป็นลักษณะของ Developing Country...น่าจะใช่!?! ไชโย!! แต่ยังงัยก็ภาวนาอย่าให้ กม.รธน.บ้านเรา"มีมาก"กว่านี้เลย ผมแทบศึกษาและตามไม่ทันละครับ เทอมนี้ ก็ลง LAW 202 น่ะ(อีกแล้ว) 55+.
------------
คอมเม้นต์ธรรมดา...ไม่มีเจตนาใดๆขอบคุณครับ.
โดย: Skywalker IP: 58.8.163.106 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:12:49:32 น.
  
--อนุสนธิจากที่ผมคอมเมนต์ไว้ใน 10 ธ.ค. 52 เกี่ยวกับ รธน.ของไทย ทั้ง 18 ฉบับที่ผ่านมา..เล็งไปที่ว่ามีมากเกิน!?!และไม่แน่ใจว่าแต่ละห้วงเวลาเป็น "ประชาธิปไตย/คณาธิปไตย" ฯลฯ จวบจนปัจจุบัน...
-----------------------
--วันนี้ (11 ธ.ค.52)น่าจะถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่เราชาวไทยทุกคนจะได้เริ่มต้นกันใหม่ ปีที่ 78 แห่งการเปลี่ยนแปลงการปกครองฯ ก็ได้แต่หวังลึกๆว่า ปชต.บ้านเราจะพัฒนาการในทางสร้างสรรค์ขึ้นไปอ่ะนะครับ.

--อย่างน้อยก็เป็นที่น่ายินดีว่าคืนวันวานที่ผ่านมามีสื่อทีวีไทยบางช่องออกรายการแสดงความคิดเห็นและให้ทิศทางที่ควรจะเป็นในอนาคต แต่ผมก็จับประเด็นได้ไม่“เคลียร์คัท-ชัดเจน”นัก ว่านะ..แต่ก็ยังดีสำหรับรายการดังว่าคือ ปชช.เจ้าของประเทศได้ทราบความเป็นไป/มาในช่วง 7-80 ปีที่ผ่านมาพอสมควร..

--สาระไฮไลท์ของรายการฯพยายามทำนองจะชี้ให้เห็นว่าบางช่วงของการปกครองภายใต้ รธน.ฯ ประสบกับอุปสรรคปัญหาที่เสมือนพาเรือรัฐนาวาไปล่มครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วก็มาสร้างเรือกันใหม่!?!..เรียกว่าเราสร้างไป/มาจนไม่รู้จะเอาวัสดุอะไรดีที่เหมาะสมคงทนพอที่จะไม่ให้เรือลำที่ว่าต้องอับปางไม่มีท่าลงอีกซะงั้น!?!

--ไฮไลท์ยังหยิบภาพที่น่าสนใจในความรู้สึกของ ปชช.ผู้ชมรายการอีกว่าในช่วงประมาณสิบปีที่ผ่านมา คือ ปี 40-52 มีอะไร(บางอย่าง)ที่ไม่เหมาะไม่ควรมาให้ชมอีกด้วย... ผมว่าดีครับแต่น่าเสียดายที่..มันดีไม่หมดสินะ เออ. หากจะให้ดีจริงๆ ต้องเปิดปูมอุปสรรคปัญหาการร่าง/ใช้ รธน.ฯให้เห็นตั้งแต่โน่น ปี 75 เลยจะดูดีพร้อมทั้งได้ประโยชน์ในแง่การศึกษาฯด้วย..

--นั่นคือพูดเป็นกลางๆก็หมายความว่า ใคร?ทำอะไร?ที่ไหน?เมื่อใด?และอย่างไร?( Who/What/Where/When/How-4 W &1 H)ตามหลักการบริหารจัดการนั่นเทียว เข้าท่า ล่ะ ว่านะ.

--แต่อย่างว่า ท่านอาจจำกัดด้านเวลาสถานีก็ได้ไม่ว่ากันครับ. ก็เลยเพียงเป็นอะไรเล็กๆทำไป ที่อาจ ผมใช้ว่า“อาจ”ลืมไปว่านี่คือการสะท้อนให้ ปชช.ส่วนหนึ่งเขาอาจมองว่า เอ..คุณไปจุดประกาย/เพิ่มโหมแรง FeedBacK เฉพาะส่วนเสียของ รธน. 40 ?อย่าง/ด้านเดียวเลยงั้นหรือ? คงไม่ใช่มั๊ง!?!

--เพราะพูดไปแล้วว่า มันเป็นเรื่องของการแปรเปลี่ยนในแต่ละยุคสมัยของการเมืองการปกครองตะหากนะผมว่า.คือถ้าจะให้ดีควรจับภาพเหตุการณ์ที่ผสมผสานกันในหลายๆ ฉบับของ รธน.ฯจะดีกว่ามั๊ย.ได้โอกาสศึกษาข้อดีข้อเสียไปด้วย. บางเรื่องผมเองก็ไม่รู้นะเนี่ยเพราะมันนานเกินครับพี่น้อง...อิอิ

--ขอเถอะครับ เรื่องโหมกระพือเติมเชื้อไฟแห่งการไม่ยอมประนีประนอมโดยวิธีการต่างๆ เนี่ย ส่วนตัวมองว่า ไม่น่าจะค่อยดีนักสำหรับสถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้!ฐานะ ปชช.ผู้เสียภาษีก็อยากให้คนในชาติมีความรักใคร่สามัคคีปรองดองกันฉันท์พี่น้อง มีความสงบสันติซึ่งแน่นอนย่อมส่งผลดีต่อทุกคนทุกฝ่ายโดยรวม.
--------------------------
--ขออภัย “ไร้นาม” ที่เขียนยาวนิดเช่นเคยและนี้ก็เป็นคอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ.
โดย: Skywalker IP: 58.8.156.184 วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:7:44:31 น.
  
--ส่วนตัวผมขออนุญาตตั้ง(แบบไม่เป็นทางการนะ)วันนี้ที่ 11 ธ.ค. 52 เป็นวันแรก/วันที่หนึ่ง (DAY 1)ของวันการพัฒนา รธน. ปีที่ 78 โดยเนื้อหาอาจจะไม่ลงคอมเม้นต์ในเน็ตทุกวันเพราะจะสิ้นเปลืองหน้าต่าง แต่ส่วนใครจะร่วมแจมลงความเห็นก็เชิญครับ มาช่วยกันในภาคประชาสังคมในอันที่จะพัฒนา ปชต.ผ่านกลไกภายใต้ รธน.

--การมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคมจากจุดเล็กๆอีกจุดหนึ่งอาจเป็นผลดีไม่มากก็น้อย เมื่อได้ข้อสรุปที่เห็นสมควรแล้วก็จะดำเนินไปตามกรอบ ม.291 ต่อไปได้? งานช้างหรือ ไม่หรอกครับ ผมเพียงอยากเห็นความก้าวหน้า รธน. ที่หวังจะให้เป็นฉบับสุดท้าย!?!
-----------------------------
--ส่วนร่างแก้ไขที่ดำเนินการอยู่ใน 6 ประเด็น 6 ร่างที่เป็นทางการก็ว่ากันไป เพราะยังมีขั้นตอนอีกมากมาย ของผมนี่จะเป็นการนับต่อเนื่อง DAY 1-2-3...ว่าจะซักอีกกี่เดือนกี่ปีที่จะให้มี รธน.ฉบับสุดท้ายเท่านั้น? อย่าเพิ่งหัวเราะ บ้านเมืองเป็นของทุกคนครับ.แม้อาจเป็นแค่ "กรณีศึกษา-Case Study" ก็ตามที!!!
------------------------------
--ความเดิม "...ไฮไลท์ยังหยิบภาพที่น่าสนใจในความรู้สึกของ ปชช.ผู้ชมรายการอีกว่าในช่วงประมาณสิบปีที่ผ่านมา คือ ปี 40-52 มีอะไร(บางอย่าง)ที่ "ไม่เหมาะไม่ควร"มาให้ชมอีกด้วย..."

--ผมต้องเพิ่มเติมจุดนี้ว่า หมายความถึงเสมือนว่าเป็นการ "เจาะจง" นำบางส่วน/บาง พ.ศ.ของการใช้ รธน.ฯมาลงให้ดู!?! เฮ้อ.. ฐานะ ปชช.ผู้เสียภาษีคนหนึ่งรู้สึกกลุ้ม! ตรงที่ไม่อยากให้ไปถ่างช่องว่างของความ "เห็นต่าง" เข้าไปอีก บางทีสื่อฯก็อาจเป็นอะไรที่ทำให้สถานการณ์ออกทั้งหัว/ก้อยได้ดังนี้แล.แม้จะตั้งใจทำหน้าที่สื่อก็ตาม ครับก็ว่าไปตามหน้าที่ฯ แต่คนบริโภคสื่อเขาดูอยู่ นะเออ.
-------------------------------
--เอ้า DAY 1 ผมใคร่เสนอว่าฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้าย ต่อไปก็เป็นการแก้ไขเพิ่มเติม เท่านั้น ฮ้า! หามิได้มั๊ง?เดี๋ยวมีท็อปบู๊ทอีกล่ะ!?! ทำงัย อึ้งกิมกี่! แต่มองโลกในแง่ดีว่า"คงไม่มีอีกแล้ว" สวัสดีครับ.

--นี้ก็เป็นคอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ.




โดย: Skywalker IP: 58.8.235.157 วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:12:54:54 น.
  
--มีคนกล่าวไว้ว่า"โลกนี้คือละคร"จึงชลอๆข่าวร้อนๆละครการเมือง(ไทย)ลงบ้าง โดยเบนไปที่เรื่อง"วงการกีฬาในบ้านเรา"โอ้โห ..เป็นเรื่องราวใหญ่โตไปในพริบตา จะอะไรซะอีกถ้ามิใช่ข่าว ฟุตบอลพี่ไทยเราดันไป"พ่ายตกรอบ"ชาติอื่นในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา...

--นี่งัยที่ผมมักมีความเห็นว่าคนไทยเรามักเห็น "เรื่องเล็กเป็นใหญ่ๆกลับเป็นเรื่องเล็ก!?!" ส่วนตัวแม้จะเป็นแฟนบอลอยู่มากโขแต่ก็ไม่รู้สึกประหลาดใจกับเกมส์ลูกหนังกลมๆนี้นัก ผิดหวังน่ะมีแน่ๆ แต่ควรต้องเข้าใจว่าอะรัยก็เกิดขึ้นได้ตราบใดที่ กก.กลางยังไม่เป่าปิดเวลาอ่ะนะ.

--ขนาดระดับโลกใหญ่โตกว่านี้ก็พลิกผันกันให้เห็นเป็นประจำในช่วงทดเวลาซะซ้ำ อะฮ้า! กระนั้นอย่าแปลกใจ/ต่อว่า/ทับถมกันทั้งทีมไทยครั้งนี้นักเลย พอหอมปากหอมคอพอแล้ว..ว่านะ คิดซะว่ากีฬามีแพ้/ชนะ (จะเอาชนะอย่างเดียวก็ใครเขาจะเล่นด้วยเล่า อิอิ) หากจะให้คอมเม้นต์ก็ว่า...

--การละเล่นครั้งนี้มีปัจจัยหลายอย่างก็จริงที่หลายฝ่ายออกมาวิจารณ์ แต่ผมขอวิจารณ์นิดเดียวคือ “วินัย”ของคนในชาติ ไม่ว่าเรื่องไร เราขาด“TEAMWORK”กันเกือบทุกเรื่อง? อ้าว แล้วไปเกี่ยวไรกับผลแข่งขันฟุตบอลครั้งนี้ ก็นี่แหละครับ เพราะเป็นกีฬาที่เล่นกันเป็นทีมงัย..แต่ถ้าเป็นวันแมนโชว์เราไม่เป็นรองใครๆนะเอ้า !

--สังเกตดีๆหากขาดตัวเอกของเรื่อง/ความสามารถเฉพาะตัว(งานนี้เราแป่ว? ไม่ผ่าน)แถมดูเริ่มการละเล่นแต่ละคน ก็ไม่ค่อยจะเป็นทีมกันเท่าใดนักแล้ว? เล่นไปตั้งเกือบหมดเวลาแต่ทำสกอร์ได้แค่1-0 พอเขาฮึดขึ้นมา เราก็ยังดูเฉยๆ ก็เลย เอวัง !!!ละครับ แต่ยังงัยก็เถอะผมขอเป็นกำลังใจทีมไทยอยู่น่ะ...สู้ สู้ !!! ต่อไปครับ.
--------------------------
--วกเข้า “การเมืองเรื่องใกล้ตัว”หน่อยน่ะ..เข้าสู่ Day 2 ของการพัฒนาการ ปชต.แล้ว บังเอิญผมไปเจอะเจอข่าวอันหนึ่งผมว่าเป็นไอเดียกระฉูดเลยขอหนุนตามละกัน นั่นก็คือแนวความคิดที่สมควรให้เปลี่ยนชื่อ “อนุสาวรีย์ ปชต.”ราชดำเนินนี่แหละ ให้เป็นชื่อใหม่ “อนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ 2475”หรือจะละตัวเลขปี 2475 ออกเสียก็ยังได้..

--เนื่องประเด็นสนับสนุนมันอยู่ที่..ดูเข้าทีและเข้ากับสภาพอนุสรณ์สถานแห่งนี้มากมาย เราไปมัวคิดว่ามันเป็นอนุสาวรีย์ ปชต. แต่ก็ไม่เคยมี ปชต.จริงๆซะที!?! เปลี่ยนเถอะครับ ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย หวังว่าคงไม่ยากเย็นไรมากกะเรื่องแค่นี้!?!

--เอาไว้ตอนเรามี ปชต.เต็มใบ/เข้ารูปเข้ารอยมากกว่านี้/สามารถพูดเต็มปากว่า เป็น “ระบอบประชาธิปไตยฯ”อันสมบูรณ์ แล้วค่อยมาว่ากันอีกทีว่าจะปรับจะเปลี่ยนกลับคืนเดิมหรือจะสร้างใหม่ก็ว่ากันภายหน้าละครับ..สวัสดี.
----------------
--โปรดถือว่าเป็นคอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ


โดย: Skywalker IP: 58.8.152.169 วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:13:27:37 น.
  
--เพื่อป้องกันการสับสนสำหรับผู้ติดตาม “การเมืองเรื่องใกล้ตัว” ผมจึงทำความเข้าใจว่าจะขึ้นต้นเป็นลักษณะเป็นครั้ง/อาทิวันนี้..DAY 3 ของพัฒนาการ รธน.ปีที่ 78 หรือของพัฒนาการ ปชต. นั่นเอง..
---------------------------------
--เริ่มเลยดีกว่า... DAY 3 ของพัฒนาการ รธน.ปีที่ 78 ซึ่งกำลังดำเนินเดินภายใต้กรอบ รธน. ปี 50 จะบอกเรื่องราวใดต่อ ?คงหมดสาระสำคัญที่จะต้องมาว่าต่อๆแล้วสินะ!ยังๆ มีนับไปตลอดไม่ขาดระยะ...

--แต่ดังที่เกริ่นแล้วผมคงบันทึกเป็นข้อมูลไว้เท่านั้นไม่ถึงกะลงบนเว็บทุกครั้ง โดยจะพยายามเพิ่มดีกรีเนื้อหาที่มาลงและเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์โดยรวม“บ้าง”ล่ะครับนะ.

--ข้อวิพากษ์ รธน.ประจำวันนี้ก็คือ เห็นว่าที่ผ่านมาดูแล้วสาระสำคัญๆแต่ละฉบับก็คล้ายๆกัน? จะต่างกันก็เพียงไปตามยุคสมัยบ้างมีทั้งถูกใจ/ไม่ถูกใจบ้าง แต่จะให้ร้อยเปอร์เซ็นต์คงยาก แต่เหนืออื่นใดส่วนตัวคิดว่าเรามักมอง รธน.เป็นแค่ลายลักษณ์อักษรไม่ค่อยเข้าใจความหมายอันแท้จริงว่าเป็นเรื่องราวของรัฐที่มีต่อสาธารณะชนคนหมู่มาก/กฏหมายมหาชน/การละเลยไม่ปฏิบัติตามของกลุ่มการเมือง? ดังนี้แล้วควรต้องทำให้ขลังดังที่วางไว้เหนือพานจริงๆ !!!
------------------------------
--ส่วน“การเมือง”ในช่วงนี้หรือ?ก็ยัง“อึมครึม”พอสมควร จนอดรู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมามิได้ว่า เอ๊ะ!นี่เป็นการนับต่อเนื่อง/นับถอยหลังไปสู่ความล่มสลายของ“สังคมไทยในทุกด้าน”รึงัย?เพราะถึงแม้นว่ามุมมองสถานการณ์บ้านเมืองแบบรวมๆเห็นชัดขึ้นว่าความขัดแย้ง/แบ่งฝักฝ่ายนั้นนับวันจะพัฒนาความยุ่งเหยิงวุ่นวายไปอีกหลายรูปแบบขึ้นจนกลายเป็นเหมือนละครโรงใหญ่(ซึ่งไม่แปลกอะไรสำหรับโลกมนุษย์เรา อิอิ)ประกอบความสลับซับซ้อนยากที่จะวิเคราะห์ให้ตรงตามเป็นจริงได้.

--การชิงหลักหักเหลี่ยมที่ดำเนินมาเป็นระยะถึงปัจจุบัน ดูเผินๆ แล้วทำท่าจะคลี่คลายสงบสันติลง ประมาณนี้!?! แต่เอาเข้าจริงกลับกลายเป็นแก้ปัญหากันไปวันๆเราจะซื้อเวลากันดั่งที่เขาว่ากัน? ก็ว่ากันไป แต่ขอให้สภาวะไม่เลวร้ายลงกว่านี้มีการทำมาหากินฯรวมถึงความสงบเรียบร้อยปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้อง ปชช.ได้มีความเชื่อมั่นกว่าที่เป็นอยู่ก็น่าจะประคองกันไป จนท.บ้านเมืองและผู้เกี่ยวข้องทำงานหนักขึ้น ก็น่าเห็นใจครับ.

--ผมรู้สึกได้ว่าทุกคนไทยต้องการความสงบสันติตลอดเวลา แต่เมื่อมันเป็นไปได้ยากนักก็ให้รู้สึกซะว่า เราจะเริ่มเข้าสู่ความเคยชินของความขัดแย้งแล้วเนี่ย !?! แต่ก็ภาวนาให้สถานการณ์มันดีขึ้นเรื่อยๆ หากจะมีการต่อสู้ทางการเมืองจนในที่สุดแล้ว ก็คงเป็นแค่นำไปสู่การมีเลือกตั้งทั่วไปใหม่เท่านั้นเผื่อสถานการณ์ต่างๆจะได้ดีขึ้นและเข้ารูปเข้ารอยกันเสียทีน่ะ.สวัสดี.
-----------------
--คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ

โดย: Skywalker IP: 58.11.98.78 วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:12:54:23 น.
  
... DAY 4 ของพัฒนาการ รธน.ปีที่ 78 (DAY 4/78) ซึ่งกำลังดำเนินเดินภายใต้กรอบ รธน. ปี 50 ขออนุญาตอัญเชิญข้อแรกและหยิบยกสาระสำคัญ 2 ประการใหญ่ๆคือ.-
1)พระราชหัตถเลขาตอนหนึ่งซึ่ง ร.7 พระราชทานไว้ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองฯเมื่อ 24 มิ.ย. 2475 หรือเมื่อกว่า 77 ปีก่อนว่า “ข้าพเจ้ามีความเต็มใจ สละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอันมีอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฏรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้า ให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะเพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของราษฏร”
---------------------------
---------------------------
2) หลักสำคัญของ “รัฐธรรมนูญ”ที่เป็น กม. สูงสุดกล่าวไว้ลักษณะดังนี้.
2.1 “การรับรองสิทธิและเสรีภาพ”ของประชาชนทุกคน
2.2 “ประชาชนต้องมีส่วนร่วม”โดยผู้ปกครองต้องได้รับการเลือกตั้งหรือเห็นชอบจากประชาชนส่วนใหญ่
2.3 “อำนาจในการปกครอง” คือการใช้อำนาจของผู้ปกครองนั้นจะต้องคำนึงถึงประโยชน์สุขของ ปชช.เป็นที่ตั้ง/ที่เรียกว่าประชาชนต้องมาก่อนเสมอ!!! ดังที่ท่านเคยกล่าวไว้เสมอ.
2.4 “การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ” ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ หัวหน้า รบ.ไปจนถึงผู้บริหารส่วนท้องถิ่นฯซึ่งน่าจะรวม ขรก.ทุกระดับ/ประเภทตามที่ กม.จะบัญญัติ ฯ

--หากดูสาระสำคัญทั้งหมดนี่แล้วก็พอจะเห็นชัดแล้วว่า การดำเนินตามที่ว่ามา ส่วนตัว(โดยเฉพาะข้อ2)มองว่าเราสอบตกบ้าง/ผ่านบ้างสุดแต่สถานการณ์มันจะให้เป็นไปทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา!?!

--แต่นั้นแหละแม้จะสอบตก/ผ่านก็ตามที มันก็ยังเป็นอะไรที่ไม่มีความสมบูรณ์ในแง่ของการยอมรับได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์!?! อนิจจา เรามองบ้านเมืองด้วยสายตาที่ว่างเปล่าทั้งๆที่อยากให้เต็ม กันไปตลอดเลยเชียว?

--พูดแบบเป็นกลางนะการพัฒนา ปชต.ในกรอบ รธน.บ้านเรานั้นเรามาถูกทางแล้วตามระบบอบการปกครอง ปชต.ฯก็จริง ทว่าที่ไปไม่ค่อยถึงดวงดาว..วนเวียนกันอยู่อย่างนี้เองน่ะหรือ?! ก็เพราะเราไม่นิยมที่จะปฏิบัติตามหลัก “นิติรัฐ” ชัวร์!!!..
--หลักนิติรัฐไม่ว่าจะเป็นด้าน ว่าด้วยความเสมอภาคในทางกฎหมาย/ว่าด้วยเสรีภาพของพลเมือง/ การมีส่วนร่วมในทางประชาธิปไตย ซึ่งอันหลังนี้ดูเหมือนเรามีปัญหามากที่สุดในเวลานี้.

--ผมว่ามนุษย์เราเนี่ยนะ ว่าไปแล้วละก็หากจะกระทำสิ่งใดให้มีความจริงใจไม่หวังผลประโยชน์บนความโลภ โกรธ หลงใดๆต่อเพื่อนร่วมชาติเสียเลยแล้วไซร้ต่อให้“ปกครองแบบไม่ต้องปกครอง”กันก็ยังได้เลย..ว่านะ.วันนี้เขียนยาวมากมายเลย เกรงใจเจ้าของบล็อคด้วย..สวัสดีครับ.


--คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ

โดย: Skywalker IP: 58.8.233.188 วันที่: 14 ธันวาคม 2552 เวลา:21:42:06 น.
  

--Day 5/78—หากนับย้อนหลังไป 77 ปีจากวันรัฐธรรมนูญ 10 ธ.ค.75 เผลอแผล็บเดียวนี่ก็ผ่านไป 5 วันและขึ้นปีที่ 78 แล้ว(15 ธ.ค.52) หัวเรื่องพัฒนาการ รธน.ไทยฯและการวิเคราะห์ภาวะการณ์บ้านเมืองภาค ปชช.คนเดินดินแบบชาวบ้านๆ ก็ยังคงดำเนินต่อไปไม่ว่าจะไปสุดทางที่ปลายปี-- Day 365/78 แล้วต่อเนื่องด้วย Day 1/79…ประมาณนั้น!?!

--ก็ว่าไปเรื่อยๆ แหละครับ จุดประสงค์เดียวก็คือคงคอยนับวันคืนที่ล่วงไปให้มี ปชต.ในบ้านเมืองที่มีลักษณะ “เต็มใบ”จะเกิดขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่/หรือให้มีโอกาสได้ขึ้นบัญชีเวทีโลกว่าเราก็ได้ชื่อว่าเป็นประเทศอารยะเจริญแล้ว หรือ Developed Country กะเขาบ้างนะเออ ว่านะ.!!!

--วันนี้สั้นๆครับ ต่อไปคงเพิ่มดีกรีให้ติดตาม..ตอนนี้ขอพักผ่อนให้มากขึ้นบ้างอ่ะนะ เออ เรื่องโรคไข้หวัด 2009 ไปถึงไหนแล้ว? เห็นเงียบๆไป แต่ทุกท่านก็อย่าประมาท! โปรดระมัดระวังรักษาสุขภาพ ออกกำลังกายเมื่อมีโอกาสบ้างนะครับ สวัสดีครับ.

--คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ

โดย: Skywalker IP: 58.8.154.205 วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:22:52:53 น.
  
-มนุษย์เราทุกคนต่างมีเวลาเท่ากันวันละ 24 ชม.สุดแท้แต่ว่าใครจะบริหารเวลาของตนๆให้เป็นประโยชน์ แต่เท่าที่มองดูภาวะการณ์บ้านเมืองแต่ละฝักฝ่ายยัง"คุมเชิง"ทะเลาะเอาดีใส่ตัว/ชั่วไปที่อื่นกันไม่หยุด? แสดงถึงการเอา"เวลา"อันมีค่าไปทิ้งจนลืมแก้ปัญหาสารพัดให้ ปชช./หรือว่านี่ก็คือกำลังแก้ปัญหาเหมือนกัน?!
------------------
--เรื่องพัฒนาการ รธน.แบบต่อเนื่องจึงมารวบยอด Day 6-7/78 เอาในวันนี้(17 ธ.ค.52)ครับ อันที่จริงการถกๆกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนี้ก็มาจาก รธน.ที่เป็น กม.แม่บทในการบริหารฯทั้งนั้นแหละ..ว่านะ.

--ไม่เถียงเลย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็พอมองเห็นคำตอบแล้วว่าเมื่อ รธน.มันเป็นตัวปัญหาแล้ว ผู้มีอำนาจ/ผู้เกี่ยวข้องใยไม่รีบเยียวยาแก้ไขปัญหาที่ต้นตอโดยการ “แก้ไข รธน. 50”ซะรีบด่วนล่ะหนอ?!

--ปัญหาต่างๆในกรอบ รธน. 50 ฯนับที่เป็นไฮไลท์กันตั้งแต่ ม.63,67,ม.78 ที่เกี่ยวกับ อปท.(อ่าน (2)แล้วคลุมเครือน่ะ)ฯลฯ,ม.82 วรรคท้าย/83 ที่มีความเห็นทางสื่อฯกันว่ามันขัดกันเอง?,รวมทั้งประเด็นฮ๊อตๆที่เกี่ยวกับที่มาของ สส./สว.,ม.190,ม.237 และอื่นๆอีกหลายมาตราที่กำลังโต้แย้งกันน่ะ..

--แต่แล้วที่สุดทั้งฮ๊อตทั้งเผ็ดเด็ดสาระตี่ก็ ม.309 นี่เองละครับ..มุมมองจึงกลายเป็นว่า อะไรๆก็มารวมที่มาตราสุดยอดท็อปฮิตติดอันดับอยู่อีกนานเท่านานนี้เอง ซึ่งผมเองก็คงไม่วิพากษ์อะไรให้มากมาย..(ที่คงมาตรานี้ไว้อาจขึ้นอยู่กับภาวะการณ์ร่วมสมัย...ประมาณนั้น !?!)

--เพียงแต่เห็นว่าดูมันจะขัดกับ “ระบอบ ปชต.ฯ”ซะเต็มประตู ก็เท่านั้น! ส่วนจะให้คงไว้เป็น”ยาแรงแพงลิบลิ่ว” ผมคงไม่มีความเห็นครับ ดังบอกไปแล้วว่าบ้านเมืองเราส่วนหนึ่งพยามมองปัญหาของประเทศด้วยสายตาที่“ว่างเปล่า” ทั้งๆที่อยากให้ “เต็ม” เพราะอาจจะยังมีปัจจัยอื่นมาเสริมเติมก็ได้ให้ต้องเป็นแบบนี้ !?!

--ดังนั้นความเจริญทัดเทียม อารยะ/ความเป็นศิวิไลย์(Globalization..เขียนถูกเปล่าเนี่ย ?)หรือความเจริญ/พัฒนา ปชต. ภายใต้กรอบ กม.รธน.จึงน่าจะเป็นแบบค่อยเป็นไป ที่จะให้เป็นแบบ“ก้าวกระโดด”นั้นอย่าเพิ่งฝัน เพราะอาจไม่มีวัน/ยากที่จะบังเกิดขึ้นได้ในบ้านเมืองนี้อ่ะนะครับ...สวัสดี.
----------------------
--คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ

โดย: Skywalker IP: 58.8.232.158 วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:12:06:50 น.
  
--Day 8/78 ของพัฒนาการ รธน.ไทยมีความเป็นมาอย่างไร ?วานกลับไปอ่านเหตุผลก่อนหน้านี้ซัก 4-5 หน้าบล็อคก็พอจะทราบ ผมย้ำก็เพราะต่อไปจะไม่พูดถึงที่มาของ Day อะไร/นั้นนี้อีกแล้ว.

--หวังว่าท่านผู้อ่านคงไม่รำคาญและขออภัย “ไร้นาม” ด้วยและหากว่าเห็นไม่สมควร/ให้หยุดคอมเม้นต์ ก็ขอให้ส่งสัญญาณให้ทราบด้วย เพราะมาคิดดูบางครั้งบางวัน.. ผมก็ว่าแทนที่จะมีประโยชน์แต่กลับเป็นไร้สาระไปซะนี่ เออนะ!!!

--สำหรับ การคอมเม้นต์ที่จะมีต่อนั้นก็คงแบบทั่วๆไป ตั้งตนค่อนข้างเป็นกลาง/อุเบกขาและยึดหลักกฏหมายที่เกี่ยวข้องมากที่สุดมาเป็นแนว อาทิ หลักนิติรัฐ /นิติธรรม/กม.มหาชน/กม.รธน./นิติปรัชญา/ประวัติศาสตร์ กม.ทั้งของใน/ตปท.

--รวมการประยุกต์ กม.รธน.ของประเทศ ปชต.ฯที่ควรจะเป็นแบบอย่างในทางที่เหมาะสมกับสภาพการณ์บ้านเมืองไทยเรา ฯลฯแต่ไม่น่าจะลงลึกในลักษณะวิชาการจนเกิน อาจทำให้คนเราหน่ายอ่านได้นั่นเอง...

--แน่นอนภาวะการณ์ในบ้านเมืองมีลักษณะ Dynamic ตลอดเวลา จึงเป็นไปได้ว่า ข้อความเห็นจะเป็นลักษณะวิพากษ์เหตุการณ์ที่สมควร/ไม่สมควรให้เป็นทิศทางใด ณแต่ละห้วงเวลา..

--เผื่อสิ่งเหล่านี้จะเป็นกระบอกเสียงเล็กๆ ของ ปชช.คนเสียภาษีคนหนึ่ง ที่จะพึงขอสงวนสิทธิในข้อวิจารณ์นั้นได้บ้างตามควรแก่เหตุปัจจัยที่พาไป ประมาณนี้.!?!

--เหคุผลในการอ้างอิงถึงหลัก กม.มหาชน/นิติปรัชญาฯลฯก็ดี เพราะเห็นว่ามีความเกี่ยวพันกับการปกครองในระบอบ ปชต.ฯนี้มาก อ.ผู้สอนมักจะเน้นเสมอว่าบ้านเมืองเรายังขาดองค์ความรู้ ความเข้าใจในบทบาทของสองวิชานี้มาก จนทำนองเป็นสาเหตุหนึ่งของการเมืองการปกครองมันจึงเป็นลักษณะ “ของความคิดเห็น”/"ความต้องการ" (WILL)ของผู้กุมอำนาจรัฐปกครอง...!

--การใช้หลักเพียงเพื่อต้องการ/WILL ก่อผลร้ายต่อการปกครองนักหรือ!?! คำตอบคือไม่เชิง เราคงถกกันไปเรื่อยๆกว่าจะได้ข้อยุติที่สมควรและพบเป้าหมายเดียวกันในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า...

--แต่ที่แน่ๆ คือปัจจุบันมันเข้าลักษณะมักไปตรงกันข้ามกับความต้องการของ ปชช.เจ้าของประเทศที่หวังในหลัก“ความถูกต้องเป็นธรรม”/ความเป็นเหตุเป็นผลในเชิงตรรกะมากกว่า ซึ่งเชื่อกันว่า "หลักเหตุผล"จะนำไปสู่สังคมที่ปกครองแบบถูกต้องเป็นธรรมได้นั่นเอง..ยุติก่อน...สวัสดีครับ.
---------------
--Whenever the objective of the constitution is barred by the rule of law,or contrary to the public order or good morality it will be held "void."

--คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ

โดย: Skywalker IP: 58.8.161.183 วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:14:01:10 น.
  
--Day 9/78 :ของพัฒนาการ รธน. ขอพักยกในเนื้อหาหลักไว้ก่อนแต่พอสรุปประจำวันได้ว่า “ยังไม่มีความคืบหน้า” รธน. ยังเป็นเพียงลายลักษณ์อักษรที่ต้องการสังคายนากันใหม่? ตอนนี้ดูจะถูกกลบเกลื่อนเลือนด้วยความเคลื่อนไหวทาง “การเมือง” ณ ภาวะการณ์ปัจจุบันเสียสิ้น ..

--จะอะไรเสียอีกล่ะ ก็เป็นความขัดแย้งที่ไม่น่าจะบานปลายเรื่องคดีที่คนไทยไปขึ้นศาลประเทศเพื่อนบ้าน..ส่วนผลลัพธ์แม้ออกมาทางบวกแต่ก็ยังค้างคาใจกันให้มันเป็นประเด็นการเมืองเรื่องร้อนๆขึ้นจนได้มั๊ยละ !?!

--เข้าตำรา “น้ำลด ตอผุด” ครานี้เป็นลักษณะที่โยนกันไปมาจนมั่ว กระทั่งจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้วล่ะครับ มีปมประเด็นมากมายที่ถูกขมวดเขม็งเกลียวเข้าทุกขณะจิต? และเลยไปถึงเรื่องแนวทางการยุบ/ไม่ยุบของพรรคแกนนำ รบ.ปัจจุบันก็ยังยื้อแย่งหลวงพ่อรอด/ไม่รอด!!!

--ส่วนตัวมองว่าจะไปเข้าเสมือนครั้งกระโน้นที่ตัดสินๆหลายๆพรรค แต่พรรคการเมืองใหญ่ถึงไม่ต้องอมพระมาพูดก็ต้องเชื่อว่า “รอด” อยู่แล้ว!?! ก็ต้องยอมรับการตัดสินโดยดีไม่มีอะไรน่ะ.
-----------------------------------
--มาถึงเรื่อง ภาวะโลกร้อน เรื่องที่เป็นภัยต่อมวลมนุษย์กันโดยถ้วนหน้ากันดีกว่า แล้วที่สุดผลการประชุมร่วม Global Climate Change Conference ที่เพิ่งสิ้นสุดลง ก็ออกมาในรูปที่ไม่ค่อยเป็นเนื้อหาไปกว่าเป็นน้ำๆซะมากนัก

--เพราะแต่ละประเทศต่างก็ห่วง/หวงผลประโยชน์ทาง ศก.ที่ตนต้องเสีย/ได้รับจากผลกระทบใน “ข้อตกลง” ดังนั้นประเภทจะให้มีผลถึงขั้นที่ผูกพันในทาง กม. ร่วมกัน( Legal Binding Agreement)จึงเป็นไปได้ค่อนข้างยาก (ตามเคย)?!

--อย่างไรก็ตามคงต้องไปพูดคุยกันอีกหลายยกหลายเวที เพราะหากเอาเข้าจริงต่างฝ่ายก็ไม่ยอมรับกันและกันจริงๆละก็ ผมว่ามันก็ไม่ต่างจากการที่มวลมนุษย์บนโลกใบนี้ต้องมากอดคอร่วมกันเผชิญชะตากรรมอันสพรึงกลัวในอนาคตอีกไม่นานนี้ “มนุษย์เป็นผู้ก่อ มนุษย์ก็ต้องเป็นผู้แก้(ไข)”..ว่านะ.

--คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ
โดย: Skywalker IP: 58.11.97.46 วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:14:12:57 น.
  
--Day 10/78: อาจต้องย้ำซ้ำคำพูดเดิมว่า กระแสพัฒนาการ รธน.ไทยแทบจะกลายเป็นหมันไปแล้ว โดยมีความหวังไม่ว่าจะเป็นประเด็นการแก้ไข/พัฒนาการ ฯในทางที่ควรจะเป็นโดยให้อยู่บนพื้นฐานของหลัก“นิติรัฐ”มากกว่าที่เป็นอยู่...

--แต่ ณ นาทีนี้ขอพักยกหน่อย เพราะมีเหตุภาวะการณ์บ้านเมืองเรายัง”โยกคลอน”อยู่ไม่เสื่อม !

--ล่าสุดสังเกตการให้ข่าวของฯพณฯ รมต.ท่านหนึ่งในช่วงค่ำวันนี้แล้วก็มั่นใจไปกะท่านด้วยทำนองว่า ภายใต้สภาวะการณ์อย่างในขณะนี้น่ะหรือ?“การเมืองไทย”มันก็เข้าลักษณะทำนองว่าไม่มีทางใดๆเลยที่จะมีผู้มาหักหาญ/ทำท่าหักโค่นล้ม รบ.ได้แน่นอน!?!

--หมายความว่า หากจะต่อสู้ก็โดยวิถีทาง “การเมือง”เท่านั้นไม่เห็นมีไรน่าเป็นห่วงเลยอ่ะนะ. รบ.ชุดไหนใดก็ตามงั้นหรือ!?!ก็สามารถเข้ามากุมอำนาจรัฐได้ตามเสียง ปชช.ผู้เสียภาษี แม้หากเป็นการบริหารราชการแผ่นดินที่ทำให้ ปชช.ไม่ต้องทนทุกข์เช่นนี้!?!

--มุมมองส่วนตัวเห็นด้วยนะก็ว่าเป็นไปตามวิถี ปชต.ดีแล้วหากไม่หวลระลึกถึงที่มาของ รบ. “การได้มา,ได้เป็น,ได้ตำแหน่ง รวมได้ความผิดหวังด้านบริหารฯอ่อนหัด !?!”ดังที่หลายๆฝ่าย อาทิผลสำรวจของโพลต่างๆ และองค์กรรับผิดชอบด้าน ศก.ฯลฯ

--เล่นเอา ศก.ระดับจุลภาคนับวันจะสาละวันเตี้ยลงดั่งที่เป็นข่าววิเคราะห์โดยสื่อและ/หรือนักวิชาการหลายสำนักก็ออกมายอมรับว่า ศก.บ้านเรายังบริหารไม่เข้าตากรรมการ ฯอ่ะนะ..แล้วจะว่ากันงัย? แต่ผมยังงัยก็ยังเอาใจช่วยจนได้สิน่า..ยุติก่อนครับ สวัสดี.


--คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ




โดย: Skywalker IP: 58.8.232.105 วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:23:43:41 น.
  
--Day 11/78 แห่งพัฒนาการ รธน.ยังสาละวนอยู่กับความวุ่นวาย"ยุ่งขิง"ชิงดีเด่นกันนะพี่น้อง...ก็จริงอยู่ในสังคมมนุย์เรา หากจะถือเป็นเรื่องปกติ ก็คงไม่ผิดนัก แต่การอยู่ร่วมกันเป็นสังคมรัฐ/ประเทศชาติแล้ว เรายอมต้องมุ่งมั่นที่จะให้สังคมนี้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขในทุกด้าน โดยการร่วมมือร่วมใจช่วยกันร่างกฏกติกา/กฏเกณฑ์ที่เรียกให้ชัดก็คือ "กฏหมาย"นั่นเองแหละ

--กฏหมาย "รัฐธรรมนูญ" ถือเป็น "แม่บท"ของกฏหมายทั้งปวง มาตรา 6 "รัฐธรรมนูญ เป็นกฏหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฏหมาย กฏหรือข้อบังคับ ที่ขัดหรือแย้งต่อ รธน.นี้บทบัญญัตินั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้”

--The Constitution Law is the supreme law of the State.The provision of any Law, Rule or Regulation, which are contrary to or inconsistent with this the Constitution,shall be enforceable.
------------------------
--การสร้างกฏหมายแม่บทขึ้นมาแล้วแม้จะแตกแขนงกฏหมายลูกออกไปอีกไม่รู้กี่บทกี่มาตราก็ใช่ว่าจะทำได้โดยขัดกับ รธน.ดังกล่าวแล้ว ประการสำคัญ ผมว่าเรามามุ่งยุ่งกันตีความถึงความหมายของคำว่า "ความยุติธรรม"กันมากเกินไปรึเปล่าเนี่ยถึงได้เถียงกันจนบ้านเมืองป่นปี้ไม่มีเวลามาบริหารกันได้แบบเต็มที่แบบนี้ .

--เพราะไปมาๆเราก็ดูเหมือนว่าต่างฝ่ายก็ว่าตนเองได้รับ/ไม่ได้รับ "ความยุติธรรม" กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ดังนี้ ประเด็นหลักของ Day 11/78 วันนี้จึงอยากให้พัฒนาการ รธน.หรือ กม.ใดๆ ยังคงผดุงความ "ยุติธรรม"เสมอไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดคนไทยทุกคนควรได้รับสิทธิอันพึงได้นี้.

--หากเป็นไปได้แล้ว เชื่อว่าปัญหาต่าง น่าจะคลี่คลายลงได้ ว่านะ.(ผมน่ะเปล่ามาสอนทฤษฏีความยุติธรรมน่ะ—เป็นข้อความเห็นน่ะเออ)แต่ละฝ่ายถอยหลังคนละก้าวหันมาดูให้ชัดๆว่า ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นนี้มันมาจากความ “อยุติธรรม/สองมาตรฐาน”ที่เกิดจากการใช้กฏหมายบ้านเมืองกันจริงหรือไม่!!!

--เริ่มจากความเชื่อมโยงกันระหว่าง กฏหมายกับความยุติธรรม ตรงนี้แหละพี่น้อง...ที่ต้องมาตั้งวงถกกันว่าจะให้มันสัมพันธ์กันในรูปแบบใด จะให้ กฏหมายมาก่อน/ยุติธรรมมาก่อนก็คงไม่มีใครว่าเพราะแม้พระบรมราโชวาทของล้นเกล้า ฯ ก็ยังให้ความเห็นในสาระสำคัญพอสรุปได้ว่า ความยุติธรรมควรต้องมาก่อนกฏหมาย แต่พระองค์ฯก็ยังให้ความสำคัญของกฏหมายในแง่ของการเป็นเครื่องมือในการ“รักษา”ความยุติธรรม.
------------------
--สรุป(ซะทีสินะ)เหตุการณ์บานปลายจนกลายเป็นเรื่องหลายมาตรฐานของที่อ้างกันนั้นอาจเป็นเพราะแต่ละฝ่ายตีคุณค่าของทั้งตัวบทกฏหมายและความยุติธรรมไปคนละทิศละทาง!?!

--อย่างไรก็ตามหากคิดถึงว่าคุณค่าของความยุติธรรมที่เข้าใจแตกต่างกันได้ตามกาลเวลาที่เหมาะสมนี้แล้วละก็ ผมว่าถึงเวลาที่แต่ละฝ่ายควรลดทิฐิลงมาแสวงหา “ความจริง”ว่า ทุกวันนี้เรา “มีความยุติธรรม”ให้กับสังคม/คนในสังคมเราอย่างแม่นแท้แน่จริงประการใด/สักปานใดหรือไม่? เราต้องการสังคมที่เป็นสุข..สวัสดีครับ.

--คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ

โดย: Skywalker IP: 58.8.234.57 วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:15:45:22 น.
  
--Day 12/78 :พัฒนาการ รธน.ไทยยังมีเรื่องเกี่ยวข้องมาลงได้ตลอดแหละ แม้จะมีภาวะการณ์บ้านเมืองยังเป็นที่ “ฮ๊อตร้อนฉ่า”สอดแทรกอยู่ตลอดเวลาเช่นในช่วงนี้..แต่เราก็ยังยืนต่อไปครับ.

--แลหลังการเมืองไทยในช่วง ก.ย. 49 จนถึงปัจจุบัน ปัญหาก็ยังขบกันไม่แตกนะครับเนี่ย ทาง รบ.ยังมีท่าทีทางบวกต่อข้อเรียกร้องของความต้องการฝ่ายตรงข้ามนั่นคือพยายามอ้างความเป็นไปได้ของการ "ยุบสภา"สู่การเลือกตั้งทั่วไป ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ว่างั้นนะ.

--แต่ก็มาติดขัดอยู่สองสามเรื่องที่เป็นลักษณะกังวลคือ (1)ภาวะ ศก.เพิ่งเริ่มกระเตื้องฯ (2)ความวุ่นวายทางการเมืองที่ยังไม่เข้าสู่ภาวะเสถียร และ(3)ขืนมีการเลือกตั้งช่วงนี้อาจนำไปสู่ความรุนแรงในสนามเลือกตั้ง!?!
------------
--แต่ที่สุดของความฮ๊อตในกระแสฝ่ายตรงข้ามก็คือเงื่อนไข 3 ข้อ เช่นกันคือ (1) กลับไปใช้ รธน. 40 (2) ยุบสภา และ(3) หลังเลือกตั้งแล้วผลออกมาเช่นไรก็ตามที..."ทุกฝ่าย"ต้องยอมรับแต่โดยดี!!!ทุกอย่างจบ บ้านเมืองคืนสู่สภาวะปกติดังเดิม สาธุ!

--ที่ผมเอ่ยคำ... สาธุ! ก็เป็นเสมือนคำวิงวอนให้ทุกอย่างมันคืนสู่สภาพปกติโดยเร็วและโดยแท้จริงด้วยเถิด ผมละกังวลแท้เพราะหากจะเอาสามข้อสามเงื่อนไขมาเข้าสมการกันแล้ว มันกลับกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกันไปเลยอ่ะนะ.

--ข้อสรุปของการเมืองวันนี้ก็คือยังพอเห็นทางอยู่บ้าง "หากมีการเจรจาพาที"-{Negotiation :To confer with another or others in order to come to terms or reach an agreement} กันให้รู้เรื่องกันซักเวที/ครั้ง/สองครั้งจะดีไหมครับ ?

--ผมว่าอย่าเพิ่งปฏิเสธกันแต่ยังไม่ทันได้เริ่มเลย มันจะถึงทางตันเอาก็ได้นา เออนะ!?! ส่วนตัวไม่อยากเห็นความวุ่นวายแบบไม่รู้จบหรือไปเข้าลักษณะว่า“It is difficult to negotiate where neither will trust”(เขียนถูกเปล่าครับเนี่ย) ประมาณนี้?
---------------
--ในฐานะ ปชช.ผู้เสียภาษีก็อยากจะคอมเม้นต์บ้างเป็นธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ
โดย: Skywalker IP: 61.90.31.81 วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:23:36:25 น.
  
--Day 12/78 :พัฒนาการ รธน.ไทยฯวันนี้ขอพูดถึงนับแต่กระแสการแก้ไข/ไม่แก้ไข รธน.กำลังเป็นข่าว ดังนี้แล้วหากลองไปเดินดูตามแผงร้านหนังสือดังทั่วไป ก็จะพบว่ามีท่านผู้รู้/ทรงคุณวุฒิ/นักวิชาการอิสระออกมาเขียนหนังสือแนว เกี่ยวกับ รธน.ก็ดีรวมถึงบอกเล่าเก้าสิบถึงพัฒนาการการเมืองไทย ในห้วงที่ผ่านมาอันยาวนานโดยเฉพาะหลังปี 75.

--ผมว่าดีครับเป็นอะไรที่ทำให้ ปชช.ตื่นตัวในเรื่องการบ้านการเมือง โดยเฉพาะ รธน.นับแต่ต้นปฐมฉบับเป็นต้นมา สาระเนื้อหาของหนังสืออ่านประกอบที่ทรงคุณค่าเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ออกมาให้ทั้งข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นรวมข้อเสนอแนะทางออกที่น่าจะเป็นไปได้! (ที่จริงหนังสือมีมานานแล้วแต่มีมากระยะหลังน่ะครับนะ)

--ผมว่านี่ก็เป็นหน้าประวัติศาสตร์ไทยอีกหน้าหนึ่งนะที่แม้จะต่างจากตำราในสถานศึกษาแต่ก็ได้อรรถรสในการอ่านพร้อมการเรียนรู้จากปัญหาสาเหตุนานาประการได้มากเลย เพราะผู้เขียนพยายามจะชี้ให้เห็นถึงทั้งเชิงทฤษฏีและการให้ข้อเท็จจริง....

----เอ๊ะ แล้วนี่ผมกำลังนอกเรื่องไปมากแล้วมั๊ง ผมกำลังพูดถึงส่วนดีของการอ่านมากๆและได้ข้อมูลจากหนังสือเชิงวิเคราะห์วิจารณ์การเมืองการปกครองของไทย..หลังอ่านแล้วก็ให้รู้สึกสาระบางตอนของหนังสือดังกล่าวออกไปในทางชี้นำถึงความสำเร็จและความล้มเหลวของการบริหารราชการ ฯในช่วง ทรท.กุมอำนาจรัฐ!

--เปล่ามิได้ฟื้นฝอยฯไรหรอก เพียงส่วนตัวมองว่าหากจะวิเคราะห์โดยเฉพาะด้านไม่ดีนั้น เห็นควรต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้? เพราะการวิเคราะห์ในเชิงตำหนิจนเกิดให้ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนฯกังวลว่าอาจจะเป็นการขยายวงของความไม่เข้าใจกันมากขึ้น!?!

--ผมเป็นกลางนะ แต่อ่านแล้วก็ยังรู้สึกเสมือนกล่าวหา? รบ.ทรท.เป็นต้นเหตุของความล้มเหลวจนเกินเหตุจนนำไปสู่ความขัดแย้งกันจนถึงปัจจุบัน!?! แน่นอนได้อ้างถึง รธน.40/50 ด้วย ซึ่งก็ตรงกะที่จะเขียนลงหน้าบล็อคแหละแต่ก็ได้แต่แนะนำว่า ผู้สนใจควรหามาอ่าน(ผมไม่ระบุชื่อหนังสือเพราะไม่มีค่าโฆษณา อิอิ) เอางี้ต่อวันหลังแล้วกัน นี่ก็เขียนยาวมากมายแล้ว. สวัสดีครับ.
----------------
--คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ
โดย: Skywalker IP: 58.8.235.14 วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:23:35:12 น.
  


--แก้ไขขึ้นต้นประโยคเป็น "Day13/78..." ครับ ขออภัย
โดย: Skywalker IP: 58.8.235.14 วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:23:41:51 น.
  
--Day 14/78 :พัฒนาการ รธน.ไทยฯนับจากปี 75 จนถึงปัจจุบันยังตกอยู่ในวังวนของความไม่ลงรอยกันแต่ละห้วงเวลา/ความขัดแย้งทางการเมือง/ความไม่เป็น ปชต. ตามหลักสากลทั่วไป ฯลฯ จนเป็นที่มาของ การมี รธน.มาแล้วถึงสิบแปดฉบับ(นับรวม ปี 50)

--ว่ากันว่าไทยเป็นประเทศเดียวที่ใช้ รธน.(เปลือง)มากที่สุดในโลก แม้จะมีฉบับที่ถูกบังคับใช้เป็น กม.แม่บท นานบ้าง/ไม่นานบ้างแต่เฉลี่ยเราใช้ฉบับละเพียงสี่ปีเศษเท่านั้น ในฐานะคนไทยคนหนึ่งเนี่ย ก็ให้รู้งุนงงสงสัยมิได้ว่า ทำไมบ้านเมืองเราจึงใช้ รธน.มากมายปานฉะนี้!!! สงสัยๆจริงนะ.

--แต่เมื่อได้ศึกษาย้อนรอยความเป็นมาจะพบว่า แต่ละครั้งของการร่างใหม่ก็มีเหตุและผลต่างๆกันออกไป และหากศึกษาถึงแก่นแท้ในแง่วิชาการแล้ว น่าจะกล่าวได้ว่า การที่เราเป็น ปชต.แบบลุ่มๆดอนๆลักษณะนี้กลับไม่เป็นผลดีต่อคนในชาติเลยนิ.

-- เพราะเป็นการบริหารราชการที่ไม่ต่อเนื่อง ส่งผลให้ความเจริญพัฒนาของประเทศเป็นไปอย่างเชื่องช้า ประชาชนคนในชาติยังติดหล่มอยู่กับความยากแร้นไร้สุขปนทุกข์กันโดยถ้วนหน้า การกระจายรายได้เกิดการกระจุกตัว ฯลฯ เป็นต้น

--พัฒนาการ รธน.ต่อจากนี้ไปน่าจะดีขึ้น เนื่องจาก ปชช.คนไทยเราตื่นตัวในทางการเมืองมากขึ้นและนั่นหมายความว่า ปชช.เกิดสำนึกในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ... วันนี้ยุติครับ.สวัสดีครับ.
โดย: Skywalker IP: 58.8.232.108 วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:23:52:54 น.
  
--Day 15/78 :พัฒนาการ รธน.ไทยหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองฯเมื่อปี 2475-ถึงปัจจุบันเรามี รธน.มาแล้วถึงสิบแปดฉบับ(นับรวม ปี 50)เรียกว่าเรามี รธน.มากที่สุดในโลก ดังกล่าวแล้ว

--และประการสำคัญเมื่อได้ศึกษาย้อนรอยความเป็นมาจะพบว่า แต่ละครั้งของการร่างใหม่ก็มีเหตุและผลต่างๆกันออกไป และหากศึกษาถึงรากเหง้าอันค่อนข้างแท้จริงแล้ว..

--การที่เราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง/ยกเลิก/ร่างใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่านั้น ในส่วนความรู้สึกของคนในชาติเราเถียงไม่ได้ว่าการเป็น ปชต.ลักษณะที่ว่านี้เรียกกันว่าแบบลุ่มๆดอนๆซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติเลย!!!

--วันนี้มาวิเคราะห์กันตามประสาชาวบ้านๆโดยไม่ต้องอ้างข้อเท็จจริงของการยกเลิกแล้วร่างใหม่กันแต่ละครั้ง เพราะอ้างทีไรมันปวดหัวใจทุกทีน่ะพี่น้อง... แต่ละคณะฯที่กระทำการปฏิวัติรัฐประหารที่ยึด(อำนาจ)/ ยก(เลิก รธน.)/ ร่าง(รธน.ฯ)ใหม่นั้น..

--ต่างก็มีเหตุผลส่วนตัวกันที่ถูกต้องชอบธรรมกันทั้งนั้น!?! แล้วข้อมูลเชิงวิชาการที่ให้เหตุผลในหน้าประวัติศาสตร์ที่จารึกไว้แต่ละครั้งก็ใช่ว่าจะตรงกัน/เป็นไปตามนั้นเสมอไป ว่านะ.

--ก่อนอื่นอยากไล่เลียงการใช้ชื่อของคณะที่ยึดอำนาจฯ ผมแปลกใจนิดๆว่า ที่จริงเราเข้าใจกันว่าระหว่าง “การปฏิวัติ กับรัฐประหาร"นั้นมีข้อแตกต่างกันราวฟ้าดินอยู่แล้ว คือ ปฏิวัติ-ฉีก รธน.

--ส่วน รัฐประหารนั้นไม่ฉีก รธน.แค่เปลี่ยน รบ./จัดระบบการเลือกตั้งทั่วไปในกฏกติการใหม่ด้วยเปล่า? อันนี้น่าจะใช่ด้วยนะ แต่ที่แน่ๆ รัฐประหารคือใช้กฏกติการ รธน.ฉบับเดิมนั้นๆเอง.

--แต่พอไปอ่านตำรับตำรา/สื่อสิ่งพิมพ์หลากหลาย กลับพบว่าเราใช้กันหลายชื่อในคณะก่อการยึดอำนาจ แปลกใจก็ตรงที่ทำไมถึงไม่ใช้คำว่า “ปฏิวัติ” เสียสิ้นเรื่องสิ้นราว ก็เป็นการยกเลิก รธน.ซะทุกครั้งเป็นส่วนใหญ่มาตลอดหลายสิบปีมาเนี่ยนะ. อันนี้แปลกอย่างหนึ่ง..

--แปลกที่สองก็คือทำไมไม่ใช้ภาษากันให้มันถูกกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เหตุมันทำให้คนรุ่นหลังพลอยตกภาษาไทยโดยสับสนเรื่องกระทำการเปลี่ยนแปลง(แถมบางตำรายังไปไกลว่า “การเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย”มีเพียงครั้งเดียวคือ ปี 75 เท่านั้น นอกนั้นไม่ใช่?)

--เป็นงัยครับ..แล้วเป็นไรดีครับ ก็ยึดอำนาจไปเปลี่ยนกติกาเดิมเหมือนกันนะเนี่ย น่าจะบอกว่า ปี 75 เป็นแบบ “revolution” {a fundamental change in power or organizational structures.}ส่วนต่อๆมาน่าจะเรียกซะให้ถูกว่าเป็น “coup d'état”{ the sudden unconstitutional deposition of a government } แค่นี้ก็จบไม่สับสนจะดีกว่าไหม? ว่านะ.

--งงนะ งงหนักขึ้นเล่นเอาองค์ความรู้ของพี่ไทยเราสับสนอลเวลหนักขึ้น เป็นการบ้านไปแล้วกัน. คิดมากไปก็ไม่ก่อประโยชน์ในแง่ล้มล้าง/ยึดอำนาจประการใด เพราะไหนๆ ก็ผ่านไปแล้วมีทั้งที่รุนแรงและไม่รุนแรง ! เอาละทีนี้ก็มาถึงไฮไลท์ประจำหัวข้อเรื่องละครับคือ...

-- ส่วนตัวมองว่าการปฏิวัติ ฯแต่ละครั้งเนี่ย มีแนวโน้มเป็นการกระทำ "เพื่อคณะบุคคลฯมากกว่าเพื่อส่วนรวม”ว่านะ เพราะขนาด รธน.บางฉบับระบุว่าผิด กม.ก็ยังเกิดขึ้นได้เลยนิ ผมคงไม่ไปตำหนิคณะฯทั้งหลายมากมายแต่ตั้งข้อสังเกตไว้เท่านั้นว่า นี้เป็นอะไรที่ไม่ตรงกับความต้องการของ ปชช.เจ้าของประเทศหรือเปล่า !?!..วันนี้ยุติก่อน สวัสดีครับ.
------------------
-คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ--
โดย: Skywalker IP: 58.8.157.207 วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:8:10:45 น.
  
--Day 16/78 ของพัฒนาการ รธน.ไทย:หัวเรื่องนี้ดูจะกลายเป็นอะไรที่ต้องยืนควบคู่ไปตลอดกับภาวะการณ์ในบ้านเมืองปัจจุบันเพราะหากไปเทียบกับซัก 20-30 ปี ก่อนหน้านี้เหตุการณ์บ้านเมืองดูจะไม่สั่นคลอนต่อมาตรฐานการครองตน/ครองงาน/การดำรงชีวิตประจำวันของคนในชาติเท่าใดนัก ว่ามั๊ย?

--จะมารู้สึกว่ากระทบต่อความเป็นอยู่ของผู้คนขึ้นเรื่อยๆก็ซักปี 40 เป็นต้นมานี่แหละ ซึ่งเผอิญเหลือเกินที่เป็นช่วงเวลาที่ทุกภาคส่วนของสังคมไทยตระหนักถึงความสำคัญของการร่าง รธน.ฉบับประชาชน จนกลายมาเป็น รธน.ที่ดีที่สุดที่มีมาก่อน ก็คือ “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540”

--อาจถือว่า “พัฒนาการ รธน.ไทย”ได้มาถึงเวลาอันเหมาะสมเสียทีแล้ว/ทุกคนแฮปปี้/ประชาชีเป็นสุขบ้านเมืองจะได้ก้าวพ้นความยากไร้ที่คนส่วนใหญ่ดำรงคงเป็นอยู่มาอย่างต่อเนื่องฯ โดยมี รธน.ปี 40 เป็น กม.แม่บทที่ รบ.จะได้ใช้เป็นกลไกในการบริหารบ้านเมืองฯเพื่อบรรลุตามเป้าหมาย ดังกล่าว และก็ไม่ผิดหวังที่ประเทศชาติสามารถก้าวขึ้นสู่เวทีโลก ภายใต้การนำรัฐนาวาฝ่าทะเลคลื่นอันใหญ่หลวง ด้วยความรู้ความสามารถของผู้นำที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์..

--ไม่ว่าจะเป็นเพราะ “กฏความแน่นอนคือความไม่แน่นอน” หรือ “อะรัยจะเกิด มันก็ต้องเกิด!?!” ประชาชนส่วนใหญ่ที่พึ่งจะได้ลิ้มรสแห่งความเป็นอยู่/ดำรงชีวิตประจำวันที่ดีขึ้นๆในห้วงเพียง 6- 7 ปี..ก็ต้องมีอันฝันสลาย?เมื่อวันดีคืนดี สถานะการณ์ “การเมือง” ก็เปลี่ยนแปลงชนิดพลิกจากหน้าเป็นหลัง..มีอะไรเกิดขึ้นคงไม่ต้องลงรายละเอียดแล้วละครับ.

-- เพราะการแปรเปลี่ยนเช่นว่านั้นได้นำมาสู่ความยุ่งเหยิงวุ่นวายทางการเมืองลามบานปลายไปสู่ทั้งด้าน ศก.,สังคม ชนิดเสมือนเป็นไฟที่จุดติดแล้วยากที่จะมอดคลายลงได้ แถมได้ยกระดับเป็นปัญหาของ รธน. ฉบับปี 50 ที่ต้องมาถกกันแบบวันต่อวัน/มีการแบ่งฝักฝ่าย/คนในชาติขาดกำลังใจและท้อแท้!?!จนบัดนี้นาทีนี้ ..

--ครับไฮไล้ท์ของหัวเรื่องก็มาถึง..นั่นก็คือเมื่อ รธน.เป็นต้นเหตุของปัญหาก็คงต้องมาแก้ไขกันซะตรงนี้ เพื่อให้ทุกสิ่งอย่างกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ววัน...สวัสดีครับ.
---------------
---คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ



โดย: Skywalker IP: 58.8.159.125 วันที่: 26 ธันวาคม 2552 เวลา:1:14:45 น.
  
--หัวเรื่องบล็อค" ไว้อาลัย" แด่อดีตท่านนายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช ผู้ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้วกว่าหนึ่งเดือน.

--ดังนั้นวันนี้ผมจึงอนุญาตใช้หน้าต่างนี้รำลึกเนื่องในวันครบรอบห้าปีของการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิในแถบพื้นที่ของประเทศไทยอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งยังผลต่อความสูญเสีย/เสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินไปมากมาย ขอแสดงความอาลัยเสียใจอย่างสุดซึ้งแด่ผู้ได้รับผลร้ายในครั้งนี้ด้วย.
-------------
--วกมาที่ "การเมืองเรื่องใกล้ตัว”หากมีคำถามว่าเป็นอย่างใดหนอ ณ วินาทีนี้ เกี่ยวกับมองการเมืองไทยที่ได้จากภาพรวมในสายตาคนไทยผ่านสื่อฯก็ดี/ปชช.ส่วนหนึ่งที่ต้องประสบพบกับตนเองก็ดี พบว่าเรายังตกอยู่ในวังวน “ยุ่งขิง”พอสรุปได้ดังนี้ครับ.
(1) ปชช.อิดหนาระอาใจและเบื่อๆ ?เพราะมีแต่เรื่องโต้เถียง/ขัดแย้งกัน/ขาดความสามัคคี—รู้แล้วทำไมยังมองด้วยสายตาที่”ว่างเปล่า”อยู่ล่ะ เออนะ.
(2) แวดวงคนการเมือง(น่าจะรวมในชาติ)มุ่งแต่แก่งแย่งอำนาจ/เอาชนะคะคาน/ไม่ยอมลดรากัน –กลับไปดูข้อ (1)
(3)มีปัญหาคอรัปชั่น/ทุจริต/โกงกิน? อะฮ้ามาอีกแล้วหรือ? เฮ้อ ประเทศไทย!!
(4)ไม่เจริญ/ไม่พัฒนา/ด้อยพัฒนา –ก็เป็น Developing Country กันต่อไปมั๊ยล่ะ!
------------------------
-ส่วนความต้องการจะเป็นลักษณะว่าดังนี้คือหยุดคอรัปชั่น/สร้างความโปร่งใส /อยากให้แก้ไข(ถ้ามี)รัฐธรรมนูญเสร็จเร็วๆ /อยากให้มีการเลือกตั้ง (ต้อง”ยุบสภา”ก่อนสิน่า!?!)

--แถมท้ายด้วยข่าวสารการให้ คะแนน รบ.จากหลายสำนักฯในรอบหนึ่งปี... ก็อย่าไปว่ากันให้มากนักผมว่านะหากไม่มองที่ฝีมือ/มือยังไม่ถึงแล้วละก็ แต่ควรมองที่มีตัวแปรอื่นมาเป็นอุปสรรคในการบริหารฯก็พอมองออกว่า…

--เรามีข้อเท็จจริงของภาพรวมการทำงานในด้านต่างๆคือ ศก., สังคม,การเมือง,การ ตปท.,ด้านความมั่นคง ฯลฯคะแนนก็เป็นไปตามคาด 3-4/10 คะแนน!?! ประมาณนี้ ก็เอาใจช่วยหลังขึ้นปีใหม่ถ้าไม่มี Political Accidents รบ.ก็คงเดินหน้าบริหารฯต่อไปจะราบรื่นหรือยังคือเก่าเรายังไม่ทราบ!!!

--ก็ฝากไว้ให้ทำงานเต็มที่ตลอดปี 2010 ล่ะครับ. ...ยุติก่อนและขอถือโอกาสนี้กล่าว...สวัสดีปีใหม่ 2553 กับทุกท่าน สุข สุขีด้วยครับ.
---------------------
---คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ

โดย: Skywalker IP: 58.8.235.19 วันที่: 26 ธันวาคม 2552 เวลา:13:34:16 น.
  
Day 17/78 วันแห่งพัฒนาการ รธน.ไทยก้าวมาถึงวันที่....!?!????
-----------------------------
--หลายคนอ่านแล้ว....บอกเขารู้กันมาตั้งนานแล้วลุ๊ง..เรื่องพัฒนาการอะไรเนี้ยน่ะ เออ ผมฐานะตั้งเป็นประเด็นเขียนเองตอบเอง (เพราะไม่มีใครเข้ามาแจมเลยอ่ะ)ขอเรียนว่า...

-- เรื่องเกี่ยวกับ รธน.ได้มีการพูดถึงทุกยุคทุกสมัย เป็นทั้งข้อเขียนในเชิงวิเคราะห์และเชิงวิชาการ...ด้วยเหตุนี้จึงเป็นไปได้ที่จะสงสัยกันว่าแล้วจะมาเขียนซ้ำซากอยู่อีกทำไมให้สิ้นเปลืองหน้าบล็อคอีก...

--ชัดเจนคำตอบก็คือที่มีอ่านกันอยู่แล้วส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะเขียนในเชิงประวัติความเป็นมาของ รธน.พร้อมรายละเอียดแต่ต้นถึงปัจจุบัน (มิใช่เชิงวิเคราะห์แบบวันต่อวัน)ประมาณนั้น...

--แต่ที่ผมออกมาเขียนอีกนี่บอกไปแล้วว่าเป็นการฉีกแนวบอกกล่าวเล่าขานถึงพัฒนาการ รธน.ไทยในช่วงที่ใช้บังคับกัน ทั้ง รธน. ปี 40/50 พร้อมการวิเคราะห์ภาวะการณ์บ้านเมืองที่มันไม่เหมือนแต่ก่อนในด้านความสับสนวุ่นวายนั่นเอง.

--ซึ่งแน่นอนที่จะต้องกล่าวถึงมากก็โดยเฉพาะ 2 ฉบับนี่แหละ เพราะมันเป็นรากเหง้า/ต้นตอของความสับสนวุ่นวายทางการเมืองไม่รู้จบสิ้น/อย่างขนาดหนักๆๆกว่าก่อนปี 40 ว่างั้นเถอะ พอเข้าใจความบ้างรึยังครับเนี่ย ?

--ผมไม่สับสนนักดอกเพราะจะจำกัด SCOPE ของการคอมเม้นต์ ในส่วนที่เกี่ยวกับ รธน. ที่มีผลบังคับใช้แล้วไม่ว่า ปี 40/50 แล้วดันมาเกิดปัญหาต่าง เพื่อจะหาทางออก(เผื่อจะมีทาง)ร่วมกัน ไม่ได้เขียนเอามันเอาดีเด่นอันใดดอกครับ.

--แต่มีวัตถุประสงค์เสมือนเป็นกระจกสะท้อนว่า เมื่อ รธน.ประกาศใช้แล้วเช่นนั้นเช่นนี้ มันเกิดอะไรขึ้นหรือมีผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นเช่นใด? อะไรเป็นเหตุเป็นผลอันเกิดจากความขัดแย้งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนแทนการโทษกันไปมาไม่รู้จบสิ้น...ครั้นจะมัวไปโทษคนอื่น/คนเดียวก็คงไม่ถูกนัก ต้องดูตัวเราเองตามวิถีพุทธบ้าง..ว่านะ.

--ข้อเขียนผมจึงหนีไม่พ้นที่จะต้องมีการคอมเม้นต์ตามประสาไปพร้อมกับสถานการณ์ทาง “การเมืองเรื่องใกล้ตัว”ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันไปด้วยน่ะเองแหละ..เฮ้อ เหนื่อยแต่ก็พยายามชี้แจงพร้อมคอมเม้นต์เชิงสร้างสรรค์อิงวิชาการบ้าง ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นผลดีโดยรวม เอาไว้เท่านี้ก่อน...สวัสดีครับ.
---------------------------------------------
--วาระดิถีจะขึ้นปีใหม่ 2010 แล้วทุกคนควรปลงวางในเรื่องเครียดๆบ้างนะครับ เพราะคนเรามักจะรู้สึกว่าพอสิ้นปีเก่า/เริ่มขึ้นปีใหม่แล้วนั้นเป็นห้วงเวลาที่ทุกคนควรมีความสุขกันเต็มที่กับการ ครองตน/ครองคน/ครองงาน/ครอบครัว/สังคม/ประเทศชาติ ฯลฯ

--เพราะฉะนั้นแล้วก็ควรต้องเปิดใจให้กว้างยอมรับความรู้สึกดีๆให้เกิดขึ้นในตนและระหว่างตั้งแต่คนรอบข้างไปจนถึงส่วนรวม ก็น่าจะดีนะ...ส่วนผมขอส่งความปรารถนาดีและอวยพรให้ทุกท่านจงประสบแต่ความสุขสมหวังตลอดปีใหม่ 2010 ครับ.
โดย: Skywalker IP: 58.8.159.85 วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:1:42:15 น.
  
4 U.......and everyone...


--Merry Cristmas & Happy New Year 2010--

-------------------
--ขอลาที ปีเก่า แสนเศร้าโศก
ความอับโชค ที่มา กับราศี
อีกโพยภัย ไข้ทำ ประจำมี
ในชีวี จงสลาย มลายพลัน

--สวัสดี ปีใหม่ ขอให้สุข
หมดสิ้นทุกข์ กายจิต มิผิดผัน
อายุมั่น ขวัญยืน สี่หมื่นวัน
มีผิวพรรณ ผ่องนวล เย้ายวนชม
(ขอบคุณที่มาของกลอนฯ)
------------------------
--เผลอแป๊บเดียวล่วงเข้า ปีใหม่ 53 แล้วจ้าพี่น้อง...เวลาล่วงเร็วไวอย่างงี้ทำให้นึกถึงคำสั่งสอนตามวิถีพุทธเราที่ท่านมักย้ำสอนให้รำลึกนึกถึงแต่กรรมดี/การกระทำแต่"ความดี"เสียแต่เนิ่น/นับตั้งแต่วันนี้เวลานี้.

--และที่สำคัญอีกอย่างก็คือ "อย่าประมาท"ในชีวิต..เป็นคำสอนที่ประทับใจมาก เป็นอะกาลิโก..ดีจริงๆทุกคำสอนทางศาสนาพุทธเรา.
------------------
Day 18-25/78:แห่งพัฒนาการ รธน.ไทย ในช่วงรอยต่อปีเก่า 52-ปีใหม่ 53 ดูจะไม่มีอะไรที่เป็นไฮไลท์มากนัก แต่ละคนคงหายใจโล่งอกที่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆมารบกวนวันส่งท้ายปีเก่า/ต้อนรับปีใหม่ ดังที่วิตกกังวลกัน?

--ตอนนี้ว่าไปก็มีแต่เป็นห่วงการเกิดอุบัติเหตุบนถนนหนทางในช่วงเทศกาล ก็ภาวนาว่าอย่าให้ทำลายสถิตินักเลย!!!
----------
--ส่วนประเด็นพัฒนาการ รธน./แก้ไข/ไม่แก้ไข รธน.ก็อดที่จะกล่าวถึงมิได้ตรงที่ว่านี่ขนาดเราสู้อุตส่าห์เปิดสภาฯอภิปรายกันแล้ว พอจะมีข้อยุติบ้างแล้ว แต่มาถึงวันนี้ อนิจจาการเมืองไทย ยังดูเหมือนจะอึมครึมอยู่/หรือ ...แป่ว?..อยู่น่ะ คือยังยื้อกันไปมา ..หาข้อยุติไม่ได้!?!

--ปชช.ก็ไม่เข้าใจนักครับท่าน..เอาไว้ติดตามกันต่อไป สวัสดีครับ.
โดย: SkyWalker IP: 58.8.155.29 วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:2:19:39 น.
  


"Rainam" Where are You ? R U ok ?

--เจ้าของบล็อคหายหน้าหายตา เพื่อนสมาชิกเลยแวะมาเยี่ยม ถามสารทุกข์สุขดิบ หายไปไหนเอ่ย? สงสัยยุ่งงานสอนสินะ.
โดย: SkyWalker IP: 61.90.31.79 วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:17:42:09 น.
  
--Day 26-29/78 :แห่งพัฒนาการ รธน.ไทย ยังมีเรื่องราวให้พี่น้องได้หาอ่านกันอยู่ ครับ แม้จะไม่ไปวิพากษ์ให้เกิดความร้อนแรงที่อาจเป็นการโหมกระพือความขัดแย้งอันเกิดจากการยกเลิก/การบังบังคับใช้ใน รธน. ฉบับ 40/50 ดังนั้นการคอมเม้นต์บางครั้งจึงน่าจะออกมาในรูปของการประชาสัมพันธ์เปรียบเทียบก็เป็นได้ ดังครั้งนี้..

--หลักสำคัญของ “รัฐธรรมนูญ”ที่เป็น กม. สูงสุดกล่าวไว้ลักษณะที่เกี่ยวกับ “การรับรองสิทธิและเสรีภาพ”ของประชาชนทุกคนของ ปี 50
ในสาระสำคัญด้าน "สิทธิ ความเสมอภาค ตลอดจนด้านเสรีภาพ"ฯภายใต้บทบัญญัติ รธน.ฉบับนี้ถูกจัดให้อยู่ในหมวด 3 (รวม 13 ส่วน)

--ผมว่าส่วนนี้ ไม่ว่าภาครัฐและ ตัว ปชช.เองควรได้รู้; ปชส.และระลึกศึกษาให้ความรู้แก่ ปชช.ให้ได้มากกว่าปัจจุบัน หลายๆ เหตุการณ์วุ่นวายเดือดร้อนจนเกินเว่อร์ก็เพราะผู้เกี่ยวข้อง/พี่น้องคนไทยหาได้รู้ลึกซึ้งในบทบัญญัติเหล่านี้ในลักษณธ "การเข้าถึง"/ทำความเข้าใจ มากน้อยไปรึเปล่า!?!

--ทำงัยได้ในมื่อเป็นฉันทามติว่าให้ รธน.เป็น กม.สูงสุดแล้ว ก็จำเป็นต้องทำความเข้าใจให้กับ ปชช.อย่างถ่องแท้ การปล่อยให้ ปชช.ตีความกันเองอาจทำนองไม่ "เข้าถึง/เข้าใจ"เจตนารมณ์ของการบัญญัติขึ้นมาใช้บังคับก็เป็นไปได้..ว่านะ.

--ตัวอย่างก็มีให้เห็นหลายกรณ๊เข้าให้แล้ว ม.63 เอย , ม.67 เอย เป็นเรื่องเป็นราวทุกทีมั๊ยล่ะพี่น้อง ดังนี้แล้วส่วนตัวยังมองไกลอีกว่า ส่วนที่ 1 - 13 ของหมวด 3 รธน.ปัจจุบันนี่แหละจะทำให้พี่น้องจะเป็นสุข/ทุกข์ทาง "สิทธิฯ"ได้ส่วนหนึ่งหากทำให้เกิดความเข้าใจอันดีและนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมได้จริงตลอดเวลานาที..

--ครับฑัฒนาการ รธน.ก้มีทั้งดีและไม่ดีดังว่ามาแล้ว แต่สำคัญขณะยังบังคับใข้อยู่ ณ ฉบับใดแล้วก็ควรให้มีผลในทางปฏิบัติให้เป็นไปตามเจตนารมย์จริงเข้าเหอะจะเป็นอานิสงค์ผลต่อ ปชช.ผู้เสียถาษี/ผู้ถูกปกครองอย่างจริงแท้แน่นอน.

--ส่วนประเด้นอื่น/มาตราอื่นก็ว่ากันไป โดยภาพรวมแล้วขอเพียงอย่ามัวคิดกันว่าจะแก้ไข/ไม่แก้ไข ก็ใช่ว่าเพื่อคนโน้นคนนี้ เราแก้ไขก็แก้ไขเพื่อให้เข้ารูปเข้ารอย!?! หากคิดเห็นเป็นเช่นนี้ก็น่าจะเกิดผลดีแทนความขัดแย้ง/ถกกันไปมาไม่รู้จบ...สวัสดีครับ.
----------------------------
---คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ
โดย: SkyWalker IP: 124.122.209.130 วันที่: 8 มกราคม 2553 เวลา:14:44:49 น.
  
-Day 30/78 ของพัฒนาการ รธน.ไทย:หากนับ ว/ด/ป.ตามปฏิทินเฉลี่ยเดือนละ 30 วันละก็ นี่เราย่างเข้าหนึ่งเดือนนับจาก 10 ธ.ค.52 "วันรัฐธรรมนูญ"และแน่นอนเป็นปีที่ 78 นับจากปี 75

--อาจมีคำถามว่าแล้วได้ไรจากการนับวันคืนที่ล่วงไปจากผลการบังคับใช้ รธน.โดยเฉพาะฉบับที่ใช้อยู่ก็คือฉบับปี 50 ก็ต้องบอกตอบเป็นกลางว่า รธน.ฯยังไม่ถูกนำไปใช้เป็นเรื่องเป็นราวจนเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ดังที่หวัง!?!

--ครั้นจะมาพูดถึงการแก้ไข/ไม่แก้ไข ก็อีกแหละยังเป็นลักษณะวนอยู่ในอ่าง ทำมัยพูดกันให้เข้าใจความกันได้ยากเย็นแท้นะคนเราเนี่ยนะ? มุมมองคือผมว่าถ้าจะแก้ก็ขอความกรุณาให้เป็นไปตามข้อยุติที่อภิปรายกันในสภาฯไม่นานมานี้น่าจะดีนะ.

--หรือถ้าไม่แก้ไขแล้ว! ก็มาว่ากันให้จะๆเป็นไปตาม รธน.และน่าจะทำให้องคาพยพของการบริหารมันไปได้ เรามามัวเสียเวลาถกกัน/ลุ่ม ๆดอนๆกันเลย ทำให้ราชการงานเมืองมันดูเสมือนชงักงันไปหมด บ้านเมืองก็เดินไม่ราบรื่น ประมาณนี้อ่ะนะ.

--ส่วนที่มีการเรียกร้องจากฝ่ายที่ให้นำ รธน.ปี 40 มาบังคับใช้ อันนี้ผมชักงงแฮะ เพราะมันเลยขั้นตอนไปแล้ว!?! ถ้าเป็นข้อสอบ อ.ถามเป็นโจทย์ผมคงยากที่จะตอบเหมือนกัน แล้วธงคำตอบจะเป็นงัยครับเนี่ย !?! ข้อเท็จจริงตามทฤษฏีน่าจะหมายถึงให้นำปี 40 มาเป็นร่างแก้ไขฯตาม ม.291 ยังงี้ก็ไม่เห็นแปลกอะไร เข้าลักษณะ"เหล้าเก่าในขวดใหม่"

--สรุปเรื่องจริงของสถานการณ์เกี่ยวกับ รธน.คือ..ยังไม่รู้จะออกมาในรูปใด..ซึ่งหากฟันธงไปเลยว่าไม่แก้ไขแล้วนะและอย่าทำนองไปหวาดวิตกจริตจนเกินไป? ผมว่าการบริหารฯน่าจะเดินไปได้ แต่ถ้ามันไม่ไหว!!!ต้องแก้ถึงจะดีขึ้น ก็แก้ไขเสียทีซินะ..ว่านะ.

--พักนี้ไม่รู้เป็นงัยเดินไปทางไหนก็รู้สึกวังเวงในสภาพ ศก.น่ะครับพี่น้อง..เลยทำเอาด้านอื่นๆเป๋ไปมาได้เหมือนกัน ส่วนตัวต้องการให้สภาพของบ้านเมืองทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะปกติสุขเสียทีเราเสียเวลากันมามากพอแล้ว...สวัสดีครับ.
----------------------
--คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ

โดย: SkyWalker IP: 58.8.235.222 วันที่: 9 มกราคม 2553 เวลา:22:16:12 น.
  
--Day 31/78 ของพัฒนาการ รธน.ไทย:ขอยกความเดิมที่ว่า "...ส่วนตัวยังมองไกลอีกว่า ส่วนที่ 1 - 13 ของหมวด 3 รธน.ปัจจุบันนี่แหละ...หากทำให้เกิดความเข้าใจอันดีและนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมได้จริง..."จะเกิดผลดี ต่อ ปชช.เป็นแน่แท้.

--ชัดเจนก็คือเป็นจุดแข็งของรัฐธรรมนูญที่บังคับใช้อยู่ คือ บทบัญญัติเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน นี่เองแหละครับ มาว่ากันตั้งแต่ ม.26- 69 เลยทีเดียว

--ม.26:พูดถึง การคำนึงถึงศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์คนไทยเรา โดยมุ่งไปที่สิทธิ เสรีภาพจากการใช้อำนาจทางการปกครองขององค์กรของรัฐทุกองค์กร ..

--พูดง่ายๆแปลไทยเป็นไทยองค์กรของรัฐ(ทุกองค์กร)ต้องให้ความสำคัญศักดิ์ศรีความเป็นคนพร้อมสิทธิเสรีภาพต่อ ปชช.ภายใต้บทบัญญัติ รธน.ตามมาตรานี้นั่นเอง..แล้วตามข้อเท็จจริงเป็นงัยครับ ส่วนตัวมองว่ายังเป็นคำสวยหรูบนหน้ากระดาษ? เราปฏิบัติได้จริงแบบเต็มร้อย/ทันเวลาตามนี้เชื่อว่าปัญหาต่างๆจะลดน้อยลงได้แล้ว.
------------------------
--การวิพากษ์ในแต่ละส่วนฯเข้าทำนอง กม.เนี่ยลำพังมาอ่านเฉยๆก็ไม่ค่อยพบว่ามีปัญหา แต่พอมาศึกษาแคะแกะแงะเอาเข้าจริงกลับพบปัญหาในทางปฏิบัติ/ตีความในสาระสำคัญของแต่ละบทมาตรามากมาย ด้วยเหตุนี้กระมัง มันถึงส่งผลให้ "ยุ่งขิง"ในบ้านเมืองเรา เฮ้อ!?! มันเป็นการเข้าใจในคนละเรื่องเดียวกันประมาณนี้อ่ะนะ.
-------------------------
--ม.27: ว่าไปแล้วมาตรานี้คงต้องตีความให้ชัดเจน คงร่ายยาวละครับ แต่ก็พอสรุปความได้ว่าเป็นการ"คุ้มครอง/ผูกพัน"ต่อผลการตัดสินฯในด้านสิทธิเสรีภาพที่พึงได้รับ.ส่วนตัวขอผ่านไปก่อนละกัน.

--ม.28:เป็นการให้คงไว้ซึ่งสิทธิเสรีภาพนั้น กรณีถูกทำละเมิดด้วยประการใดๆ ปชช./บุคคลย่อมสามารถใช้ “สิทธิ”ทางศาลได้(คือฟ้องร้องต่อศาลท่านได้ว่างั้นเถอะ ง่ายๆ)แถมภาครัฐก็พร้อมยื่นมือช่วยเหลือเต็มที่...ค่อยอุ่นใจขึ้นนะ พี่น้อง..

--ม 29: ก็เช่นกันในด้านสิทธิเสรีภาพ กม.รธน.ก็ระบุมิให้ถูกจำกัดสิทธิริดรอน แต่ก็มิได้หมายว่าจะปล่อยให้เลยเถิดจนกลับกลายใช้สิทธิจนเกินที่ กม.นั้นๆบังคับไว้...บุคคลฯใช้สิทธิเสรีภาพภายใต้กฏหมายไม่มีใครเขาว่า..ว่างั้น.

--ม.30: มาตรานี้มุ่งไปที่ “ความเสมอภาค”ของ ปชช.และต้องได้รับการ"คุ้มครอง”ด้วยโดยเฉพาะในด้านความเท่าเทียมกันใน กม.ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะอยู่ในสถานะภาพใด...เรียกว่า รธน.ระบุมิให้เลือกปฏิบัตินะ..ต้องเท่าเทียมกันแต่ก็มีข้อยกเว้นนะพี่น้อง..ภายใต้บทบัญญัติอีกน่ะซีนะ.

--ม.31:มาตรานี้คำนึงถึงบรรดาข้าราชการทุกหมู่เหล่าก็ย่อมได้รับสิทธิเสรีภาพจากส่วนนี้เสมอเหมือน ปชช.โดยทั่วไปเช่นกัน แต่ก็ต้องมีพิเศษไปกว่านั่นก็คือต้องอยู่ภายใต้ กฏระเบียบวินัยของสถานะภาพข้าราชการฯ..
--อยู่แล้ว !!!อันหลังนี่แหละสำคัญนัก ขรก.ส่วนหนึ่งมักคิดว่าตนอยู่เหนือ ปชช.!?! ผมว่าสำคัญนะเนี่ยนะ. วันนี้ยุติก่อน..สวัสดีครับ.
--------------
--คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ


โดย: SkyWalker IP: 58.8.156.56 วันที่: 10 มกราคม 2553 เวลา:10:09:56 น.
  
--Day 32/78 แห่งพัฒนาการ รธน.ไทย:ก่อนจะร่ายตามมาตราพอหอมปากหอมคอก็ขอยกเอาคำเปรียบ/คำกล่าวที่ว่ามนุษย์เรานั้นเมื่อต้องมาอยู่ร่วมกันเป็นสังคมแล้ว จำเป็นต้องมีกฏกติกาไว้เป็นมาตราฐานการปฏิบัติต่อกันและกัน... คำกล่าวนี้ว่าไว้ประมาณร่วมๆหนึ่งพันเจ็ดร้อยเก้าสิบปีก่อน ค.ศ.ซะซ้ำ(ยุคของชาวบาบิโลเนี่ยน –1790 B.C.) ..ว่าๆ ..People cannot live in “FREEDOM” safely without “LAW”…

--ผู้เขียนอยากผูกประเด็นตรงนี้โดยเฉพาะคำว่า “อิสระภาพ/Freedom”เพื่อให้เข้ากับส่วนของ รธน.ที่กำลัง ปชส.เรียงมาตรากันอยู่นี้นั่นเอง.

--แม้ในความเป็นจริงคำว่า Freedom/อิสระภาพนั้นเราไปเข้าใจตามกันไปทั้งดุ้นว่าหมายเอาความเป็นอิสระภาพ/เอกราชของประเทศชาติไม่ขึ้นกับใครๆ ซึ่งก็ไม่ผิดดอก เพียงต้องการบอกว่า คำว่า “อิสระภาพ”ในตัวบุคคลในชาตินั้นมันดูให้รู้สึกว่าขาดๆวิ่นๆชอบกล!?!

--อาทิ.. อิสระภาพทางสังคม ; อิสระภาพทางการกระจายรายได้; อิสระภาพทางความคิดเห็นและอื่นๆอีกเยอะแยะที่จงใจให้เดินตามธงจนเกินไป!?!ทำให้ความกล้าคิด/กล้าทำ/กล้าตัดสินใจในเรื่องสร้างสรรค์หรือการประดิษฐ์คิดค้นด้านต่างๆต้องด้อยไป... มันไม่กล้าแสดงออกนะคนเราหากขาด “อิสระภาพ” แม้จะเปิดโอกาสทาง “เสรีภาพ/LIBERTY”ที่ระบุไว้ใน รธน.ก็ตามที อาทิคำพังเพยที่ว่า“จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัยฯ”แม้จะเป็นสัจจธรรม แต่ก็อาจเข้าทำนองที่คิดไปได้ว่าเป็นความหมายลักษณะตรงกันข้าม “อิสระภาพ แม้นจะมีเสรีภาพอยู่ก็ตาม”!?!

--สรุปตรงนี้ก็คืออยากให้มีการพูดถึง/ทำความเข้าใจกับคำว่า “อิสระภาพ/Freedom”กันให้มากขึ้นในประเทศนี้ แทนความรู้สึกเสมือนว่าถูกกดขี่/กดดัน/อัดอั้นกันจนเรื่องของความขัดแย้งกันอยู่แล้วนั้นยิ่งโหมกระพือเป็นเพลิงสุมแค้นแน่นในอกกันมากขึ้นทุกขณะจิต...

--หากเป็นแบบนี้ ประเทศคงไปแบบกระท่อนกระแท่น ส่งผลในทุกด้านโดยเฉพาะ การเมืองและสังคมต้องระกำระส่ำหนัก!?!

-- เขียนมาเยอะแล้ว ท่านผู้อ่านคงคิดว่าเพ้อเจ้อไปแล้ว ไปเอาเสรีภาพกับอิสระภาพมาปะปนกันได้งัย? ผมเปล่าปนน่ะ เพียงแต่ต้องการชี้ให้เห็นว่า “ความมีสิทธิและเสรีภาพที่เราเขียนกันไว้มากมายหลายแห่งนั้นน่ะดูจะไม่ค่อยมีน้ำหนักเมื่อออกดอกผลมาเป็นเชิงปฏิบัติ..?

--ประเด็นหลักๆก็คือ ปชช.ดูจะไม่ค่อยเป็นอิสระในทุกด้านเท่าใดนักหากไปเทียบเอากับการได้เปรียบ/เสียเปรียบในเชิงสังคมวิทยานะซี เออ นี่แหละน่าจะตรงประเด็น เขารู้สึกว่า การเลือกปฏิบัติก็ดี /การขาดการดูแลตามสิทธิฯต่างๆที่พึงมีพึงได้ก็ดี...

--มันยังต้องการเติมให้เต็ม เพื่อให้สอดรับกับ”สิทธิและเสรีภาพ/Right&Liberty”ที่ระบุไว้ใน กม.รธน. ผมว่าตรงนี้ถ้าเป็นไปได้ในการเติมเต็มก็จะช่วยลดช่องว่างของสังคมในมุมมองต่างๆได้ลงมากมาย..ว่านะ

--ว่ามายืดยาว ขอต่อการประชาสัมพันธ์เชิงวิพากษ์ใน รธน.ฯกัน ม.32 ถือเป็นหัวใจหลักของ รธน.อีกหนึ่งเพราะกล่าวถึงสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย(คนเราจะมีอะไรสำคัญและหวงแหนเท่าชีวิตและร่างกายนั้นก็หามิได้แล้ว)รวมเอาการจะเป็น/เป็นคดีความต่างๆต้องได้รับความคุ้มครองและร้องขอความเป็นธรรมได้ตามที่ กม.นั้นๆบัญญัติไว้..วันนี้เขียนเยอะครับ ขออภัย..สวัสดีครับ
----------------------
--คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ

โดย: SkyWalker IP: 58.8.234.186 วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:20:40:07 น.
  
--Day 33/78 ของพัฒนาการ รธน.ไทย:ยังคงเดินหน้าต่อไปตราบใดที่เจ้าของบล็อคยังให้พื้นที่ในการอัพเดท...หากย้อนไปตามดูวัตถุประสงค์การคอมเม้นต์ก็สรุปว่าต้องการให้ทราบถ้วนทั่วว่า..

--บ้านเมืองเราแม้จะมี กม.รธน.เป็นแม่บทในการบริหารปกครองประเทศแต่ก็ยังคงความวุ่นวายทางการเมืองไม่แพ้บ้านเมืองอื่นๆ เพียงแต่อยากเพิ่มเติมอีกอย่างว่าเราใช้ รธน.กันเปลืองเกิน(เฉลี่ยปี/ฉบับก็ 4:1)คำนวนง่ายๆกันเลย.

--หากขืนปล่อยให้เป็นเช่นนี้เท่ากะว่าระหว่างอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้าเราคนไทยแต่ละยุคจะได้ยลโฉม รธน.กันอีก 25 ฉบับรวมปัจจุบัน 18 ก็เป็น 18+25=43 ฉบับ/ฉบับที่ 43 สถิติเข้าอันดับโลกใบนี้ได้แน่นอน ขณะที่ประเทศอื่นเขาใช้วิธีเขียนขึ้นมาเพียง1-2 ฉบับนอกนั้นก็ใช้วิธีแก้ไขเพิ่มเติมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกันไปให้ทันกะเหตุการณ์ตามยุคสมัยไม่จำเป็นต้องวนเวียนเป็นวงจร...

--ดูเถอะของพี่ไทยเราเล่นบทวันดีคืนดีมีคนกลุ่มหนึ่งคิด ..คิดแล้วก็ไม่เอาฉบับเดิมแล้วก็ร่างเขียนกันใหม่ดีกว่า แต่แล้วก็มีปัญหาไม่รู้จบด้วยสินะ.

--เที่ยวนี้ผมจะขออนุญาตสรุปผลการอภิปรายครั้งล่าสุดของผู้เกี่ยวข้องที่ได้ข้อยุติ 6 ประเด็นอีกซักครั้งหนึ่ง คนไทยลืมง่ายครับ อย่างตอนนี้ก็ไม่มีคนพูดถึงแล้วอ่ะ ไปพูดแก้ไขบ้าง/ไม่แก้บ้าง ปนกันไปมาจนสับสนหมดแล้ว คืองี้ครับ.
--ผลสรุปร่างการแก้ไข รธน.ฉบับ 50 ที่มีลักษณะ“ควรจะเป็น/บวกความคิดเห็นเชิงวิพากษ์”รวม 6 ประเด็น!?!.ว่างั้นนะ.

1)ที่มาของ สส.:ให้มี สส.แบบเขตเดียวเบอร์เดียว 400 คนและแบบบัญชีรายชื่อเขตประเทศ 100 คน แบบปี 40 แต่ไม่ต้องกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำห้าเปอร์เซ็นต์ส่วนคุณสมบัติของ สส.ให้ยึดแนวของ ปี 50.(คุณวุฒิ กศ.ต่ำกว่า ป.ตรีได้ ยกเว้น ครม.)

2) ที่มาของ สว.ให้ใช้แบบเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน ตามปี 40 แต่คุณสมบัติให้เป็นแบบ ปี 50 (จบ ป.ตรีขึ้นไป) ส่วนบทเฉพาะกาลให้ สว.สรรหาปัจจุบัน 74 ท่านอยู่จนครบ 3 ปี จากนั้นจึงมีการเลือกตั้งเพิ่มเติมรวมที่มีอยู่เดิมให้ครบ 200 ท่านหมดวาระพร้อมกันทั้งหมด ทั้งนี้ ปชช.ผู้มีสิทธิสามารถลงคะแนนได้เพียงหนึ่งคะแนน.

3) ม.190: ตัวปัญหา!?!วรรค 2 ก็ให้บัญญัติระบุโดยแจ้งชัดกว่านี้ เพื่อตัดปัญหาเรื่องการตีความ...วุ่นกันจัง! ว่างั้น.

4) ม.237: ดาบฟ้าฟื้น!!! วรรค 2 ให้ยกเลิกโทษยุบพรรคและ กก.บห.พรรคที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำผิดการเลือกตั้ง แต่ให้เพิ่มโทษเฉพาะบุคคลที่กระทำผิด..เท่านั้น.

5) ม.265: เปิดโอกาสให้ สส.ไปเป็น ขรก.การเมืองได้ในตำแหน่งตั้งแต่ ผชฯ เลขาฯ และที่ปรึกษา รมต.ได้(มาตรานี้ต้องว่ากันในรายละเอียดเช่นกันครับ) และ

6) ม.266: อนุญาตให้ สส.และ สว.สั่งการราชการให้ “ช่วยเหลือประชาชน”ได้ มีบทเฉพาะกาลเพิ่มเติมอีกข้อหนึ่งคือให้จัดทำ กม.ประกอบ รธน.ที่เกี่ยวข้องภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนะ.

--หมายเหตุ:ในร่างฯนี้ยังไม่มีข้อคิดขอเขียนเชิงว่า..เมื่อร่างแก้ไข รธน.ประจำปี พ.ศ....ผ่านความเห็นและถึงขั้นตอนการบังคับใช้แล้ว..จักต้อง "ยุบสภา" เอ้า! ก็ถ้าไม่มีก็ใช้ ปี 50 บังคับใช้ไปก่อนไม่มีปัญหาครับ. เอวัง..เขียนยาวอีกแล้ว ขออภัย..สวัสดีครับ.
-----------------
--คอมเม้นต์ธรรมดาไม่มีเจตนาชี้นำ/พาดพิงบุคคล/หน่วยงานใดๆ โปรดเข้าใจด้วยครับ

โดย: SkyWalker IP: 58.8.164.124 วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:20:25:08 น.
  
--Day 34/78 พัฒนาการ รธน.ไทย:วันนี้ขอยกยอดสาระสำคัญของเรื่องที่จะคอมเม้นต์หรือ ปชส.ด้าน รธน.ต่อจากเดิมเพื่อให้รู้เท่าทันเทียมกันไว้ก่อน แต่หันมาเน้นภาวะการณ์ "การเมืองเรื่องใกล้ตัว"ที่ออกอาการข้างเคียงร้อนฉ่า?ขึ้นมาอีกแล้วครับพี่น้อง...

--เมื่อมีข่าวข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ดังท่านหนึ่งที่เข้าลักษณะถูกแบนในตำแหน่งหน้าที่ราชการ? ซึ่งเหตุน่าจะเพราะมาจากพิษ"การเมือง"เล่นงานเอา!?! ผมคงไม่อาจหาญไปวิพากษ์อะไรมากนักเพราะเป็นเรื่องของภายในองค์กรที่เกี่ยวข้องไปว่ากันเองละครับ.
-------------------------
--มนุษยชาติเราต้องเผชิญด้วยเรื่องน่าเศร้าสลดอีกแล้ว ซึ่งคงหนีไม่พ้นในเรื่อง "ภัยธรรมชาติ"เกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศสาธารณรัฐเฮติ (Republic of Haiti) ซึ่งเป็นประเทศหนึ่งในทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งอยู่บนเกาะฮิสปันโยลาในทะเลแคริบเบียน..

--ข่าวล่าสุดระบุมีการบาดเจ็บสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมากมาย แต่ยังไม่สามารถประเมินความสูญเสีย/เสียหายได้ จึงต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ.

--และก็อย่างผมเคยบอกไว้ว่า มนุษย์บนโลกใบนี้ต้องเผชิญกับภัยใหญ่หลวงสามอย่างหลักๆอันได้แก่ 1)ภัยจากธรรมชาติ ฯ 2)ภัยจากความอดหยากยากไร้หิวโหยในชีวิตฯ และ3)ภัยจากความขัดแย้งของมนุษย์ด้วยกันเอง จนบางครั้งนำไปสู่สงครามฯลฯ เป็นต้น

--บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่มนุษย์เราป้องกัน/แก้ไขกันได้.. แต่บางอย่างก็สุดวิสัยน่ะ.ก็สรุปว่าวันนี้ยังอึ้งกันหลายๆเรื่อง จึงขอยุติไว้เพียงนี้..สวัสดีครับ.
โดย: SkyWalker IP: 58.8.234.24 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:22:39:14 น.
  
--หลังสิ้นความหวังให้วันที่ 28 เม.ย.53 ให้เป็นวันสุดท้ายแห่งการปะทะกันของพี่ไทยเราด้วยกันแล้ว ...ที่สุดมาวันนี้ก็ถือว่ามาบรรจบครบรอบหนึ่งเดือนของเหตุการณ์ 19 พ.ค.53...เรียกขานว่า "พฤษภาทมิฬ(2)"แล้วกัน!!! ทำเอาพูดไม่ออกบอกความรู้สึกไม่ถูกเลยเชียวล่ะครับพี่น้อง...

--ดั่งนี้แล้วจึงขออนุญาตหน้าบล๊อก "ไว้อาลัย"กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการ สูญเสีย,เสียหาย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของทุกคนและทุกฝ่าย ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายอย่างแท้จริง..

--เราสูญเสียกันมากมายจนเกินจะเยียวยาแล้วครับเนี่ยและน่าจะต้องใช้เวลาอีกพอควรที่หลายฝ่ายพยามกันอยู่ ณจุดนี้.ขอเป็นกำลังใจให้กันและกันต่อไป.สวัสดี.



โดย: SkyWalker IP: 192.168.1.123, 58.8.94.237 วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:0:14:08 น.
  
Excerpt story:JULY 3 ELECTION Yingluck takes the stage.

Weeks of speculation ended yesterday(may 16,2011) when Yingluck Shinawatra won official endorsement from Pheu Thai executives to be the party's prime ministerial candidate.
--
However, she affirmed that should Pheu Thai form the next government, everyone would receive equal treatment under the law. Yeah I do agree !
------------
UK vs UK !!! What would happend just wait and see on Jul 3,2011 general election. na krab
--------------------------------------------
remark:1st UK stands for The United Kingdom (Oxford University)
:2nd UK stands for University of Kentucky, USA.
congratulation to PM candidates who both from 2-UKs
INCREDIBLE;UNBELIEVABLE and Wonderful krab 555+

มาขออนุญาตเติมบรรยากาศทางการเมืองหน้าบล๊อคของ"ไร้นาม"
ก็ไม่มีอะไรมากครับฐานะ ปชช.เจ้าของประเทศตัวเล็กๆคนหนึ่ง ก็ออกมาคอมเม้นต์บ้าง โดยมิได้มีเจตนาชี้นำและ/หรือไปกระทบบุคคลหรือองค์กรใดๆทั้งสิ้น....

ส่วนหนึ่งเห็นจริงว่าเดี๋ยวนี้สุภาพสตรีโดยทั่วไปนั้นเริ่มมีบทบาทในด้านต่างๆมากขึ้น แสดงถึงความเสมอภาคทางเพศเป็นรูปธรรมแล้ว

ขอขอบคุณ อาจารย์ "ไร้นาม" และหวังว่าคงสบายดีเช่นเดิม แต่เวลาที่จะอัพเดทบล๊อคคงน้อยลง ก็มิเป็นไรครับว่างๆก็ลงรูปภาพใหม่ๆมาฝากแฟนคลับละกันครับผม.


โดย: SkyWalker IP: 58.8.71.36 วันที่: 17 พฤษภาคม 2554 เวลา:14:51:25 น.
  
ลงชื่อว่าเพิ่งเห็นค่ะ เพิ่งมาอ่าน แหะ แหะ
โดย: ไร้นาม วันที่: 30 กันยายน 2566 เวลา:0:40:06 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Rainam.BlogGang.com

ไร้นาม
Location :
ปทุมธานี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]