The Counselor’s Story ตอนที่ 8 ว่าด้วยการเลือกที่เรียน

จากตอนที่แล้ว จริง ๆ แล้วผมสัญญาว่าจะพูดถึงสารพัดปัญหาที่นักเรียนไทยได้เจอเมื่อบินไปแล้ว แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้สำคัญกว่า และก็ยังไม่ได้พูดถึงด้วย นั่นก็คือการเลือกที่เรียนครับ เด็กไทยส่วนใหญ่จะมองหาที่เรียนป.โท ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่ประมาณ 99% ต้องไปเรียนในมหาวิทยาลัยแน่ ๆ พูดแบบนี้แสดงว่ามีที่อื่นที่ไมใช่มหาวิทยาลัย แต่เปิดสอนในระดับป.โทใช่หรือไม่ คำตอบคือใช่ครับ ในตอนนี้ผมจะพูดถึงที่เรียนแบบต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับสายวิชาชีพเป็นต้นไปและรวมถึงโรงเรียนสอนภาษาด้วยครับ

ขอเริ่มที่โรงเรียนสอนภาษาก่อนเลยนะครับ ที่ที่เราจะไปเรียนภาษากันมีสองแบบใหญ่ ๆ คือศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัย และ โรงเรียนเอกชนทั่วไป

แบบแรกคือสูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยจะค่อนข้างราคาแพง ราคาวิ่งตั้งแต่ 330AUD/สัปดาห์ ไปจนถึง 400AUD/สัปดาห์เลยทีเดียว แพงกว่าในอเมริกาซะอีก แต่ก็แน่ใจได้ครับในเรื่องของคุณภาพ ผู้สอนทุกคนจะเป็น qualified teacher หมด จบมาทางด้าน TESOL แน่นอนทุก ๆ คนครับ

ส่วนแบบที่สองก็คือโรงเรียนเอกชน ซึ่งคุณภาพก็ลดหลั่นลงมา ราคาค่าเรียนมีตั้งแต่ประมาณ 240-290AUD/สัปดาห์ ก็เลือกเอาเลยครับ ราคาจะเป็นตัวบอกคุณภาพ ขอยืนยันว่าคุณได้เท่าที่คุณจ่ายครับ

ยังจำได้มั๊ยครับว่าสถาบันสอนวิชาชีพในออสเตรเลียเราเรียกว่าอะไร ให้เวลาคิดสองบรรทัด
...............................................................................................................................................................................................เรียกว่า TAFE ครับ ถ้ายังจำได้ พวก TAFE นี่ก็คือวิทยาลัยอาชีวะดี ๆ นี่เอง เพียงแต่ว่ามันไม่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินเหมือนพวกอาชีวะของไทยประเภทเอาปืนไล่ยิงเอามีดไล่ฟันกันนะครับ (นักเรียนอาชีวะหรืออดีตนักเรียนอาชีวะของไทยที่มิได้มีพฤติกรรมเช่นนั้นก็ไม่ต้องร้อนตัวนะครับ) นักเรียนพวกนี้เค้าเรียนกันจริงจัง ตั้งอกตั้งใจเรียนและฝึกงานจนเป็นฟันเฟืองของประเทศออสเตรเลียของแท้ เมื่อเรียนจบได้เป็น Cert หรือ Dip ออกมาแล้ว ก็มีความรู้พร้อมในการปฏิบัติงานทันที

TAFE ส่วนใหญ่จะเป็นของรัฐบาลครับ ของเอกชนมีน้อยมาก แต่คุณภาพก็ไม่แพ้ของรัฐ เพราะว่ายังไงรัฐก็คุม และก็คุมเข้มด้วย เมื่อ TAFE ส่วนใหญ่เป็นของรัฐ ดังนั้นแล้วไม่ต้องบอกก็รู้นะครับว่ารัฐเป็นผู้สนับสนุน สนับสนุนทุกอย่างจริง ๆ ทั้งเรื่องวิชาการ เงินทุน อุปกรณ์ และอื่น ๆ เท่าที่จะคิดได้

คนออสเตรเลียเค้าบอกผมว่าการเรียน cert กับ dip ใน TAFE ก็คือให้ลืมเรื่องของทฤษฎีไปได้เลย ที่นี่ไม่สนเรื่องทฤษฎี สนแต่ปฏิบัติ เรียน Cookery ก็ต้องไปเข้าครัว อยู่หน้าเตาทั้งวัน บังคับฝึกงานด้วย นายจ้างไม่พอใจคุณก็ไม่ผ่าน ถ้าเรียนบัญชี คุณก็ต้องไปทำบัญชี อยู่กับตัวเลขทั้งวัน และก็เหมือนกันครับ ไปฝึกงานถ้าไม่ทำให้นายจ้างพอใจได้ คุณก็เรียนไม่ผ่าน

พอจะเห็นภาพมั๊ยครับสำหรับ TAFE

ทุกวันนี้คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองทั้งหลายจะมอง TAFE ไม่ค่อยดี ไม่รู้ว่าเพราะอะไร บางท่านก็ถามว่า TAFE ถ้าเรียกเป็นภาษาไทยจะเรียกว่าอะไร มันก็เรียกได้ว่าเป็นวิทยาลัยอาชีวะ อ่ะแหละ คำว่าวิทยาลัยอาชีวะมันทำให้รู้สึก down ไปเลย ทั้ง ๆ ที่คุณภาพของเค้าเหนือกว่าของไทยเยอะ ดังนั้นแล้ว ชื่อนั้นสำคัญไฉน ตราบใดที่เรียนจบมาแล้วทำงานได้ ก็ถือว่าโอเค จบจากที่ดัง ๆ แล้วทำงานไม่เป็นจะมีประโยชน์อะไร จริงมั๊ยครับ

คราวนี้ก็มีถึงเรื่องฮอตฮิต มหาวิทยาลัย “พี่คะ ที่ไหนดัง” “พี่คับ ที่ไหนดี” “พี่คะ ที่ไหนเด่น” คำถามพวกนี้รับรองครับว่าได้เจอทุกวันแน่นอน หลายคนจะถามหาอันดับ มหาลัยนี้อยู่อันดับเท่าไหร่ ถ้าเป็นในออสเตรเลียก็จะไม่มีการจัดอันดับครับ ลองโทรเข้าไปถามสถานทูตก็ได้ เค้าจะตอบกลับมาเลยว่ามหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย ไม่มีการจัดอันดับ ถ้ามีก็คือข้างนอกทำ เช่น TIMES Magazine เป็นต้น

แต่ว่าในความไม่ได้จัดอันดับของออสเตรเลียนี่แหละ ลึก ๆ มันก็มีเหมือนกัน ท่านผู้อ่านบางท่านอาจเคยได้ยินคำว่า “Group of Eight” มากันบ้างแล้ว มันคืออะไรเนี่ย

Group of Eight หรือ GO8 คือกลุ่มของมหาวิทยาลัยชั้นนำที่เป็นเลิศทางด้านวิชาการ การสอน การวิจัย ของออสเตรเลีย มีทั้งหมด 8 มหาวิทยาลัยด้วยกันได้แก่
1. University of Sydney
2. University of New South Wales
3. University of Melbourne
4. Monash University
5. Australian National University
6. University of Adelaide
7. University of Western Australia
8. University of Queensland

ในบรรดา 8 ที่นี้ Uni of Adelaide จะหยิ่งที่สุด แต่งตั้งให้ IDP เป็น agent อย่างเป็นทางการเท่านั้น เจ้าเดียวในโลกนี้ (เราไม่ได้ทำอยู่ IDP นี่หว่า โฆษณาให้เฉยเรย)

แน่นอนครับ จบมาจากมหาวิทยาลัยเหล่านี้ แค่ชื่อก็ขายได้แล้ว เข้าเรียนก็ยาก เพราะว่าชื่อเค้าดัง และค่อนข้างหยิ่ง ส่งใบสมัครไปกว่าจะตอบกลับมาใช้เวลาเป็นเดือน ๆ จนบางครั้งก็ไม่ค่อยอยากจะติดต่อด้วยเท่าไหร่ เพราะว่าคนสมัครเยอะมาก ดังนั้นแล้วนักเรียนจากไทยแลนด์ ประเทศเล็ก ๆ อย่างเราก็ไม่ค่อยจะได้รับความสะดวกบ้างในบางครั้ง นี่ขนาด agent อย่างเป็นทางการเป็นคนติดต่อนะเนี่ย ถ้านักเรียนสมัครเองจะขนาดไหน

สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือว่า อย่าไปหลงกับยี่ห้อ GO8 มากนัก เพราะอะไร

“ท่านประธานครับ กระผมขออนุญาติใช้สิทธิ์พาดพิงซักเล็กน้อย ขอถามทุกท่านครับว่าในประเทศไทยแลนด์ แดนออฟสไมล์แห่งนี้ ถ้าอยากเรียนวิศวะที่ดัง ๆ ต้องเรียนที่ไหน คนในวงการก็จะรู้ดีว่าต้องเป็นกลุ่มสามพระจอมฯ ทำไมล่ะ ไม่ใช่จุฬาเหรอ จุฬาเป็นอันดับหนึ่งของประเทศนี้นะ” “อยากเรียนนิติฯ ก็ต้องธรรมศาสตร์ อีกแล้วอ่ะ ไม่ใช่จุฬาเหรอ จุฬาเป็นอันดับหนึ่งของไทยนะ”

กรณี GO8 ก็เช่นเดียวกันครับ ทั้ง 8 ที่นี้เค้าดังก็จริง แต่ไม่ได้ดังทั้งหมดทุกสาขาวิชา ตัวอย่างเช่นในรัฐ Queensland ที่ผมเคยไปสิงสถิตย์อยู่เกือบ 2 ปี ผมกล้าพูดเลยว่า Business School ของ Queensland University of Technology ดังกว่า Business School ของ University of Queensland เรื่องนี้ถ้าถามคนไทย คนไทยก็จะดูจากชื่อ แล้วก็ต้องตอบว่า UQ ดังกว่าแน่นอน แต่ถ้าถามคน Queensland เค้าจะรู้กันครับว่าของ QUT ดีกว่า

ดังนั้นแล้ว หลักการในการเลือกมหาวิทยาลัยนะครับ อย่าไปมองเรื่องของชื่อ และอันดับมากนัก มันไม่ได้บอกอะไรมากนักหรอกครับ ถ้าไปเจอคนที่เค้าอยู่ในวงการจริง ๆ ก็จะหน้าแตกกันซะเปล่า ๆ เท่านั้นเอง ต้องหาข้อมูลเอาครับว่าที่ไหนเค้าเด่นเรื่องอะไร แล้วก็มุ่งไปที่นั่นเลย ไม่ต้องไปสนใจเสียงนกเสียงกาเสียงเห่าเสียงหอน

สำหรับเรื่องการเลือกที่เรียน ผมขอพักไว้เท่านี้ จริง ๆ มันมีรายละเอียดมากกว่านี้แต่ผมคิดว่าน่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการเป็น guide line คร่าว ๆ ผมไม่อยากทำให้ท่านผู้อ่านรู้สึกเบื่อที่จะอ่าน ดังนั้นแล้วผมก็ขอจบตอนเท่านี้ครับ ส่วนตอนหน้าผมขอคิดอีกทีว่าจะเขียนเกี่ยวกับอะไรดี คอยติดตามนะครับ

Create Date : 14 สิงหาคม 2551 Last Update : 14 สิงหาคม 2551 15:51:48 น. Counter : 4910 Pageviews.		16 comments
Share Tweet

	โรงงานผลิตอาหารเสริมผู้ชาย ตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ได้คุณภาพ สมาชิกหมายเลข 7213059 (3 เม.ย. 2567 00:10:02 น.)		วิธีถามราคาสินค้าเป็นภาษาอังกฤษ khatha0808 (2 เม.ย. 2567 00:05:26 น.)
	9 แนวคิดที่ทำให้เรามีชีวิตประจำวันที่ดีกว่าเดิม peaceplay (31 มี.ค. 2567 09:18:27 น.)		ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 348 "ฉุกละหุก" toor36 (24 มี.ค. 2567 10:27:24 น.)