เรื่องน่ารู้..กฎเหล็กข้อบังคับขำขำ..ในความคิดคนไทยอย่างเราๆ ![]() ![]() เมืองแสนสุข ![]() อย่างที่เรารู้ๆกันอยู่ประเทศออสเตรเลียมีขนาดใหญ่กว่าประเทศไทยเราหลายเท่า แต่ประชากรเรามากกว่าเค้าหลายเท่าเหมือนกัน นางฯเดินจากสถานีรถไฟกลับบ้านพักนอกจากจะไม่ค่อยเห็นผู้คนแล้ว ไฟทางพี่ท่านก็ไม่มี ถ้าเป็นเมืองไทยคงโดนวิ่งราว ไม่ก็กลายเป็นศพอยู่ข้างทาง ![]() อย่างรูปข้างบน บ้านไหนอยู่ใกล้ทะเลเค้าก็จะซื้อเรือเอาไว้ขับกินลมชมวิว ตกปลากันในวันว่าง บางทีก็อดอิจฉากับสวัสดิการบ้านเค้าไม่ได้ ครอบครัวอุปถัมภ์นางฯตอนนี้เกษียณแล้วทั้งคู่ รัฐฯเค้าก็เลี้ยงดูให้เงินใช้เป็นอาทิตย์ งานไม่ต้องทำ เจ็บป่วยรักษาฟรี บ้านเราคงเป็นแบบเค้ายากตราบใดที่ค่าทำฟันยังเบิกได้แค่ 400 บาทต่อปี ![]() อ้อ..ที่สำคัญเวลาป่วยเข้าโรงพยาบาล หมอที่นี่จะถามก่อนว่าเป็นอะไรมาเจ็บตรงไหน ต่างกับบ้านเราคำถามแรกที่เค้าถามคือ "มีประกันหรือเปล่า"... ![]() ขอโทษค่ะอีชั้นไม่ชิน เรื่องตลกอีกเรื่องของนางฯคือเวลาข้ามถนน อยู่เมืองไทยทำยืดข้ามถนนไม่มองรถ ได้โดนรถเหยียบหน้าเละ มาที่นี่เลยติดนิสัย ในระแวกบ้านที่อยู่จะมี Super market ใกล้ๆส่วนใหญ่จะเดินไป พอจะข้ามถนนเห็นรถมาเราก็รอให้รถไปก่อน ส่วนคนขับก็รอให้เราเดินข้ามไปก่อน ต่างคนต่างมอง จริงๆกฎจราจรเค้าเป็นกฎจราจร มีไว้ปฏิบัติตาม แต่บ้านเรามีกฎไว้ให้แหก หรืออากาศที่นี่มันไม่ร้อนเหมือนบ้านเราก็ไม่รู้นะ คนเค้าเลยใจเย็น บ้านเราทำไมอะไรๆมันดูเร่งรีบร้อนรนไปหมด นางฯเคยโดนประตูรถเมล์ทับขา กรีดเป็นร่องลึกเลือดอาบ แค่ลงเป็นคนสุดท้ายตรงป้ายนะไม่ใช่นอกป้าย คนขับปิดประตูออกรถไปเลยไม่รอให้ลงพ้นไปก่อน ดีที่ชักขาทันไม่งั้นโดนลากไปกับรถด้วย ![]() การคมนาคมที่นี่ก็สะดวกดีไม่แพงจนเว่อร์ นางฯจะใช้รถไฟซ่ะเป็นส่วนใหญ่ เพราะอย่างน้อยๆมันยังวิ่งบนรางหลงยังไงยังหาทางกลับง่ายกว่ารถเมล์น่ะ เส้นที่ใช้ประจำก็จะผ่านสนามบินด้วย พนักงานประจำรถไฟเค้าจะคอยดูแลผู้โดยสาร เช่น ช่วยยกกระเป๋า, รถเข็นเด็ก พยุงคนชรา หรือแม้แต่ถามทาง เวลาทำงานเค้าก็ทำงานกันจริงจัง ไปอยู่มาเดือนนึงยังไม่เคยเห็นเค้านั่งเม้าท์กันเวลางานเลย แล้วให้ตรูแบกไปทำไม ปีนี้ไปตรงกับหน้าหิมะพอดี นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ไปสกีรีสอร์ทไปดูหิมะ ด้วยความอยากเห็นหิมะสุดๆแต่ไม่อยากเสียเงินเช่าชุด เลยกะไปแค่ได้ปั้น Snowman เล่นปาหิมะน่าจะพอเพราะอากาศติดลบ 4 คงจะอยู่ค้างคืนไม่ได้ (ไม่ได้กลัวหนาวหรอก..แต่ค่าที่พักแพงมากคืนนึงไม่ต่ำกว่า $AUD500.- ![]() สรุปว่าจะขับรถไปกับลูกเจ้าของบ้าน เพราะนางฯไม่มีใบขับขี่ เป็นได้แค่ตุ๊กตาหน้ารถอย่างเดียวเหอๆ...ๆๆ.. ![]() ![]() สรุปต้องไปเช่าเจ้าโซ่นี่ในราคา $AUD15.- ไอ้เราด้วยความไม่เคยเห็นหิมะก็คิดว่าถนนมันลงลื่นถึงต้องเอาโซ่คล้องเพื่อการทรงตัวที่ดี เอาเข้าจริงๆไม่เห็นได้ใช้เลย ถนนข้างในก็ไม่เห็นมีหิมะตกมากจนล้นออกมา เลยอดถามไม่ได้ว่า "แล้วยูเช่ามาทำแมวอะไร..ไม่เห็นได้ใช้เลย" พี่แกบอกว่ามันเป็นกฎ ถ้าโดนตรวจแล้วไม่มีจะโดนปรับ 300เหรียญ แถมบ่นให้ฟังอีกกระบุงโกย ว่ากฎบางอย่างบางทีก็เข้มงวดมากไป แต่ว่าแหละ...safety first เมาไม่ขับ อยากหลับให้จอดกินกาแฟ ![]() ป้ายแบบนี้จะเห็นอยู่ทั่วไปตาม Freeway เป็นการเตือนว่าถ้าขับรถทางไกลควรจะหยุดพักทุกๆ2ชม. ซึ่งเค้าจะมีที่พักริมทางให้จอดพักตามจุดต่างๆ เล็กบ้างใหญ่บ้าง เป็นการเซฟชีวิตลดอุบัติเหตุ ยอดอุบัติเหตุที่นี่น้อยมากๆถ้าบ้านเราทำได้ก็คงดี ![]() ที่หยุดพักนี้นอกจากมีห้องน้ำ จะมีชา กาแฟ น้ำผลไม้รสต่างๆ แถมด้วยบิสกิตให้กินให้ดื่มฟรีด้วย จะมีอาสาสมัครคอยชงชา กาแฟให้ จะทิปก็มีกล่องรับบริจาคด้วย ของที่เค้ามาบริการจะมีสปอนเซอร์ ทุกอย่างเลยฟรีได้ พี่ไทยขายเกลี้ยง ความแตกต่างอีกอย่างของบ้านเรากับที่นี่ คือ ไฟทาง ไม่ว่าย่านนั้นจะเป็นแหล่งชุมชนมากน้อยแค่ไหนแต่ไฟส่องสว่างจะไม่ค่อยมี แต่ก็แปลกขโมยขโจรเค้าก็ไม่ค่อยมี บ้านเราไฟสว่างโร่ หรือบางทีกลางวันแสกๆพี่แกก็ปล้นกันได้ ได้มีโอกาสนั่งรถตอนกลางคืนสังเกตว่า บางช่วงของถนนที่ไม่มีไฟทาง เค้าจะติดสติกเกอร์เรืองแสงที่ข้างทาง ไม่ก็บนถนนบริเวณโค้งต่างๆ แถมป้ายบอกทางก้มีเป็นระยะๆ ดีที่ประหยัดไฟ แต่บ้านเราคงทำแบบเค้าไม่ได้หรอก ไม่ใช่ไม่มีเงิน แต่โดนพี่ไทยขโมยไปขายเกลี้ยง ![]() ![]() ราคาน้ำมัน ![]() ค่าน้ำมันที่นี่ก็ไม่ต่างจากที่บ้านเราเท่าไหร่ แพงกว่ากันนิดหน่อย แล้วก็ต้องลงไปเติมเองไม่มีเด็กปั๊ม เติมแล้วก็จำเลขหัวจ่ายเวลาไปจ่ายเงิน ถ้าคิดจะชิ่งหนีคงยากเพราะทันทีที่ขับรถออกไปกล้องวีดีโอจะโชว์หมายเลขทะเบียน คนเข้าในเค้าแค่ยกหูบอกตำรวจ เรามีแต่เดี๊ยงขำไม่ออกแน่งานนี้ ![]() แวะมาอ่านค่ะ
โดย: parachute
![]() |