สวัสดีค่ะ วันนี้ปุ้ยจะมารีวิวกันต่อกับผลิตภัณฑ์นำเข้าจากญี่ปุ่นของ อัยเซ็น (Aizen)
ซึ่งเมื่อบล็อกที่แล้วปุ้ยได้พูดถึง ชุดดูแลทำความสะอาดผิวและเส้นผม ส่วนในบล็อกนี้ปุ้ยจะมาพูดถึงพื้นฐานการดูแลผิวหน้า ในแบบฉบับของสาวญี่ปุ่นค่ะ ผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาแนะนำกันก็คือ ชุดผลิตภัณฑ์รีไวแท็ค(REVITAQ) ซึ่งนวัตกรรมใหม่ในการบำรุงผิวจากญี่ปุ่นที่ผสมผสานน้ำใต้ทะเลลึกกับส่วนผสมในการบำรุงผิวที่กำลังเป็นที่นิยมในตลาดเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการบำรุงและปกป้องผิวสูง
น้ำใต้ทะเลลึกที่ได้มาได้มาจากไหน?
น้ำใต้ทะเลลึกที่เค้านำมาใช้เป็นส่วนผสมหลักนั้น มีต้นกำเนิดมาจากน้ำแข็งขั้วโลกที่ละลายลงสู่ทะเลด้วยแร่ธาตุเข้มข้น
ที่อัดแน่นในน้ำจึงทำให้น้ำดำดิ่งลงสู่ใต้ทะเลลึก 4,000 เมตร และไหลเวียนไปตามกระแสน้ำใต้ทะเลลึกผ่าน 3 คาบมหาสมุทร เป็นระยะทางกว่า 50,000 กิโลเมตร ใช้เวลาโคจรทั้งสิ้นร่วม 2,000 ปี จนกระทั่งกระทบกับโขดหินใต้ทะเล ทำให้กระแสน้ำใต้ทะเลลึกผุดขึ้นด้านบน 3,000 เมตร บริเวณเกาะโคน่า มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ประจวบเหมาะกับการขุดเจาะท่อที่ลึกจากพื้นผิวลงไป 1,000 เมตร ทำให้เราได้น้ำใต้ทะเลลึกบริสุทธิ์ที่ไม่มีสิ่งใดเจือปนและอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อการบำรุงผิวค่ะ **โดยน้ำใต้ทะเลลึกในผลิตภัณฑ์นี้ ได้ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยพลังงานธรรมชาติ มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา (NATURAL ENERGY LABORATORY OF HAWAII AUTHORITY) ว่าเป็นน้ำใต้ทะเลลึกที่มีคุณภาพ**
แล้วทำไมต้องน้ำใต้ทะเลลึก?
เพราะน้ำใต้ทะเลลึกที่เค้านำมาใช้มีแร่ธาตุและสมดุลอุณหภูมิที่ผิวต้องการ
ทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภายในการซึมซับและทำหน้าที่เป็นตัวนำพาสารที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิวอย่างดี
- มีความบริสุทธิ์สูง
- อุดมด้วยแร่ธาตุ
- สมดุลอุณหภูมิที่เหมาะสม
- คุณภาพของน้ำคงที่อย่างสม่ำเสมอ
ในซีรีย์ของเค้าจะมีผลิตภัณฑ์ 2 ตัวค่ะ
รีไวแท็ค เอ็สเซ็นส์ โลชั่น
REVITAQ Essence Lotion
Hyaluron | Collagen | Q10 | Placenta
เอ็สเซ็นส์ โลชั่นชนิดน้ำ ซึมลึกเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว บํารุงล้ำลึก
เตรียมผิวให้พร้อม รับการฟื้นฟูลำดับถัดไป ขนาด 120 มิลลิลิตร
ราคาปกติ 4,000 บาท สมาชิก 3,200 บาท | รีไวแท็ค ครีม
REVITAQ Cream
Hyaluron | Collagen | Q10 | Placenta
ครีมบํารุงผิวหน้า ปกป้องร้ิวรอย
และมลภาวะ
พร้อมฟื้นฟูให้ผิว
แข็งแรงจากภายใน ขนาด 40 กรัม
ราคาปกติ 6,000 บาท สมาชิก 4,800 บาท |
ส่วนผสม:
Water, Butylene Glycol,Glycerin,
Hippophae Rhamnoides Oil,
Magnesium Ascorbyl Phosphate,
Atelocollagen, Sodium Hyaluronate,
Glucosyl Ceramide,
Allantoin, Dipotassium Glycyrrhizate,
Citrus Junos Fruit Extract,
Lavandula Angustifolia (Lavender) Flower Water, Dextrin,
Placental Protein, Methylparaben, Squalane,
Peg-60 Hydrogenated Castor Oil, Ubiquinone, Cellulose Gum
(วางเมาส์บนลิงค์ส่วนผสมเพื่อดูคำอธิบาย)
| ส่วนผสม:
Water, Oryza Sativa (Rice) Germ Oil,
Octyldodecyl Myristate, Butylene Glycol,
Glyceryl Stearate, Arbutin, Squalane,
Rosa Centifolia Flower Water, Glycerin,
Citrus Junos Fruit Extract, Acetyl Hexapeptide-8, Sodium Hyaluronate, Atelocollagen, Allantoin,
Hippophae Rhamnoides Oil, Carbomer,
Elaeis Guineensis (Palm) Oil,
Dipotassium Glycyrrhizate, Betaine,
Potassium Hydroxide, Methylparaben,
Dipropylene Glycol, Xanthan Gum, Placental Protein,
Ubiquinone, Astaxanthin, Glucosyl Ceramide,
Alpha-Glucan, Hydrogenated Palm Glycerides Citrate,
Sucrose Stearate, Peg-60 Hydrogenated Castor Oil,
Ppg-4-Ceteth-20, Sodium Hexametaphosphate
| เปรียบเทียบส่วนผสมจากข้างกล่องค่ะ
ส่วนประกอบหลัก (Active Ingredient) ที่ทำหน้าที่ต่อผิว ของทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์จะเหมือนกัน ก็คือ
- Atelocollagen อเทโลคอลลาเจน คอลลาเจนอณูละเอียดกว่าคอลลาเจนปกติ
สามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิวได้ดี และสามารถเติมเต็มผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับดูมีชีวิตชีวา - Q10 คิวเท็น
ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ลบเลือนร่องริ้วรอยลึกให้ดูตื้นขึ้น เสมือนผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างดี
- Placental Protein โปรตีนพลาเซนต้า
โปรตีนบริสุทธิ์ ช่วยลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ปรับผิวให้ดูขาวกระจ่างใส - Hyaluron ไฮยาลูรอน
มอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้น
ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกักเก็บความชุ่มชื้นแก่ผิว ให้สัมผัสผิวอ่อนนุ่ม และยังช่วยลบเลือนริ้วรอยอีกด้วย - Squalane สควาเลน
เสริมสร้างความแข็งแรง โดยการเพิ่มออกซิเจนให้แก่ผิว
และช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวสะอาดสดใหม่อยู่เสมอ - Lavender ลาเวนเดอร์ ลดการละคายเคืองและอาการอักเสบของผิว
ในส่วนของราคาจะสูงกว่าเอ็สเซ็นส์ เพราะว่ามีส่วนผสมที่มากกว่า และมีปริมาณมากกว่า โดยเฉพาะ Squalane
อีกส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งที่น่าสนใจก็คือ Arbutin เป็นส่วนผสมอันดับต้นๆ ของผลิตภัณฑ์นี้เลย ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องของความขาวใส แต่อย่างไรก็ตามเค้าไม่ได้บอกว่าเป็น Alpha หรือ Beta-Arbutin ค่ะ
และอีกหนึ่งส่วนผสมที่ดีก็คือ Astaxanthin เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เก่งมากๆ ตัวนึง ช่วยในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระค่ะ
 สรุปคุณสมบัติสำคัญของรีไวแท็ค
- บำรุงผิวล้ำลึกด้วยส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการแทรกซึม
- เติมเต็มความชุ่มชื่นเข้าสู่ชั้นผิวได้โดยตรง
- กำจัดปัญหาผิว 5 ประการ
1)ซ่อมบำรุงผิวหยาบกร้าน 2)ยกกระชับ ผิวหย่อนคล้อย 3)ลดจุดด่างดำให้ดูจางลง 4)ปรับผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใส 5)ลบเลือนร่องริ้วรอย
แล้วในเมื่อส่วนผสมเหมือนกัน ทำไมต้องใช้ทั้ง Essence และ Cream คู่กัน?
เพราะประสิทธิภาพในการบำรุงและปกป้องผิวของเนื้อผลิตภัณฑ์ทั้งสองแตกต่างกัน กล่าวคือ
Essence เรียกได้ว่าเป็นขั้นแรกของการบำรุงผิว เพราะเนื้อของ Essence เป็นน้ำที่มีความสามารถในการแทรกซึมและนำพาคุณประโยชน์เข้าสู่ผิวชั้นในได้อย่างดี ซึ่งทำให้ผิวชั้นในสามารถดูดซับการบำรุงได้เต็มที่ ถือเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมในการบำรุงขั้นถัดไป
ส่วน Cream เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นครีมที่บำรุงผิวชั้นนอกให้แข็งแรง โดยทำให้ผิวอุดมไปด้วยความชุ่มชื้น พร้อมเคลือบปกป้องให้ผิวไม่ให้ได้รับการทำร้ายจากมลภาวะที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน นั่นเอง
ถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัวของปุ้ย สำหรับสาวๆ ที่มีบัดเจ็ดจำกัด ปุ้ยแนะนำให้เลือกใช้ตัวได้ตัวหนึ่งได้ค่ะ สำหรับสาวผิวมัน-ผิวสผม แนะนำให้ใช้ REVITAQ Essence แล้วลองจับคู่ใช้กับผลิตภัณฑ์ครีมที่บ้านดูก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นสาวผิวแห้งก็ใช้โลชั่นปรับความพร้อมของผิวที่เรามี แล้วใช้ REVITAQ Cream จะช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีค่ะ (ปุ้ยมีรีวิวเปรียบเทียบกันให้ดูตอนท้าย)
ในบล็อกนี้ปุ้ยจะเน้นรีวิวที่ รีไวแท็ค เอ็สเซ็นส์ โลชั่น เพราะปุ้ยคิดว่าน่าสนใจและอยู่ในงบประมาณที่สาวๆ โดยส่วนใหญ่สามารถเจียดบัดเจ็ดให้ผิวสวยๆ ได้
รีไวแท็ค เอ็สเซ็นส์ โลชั่น REVITAQ Essence Lotion
Hyaluron | Collagen | Q10 | Placenta
เอ็สเซ็นส์ โลชั่นชนิดน้ำ ซึมลึกเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว บํารุงล้ำลึก เตรียมผิวให้พร้อม รับการฟื้นฟูลำดับถัดไป
ขนาด 120 มล. ราคาปกติ 4,000 บาท สมาชิก 3,200 บาท
บรรจุภัณฑ์ (Package): 8/10 ― บรรจุภัณฑ์เป็นขวดแก้วกึ่งโปร่งแสงสีน้ำเงิน ขวดทรงกระบอกผอมสูงจับได้ขนาดเท่ากำมือพอดี ฝาเป็นแบบหมุนเปิด ปากขวดมีแผ่นกั้นหก เวลาใช้ก็เหยาะขวดนิดนึง (เขย่าเบาๆ) โลชั่นจะไหลออกมา
กลิ่น (Scent): 9/10 ― กลิ่นหอมอ่อนมากๆ เวลาใช้ปกติเทลงฝ่ามือแล้วตบที่ผิวหน้าแทบไม่ได้กลิ่นค่ะ แต่ถ้าประยุกต์ไปใส่ขวดเสปรย์ฉีดลงที่ผิวหน้าจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ มีกลิ่นคล้ายๆ พิเทร่าด้วย
ความเข้มข้นของเนื้อครีม (Ointment): 8/10 ― เนื้อของผลิตภัณฑ์เป็นโลชั่นเหลวใสๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเบาใสเหมือนน้ำเปล่า คือ จะรู้สึกว่ามีส่วนผสมของสารสกัดจำพวกน้ำมันและสารอิมัลติไฟเออร์ที่ช่วยประสานผิว
ปริมาณที่ใช้ต่อครั้ง (Amount) : 9/10 ใช้แค่เหยาะเดียว (ประมาณเหรียญบาท) ก็เกลี่ยได้ทั่วใบหน้า
ความชุ่มชื้น (Moisture): 8/10 ― ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นในระดับที่มากเลยค่ะ พอทาลงไปผิวรู้สึกชุ่มชื้นตื่นตัวขึ้นมาทันทีเลย
เนื้อบางเบา (Light Texture): 10/10 ― ข้อดีของเนื้อของผลิตภัณฑ์ที่เป็นโลชั่นเหลว คือ ได้ความบางเบาหลังจากทาและซึมเข้าผิวแล้ว
การเกลี่ยง่าย (Smooth Applying): 10/10 ― ด้วยเหตุผลเดียวกันผลิตภัณฑ์ที่เป็นโลชั่นเหลวจึงเกลี่ยง่าย
การซึมเข้าสู่ผิว (Fast Absorption): 9/10 ― การซึมเข้าผิวใช้เวลาประมาณ ครึ่งนาทีค่ะ
ใช้แล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ (non-Sticky) 9/10 ― พอซึมเข้าสู่ผิวแล้ว ผิวชุ่มชื้นดี ไม่เหนอะหนะ แต่ไม่ถึงกับเหมือนไม่ได้ทาอะไรเลย คือรู้สึกมีสารให้ความชุ่มชื้นผิวอยู่แม้จะผ่านไปหลายชม.
ใช้แล้วผิวไม่มัน (Anti-Oily Skin): 9/10 ― พอผ่านไปหลายชม. ไม่รู้สึกว่าผิวมันหรือเหนียวเหนอะหนะ แต่ถ้าลองใช้ฟิล์มซับมัน ก็จะมีคราบความมันปรากฏนิดหน่อยเท่านั้น (ดังที่เห็นในรูปรีวิว)
ไม่ทิ้งคราบขาว (Stainless): 10/10 ― ไม่ทิ้งคราบขาว ไม่เป็นคราบใคล เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์เมกอัพอื่นๆ ในขั้นตอนถัดไปค่ะ
ความคุ้มค่ากับราคา (Reasonable Price): 8/10 ― ใช้ในปริมาณแค่ 2-3 หยดก็ชโลมได้ทั่วผิวหน้า ขวดนึงใช้ได้หลายเดือนเลยค่ะ คุณสมบัติในการช่วยบำรุง ฟื้นฟูผิวก็น่าสนใจมากเลยทีเดียว ถ้าเทียบคุณสมบัติกับราคาค่าตัวแล้วถือว่าค่อนข้างมีเหตุมีผลกันอยู่ค่ะ เป็นการลงทุนที่สูงแต่ก็คุ้มค่านะคะ
คะแนนรวม 8.92/10
ขั้นตอนการใช้งาน
- ขั้นตอน 1 หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าเสร็จ
เทผลิตภัณฑ์ REVITAQ Essence Lotion ลงบนฝ่ามือปริมาณประมาณเหรียญบาท - ขั้นตอน 2 ชโลม REVITAQ Essence Lotion ให้ทั่วฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง
- ขั้นตอน 3 ประคบฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง ลงให้ทั่วใบหน้าและลำคอ
- ขั้นตอน 4 นวดเบาๆ เป็นเวลา 1 นาที หรือปล่อยให้เนื้อเอ็สเซ็นส์ซึมเข้าสู่ผิวหน้า 3 นาที แล้วจึงบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป
*เคล็ดลับให้ REVITAQ Essence บำรุงได้ล้ำลึกขึ้น ฉีดสเปรย์โคโยมิสท์ หรือสเปรย์น้ำแร่ บนผิวหน้าก่อนที่จะชโลมด้วย REVITAQ Essence จากนั้นรอให้แห้ง แล้วจึงบำรุงในขั้นตอนต่อไป
**เคล็ดลับเพิ่มความสดชื้นระหว่างวัน ผสม REVITAQ Essence ลงในขวดเสปรย์น้ำแร่ อัตราส่วน 1/10 (หรือมากตามความต้องการ) แล้วฉีดสเปรย์ระหว่างวัน ให้ความชุ่มชื้นและสดชื่นมากๆ ค่ะ
ทิ้งท้ายบล็อกด้วยภาพเปรียบเทียบการทดสอบความชุ่มชื้น ด้วยการใช้ฟิล์มซับมัน
ระหว่าง REVITAQ Essence และ REVITAQ Cream ค่ะ เนื้อครีมจะเป็นสีส้มๆ ค่ะ เกลี่ยง่าย ลื่น
และให้ความชุ่มชื้นมาก ไม่เหนียวเหนอะ และไม่เป็นคราบ ใช้แค่ปั้มเดียวก็ทาได้ทั้งใบหน้าค่ะ ในแง่ของการใช้งานอย่างที่กล่าวในตอนต้น REVITAQ Cream จะเหมาะกับคนที่ผิวแห้ง
หรืออยู่ในภาวะอากาศแห้ง เพราะให้ความชุ่มชื้นมาก หรือหากสาวไทยอย่างเราๆ ที่มีผิวมัน-ผิวผสม
ก็ใช้ได้นะคะ ปุ้ยแนะนำให้ใช้เฉพาะตอนกลางคืนก่อนนอนค่ะ
[รูปเปรียบเทียบการใช้งานของ REVITAQ Cream และ REVITAQ Essence โดยทดสอบด้วยฟิล์มซับมัน หลังจากเนื้อผลิตภัณฑ์ซึมเข้าผิวแล้ว]
วันนี้ต้องลาไปก่อนนะคะ พบกันใหม่ในบล็อกหน้า จะมารีวิวผลิตภัณฑ์ดีๆ กันต่อ บั้ยบายค่ะ
รีไวแท็ค เอ็สเซ็นส์ โลชั่น REVITAQ Essence Lotion Hyaluron | Collagen | Q10 | Placenta ขนาด 120 มิลลิลิตร ราคาปกติ 4,000 บาท สมาชิก 3,200 บาทรีไวแท็ค ครีม REVITAQ Cream Hyaluron | Collagen | Q10 | Placenta ขนาด 40 กรัมราคาปกติ 6,000 บาท สมาชิก 4,800 บาทสมัครสมาชิกฟรี แถมประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ดีๆ อีกด้วยนะคะ ศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมที่www.aizenconnect.com
www.facebook.com/aizenconnect
|
ผู้ติดตามบล็อก : 115 คน [