รีวิว "สิงคโปร์" เสนอตอน Check In Singapore #1 (2) กลับมาต่อค่ะ เพราะเขียนยาวเกินกว่าที่กำหนด 55+ (ขี้โม้นี่หว่า) พอเริ่มมืดแสงก็เริ่มน้อย รู้สึกว่าตัวเองเริ่มวอกละ ( เพื่อนถ่าย manual ไม่เป็นต้องกดโหมด auto แล้วมันบังคับเปิดแฟลซ)
ระยะทางเดินเท้า ก็ประมาณ 1 กิโลเห็นจะได้ คือแบบว่า ไกลมากนะ กว่าจะเดินมาถึงนี้อ่ะ เดินเล่นวนไปวนมา ก็ได้แต่ภาพเดิมๆ ( เพราะคนเดิมถ่ายสายตามันจะเปลี่ยนไปได้ไงฟร่ะ) ก็เลยคิดว่า หาที่ไปที่อื่นดีกว่า คนเยอะด้วยแหละ และไม่มีแสงแล้วด้วย ตกลงกันว่า ไปลองของที่ China Town กันดีกว่าค่ะ อันนี้พวกเราคิดกันเด๋วนั้น ด้นกันสดๆ เลยทีเดียว ไม่เคยทำอะไรได้ตามแผนซักนิด ที่จริงดึกนี้เราต้องไปดูไฟที่ Garden by The Bay นะ ตามแผนแล้ว แสงเริ่มหมด ถ่ายคนไม่ได้ เพราะหน้าดำ ถ้าเปิดแฟลซนี่ก็ขาววอกไปอีก เลยถ่ายแต่วิวไปละกัน 55+
คนในรูปปั้นคือ ท่านเซอร์ราฟเฟิลค่ะ ท่านผู้ซึ่งมีบทบาทในการก่อตั้งเมืองสิงคโปร์ จากเดิมที่เป็นเพียงเสมียนบริษัทอินเดียตะวันออกฯ จนเลื่อนขั้นมาเป็นเลขนุการเมืองปีนัง จนมาเป็นผู้ว่าเมืองชวา พอป่วยกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดที่อังกฤษ จนสุดท้ายก็ได้รับแต่งตั้งเป็นท่านเซอร์ ... นั่นเอง สรุปคือ ท่านเป็นผู้ซึ่งมีความสำคัญกับประเทศนี้มาก ... สั้นๆ เลย
บรรยากาศเมืองเทมาเสก ย่าน Raffles
จากนั้นพวกเราเดินไป MRT จากสถานี EW14 ไป EW16 Outram Park เปลี่ยนไปขึ้นสายสีม่วง ไป China Town NE4 3. พลาดที่ 3 พวกเราตั้งใจว่าจะไปเดินเล่นถนนของกิน China Town แต่เพราะความที่ไม่ได้หาข้อมูลมาไง เลยออกผิดประตู จริงๆ ต้องออกประตู A นะ แต่พวกเราไปออกประตูไหนไม่รู้ ประกอบตอนนั้นทุกคนเริ่มหิวตาลาย แต่ในความเหนื่อยยากและหิวโหย ก็ไม่ได้แย่ไปซะทั้งหมด พวกเราเจอร้านอร่อยโดยบังเอิญ ที่คิดว่าอร่อยเพราะว่า คนต่อคิวกินร้านนี้ ยาวเป็นหางว่าว คิวไม่น้อยกว่า 10 มีีนั่งกิน มีห่อกลับพวกเราเลยตัดสินใจ กินร้านนี้แหละ ไม่ต้องไปหามันละ ถนนที่ว่านั่นน่ะ นำเสนอค่ะ ร้านนี้อยู่ที่ Hong Lim Market เดินขึ้นชั้น 2 ถ้าหันหน้าเข้า มุ่งไปทางขวามือตามรูปค่ะ
ถือว่าเป็นก๋วยเต๋ยวแกงกะหรี่ไก่ที่อร่อยมาก และชามใหญ่มาก บิ๊กบิ้ม สนนราคา 5เหรียญ อิ่มพุงจะแตก แนะนำค่ะ ร้านนี้ศรี Confirm !!
กินเสร็จอิ่มแระ ทุกคนอารมณ์ดีแล้วเลยเดินเล่นดูเมืองซักหน่อย ขำขำ เพราะจริงๆ พวกเราเหนื่อยกันแล้วล่ะ ไม่อยากเดินแระ อยากกลับ แต่เพราะเพิ่งมาถึงก็เลยยังเห่อ ยังตื่นเต้นกันอยู่ (รองเท้าเริ่มกัดแล้ว เจ็บปวดและทรมานมาก)
นี่ค่ะ ประตู A ที่ว่า ถ้าใครจะมา China Town สำหรับนักท่องเที่ยวแนะนำ ออกประตู A ก่อนเลยค่ะ เดินไปให้ถึง 4 แยก เลี้ยวขวาไป แล้วจะเจอ ถนนอาหารค่ะ พวกเราไม่ได้ชิมค่ะ เหตุเพราะอิ่มแล้ว แต่เดินช็อปปิ้งของที่ระลึกแทน ต่างคนต่างจ่าย ใครจ่ายไปเท่าไหร่ไม่รู้ ตอนนี้นี่จ่ายไปแล้ว 20เหรียญ สำหรับของฝากวันนี้ ส่วนใหญ่ 3 อัน 10 แต่ต่อรองราคาไม่ได้นะจ๊ะ พวงกุญแจ 6 แพค 10 ( 5 ฟรี 1 อย่าไปคิดต่อว่าเอา 3 แล้วจ่าย 5 เพราะต่อมาแล้ว เค้าไม่ให้จ้า )
หลังจากกลับมาถึงที่พักสิ่งที่สาวๆ อย่างเราอดไม่ได้คือ การเดินเข้ามินิมาร์ท เพื่อเช็คราคาสินค้า ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม แล้วก็ซื้อมาม่า ขนม น่้ำ มากินกันต่อที่ห้อง เม้าท์มอย เพราะต้องหาสถานทีที่เที่ยวของพรุ่งนี้ต่อไป ว่าจะไปไหนดี เนื่องจากบนห้องไม่มี wifi เลยต้องมีเสบียงตุน กินกันแก้เหงาระหว่างเราเล่นเน็ตนั่นเอง
สรุปวันแรกนะคะ พวกเราไปเที่ยวแค่สถานี Raffles นั่นแหละค่ะ ได้เห็นสิงโตพ่นน้ำแว๊ว แล้วก็ไปหาของกิน China Town และกลับมาเล่นเน็ตต่อที่ห้อง น้ำซื้อที่ 7/11 1.5L 2.6เหรียญ แต่พอกลับมาที่สโตร์หน้าบ้าน 1.5 ลิตร แค่ 1.2 เหรียญเอง .... มาตรฐานอยู่ตรงไหน ไม่เข้าใจจริงๆ .... วันนี้โหยมาก จัดไป น้ำเปล่า 2 ขวด 3L (กับที่ซื้อก่อนหน้าเป็น 3 ขวด กินกัน 4คน หมดในบัดดล คืนนั้นเลย) คืนนี้เพลียมากพูดเลย ขอตัวไปพักผ่อนก่อนแล้วจะกลับมาอัพเดทวันต่อไปอีกครั้งจ้า โปรดติดตามตอนต่อไปน๊า... แล้วจะมาอัพเดทใหม่นะคะ **************** /// *****************
|
บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [