เมื่อฉันเป็นพาหะไวรัส B
ฉันมีเชื้อพาหะไวรัสบีค่ะ เป็นมาเกือบจะ 2 ปีแล้ว ก็ยังมีเชื้ออยู่ไม่หาย
จนหมอบอกว่าเป็นพาหะไปแล้ว ให้ยาวิตามินมากิน ก็กินมั่งไม่กินมั่ง ไม่ค่อยได้ควบคุมอาหารสักเท่าไร ใช้ชีวิตปกติค่ะ ตอนแรกรู้สึกงงมากที่รู้ว่าตัวเองมีเชื้อนี้อยู่ เพราะปัจจัยเสี่ยงเราแทบจะไม่มีเลย บริจาคเลือดได้มา 5 ปี
มาบริจาคไม่ได้ตอนมีหนังสือจาก รพ.ว่าเรามีเชื้อ ไม่สามารถบริจาคได้อีก
ตั้งแต่นั้นมาก็หาสาเหตุให้กับตัวเองว่า เอ๊ะ +++ แล้วเราไปติดเชื้อนี้มาจากไหน หมอบอกว่าปัจจัยเสี่ยงหลัก ๆ คือติดได้จาก เพศสัมพันธ์ จากเลือด จากสารคัดหลั่งต่าง ๆ ส่วนติดจากน้ำลาย หรือกินอาหารร่วมกันก็อาจเป็นไปได้ แต่โอกาสน้อยมาก บางหมอก็บอกว่า ไม่ติดทางน้ำลาย เราก็สงสัยอยู่ เพราะนอกจากทางน้ำลายหมายถึงการกินอาหารร่วมกันที่ดูแล้วถ้าเราจะได้รับจะเสี่ยงก็น่าจะได้จากทางนี้ ส่วนเรื่องที่เสี่ยงอย่างอื่น ไม่น่าจะใช่(คือวิเคราะห์หาสาเหตุให้ตัวเองอ่ะค่ะ)

พอมารู้ว่าตัวเองมีเชื้อเป็นพาหะแล้ว ก็พยายามป้องกันตัวเองให้ครอบครัวไม่อยากให้ใครได้รับเชื้อจากเราไป คือไม่ใช้ของร่วมกับคนอื่น กินอะไรแล้วต้องใช้ช้อนกลาง ก็ไม่อยากให้คนที่เรารักเป็นแบบเรา แต่ก็ไม่ได้บอกใครที่บ้านน่ะค่ะ กลัวเขาไม่เข้าใจและเป็นห่วงฯ ก็มีแต่แฟน และน้องสาวเท่านั้นที่รู้ ส่วนพ่อกับแม่ไม่ได้บอก

และแล้วเราก็ได้รู้ความจิงเมื่อไม่นานมานี้เอง เมื่อย่าเราป่วยเป็นมะเร็งตับ หมอบอกว่าย่ามีเชื้อไว้รัสบีในตัว จนกลายเป็นมะเร็งมารู้อีกที คือแกป่วยระยะสุดท้ายแล้ว ทีนี้เราก็ได้รู้แล้วว่าเราได้รับเชื้อนี้มาจากใคร แต่คงไม่ได้จากย่าเราโดยตรงเพราะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน เราสงสัยว่าเราคงได้รับมาจากพ่อเรา ซึ่งพ่อเราแกคงได้รับเชื้อนี้มาจากญาติ ๆ ทางบ้าน สืบไปสืบมา ญาติฝ่ายพ่อ มีเชื้อนี้อยู่กันตั้งหลายคน มีทั้งคนที่รู้ตัว และไม่รู้ตัว อาผู้ชาย น้องพ่อก็เป็นตับแข็งอยู่ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ดื่มเหล้า ก็น่าจะเกิดจากสาเหตุนี้ฯ ก็ถึงบางอ้อเลยค่ะ

ปกติย่าเราเค้าจะเป็นคนที่ไม่ค่อยป่วยด้วยโรคอะไรเลยนะค่ะ แข็งแรงดี แกอายุ 80 กว่าแล้วค่ะ ยังดูแกแข็งแรงทุกอย่าง พอมาป่วยด้วยโรคนี้แล้วแกเป็นหนักเลย ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมก็สงสารแก ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคที่แกเป็นอยู่ไม่อยากให้ใครตกอยู่ในสภาพแบบนี้ โดยเฉพาะคนที่เรารัก หรือแม้แต่ตัวเราเอง เห็นแล้วทรมานมากค่ะ ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกกลัว กลัว กับ อะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่อยากจะคิดต่อเลยค่ะ .......

พอได้เจอเหตุการณ์นี้ ก็คิดอะไร ๆ ได้หลายอย่างค่ะ เพราะชีวิต คือชีวิตจริง ๆ นะค่ะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เราคงต้องหันมาดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว

แล้วอย่างนี้ เราก็ฟันธงได้ซิค่ะ ว่า เชื้อไวรัส บี ติดจากน้ำลายได้ แล้วทำไมหมอบางคน บ้างก็บอกว่า ไม่ติดล่ะค่ะ งง ค่ะ ใครรู้เรื่องนี้ดีช่วยบอกทีได้มั้ยค่ะ



Create Date : 24 มีนาคม 2553
Last Update : 24 มีนาคม 2553 11:38:53 น.
Counter : 444 Pageviews.

5 comments
Full review จักรยาน Giant TCR รุ่น10 หลังปั่นไป 10,500km กะริโตะคุง
(30 ต.ค. 2568 19:11:54 น.)
ตอบครั้งแรก "ธีรศิลป์" ตัดสินใจแล้ว ปมกลับไปติดทีมชาติไทย หลังเปลี่ยนกุนซือ เหนื่อย กว่าจะตั้งชื่อได้
(27 ต.ค. 2568 20:43:05 น.)
ตามล่าหายารักษา HCV ที่ชื่อ Vosevi WarinD Ninajang
(18 ต.ค. 2568 14:56:35 น.)
จะไปวิ่งมาราธอนแรก ที่งานกรุงเทพมาราธอน ครั้งที่36 wink99_th
(16 ต.ค. 2568 16:33:13 น.)
  
เป็นมาสองปีแล้วหรอคะ...ได้ตรวจเลือดดูรึยังคะว่า...ร่างกายเราสามารถเสื้อง ภูมิคุ้มกันขึ้นรึยัง....น่านะอย่าปล่อยไปเลยตามเลยนะ....
โดย: phaclam วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:11:56:36 น.
  
โดย: thanitsita วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:13:33:03 น.
  
เป็นกะลังใจให้นะครับ สู้ต่อไปนะ
โดย: ตาโต สป. วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:15:19:29 น.
  
แสดงว่าผลตรงจ ขึ้นแต่ antigen แน่เลย หมอถึงนัดต่อ คงรอดูว่าเมื่อไหร่ antibody จะขึ้นซะที ขอให้หายเร็วๆนะคะ
โดย: phaclam วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:21:40:05 น.
  
ไวรัสตับอักเสบติดง่ายกว่าเอดส์ตรงที่ผ่านทางน้ำลายได้นี่ล่ะคะ เพียงแต่ปริมาณของเชื้ออาจจะต้องมากสักหน่อย นู๋ทราบตอนนี้ก็ดีแล้วค่ะ จะได้ปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง และป้องกันไม่ให้คนอื่นติดจากเรา

แล้วแวะมาหากันอีกนะคะ
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 26 มีนาคม 2553 เวลา:17:13:36 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Puifa.BlogGang.com

ปุยฟ้า
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]