ความภูมิใจเล็กๆ จากสิ่งที่พยายามทำ


เนื่องจากว่า ตอนที่เราเรียน ป.โท เราทำงานวิจัย
ซึ่่งงานของเราที่ใช้อ้างอิงในงานวิจัยนั้น เป็นระดับปริญญาเอก
ของต่างประเทศทุกเล่ม เราอ่านหลายเล่มมากๆ
อ่านเยอะมากๆ หาที่เข้ากันได้กับเรื่องที่เราทำ

ตอนที่เราทำมันออกมา เราภูมิใจกับงานเรามากนะ
แต่เราไม่ภูมิใจกับใบปริญญาที่จบมาในรุ่นที่มี
คนเกินครึ่งรุ่น เกาะเพื่อนจบ เกาะเพื่อนไม่ทำงาน
จ้างคนมาทำงานวิจัยให้ แล้วจบเป็น ป.โท ขยะเน่าๆ
เราเลยไม่รับปริญญา เพราะเราไม่ภูมิใจในเรื่องนี้

แต่ว่า พอมาวันที่แฟนเราตัดสินใจเรียน ป.โท
ที่เดียวกับเรา สาขาเดียวกันกับเรา ตอนแรกก็เตือน
เพราะอาจจะเจอคนกลุ่มแบบเดียวกับที่เราเจอ
คือพวกไม่ทำงาน เอาแต่ไปผับ เอาแต่เที่ยว
โทรมาหาเราที คือ งานส่วนของนาง เราทำแทนหมด
อะไรประมาณนั้น คือ เราเหนื่อย แม้แต่จะเริ่มกิจการตัวเอง
ยังทำไม่ได้ เพราะติดคนพวกไม่ยอมทำงานของตัวเอง
เราโคตรเอือมระอาเลย

แต่พอหลังจากที่แฟนเราไปอบรมกลับมา 
แล้วมาเล่าให้เราฟังว่า ไปที่โน่น ที่นี่ ทำโน่นทำนี่
เยอะแยะเลย แล้วเราก็กลับมาคิดว่า เห้ย
ทำไมรูปแบบกิจกรรมมันเปลี่ยนไปจากตอนที่เราเรียน
กับตอนสมัยรุ่นน้องวะ อะไรแบบนี้ เปลี่ยนไปมากๆๆ

แล้วก็นึกขึ้นได้ เห้ย มันผลงานวิจัยของเราไม่ใช่หรอ?
เราไม่คาดคิดว่า ทางคณะจะเอาผลงานวิจัยเราไปใช้
คือเอาไปปรับประยุกต์ใช้เข้ากับกิจกรรมของนักศึกษา
งานของเรามันเกี่ยวกับการสร้างผู้นำในด้านดีต่อสังคม
จากผลการศึกษา มันก็ออกมาค่อนข้างดี มันก็มีปัจจัย
ที่มัน special พอสมควร แล้วคำแนะนำของเราในส่วนท้าย
ก็คือ เราเสนอให้มีการจัดกิจกรรมรูปแบบโน่นนี่นั่นไป

ตอนทำเราไม่คิดหรอก แต่พอมาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเอง
เรากลับภูมิใจในสิ่งที่เราทำมากๆ เราไม่คิดว่างานเรา
มันจะมีคุณค่ามากขนาดนี้

ต้องบอกเลยว่า เราทำงานวิจัยนี้ เราทำคนเดียวทั้งหมด
แบบสอบถามเราไปติดต่อซื้อจากต่างประเทศ จ่ายเงินเอง
ซื้อหนังสือ คู่มือเองทั้งหมด คือ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
เพราะปัจจุบันเขาเลิกขายหนังสือนั้นไปนานมากๆ แล้ว
จ้างแปลแบบสอบถาม เพราะต้องใช้แหล่งที่มีมาตรฐาน
สำหรับแปลเพื่องานวิจัยเฉพาะ คือเราทำทุกอย่างถูกต้อง
เราไม่ใช่ ป.โท ป.เอก ที่ทำอะไรไม่คิด คือ เอาแบบสอบถาม
เขามาใช้ โดยไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์ ซึ่งหลายคนไม่เคยจ่าย
แน่นอนว่า ถ้าหากว่าโดนปรับ มหาลัยต้องจ่ายเงิน
จากแบบสอบถามพวกนั้น ต่อชุดการสำรวจ 1 ชุด
ราคาแพงมาก ถ้าราคาที่โดนปรับ เราไม่อยากคิดเลยอ่ะ

จะดีใจก็ดีใจ จะภูมิใจก็ภูมิใจ อย่างน้อยๆๆ งานของเรา
มันก็ไม่ใช่งานวิจัยขยะสังคม ที่ทำมาเพื่อจบ
แต่มันถูกเอาไปใช้จริงๆ แล้ว T______________T

จริงๆ ต้องขอโทษ อาจารย์ด้วยเหมือนกัน ที่เราสั่งสอนไป
อ่านแล้วคง งง กันไม่น้อย คือ งานวิจัยเราสามารถตีพิมพ์ได้
ผลของมัน ถ้าลงวารสารงานวิจัย มันสามารถเอาไปใช้ได้ทุกที่
แล้วคนที่ได้หน้า แบบไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว คือ อาจารย์
และคณะ ซึ่ง เราจ่ายเงินมาเรียน เราจ่ายค่าวิจัย แต่เราไม่ชอบ
การถูกเอาเปรียบโดยการที่เอาผลงานเรา ไปใช้เป็นหน้าเป็นตา
เข้าตัวเองทั้งหมดในแบบนั้น เราเลยดื้อรอจนผลการวิจัยหมด
อายุที่สามารถใช้ได้ แล้วถึงส่งเล่มจบ ในภายหลัง

แต่ก็นะ สุดท้ายมันก็ถูกเอาไปใช้ต่อ หลังจากจบมานานแล้ว
ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่อย่างน้อยงานวิจัยไม่ถูกตีพิมพ์
แต่ถูกเอาไปใช้ประโยชน์ในทางที่ดีกว่านั้น ดีใจมากๆๆ ^^


ก้าวเล็กๆ แม้จะยาก แต่ถ้าพยายาม มันก็ส่งผลได้เหมือนกันนะ
ตอนนี้เรามีกำลังใจที่จะทำในเรื่องที่ยากขึ้นไปอีกขั้นแล้วล่ะ
มันจะสะเทือนแค่ไหนกันเชียวนะ อยากจะรู้เหมือนกัน ^^



Create Date : 23 กรกฎาคม 2561
Last Update : 23 กรกฎาคม 2561 20:15:53 น.
Counter : 831 Pageviews.

3 comments
“ สเปรย์ฉีดยุง ” dansivilai
(17 เม.ย. 2567 21:04:34 น.)
9 แนวคิดที่ทำให้เรามีชีวิตประจำวันที่ดีกว่าเดิม peaceplay
(31 มี.ค. 2567 09:18:27 น.)
สรุปวิชาคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.5) เรื่องเอกซ์โพเนนเชียล & ลอการิทึม นายแว่นขยันเที่ยว
(27 มี.ค. 2567 00:52:25 น.)
เรื่อง ที่เตือนมาจากทนายความ ควรหลีกหนี 20 เรื่องเหล่านี้เพราะ..... newyorknurse
(28 มี.ค. 2567 02:09:48 น.)
  
อ่านแล้วก็ดีใจด้วยกับน้องเหม่งนะครับ
ที่งานวิจัยสามารถนำไปใช้จริงและต่อยอดได้

บางคนเรียน ป.โท
เพราะอยากได้เพื่อน
อยากได้สังคม

บางคนเรียนเพราะอยากพัฒนาต่อยอดความรู้

แต่ละคนก็มีเหตุผลต่างกันออกไปนะครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 กรกฎาคม 2561 เวลา:21:22:35 น.
  


สวัสดียามเช้าครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 กรกฎาคม 2561 เวลา:6:30:15 น.
  
เมื่อวานมีโฆษณาอันนึงแอดเข้ามาในเฟซพี่ก๋า
เขารับสมัครคนเขียนนิทานอีสป
ให้หน้าละ 50 บาท
พอคลิกเข้าไปดู
เฮ้ย --- เขาจ้างเพื่อเอาไปส่งครู
นั่นหมายความว่าพ่อแม่เด็กก็ยินยอมจ่าย
เพื่อให้ได้งานไปส่งการบ้านกับครู
และมันน่าจะเป็นชั้นประถม

พี่ก๋าอึ้งมากครับ
ว่าทำไมประเทศเราถึงปล่อยให้มีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นได้

สมัยพี่ก๋ามีการจ้างทำวิทยานิพนธ์ด้วยนะ
ธีสิสของถาปัตย์ประมาณ 2-3 หมื่นบาท
นี่ราคา 20 กว่าปีที่แล้ว
ตอนนี้สงสัย 5 หมื่น หรือแสนนึงแล้วมั้งครับ

อ่านเม้นท์ของน้องเหม่ง
ยิ่งสะท้อนถึงปัญหาและคุณภาพของบัณฑิตของไทยจริงๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 กรกฎาคม 2561 เวลา:13:29:52 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Princezz-matcha-latte.BlogGang.com

Princezz Matcha Latte
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด