Make a plan to love me (รักนี้ มีแผน 2) #3




Make a plan to love me (รักนี้ มีแผน 2)


....3... ผิดแผน!!!


หลังจากกินข้าวเรียบร้อย ได้เวลาจอนจินทำตามแผนที่เตรียมไว้อย่างดี ดูเค้าจะตื่นเต้นกว่าปกตินิดหน่อย “เอาน่า แค่ดูหนังผี เดี๋ยวทุกอย่างก็เรียบร้อยเอง” นึกได้ดังนั้น ก็ เริ่มลุย ณ บัดนาว

“แอนดี้ ๆ ๆ มาดูหนังกัน”

“หนังไรฮะพี่” แอนดี้เดินกัดแตงโมปากเคี้ยวตุ้ย ๆ หย่นตัวลงนั่งข้าง ๆ จอนจิน เห็นแอนดี้เป็นงั้น จอนจินนึกอยากตัดแผนเรื่องดูหนังออก แล้วจัดการรวบรัดตัดตอนมันตรงนี้ซะจริง ๆ สวรรค์ก็เป็นใจให้เฮซองไม่อยู่ซะด้วย แต่เอาน่ะ เรื่องแบบนี้ มันต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป เร็วไปเดี๋ยวไก่ตื่นหมด

“หนังผีน่ะ ชั้นเช่ามาวันนี้”

“พี่ชอบดูหนังประเภทนี้เหรอ”

“อืม ชอบมาก มันตื่นเต้นดี”

“เหรอ ผมออกจะไม่ชอบ พี่ซองกี้สิ ชอบดู แต่ดันกลัวผี ฮ่ะ ๆ ”

แล้วมันก็ผิดแผนไปนิด (อีกแล้ว) ระหว่างหนังฉาย จอนจินเองที่ตั้งใจแต่แรกว่าจะมองเลยจอไปยังกำแพงด้านหลัง แต่ตาไม่วายมองภาพบนหน้าจอจนได้ กลัวก็กลัวจนเผลอหลับตาปี๋ สะดุ้งสุดตัวไปอีกกี่ครั้งก็นับไม่ถ้วน ส่วนเจ้าตัวเล็กด้านข้าง ไร้ซึ่งปฏิกิริยาอะไรทั้งนั้น จนกระทั่งหนังจบ

“ไหนว่าไม่กลัวงัย นั่งปิดตาทั้งเรื่องเรยอ่ะ พี่จิน”

“แหะ ๆ ๆ ก็เรื่องนี้มันน่ากลัวนี่น่า คืนนี้จะนอนหลับมั้ยเนี๊ยะ”

“เล่นเกมส์ดีกว่าพี่ เด๋วก็ง่วง จะได้ลืม ๆ ”

“อืม ๆ เด๋วนะ ไปห้องน้ำแป๊บ”

....
...
“ฮัลโหล พี่ ๆ ๆ”

(คราวนี้อะไรอีกล่ะ ชั้นกะลังยุ่งนาเฟ้ย)

“ไม่ได้ผลอ่ะพี่ เค้าไม่กลัวซักนิด”

(ไม่กลัวอะไร)

“ก็แผนดูหนังผีของพี่นั่นแหละ กลายเป็นผมกลัวซะเอง - -“

(กำ นายเนี๊ยะ ทำมัยไม่เอาสมองไอ่ริคมาซักครึ่งวะ เค้าให้มาเกิด ก็หยิบขี้เลื่อยจุกหัวมาเรยรึงัย)

“พี่อ่ะ ..ผมมีพี่อยู่ทั้งคน ผมจะคิดเองทำไมให้เหนื่อยเล่า”

( เออ ๆ ๆ ทีแถล่ะเก่งเชียว ไว้ก่อนละกัน ค่อยคิด คืนนี้ชั้นยุ่งอยู่ แค่นี้นะ)
…
..
.
“เฮ้อ ~ โธ่ ทำมัยฟ้าไม่เป็นใจเรยวุ้ย คนหล่อเซ็ง”


..
......

ภายในบาร์หรูแห่งหนึ่ง

“อืม มันอาจจะเกิดจากอาการตกใจสุดขีด ช็อค หรืออะไรประมาณนั้นแหละ”

“นี่ ไอ่วานนี่ แกเป็นหมอนะ อย่าเดาสิ”

“ไม่ได้เรียกเดาโว้ย นี่มันคือความน่าจะเป็น”

“ตกใจสุดขีด จนทำให้ความจำหายไปเลยงั้นเหรอ”

“อืม นายบอกว่าเค้าเรียกนายว่าออมม่างั้นเหรอ”

“ช่าย พอเค้าลืมตาขึ้นมา เค้าก็มองหน้าชั้น แล้วเค้าก็เรียกชั้นว่าออมม่า”

“หึ ห ฮ่ะฮ่า ๆ ๆ”

“หัวเราะอะไรวะ”

“ก็ขำมั้ยเล่า ออมม่าผู้ชาย กะลูกตัวยักษ์ นายคลอดเค้ามายังงัยวะ”
…
..
สายตาที่เฮซองส่งให้ ทำให้ดงวานต้องปิดปากลงแต่โดยดี

“ใช่เวลาเล่นมั้ยเนี๊ยะ”

ดงวานเงียบซักครู่ ก่อนจะทำตาโตเมื่อนึกถึงอะไรบางอย่างออกมาได้

“ลูกเป็ดน่ะ เวลาที่มันเกิดมา มันเจอใครหรืออะไรเป็นอย่างแรก ก็พาลนึกว่าสิ่งที่มันเห็น คือแม่มัน แล้วมันก็จะตามเจ้าตัวนั้น หรืออะไรที่มันเห็นว่าเป็นแม่มันนั่นแหละ ตามไปทุกหนทุกแห่ง นายเคยได้ยินมั้ย”

“อืม ก็เคย แล้วเกี่ยวไรกะเรื่องนี้วะ หมอนั่นมันเป็นคนนะ ไม่ใช่ลูกเป็ด”

“ก็กรณีนี้มันคล้ายกัน แต่ไม่ยักกะเคยได้ยิน ว่าคนที่ช็อคสุดขีด ลืมตาขึ้นมา แล้วจะคิดเอาว่าคน ๆ แรกที่เค้าเห็นเป็นแม่เค้า มันออกจะประหลาดไปหน่อย ความจริง ถ้าชั้นได้เจอเค้า คุยกะเค้า มันน่าจะดีกว่านี้”

“ก็มะวานพาไปแล้วนี่ นายดันไม่ว่างเอง”

“เอาน่า วันหลังยังมี ดื่ม ๆ ดึกและ จะรีบกลับ”

“เออ ทิ้งแอนดี้ไว้กะหมอนั่นด้วย ไม่รู้เป็นงัยมั่งและ”

“นี่ ๆ ๆ ไอ่ซองกี้ สาวโต๊ะโน้นมองแกตาเป็นมันเลย ชั้นสังเกตมานานและ” ดงวานสะกิดให้เพื่อนมองตามโต๊ะตรงข้ามที่มีสาวสายนั่งกันเต็มโต๊ะ และหันมาทางเค้าแต่ละคนส่งยิ้มยั่วยวนชวนสยอง

“ก็ชั้นหล่อนี่หว่า ช่วยไม่ได้”

“แหม ๆ ก็เล่นล่อซะสูทเต็มยศ ใคร ๆ มันก็อยากเอี้ยว”

“ไปงานเลี้ยงของลูกค้ามา จะให้ชั้นใส่เสื้อยืดเกงยีนส์รึงัย กลับกันเหอะ”

“แกนี่ ถ้ารสนิยมเรื่องผู้หญิงไม่สูงปรี๊ด ชั้นคงคิดเอาว่าแกไม่สนใจผู้หญิงนะเนี๊ยะ”

“ไอ่ดงวาน ปากเหรอนั่น”

….
..
“ฮ้าวววววววววววววว~~~”

“เป็นไรอ่ะแอนดี้ มะคืนนอนไม่หลับเหรอ ตาปรือมาเชียว” เฮซองทักน้องชายตัวเองที่เดินงัวเงียเมาขี้ตาเข้ามาจนเกือบชนเอาขอบประตูครัวเข้าแล้ว”

“ก็นิดหน่อยน่ะฮะ มะคืนเล่นเกมส์กะพี่จินรอพี่กลับมาซะดึกเลย แล้ววันนี้ฝึกงานวันแรกด้วย ผมไม่อยากไปเลยอ่ะ”

“อ่าว ทำมัยอ่ะ มา ๆ มากินไรก่อน”

“พี่รู้ป่ะ บริษัทที่ผมฝึกงานอ่ะ ประธานกรรมการ ยังหนุ่ม แถมหล่อมากด้วย เสียแต่ว่า นิสัยแย่ไปหน่อย เค้าให้ผมไปเป็นผู้ช่วยเค้า”

“ก็ดีนี่ รู้ป่ะ คนหนุ่ม ๆ มักไฟแรง เหมือนชั้นงัย นายจะได้เก่ง ๆ ไม่ชอบเหรอ”

“ก็ไม่รู้สิฮะ เค้าดูน่ากลัวยังไงไม่รู้ ข่าวว่าเป็นลูกของเจ้าของบริษัทด้วย ถึงว่าจิ ยังหนุ่มอยู่แท้ ๆ แต่ตำแหน่งใหญ่โต”

“อ่าว!! ทำมัยพูดงี้ล่ะ ดูพี่ชายนายสิ เค้าอาจจะเก่งเหมือนพี่ก็ได้ ถึงจะเป็นเจ้าของแต่หากว่าไม่มีฝีมือ ใครมันจะยอมรับให้บริหารงานเล่า”

“นั่นสิฮะ อาจจะจริง แต่เพื่อนคนอื่น เค้าก็ฝึกงานกันปกติ ทำมัยต้องเป็นผมด้วยน๊า เฮ้อ!”

“เอาน๊า คิดมาก ยังไม่มีอะไรซะหน่อยก็กลัวไปได้ โตแล้วนะเราน่ะ” เฮซองเอื้อมมือมาลูบผมแอนดี้เบา ๆ พร้อมยิ้มให้กำลังใจ

“สงสัยจอนจินตื่นบ่ายแน่เลย ปกติก็สายอยู่แล้ว”

“ผมว่ามีพี่จินนี่ก็ดีนะฮะ สนุกดี ผมมีเพื่อนเล่นเกมส์ทุกคืนเลย”

“แต่เค้าก็ต้องมีบ้าน มีครอบครัวของเค้านะแอนดี้ อย่าลืมสิ เค้าไม่ได้เป็นอะไรกะเรา อย่าทำตัวให้ชินที่ต้องมีเค้าอยู่ล่ะ เพราะซักวัน เค้าก็ต้องไป”

“ผมรู้แหละฮะพี่ ว่าแต่วันนี้ ขนงานมาบ้านอีกและเหรอ”

“อืม ก็ต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว”

“เหนื่อยหน่อยนะฮะพี่”

“ไม่เป็นไรหรอก นายไปเหอะ เดี๋ยวสาย ออ! ชั้นไปส่งนายไม่ได้ช่วงนี้ อยากขับรถไปเองมั้ย ”

“ยังไม่ดีกว่า นั่งแท็กซี่ก็สบายดี งั้นผมไปนะฮะ”

…
..

วันแรกของการฝึกงานกะเจ้านายหน้าดุของแอนดี้ ทำเอาเค้าเกร็งนิดหน่อย เครื่องปรับอากาศมันร้อนไปหรือเปล่าเนี๊ยะ ทำมัยเหงื่อมันแตกได้วะ เสียวสันหลังวาบเหมือน ๆ ว่ากะลังโดนจับตามองอยู่ทุกนาทีนั่นและ

“แอนดี้ รายงานการประชุมแค่ไม่กี่แผ่น นายทำมาวันเต็ม ๆ และนะนั่น”

“ขอโทษฮะ ผมพิมพ์ไม่เก่งน่ะ”

“ไม่เก่งก็ต้องฝึกให้เก่ง สงสัยชั้นต้องเอารายงานการตลาดมาให้นายพิมพ์อีกซักแฟ้มล่ะมั้ง”

เอริคนั่งมองหน้าอีกคนที่ตอนนี้คิ้วขมวดกันให้ยุ่ง ปกติ รายงานการประชุมน่ะ มีคนพิมพ์ให้เรียบร้อยแล้ว แต่เค้าก็แค่ต้องการแกล้งคนบางคนเล่น เวลาแอนดี้หน้าตาเคร่งเครียดนี่ ก็ตลกไปอีกแบบเหมือนกันนะ

ก๊อก ๆ ๆ

เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้น ดึงให้สายตาเอริคละออกจากใบหน้าใส ๆ นั่นได้ซะที

“เชิญ” เสียงทุ้ม ๆ ตามสไตร์ของเค้าล่ะ

“ว่างัยมินอู”

“ชั้นจะออกไปข้างนอกน่ะ แล้วจะกลับเลย”

“แล้วมาบอกชั้นทำมัยวะ”

“ก็เผื่อนายจะหายตัวเข้าไปในห้องชั้น มาบอกไว้ก่อน เดี๋ยวจะหาว่าหายหัว หวัดดีแอนดี้”

ประโยคหลังมินอูหันมาทักทายอีกคนในห้อง

“สวัสดีครับ” แอนดี้ได้แค่ยิ้มๆ พลางโค้งทำความเคารพ

“เหนื่อยหน่อยนะแอนดี้ ได้ตาหน้าโหดคนนี้เป็นเจ้านายน่ะ” แอนดี้หลุดหัวเราะคิกคัก ทำให้เอริคตีสีหน้าขรึมเข้าไปใหญ่

“จะไปดีๆ หรือต้องให้ชั้นช่วยถีบออกไป ห๋า ไอ่มิน”

“เออ ๆ ไปและ” มินอูทำท่าผลักประตูออกไป

“เดี๋ยว ๆ ๆ ถ้าแกเจอน้องชายชั้น บอกด้วยว่า ชั้นอยากเจอ มันไม่ยอมรับโทรศัพท์ชั้นเลย”

“อืม ถ้าเจอและจะบอกให้”

..

.

เวลาผ่านไปอีกนานที่แอนดี้เอาแต่จิ้มดีด จิ้มดีด เอริคเองก็เงยหน้าขึ้นมองอีกคนเป็นระยะ ๆ เหมือนนั่งมองแจกันดอกไม้สวย ๆ ซักช่อเพื่อพักสายตางั้นแหละ เมื่อมองจนพอใจ ก็ก้มหน้าลงทำงานต่อ
...

..
.

“พอเหอะแอนดี้ เก็บของซะ ไปหาไรกินดีกว่า วันนี้ชั้นจะเลี้ยงข้าวนาย ถือเป็นการเลี้ยงต้อนรับ”

“ขอโทษนะฮะ ผมทำให้งานพี่เอริคช้าลงไปอีก”

“ไม่เป็นไรหรอก แค่รายงานการประชุม ไปเหอะ เดี๋ยวนายกลับบ้านช้า คนที่บ้านจะเป็นห่วง”

((แหม บทจะอ่อนโยนแบบนี้ ก็เท่ส์ไม่เบานี่หว่า แล้วทำมัยชอบทำเสียงดุหน้าขรึมอยู่เรื่อยด้วยวะ แอนดี้ได้แต่คิดในใจ))

“นั่งยิ้มไรอ่ะแอนดี้ เก็บของเร็ว ๆ สิ”

“ฮะ ๆ” น่าน เพิ่งชมไปหยก ๆ



….
…
.



“นายออกมาได้งัยเนี๊ย”

“ก็บอกพี่ของแอนดี้ว่ามาเดินเล่น เผื่อจะทำให้นึกไรออกมั่ง”

“เค้าสงสัยอะไรมั้ย”

“ไม่หรอก พี่เค้าก็แค่กำลังขะมักเขม้นกะการฟื้นความจำของผมอยู่”

“แล้วเป็นงัย ไปอยู่บ้านเค้าตั้ง 2-3 วันและ” มินอูพิงเก้าอี้สบาย ๆ หยิบเบียร์ขึ้นจิบ เค้าชวนจอนจินสนทนาไปเรื่อย แต่สายตากลับกวาดมองรอบตัวตลอดเวลา ไม่ยักจะมีผู้หญิงน่ารักซักคนในรัศมี

“ไม่มีอะไรเลย ผมแทบไม่ได้เจอหน้าแอนดี้ด้วยซ้ำ อยู่แต่กะพี่ชายเค้าทั้งวัน”

“คือ ชั้นจะบอกนายว่า แอนดี้น่ะ ตอนนี้ฝึกงานที่บริษัทของนาย”

“หืม บริษัทของผมที่ไหน ของพี่ริคเค้าต่างหาก .... ห๋า !! พี่ว่างัยนะ” เสียงตกใจอันดังของจอนจิน ทำให้มินอูแทบสำลักเบียร์

“นายกะริคนี่ ยกเว้นเรื่องฉลาด นอกนั้นดูจะเหมือนกันทุกอย่างจริงๆ นะ ชอบเอะอะโวยวายทำเสียงดังอยู่เรื่อย”

“แอนดี้น่ะเหรอ ฝึกงานที่บริษัท”

“ช่าย แต่ว่าแอนดี้เดียวกันป่ะ ไม่รู้นาเฟ้ย”

“ทำงัยล่ะเนี๊ยะ งั้นผมเข้าไปทำงานกะพี่ริคดีกว่า ดีมั้ยพี่”

“จะบ้าเหรอ ไปอยู่บ้านเค้า จู่ ๆ จะออกมา แล้วไปทำงานที่บริษัท จะบอกเค้าว่างัยอ่ะ ใจเย็น ๆ ดิ ค่อย ๆ คิด”

“เฮ้อ ! อุตส่าห์คิดแผนเข้าไปอยู่ในบ้านเค้าแทบตาย ลงทุนให้เค้าขับรถชน แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย”

“ไม่ได้อะไรได้งัยวะ นายได้นอนใต้หลังคาเดียวกะเค้าเชียวนา”

“อืม ก็จริงเนอะ ว่าแต่ว่า พี่ริครู้ป่ะฮะ”

“น่าจะรู้นะ เห็นพี่ชายนายจับตาแอนดี้ตลอดเวลาเลย แต่ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องห่วง”
..

.

มินอูนิ่งมองหน้าจอนจิน แม้จะได้ชื่อว่าเป็นน้องชายเพื่อน แต่จินก็เปรียบเสมือนน้องชายเค้าคนนึงเหมือนกัน ก็เล่นกันมาแต่เด็ก แถมจินนี่ยังออกจะติดมินอูแจมากกว่าพี่ชายตัวเองซะอีก อาจเป็นเพราะเอริคชอบดุน้อง แต่มินอูชอบโอ๋น้องมากกว่าละมั้ง

“ชั้นถามหน่อย นายชอบแอนดี้จริงๆ เหรอจินนี่” คำถามของมินอูทำเอาผู้เป็นน้องต้องเลิ่กคิ้ว

“อ่าว พี่ก็ ไม่ชอบและจะลงทุนขนาดนี้ทำมัยอ่ะ”

“อืม นั่นสิ ความรักนี่มีอิทธิพลรุนแรงจริงๆ นะ ......พี่ชายนายเค้าฝากมาบอกว่า อยากเจอ โทรไปนายก็ไม่รับ”

“จะเปิดโทรศัพท์ได้งัยฮะ แอบโทรศัพท์ไว้ เปิดเฉพาะตอนโทรหาพี่เท่านั้นแหละ ฝากบอกพี่เค้าว่าไม่ต้องห่วงนะฮะ ผมสบายดี”

“เออ ว่าง ๆ ก็นัดเจอแล้วก็คุยกะมันด้วย มันเป็นห่วงนายน่ะ”

“อืม ผมกลับดีกว่า เด๋วพี่เค้าสงสัย”

“ดูแลตัวเองด้วยนะจินนี่”

“โอเค ฝากจ่ายค่าเบียร์ด้วยล่ะพี่มินอู แล้วจะโทรหานะฮะ”
..
“อ่าว แม่ง รวยก็รวยกว่า ยังจะเบียดเบียนชั้นอีก”


..
.
จอนจินเดินผิวปากอย่างสบายใจจากหน้าปากซอยมาจนกระทั่งถึงรั้วบ้าน ก่อนจะผลักประตูเข้าไป ไม่ลืมที่จะปรับสีหน้าและท่าทางให้นิ่งเรียบ

ภายในบ้านเงียบ เหมือนแอนดี้จะยังไม่กลับ มีเพียงด้านหลังของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นออมม่าของเค้า กะลังนั่งดูทีวี จอนจินนึกสนุก จึงเดินย่อง ๆ ๆ อย่างเงียบกริบ หมายจะทำให้ผู้เป็นออมม่าตกใจเล่น

“ออมม่า~~~~~”

“เย้ยยยย!!!!” เฮซองสะดุ้งสุดตัว ทำให้ป๊อบคอนที่ถือในมือหล่นไปกว่าครึ่ง

“จอนจิน ตกใจหมด จะบ้าเหรอ”

“ออมม่าดูไรอยู่อ่ะ”

“หนังน่ะ ไม่รู้ใครวางไว้ ทีหลังอย่าเล่นแบบนี้นะ หัวใจจะวาย”

“ออ หนังผีน่ะเหรอ” จอนจินก้มลงเก็บ ๆ ป๊อบคอร์นที่ตกตามพื้น บางอันก็หยิบมาใส่ปากซะงั้น ทำเอาอีกคนต้องนิ่วหน้า

“นี่ มันตกพื้นแล้ว ยังจะกินอีกเหรอ”

“แหะ ๆ เชื้อโรคยังไม่ทันไหวตัว” พูดพลางยิ้มหน้าทะเล้นอีก นิสัยแบบนี้ คาดว่าคงได้รับมาจากมินอูเต็ม ๆ

“นั่งดูเป็นเพื่อนหน่อยสิ ดูคนเดียว น่ากลัว”

“โห ไม่เห็นจะน่ากลัวเรย ออมม่าน่ะ ขวัญอ่อน” ว่าแล้วจินก็หย่นก้นลงนั่งข้าง ๆ คว้าป๊อบคอร์นในมือเฮซองมาจุกปากตัวเอง ก็จะให้กลัวได้งัยล่ะ เรื่องนี้เค้าดูไปแล้วรอบนึงมะวานกะแอนดี้ ผีออกตอนไหน แทบจะรู้หมด ความตื่นเต้นน่ะ มันหมดลงไปมะวานแล้วต่างหาก แต่อีกคนนึงไม่ใช่ เฮซองเหมือนจะกลัวจริง ๆ นั่นแหละ เด๋วก็สะดุ้ง เด๋วก็ร้องเสียงหลง จอนจินได้แต่มองอย่างนึกขำ

“เดี๋ยวคอยดูฉากในถ้ำนะออมม่า” ก็ฉากนี้แหละ ที่มะวานเค้าตกใจจนแทบจะหล่นจากโซฟา ทำเอาแอนดี้ขำไม่หยุด ขายหน้าชะมัด แต่รอดูอาการเฮซองถ้าจะหนักกว่า ตื่นเต้นชะมัด คอยดูนะ เด๋วจะหัวเราะให้บ้านสะเทือนเรย เฮซองที่ปกติดุ ๆ หรือนิ่ง ๆ เวลาจะตกใจจะเป็นงัยนะ จินคิดในใจพลางเก็บกลั้นยิ้มของตัวเองไว้

..3-
..2-
..1-

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” เป็นดังคาด ไม่ใช่สิ ผิดคาดไปนิดหน่อย ฉากนี้มันต้องอยู่ในแผนเค้าสิ แผนที่แอนดี้ตกใจสุดขีด และโผเข้ากอดเค้า แต่ไหงกลับกลายเป็นตอนนี้ เฮซองดันมาซุกอยู่ในอกเค้าได้เนี๊ยะ
ความเงียบวิ่งแล่นเข้ามาอยู่กะทั้งคู่ได้ซักแป๊บ ก่อนที่เฮซองจะทันรู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองกอดจอนจินอยู่ซะแน่น และทันทีที่เริ่มรู้สึกตัว เค้าก็ผละตัวเองออกอย่างเก้ ๆ กัง ๆ

“ออมม่ากลัวจริง ๆ เหรอ ดูสิ หน้าแดงหมดและ”

“ก็มันน่ากลัวนี่น่า นายดูแล้วทำมัยไม่บอกชั้น ว่าในถ้ำผีมันจะโผล่มาอ่ะ”

“อ่าว บอกก็ไม่หนุกอ่ะจิ … ”

((บ้าชะมัด ทำมัยตกใจแล้วต้องโผเข้ากอดจินมันด้วยวะ ขายหน้าจริง ๆ ))

..

..

“ออมม่า ๆ ๆ เป็นไรไปอ่ะ เงียบทำมัย”

“เอ่อ !! ....ชั้นว่ากว่าแอนดี้จะกลับคงอีกนาน เรากินข้าวกันก่อนเลยดีกว่า”

“ออมม่าไม่ดูแล้วเหรอ”

“ไม่แล้ว ไม่เห็นจะหนุกเลย” ว่าแล้วก็ลุกจากโซฟาเดินไปเลย

จอนจินมองตามร่างบางที่เดินหายไปในครัวพลางนึกขำ หน้าตาเฮซองตะกี๊ ตลกชะมัด ว่าไป พี่ชายแอนดี้คนนี้ ก็ชวนมองไม่หยอกเหมือนกัน แอนดี้ที่ดูจะน่ารักมาก แต่เฮซองกลับไม่ใช่ เค้าดูสวยเฉี่ยว แม้จะสูงโปร่งสมชาย แต่ปากบาง และรูปหน้าที่ติดดูจะเหมือนผู้หญิง มันก็ทำให้เค้าดูต่างจากผู้ชายทั่ว ๆ ไป โดยเฉพาะตอนที่เขินหน้าแดง ทำอะไรไม่ถูกเมื่อกี้ .. เอ๊ะ นี่เค้าคิดอะไรอยู่เนี๊ยะ

“จอนจิน นายจะไม่กินข้าวใช่มั้ย” เสียงตะโกนดังมาจากครัว ทำให้ความคิดอะไรต่าง ๆ เป็นอันต้องหยุดไว้เพียงแค่นั้น

“กินคร้าบบบ ออมม่า”

....

..

รถสีดำคันหรู แล่นเข้ามาจอดสนิทยังบริเวณโรงแรมใหญ่ ก่อนคนขับจะพยักหน้าให้ผู้โดยสารด้านข้างลงจากรถ

“ไม่เห็นจะต้องพามากินที่โรงแรมเลยฮะ”

“ ชั้นชอบบรรยากาศที่นี่ ทำไมเหรอไม่ดีรึงัย”

“ดีมันก็ดีหรอก แต่แค่พาเด็กฝึกงานมาเลี้ยงข้าว เอาตรงใกล้ๆ บริษัทก็ได้นิฮะ”

“นายนี่ ปกติบ่นมากอย่างนี้ประจำรึเปล่า ชั้นว่างัยก็ทำตามนั้นเหอะ ...เดินสิ หรือจะยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคืน”

แอนดี้ได้แต่ก้มหน้าเดินตามคนร่างสูง ปากก็บ่นพึมพำกับตัวเองไปตลอดทาง

ระหว่างมื้ออาหารสุดหรู แอนดี้ก็ได้แต่เพลินกับบรรยากาศและรสชาติอาหารจนลืมความขุ่นมัวไปได้จนหมด คนร่วมโต๊ะก็ดูจะพอใจกะปฏิกิริยานี้เป็นอย่างยิ่ง

“เป็นงัย กินซะเงียบ ไม่พูดไม่จาเลย”

“แหะๆ ๆ อร่อยมากเลยฮะพี่ ผมทานจนเพลินไปหน่อย”

“เห็นมั้ย บอกแล้วว่าอาหารอร่อย” พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นมุมปากของแอนดี้ ที่บัดนี้มีรอยแดงจากซอสติดอยู่ เค้าได้แต่ยิ้มนิด ๆ ในนิสัยที่เหมือนเด็กของอีกฝ่าย

“...”

“โตแล้วนะเราน่ะ ยังจะกินเลอะเทอะเหมือนเด็กอีกเหรอ ยื่นหน้ามา เดี๋ยวจะเช็ดให้”

เอริคหยิบผ้าเช็ดปากของตัวเองทำท่าจะโน้มตัวไปหาคนข้างหน้า

“ไม่เป็นไรฮะ เดี๋ยวผมจัดการเอง”

“นี่ ทำมัยถึงชอบเถียง ชอบขัดอยู่เรื่อยนะ ชั้นว่ายังงัยก็อย่างนั้นซักเรื่องไม่ได้หรืองัย”

แล้วแอนดี้ก็มีอันต้องนั่งหน้างอแก้มอมลมอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้อีกคน เอื้อมมือมาเช็ดรอยเลอะตรงมุมปากให้

“ก็แค่นี้แหละ”
..

.
“เอาอะไรอีกมั้ย ของหวานมั้ย”

“ไม่ฮะ ขอบคุณ” ดูท่าว่าแอนดี้จะยังไม่หายโกรธ

“ผมว่ากลับกันดีกว่าฮะ ดึกมากแล้วด้วย”

“อืม เดี๋ยวชั้นไปส่ง”

“ไม่เป็นไรฮะ นั่งแท็กซี่ไปก็ได้”

“นี่ รู้สึกว่าชั้นเพิ่งบอกนายไป ว่าอย่าเถียงอย่าขัดไม่ใช่เหรอ”

“ก็...”

“พอและ ไม่ต้องพูดแล้ว”


ทันทีที่รถสีดำคันเดิม จอดยังหน้าประตูรั้วบ้านแอนดี้ เอริคก็สอดส่ายสายตาไปทั่ว หวังว่าจะเจอผู้เป็นน้องชายตัวเอง แต่ก็เปล่า ประตูถูกกดรีโมทจากด้านในให้เปิด ไม่มีเงาใครซักคนที่เหมือนน้องชายเค้าเลย

“ขอบคุณพี่เอริคมากฮะ สำหรับอาหาร และขอบคุณที่มาส่ง”

“อืม ไม่เป็นไร เจอกันพรุ่งนี้นะ”

รถคันนั้นลับตาไปแล้ว แอนดี้ยังคงยืนมองอย่างไม่เข้าใจ

“อะไรวะ เอาแต่ว่า ว่า ว่า ใครไปทำอะไรให้ไม่พอใจรึก็เปล่า สงสัยจะโรคจิต”

ว่าแล้วก็ส่ายหัว ถอนหายใจอีกที ก่อนเดินดุ่มๆ เข้าบ้านไป








Create Date : 01 สิงหาคม 2551
Last Update : 1 สิงหาคม 2551 21:19:17 น.
Counter : 742 Pageviews.

9 comments
เวลวที่หายไป - บทที่ 26 ดอยสะเก็ด
(11 เม.ย. 2567 11:44:44 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 31 : กะว่าก๋า
(9 เม.ย. 2567 05:58:44 น.)
๏ ... เสียดายเงิน ค่าจ้างด่า ... ๏ นกโก๊ก
(9 เม.ย. 2567 21:03:39 น.)
ใครบ้าง ตอบได้ ว่าทำไมรถไฟฟ้าสายสีเหลือง 28มี.ค ถึงวันนี้9เม.ย.67ยังจอดคา ไว้กลางทางอยู่ jiab bangkok
(9 เม.ย. 2567 11:52:33 น.)
  
ฮ่าๆๆๆ มาเปนคนแรกอีกแล้ววุ๊ย

เด๋วเงยหน้าขึ้นไปอ่านก่องน๊า
โดย: ทอมมี่ IP: 124.120.243.69 วันที่: 1 สิงหาคม 2551 เวลา:21:14:10 น.
  
มาอีกรอบหลังจากอ่านจบ เหอๆ

จอนจินก้มลงเก็บ ๆ ป๊อบคอร์นที่ตกตามพื้น บางอันก็หยิบมาใส่ปากซะงั้น ทำเอาอีกคนต้องนิ่วหน้า // ฮ่าๆๆ ตะกละจิงๆเลยวุ๊ย มันรวยจิงรึอดอยากวะฮะพุดดี้ (เอานิสัยจิงมาใช้เลยน๊าอิหอยเอ้ย)


เฮซองดันมาซุกอยู่ในอกเค้าได้เนี๊ยะ//อ๊ากกกกกก ออมม่าเริ่มก่อนด้วยอ่ะ เหอๆๆ


เอ๊ะ นี่เค้าคิดอะไรอยู่เนี๊ยะ//คิดลามกจิแก ทำเปนไม่รู้
โดย: Tom & Jinny วันที่: 1 สิงหาคม 2551 เวลา:22:23:52 น.
  
หนังผี... แหมๆๆอ่อมม่าก้า.. ชอบนะค่ะแต่กลัว มันยังไงกาน ฮ่าฮาๆๆ กอดซะแน่นเลย ได้ข่าวว่าเข้าครัวไปเนี่ยกลบเกลือนนิค่ะ อิอิ ว๊าวๆๆ จินนี่ชักมีจิ้นมากมาย... หนูมารอลุ้นครอบครัวนกเลยนะค่ะพี่พุดข๋า...... หนูรออ่านนะค่ะ..


ปล. ส่วนดี้นะค่ะ เสร็จป๋าแน่นอน ฟันธง ฮ่าฮาๆๆ โหดนะค่ะป๋า แอบน่ากลัว (หรือเปล่าค่ะ) อิอิ
โดย: praery_za IP: 58.10.170.204 วันที่: 1 สิงหาคม 2551 เวลา:23:47:25 น.
  
เอ๋ติดแล้วค่ะพี่พุดT^T

ม่ายต้องอ่านหนังสือสอบแร้วค่ะ
อ่านฟิคพี่พุด อย่างเดวววว 555
โดย: sushilanla IP: 58.9.14.216 วันที่: 1 สิงหาคม 2551 เวลา:23:49:54 น.
  
พี่หอยผิดแผน อิอิ

ต้องเอามุกหนังผีไปใช้สะบ้างแร้ววว

หนุกอ้ะพี่พุด อ่านแล้วจินตามเลือดกระฉูด
โดย: เจ้านิ วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:0:37:47 น.
  
น้องพุดฮะ

please รีบแปะตอนต่อไปด้วยเหอะ..

พี่จาลงแดงแว๊ว...
โดย: จิ๋วจิน IP: 117.47.165.119 วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:12:13:03 น.
  
อิอิ......เช็ดซอสๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


กิกิ
โดย: A (powergaru ) วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:15:23:29 น.
  
คู่ครอบครัวนกนี่น่ารักดีไปอีกแบบ
อ่านแล้วอมยิ้มไปด้วยเลยค่ะพี่พุด ^^
โดย: keiropi IP: 125.26.125.124 วันที่: 7 สิงหาคม 2551 เวลา:2:00:39 น.
  
น้องพุด..พี่อยากให้แมวน้ำออกเยอะๆ
(ชอบเป็นการส่วนตัว)
ในคลิปเห็นแต่ดี้ดุเอริคอ่ะ
นึกภาพเอริคดุดี้ไม่ค่อยออก
แต่อาการกลัวผีของซองนี่..จิ้นเห็นภาพเลยทีเดียว
โดย: piyawan IP: 118.172.251.205 วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:0:59:12 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Puddy.BlogGang.com

พุดดิ้งของซอนโฮ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]