(Fic Shinhwa) เรื่องเล่าของเจ้าหญิง 3 ความเดิมตอนที่แล้ว เอริคซึ่งอยู่ระหว่างฝึกต้องออกมารักษาอาการปวดหลังของเค้า เวลา 1 อาทิตย์ ทำให้เค้าตัดสินใจ ที่จะเปิดเผยความรู้สึกทั้งหมดกับแอนดี้ แต่แล้ว น้องน้อยของเรา ดันทำเสียเรื่องซะนี่ อาวล่ะ เอริคจะทำยังงัยต่อไปดี แล้วฮเยซองล่ะ เค้าคิดจะทำยังงัยกันแน่ .. ไปซุ่มดูต่อกันเรย... แอนดี้ซึ่งช่วงนี้โหมงานหนักกว่าเดิมหลายเท่าตัว เพียงเพราะอยากให้เวลาที่มี มันหมด ๆ ไปเร็ว ๆ ซักที ฮเยซองจะบินไปญี่ปุ่นพรุ่งนี้แล้ว อีกนานกว่าที่เค้าจะหมดช่วงโปรโมทอัลบั้ม และบินกลับมาทำงานที่เกาหลีต่อ จอนจินยุ่งวุ่นวายกะงานและละครของเค้าเหมือนเดิม ข่าวว่าอาทิตย์หน้ามินอูจะกลับมาจากอเมริกา ... วันนี้แอนดี้มาถ่ายรายการวาไรตี้รายการหนึ่งในสตูดิโอ เวลาพักว่าง ๆ แทนที่จะหยิบเกมส์มาเล่นเหมือนเคย คราวนี้เค้ากลับหยิบตารางงาน และเอกสารอีกปึกใหญ่ขึ้นมานั่งอ่าน เป็นภาพที่เห็นได้ยากเหลือเกิน ประตูห้องพักถูกใครบางคนเปิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ ฮเยซอง : แอนดี้ยา~~~ แอนดี้ละจากเอกสารตรงหน้า เงยขึ้นไปมองต้นเสียงแสนคุ้น แอนดี้: อ้าวว พี่ซองกี๊ มาได้งัยฮะเนี๊ญะ ฮเยซอง: ชั้นมาธุระแถวนี้น่ะ เรยแวะมาหาจอนจิน เค้าบอกชั้นว่าวันนี้นายมาอัดรายการ เป็นงัยมั่ง ไม่เจอกันเรยเราน่ะ แอนดี้: ผมยุ่งๆ น่ะฮะ ขอโทดนะฮะที่ไม่ได้ไปหาพี่เรย ฮเยซอง : ไม่เป็นไรหรอก พอดีชั้นก็ยุ่งๆ กะการเตรียมงานนิดหน่อยเหมือนกันแหละ ... สีหน้าไม่ดีเรยนี่ เป็นงัยเหรอ เหนื่อยมากหรือเปล่า ทำงานหนักไปและมั้งนายน่ะ แอนดี้ : ไม่หรอกฮะ ก็สนุกดี ผมรู้สึกว่าผมชอบทำงานฮะ มันเหมือนว่า พอผมทำงาน ผมยิ่งมีพลัง ไม่สงสัยและ ว่าทำมัยพี่มินอูถึงบ้างานจนต้องเลิกกะแฟน 555 ฮเยซอง : พรุ่งนี้ชั้นต้องไปญี่ปุ่นและ คราวนี้คงนานหน่อย แอนดี้ : อ่าว ไหงไวแบบนี้อ่ะ พี่มินอูจะกลับมาแล้ว ผมนึกว่าเราจะได้เจอกันก่อนพี่จะบินซะอีก ฮเยซอง : งานทางโน้นเสร็จเร็วกว่ากำหนดนิดหน่อยน่ะ อืม ว่าแต่คืนนี้เราไปหาไรกิน ดื่มไรกันนิดหน่อยดีมะ แอนดี้: ดีฮะ อืม งั้นก็ที่เดิมนะฮะ เด๋วผมโทบอกพี่อีกที ฮเยซอง : อืม แล้วเจอกัน .... ภายในผับประจำที่สมาชิกชินฮวาต่างมาดื่มกันจนกลายเป็นที่ประจำ มีห้องส่วนตัวของตัวเองกันแล้ว ผิดแต่ตอนนี้ ไม่มีเสียงเฮฮาหนวกหูมากมาย มีเพียง คน 2 คน ซึ่งนั่งจิบแอลกอฮอล์ ดื่มด่ำกับเพลง และบทสนทนาที่สรรหามาคุยกันได้แทบทุกเรื่อง แอนดี้ : ผมมีอะไรอยากถามพี่อย่างนึงอ่ะฮะ ฮเยซอง : อืม ว่ามาสิ แอนดี้: พี่รู้เรื่องที่พี่เอริคแอบรักผู้หญิงคนนึงหรือเปล่าฮะ ฮเยซอง : หืม (ฮเยซองที่กำลังยกแก้วตัวเองขึ้นมาจิบ ต้องชะงักไปนิดนึง ก่อนส่งน้ำสีอำไพในแก้วเข้าปากเหมือนไม่ได้แปลกใจอะไร).. เอริคมันบอกนายแบบนั้นเหรอ แอนดี้: ฮะ แต่เค้าไม่ได้บอกหรอกว่าใคร บอกแค่ว่าไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ๆ ดูเค้าจะเป็นทุกข์เรื่องนี้จังเรย ผมสงสารเค้า อยากช่วยเค้าอ่ะ ฮเยซอง : แล้วนายคิดยังงัยกับเรื่องนี้ล่ะ แอนดี้: อืม ตอนแรกผมก็ตกใจนะ ใจมันหาย ๆ พอพี่เค้าบอกว่าเค้ามีความรัก แต่มาคิด ๆ ดู มันก็อาจเป็นไปได้นะ เพราะ 2- 3 วันก่อนเค้ากลับอ่ะ เค้าดูเคลียด ๆ มากเรยแหละฮะ ฮเยซอง : ชั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกนะ นายคิดว่าถ้าเอริคมีแฟน หมอนั่นจะบอกชั้นงั้นเหรอ ฮเยซองหัวเราะหึ ๆ เบา ๆ ในลำคอ แอนดี้ : ไม่รุ้สิ ก็เผื่อว่าพี่จะเป็นที่ปรึกษาลับ ๆ ให้พี่เอริค ผมจะไปรู้เหรอ แค่ถามดูเฉย ๆ แอนดี้ : ทำมัยพี่จินนี่ยังไม่มาอีกอ่ะ ฮเยซอง : มันเคยตรงเวลาที่ไหนเล่า ปล่อยมันไปเหอะ เด๋วก็มาเองแหละ เวลาเดินไปเรื่อย ๆ ไม่มีวี่แววการปรากดตัวของเจ้านกยักษ์บ้าพลังเรย แอนดี้และฮเยซองก็ดื่ม คุยกันไปเรื่อย ๆ เรื่องแล้วเรื่องเล่า แก้วแล้วแก้วเล่า ซองกี๊แกรจะมอมเหล้านุ้งเห็ดชั้นอีกและเหรอเนี๊ยะ แอลกอฮอล์เริ่มส่งผลให้เส้นเลือดสูบฉีดไปทั่วร่างแค่ไหน ใบหน้าก้เริ่มแดงยิ่งขึ้นเท่านั้น นอกจากจะแดง ยังเริ่มจะหนาขึ้นมานิด ความในใจที่เคยสงสัยใคร่รู้ อยากถามมานานแสนนาน ห่วงก็แต่ความรู้สึกอีกคนตรงหน้า แต่หากเวลานี้ เหมาะสมที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ หากเค้าไม่รู้สึกอะไร ก็ถือซะว่า ตื่นมา มันก็คือฝัน ยังงัยซะ เราก็คงไม่เจอกันไปอีกนาน ฮเยซอง : ชั้นมีอะไรอยากถามนายอย่างหนึ่ง ชั้นขอร้องให้นายตอบชั้นตามความเป้นจิงได้มั้ย ในฐานะที่ชั้นเป็นพี่ และนายเป็นน้อง แอนดี้ : โหว พี่ดูจิงจังจนผมชักกลัว ได้สิฮะ ถามอะไรเหรอ (เงียบไปชาติเศษ กว่าที่ฮเยซองจะเงยมองหน้าอีกคน ประกายตาจิงจังที่จ้องลึกเข้าไปในตาปรือ ๆ อีกคู่ บ่งบอกว่า เค้าต้องรวบรวมกำลังภายในทั้งหมด ที่จะเอ่ยมันออกมาเชียว) ฮเยซอง : .... นายคิดยังงัยกะเอริคกันแน่ .. แอนดี้เงียบไปซักพัก ในหัวประมวลได้ผลออกมายุ่งเหยิง งงกับคำถามก็งง สีหน้าเรยบอกอาการ ประหนึ่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แอนดี้ : พี่หมายถึงอะไรฮะ ไอ่คิดยังงัยกันแน่ของพี่อ่ะ ฮเยซอง : ก็อย่างที่ถามนั่นแหละ ความรู้สึกที่แท้จริงของนาย นายรู้สึกยังงัยกับเค้า ชั้นถามวกวนไปเหรอ แอนดี้: เอ่อ ... แล้ว ... แล้วพี่จะให้ผมตอบยังงัยล่ะฮะ ผมก็รักพี่ริค เหมือน ๆ ที่ผมรักพี่ ๆ นั่นแหละ ฮเยซอง : ชั้นรู้นะ สีหน้านายมันบอกชั้นว่านายเข้าใจคำถามดี และนายก็มีคำตอบให้ชั้นแล้วด้วย เราอยู่ด้วยกันมานานแล้วนะ 6 ปีในบ้านหลังเดียวกัน เจอกัน คลุกคลีกันมากกว่าสมาชิกแท้ ๆ ในครอบครัวเดียวกันบางครอบครัวซะอีก นายเห็นว่าชั้นจะโง่เหมือนเจ้าเอริคอย่างนั้นเหรอ แอนดี้ได้แต่ก้มหน้าก้มตา น้ำตาเริ่มซึมผ่านตาคู่ปรือนั่น แอนดี้: ผมไม่รู้ (แอนดี้พูดทั้ง ๆ ที่ยังก้มหน้า ปล่อยน้ำตาให้ไหลอยู่อย่างนั้น ฤทธิ์แอลกอฮอล์ นอกจากจะทำให้คนเข้มแข็งขึ้น กล้าขึ้นแล้ว มันยังสร้างความอ่อนแอให้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน) ฮเยซอง : ไม่ยากหรอก นายคิดถึงเค้าตลอดเวลา นายห่วงใยเค้า นายเห้นรอยยิ้มของเค้าแล้วนายมีความสุข นายทุกข์ใจเวลาที่เค้าเศร้า แค่นี้ มันก็อธิบายความหมายได้ทั้งหมดแล้ว นายบอกชั้นสิ ว่านายไมได้คิดแบบนี้กะเอริค แอนดี้: ...ผมพยายามจะไม่คิดให้ไปไกลเกินกว่าที่ควรจะเป้นอยู่แล้วฮะ พี่รู้อะไรมั้ย ผมต้องอดทนแค่ไหน ตอนที่พี่เค้าบอกว่า เค้ามีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ผมแทบจะหยุดหายใจตรงนั้น พี่ไม่รู้เหรอ การที่ต้องปรับสีหน้าให้เป็นปกติเพื่อมองหน้าพี่เค้าได้อย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นน่ะ มันยากมากแค่ไหน พี่รู้มั้ย (แอนดี้พรั่งพรูคำพูดต่าง ๆ ทะลักออกมาเหมือนมันคอยท่าที่จะระบายออกมานานเหลือเกินแล้ว) ฮเยซอง : ทำมัยชั้นจะไม่รู้ ชั้นรู้ดีเรยแหละ เพราะชั้น ... ชั้น ... ช่างมันเหอะ ตอนนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น แอนดี้: ...ผมเฝ้าถามตัวเองมาตลอด ผมปฏิเสธกับตัวเองว่ามันไม่ใช่ความรัก มันเป็นความผูกพันธ์ระหว่างพี่ที่มีให้น้องคนนึง และผมก้ไม่ต้องการที่จะทุกข์ทรมาณแบบนี้ด้วย แต่พี่ก็รู้ใช่มั้ย ว่ายิ่งทำ ยิ่งฝืน มันก้ยิ่งจมดิ่งเข้าไปทุกที ตอนที่เราต้องแยกกันอยู่ ผมคิดว่า ผมอาจจะดีขึ้น แต่เปล่าเรย มันกลายเป้นความเคยชิน ที่ผมจะต้องมีเค้าาอยู่ในชีวิตประจำวันทุกวัน มันไม่ได้ช่วยให้ผมดีขึ้นเรย .. ตอนที่พี่เค้าต้องเข้ากรม ผมนอนไม่หลับไปเกือบอาทิตย์ กินอะไรก็ไม่ลง ทำงานเป็นบ้าเป็นหลังให้ลืม พี่จินนี่ยังจะมาส่งข้อความบ้า ๆ ให้ผมต้องคิดถึงพี่ริคเข้าไปอีก ผมแทบจะเป้นบ้า พี่รู้มั้ย ตอนนี้สีหน้าของอีกคนที่ฟังอยู่ แทบไม่ได้ต่างกันเรย เค้าดูกลัดกลุ้ม และเสียใจ ฮเยซอง : ...ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ชั้นมีอะไรจะบอกนายอย่างนึง ความจิง ชั้นควรจะบอกกับนายนานแล้วด้วย ชั้นปล่อยมันมานานเกินไปแล้ว และถ้าขืนชั้นต้องเก็บมันไว้ นายนั่นแหละ ที่ต้องเป็นฝ่ายเจ็บปวดที่สุด ฮเยซองหลับตาของเค้าไปชั่วขณะ ก่อนจะขยับตัวเข้าใกล้แอนดี้ สองมือประคองหน้าซึ่งเต็มไปด้วยน้ำตา ใช้สองนิ้วปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มใส ซึ่งบัดนี้มันแดงปลั่งด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ บวกด้วยการร้องไห้อย่างไม่หยุด ฮเยซอง : ชั้นไม่อยากทำร้ายนาย ขอให้คิดว่าพี่คนนี้ ไม่เคยคิดร้ายกับนายเรยซักครั้ง เพราะเวลานายมีน้ำตา นั่นหมายถึงข้างในของชั้น มันก้เจ็บปวดเหมือนกัน ฮเยซองหันกลับมานั่งอยู่ในท่าเดิม พร้อมกับหยิบแก้ววิสกี้ขึ้นจิบอีกอึกใหญ่ เป็นการเรียกความกล้า ฮเยซอง : นายไม่รู้ใช่มั้ย ว่าใครคือคนที่เอริครัก แอนดี้ส่ายหน้าไปมา น้ำตายังไม่เหือดหายไปจากดวงตาปรือคู่นั้น ฮเยซอง : นายงัย คนที่เค้ารัก เค้าหวง เค้าห่วงตลอดเวลา อีกครั้งที่แอนดี้ได้แต่ทำตาโตประหนึ่งไม่เชื่อในคำพูดที่เพิ่งผ่านหูตัวเองไปเมื่อครู่ ก็มันจะเป้นไปได้งัย ฮเยซอง : แต่นายรู้มั้ย ทุกวันนี้สิ่งที่ทำให้โลกมันสับสนวุ่นวาย มันก้คือความไม่เข้ารูปเข้ารอย ไม่เข้าที่เข้าทาง ไม่เป้นอย่างที่เราอยากให้เป็นดั่งใจซะทุกอย่าง แอนดี้: พี่หมายถึงอะไรเหรอฮะ ฮเยซอง : เอริคต้องแต่งงานทันทีที่กลับจากกรมทหารกับผู้หญิงที่พ่อกับแม่เค้าหมายหมั่นไว้ให้เมื่อนานมาแล้ว นั่นคือสิ่งที่เค้าต้องทำ แอนดี้ยิ่งตกใจกับสิ่งที่เพิ่งผ่านหูไปหยก ๆ กลับต้องตาโตขึ้นมาอีกเท่าตัวกับสิ่งที่ได้ยิน หลังจากนั้นจึงได้แต่ก้มหน้าฟังเงียบ ๆ ทำมัยวันนี้อะไรต่ออะไรมันถึงได้ยุ่งเหยิง วุ่นวาย จนในหัวเค้าแทบจะจับใจความสำคัญอะไรไม่ได้แบบนี้นะ ฮเยซอง: ...เพราะไม่งั้น ชินฮวา ก็จะเป็นตำนานที่จะไม่มีตัวตนอีกต่อไป เราต้องปิดมันลงแค่นั้น นั่นคือสิ่งที่เค้าสัญญาไว้กับพ่อแม่เค้า นายรู้ใช่มั้ย ตอนที่เราย้ายค่ายใหม่ ๆ อะไรมันก็ดูไม่เข้าที่เข้าทางซักอย่าง แต่นั้น เอริคดิ้นรนทุกทางเพื่อให้ชินฮวายังคงอยู่ เค้าเรยต้องทำสัญญานี้กับพ่อแม่เค้า ไม่งั้น นายคิดว่า นักธุรกิจใหญ่จะปล่อยให้ลูกชายเพียงคนเดียวของเค้าเป็นนักร้องอย่างนั้นเหรอ ฮเยซองเว้นระยะนิดนึง หยิบแก้ววิสกี้ขึ้นมาจิบ พลางมองสำรวจสีหน้าคนฟังอีกคน ที่ตอนนี้ ได้แต่นั่งสะอึกกับสิ่งใหม่ที่เพิ่งได้รู้วันนี้ แอนดี้ : หมายความว่า ถ้าพี่เอริคแต่งงาน พี่เอริคก้ยังคงร้องเพลงต่อไปได้ใช่มั้ยฮะ แต่ถ้าพี่เค้าไม่แต่งงาน พี่เค้าก้ต้องกลับไปทำงานให้พ่อเค้า อย่างนั้นเหรอฮะ ฮเยซอง : นายเข้าใจถูกแล้ว เพราะเมื่อก่อน เอริคเคยบอกกับครอบครัวของเค้าว่า เค้าจะไม่แต่งงานเด็ดขาด ชั้นคิดว่าเค้าคงหมายถึง... คือ ถ้าเค้ารักนาย การแต่งงาน มันก็คงดูไกลไป นายเข้าใจใช่มั้ย แอนดี้ : ความรัก กับ ความฝัน มันจะแทนกันได้ยังงัยล่ะฮะพี่ฮเยซอง ในเมื่อการเป็นนักร้อง เป็นสิ่งที่พี่ริคทุ่มเทมาตลอด ฮเยซอง : นั่นงัย ที่ชั้นบอกว่ามันคือปัญหา เอริคต้องเลือก ระหว่างรักษานาย และรักษาความฝันทั้งชีวิตของเค้าไว้ ซึ่งสำหรับเค้า มันก็คือสิ่งสำคัญทั้งคู่ แอนดี้ : ผมเข้าใจแล้ว ว่าทำมัยวันนั้น พี่เค้าถึงพูดเรื่องนั้น แอนดี้ : ผมต้องทำยังงัย ผมต้องทำยังงัยฮะพี่ฮเยซอง ฮเยซองขยับตัวอีกครั้ง ดึงแอนดี้เข้ามาไว้ในอ้อมกอด พลางลูบหลังเบา ๆ เป้นการปลอบโยนอีกคน ฮเยซอง : ชั้นรู้ว่าบางขณะนึงของชีวิตมันก็ยากแสนยาก เอริคเอง มันยังปล่อยเวลามาถึงตอนนี้ แต่ชั้นรู้ ว่าแม้นายจะเป้นทุกข์และทรมาณแค่ไหน แต่ทางที่นายเลือก มันคือทางทีถูกต้องที่สุด และชั้นก้รู้ด้วย ว่านายจะจัดการยังงัย ใช่มั้ย แอนดี้ยกมือขึ้นโอบรอบคอฮเยซอง ปล่อยน้ำตาที่กักเก็บไว้ให้ไหลรินอีกระรอก บัดนี้ในหัวเค้ามีแต่เรื่องยุ่งเหยิงที่ผูกโยงกันจนแกะไม่ออก (ว้า ทำมัยเศร้านักฟร้า เฮ้อ คนแอบฟังอย่างชั้นพลอยหลั่งน้ำตาไปด้วย ทำมัยความรักของคนสองคนถึงได้มีอุปสรรคขนาดนี้น๊อ ) RRRRRRRRRRRRRRRr แอนดี้คลายวงแขนที่โอบรอบคอฮเยซองออก เพราะเสียงทอสับที่ดังขึ้นมาของฮเยซอง ฮเยซอง : ครับ ยังอยู่ครับ ครับ ๆ ๆ (เสียงฮเยซองคุยกะปลายสาย) ฮเยซอง : นายรอชั้นแป๊บนะ เด๋วชั้นไปเอาเอกสารข้างหน้าแป๊บเดียว แอนดี้ได้แต่พยักหน้า ฮเยซองเดินเปิดประตูเดินคล้อยหลังออกไปด้านนอก อีกคนในห้อง ได้แต่ทรุดตัวลง อย่างคนหมดเรี่ยวแรง น้ำตาทำมัยมันไม่จางหายไปซะที แอนดี้ : ทำมัยนะ ทำมัยต้องเป็นแบบนี้ด้วย ผ่านไปชั่วขณะฮเยซองกลับมา เค้าพบว่าอีกคนได้แต่นอนนิ่งบนโซฟาตัวเดิม เหล้าในขวดพร่องลงไปเกือบก้นขวด ชั่วไม่ถึง15 นาที เค้าดื่มไปขนาดนี้เรยเหรอเนี๊ญะ แอนดี้ซึ่งตอนนี้แทบไม่ได้สติ ครึ่งหลับครึ่งตื่น อยู่ตรงนั้น พาลเอาสีหน้าเครียดอยู่แล้วของอีกคน ให้ต้องคิ้วขมวดมากไปกว่าเดิม ฮเยซองหย่อนตัวลงนั่งข้าง ๆ แอนดี้ ใช้มือลูบไปบนกลุ่มผมดำของแอนดี้อย่างเบามือ ฮเยซอง : นี่พี่ทำร้ายนายใช่มั้ย นายรู้มั้ย ตอนนี้พี่ก็แทบจะไม่ต่างจากนายเรย แกร๊กกกกกกกกกก (เสียงเปิดประตูเบา ๆ พร้อมด้วยใบหน้ายิ้มแป้นของใครอีกคน) จิน: พี่ฮะ ผมมาและ โทดทีช้าไปหน่อย อ่าว แอนดี้หลับและเหรอ ฮเยซอง : อืม ทำมัยช้านักวะ จิน : ที่กองถ่ายมีปัญหานิดหน่อยน่ะฮะ โธ่ อะไรฟร้า ช้านิดเดียวเอง เมาและได้ ไม่ไหวเรย ไอ่ไก่อ่อนเอ้ยยย (ประโยคหลังหันมาตะโกนด่าแอนดี้ซึ่งบัดนี้ไม่ได้รับรู้อะไรแล้ว ) ฮเยซอง : เบาหน่อยสิวะ มาและก็เอะอะเรย กิน ๆ เข้าไปเหอะ จะได้รีบกลับ พรุ่งนี้ชั้นต้องเดินทางด้วย จิน: อ่าว ไหงงั้น ผมเพิ่งมา จะกลับและเหรอ งั้นกลับ ไปดื่มบ้านพี่ก็ได้ ฮเยซอง : นี่นายจะนอนบ้านชั้นอีกเหรอ พ่อนายลืมหน้านายไปและมั้ง ป่านนี้ จิน : พี่ก็ อัปปาเค้ารู้แหละ ว่าผมไม่เหลวไหล น่า ไปนะ ฮเยซอง : งั้นเด๋วชั้นขับรถแอนดี้ ไปส่งแอนดี้ที่บ้านก่อน นายขับตามไป ชั้นไม่ได้เอารถมา ช่วยพยุงดิ จิน: เชฮะ สองวันเต็ม ๆ ที่ชั้นได้แต่นั่งมองแอนดี้ที่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ฮเยซองบินไปญี่ปุ่นแล้ว แต่ในทุก ๆ วัน เค้าก็จะโทรศัพท์มาคุยกับแอนดี้บ่อย ๆ จินนี่ที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับคนอื่น ก็ยังคงแปลกใจในอาการซึมเศร้าของน้องอย่างเห็นได้ชัด สองวันแล้ว ที่น้ำตาไม่เคยเหือดหายไปจากดวงตาคู่เศร้า ๆ คู่นี้ เค้าตื่นขึ้นมา นั่งนิ่งลงบนโซฟาตัวเดิม เสียงข้อความทางโทรศัพท์ที่ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า จากที่เมื่อก่อน เค้าแทบวิ่งสะดุดขาตัวเองเพื่อไปคว้ามันมาเพื่อเปิดอ่านอย่างอารมณ์ดี แต่ตอนนี้กลับไม่สนใจใยดี แอนดี้ ชั้นอยากจะช่วยเธอเหลือเกินนะ RRRRRRRRRRRRRRRRRRRRR มะเก้ไปหน้า 2 เห็นพี่ถามไว้ มันหนุกจริงๆน้าพี่ขา แบบว่า แต่งริคดี้ ได้เหมือนจริงดีจัง 555 ชอบๆค่ะ เลยอยากอ่านต่อไวๆ อยากรู้เรื่องรู้ราว พออ่านแล้วก็อยากรู้อีก อยากมากเรื่อยๆอยู่แบบนี้ 555 โดย: มาอีกสีกที IP: 125.24.252.38 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:22:17:22 น.
สาบานได้เรยจิง ๆ นะ ว่าก่อนแต่งเมื่อนานมาแล้วอ่ะ กะจะแต่งให้ดี้เป็นลูกของซองกะป๋า 555 พิศดารได้อีกชั้น
แต่มันเริ่มจะปกติและ เพราะเรื่องริคดี้ เป็นฟิคที่ปกติที่สุดของชินฮวา คู่นี้ใคร ๆ ก็ลุ้นนน โดย: พุดดิ้งของซอนโฮ วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:00:59 น.
^
^ โอ้ววว ก๊อดด พี่พุด เอาจริงเรอะ ให้ดี้เป็นลูก 2 คนนั้น มันคงฮาแตกเลยอะ แต่ว่า ไม่เอา ไม่เอาริคซอง จะริคดี้เท่านั้น ตลอดไป 5555 มาเข้าที่เรื่องฟิก แบบว่า อ่านแล้ว โหยยยย เอริคโอปป้า เท่ห์ไปไม๊ อ่านแล้วเหมือนเป็นเรื่องจริงเลยค่ะ อินๆๆๆ อ่านแล้วแบบ เฮ้ยยย เราเองก็เคยแอบคิดนะว่า 2 คนนี้อาจจะรักกันจริงๆก็ได้ แต่เพราะเป็นนักร้องดัง ทำให้ ต้องคิดแค่ว่าเป็นพี่น้อง 555 เฮซอง ตกลง คุณคิดยังไงกับดี้ชั้นค้าเนี้ยยยย แบบว่าชอบจัง ใครๆต่างก็รักและเอ็นดูดี้ มินวูโทรหาไคคะ ดองวาน? อยากรู้ๆๆ แล้วเวปที่ว่าคืออะไร? เอริคจะแต่งงาน? หรืออะไร โอ้ววว พี่พุด มาต่อด่วนๆเลยค้า พี่ ทำหนูค้างงงงง โดย: แฟนคลับฟิก อันดับ1 อิอิ IP: 125.25.151.96 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:53:06 น.
โฮ๊ยยยยยยยยย ฉากนี้ พี่มิน เท่ห์ไปเลยยยย เท่มากกกกกกกก โอ้ววว เอริคก็แอบเท่ห์ค่ะ กับฉากไปบอกเพื่อนว่าตัวเองรักแอนดี้ 555 อยากอ่านต่ออีก จังเลยค้า ปล. อ่านเอาฮาจริงๆฮับ มันไม่ใช่ความจริง มันเป็นแค่ สิ่งที่คนอ่าน จินตนาการอยากให้มีความจริงนิดนึง นิดนึง เท่านั้นจริงๆฮับ 555 โดย: เม้นๆๆๆ IP: 125.25.151.96 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:24:13 น.
แง๊ ๆ ๆ แต่งได้ตั้งเยอะและ ไฟดันดับ ตรูยังไม่ได้เซฟเรยนะ พิมว่างัยไปบ้างกะไม่รู้ เฮ้อ เซงจิต
โดย: พุดดิ้งของซอนโฮ วันที่: 2 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:02:11 น.
มินมิน..เท่ห์ได้ใจจริงๆ
ฟิคน้องพุดไม่จริงแต่โดนใจ5555 (ก็น้องพุดบอกว่าคิดเองแต่งเอง... แต่บังเอิญโดนใจ..บรรนานุแฟน ริคดี้ 4ever) โดย: piyawan IP: 118.172.244.51 วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:21:42:33 น.
|
บทความทั้งหมด
|
(วันนี้มาดึก เพิ่งกลับมาฮับ แต่ก็ยังมาเช็คทุกวัน แล้วได้อ่านทุกวัน อารมดี ลั่นล้าเลยค้า อิอิ)
ตอนแรกที่อ่าน นึกว่าพี่พุดเล่นมุก ตรงนี้อะค่ะ
ฮเยซอง: เป็นงัยมั่ง ไม่เจอกันเรยเราน่ะ
แอนดี้: ผมยุ่งๆ น่ะฮะ
555 อ่านแล้วนึกว่าดี้บอกว่า ตอนนี้ ผม ยุ่ง อยู่ หมายถึง ผมเสียทรงน่ะค่ะ 5555
อ่านไปแล้วก็รอลุ้น เพราะทุกวันนี้อ่านแล้วสงสัยว่า เฮซองคิดไงกะริค
แต่ว่า อ่านเพลินๆ แบบว่า มันเบรคกะทันหัน
พี่พุดใจร้ายยยย
ทำไมจบแค่นี้อะค้าา อยากรู้คำตอบของดี้อ้าา บอกมาน้าๆๆๆๆๆ