-ขอบคุณข้อความเหล่านี้-
ปล. ว่าจะปตั้งกระทู้ แต่มันตั้งไม่ได้ เลย เอามาลงบล็อกแฮะๆๆ
ขออนุญาติ นำข้อความหลังไมค์ของพี่ชายคนนึง มาลงกระทู้นะค่ะ
มันเป็นข้อความที่ให้แง่คิด ความคิดดีดีขึ้น
ทำให้เรารู้ว่าอะไรเป็นอะไร
เราอยากให้เพื่อนๆได้อ่านค่ะ
* รู้ไหม ทุกครั้งที่คุณสร้าง"ความโดดเด่น"ขึ้นมา คนเขาจะมอบเหรียญให้คุณ 1 เหรียญ
ซึ่งเป็นธรรมดาที่เหรียญย่อมมีสองด้าน ด้านหัว(ความชื่นชม)และด้านก้อย(ความริษยา)
คุณไม่มีทางที่จะเลือกรับเหรียญเพียงด้านเดียวมีแต่จะเลือกรับหรือไม่รับทั้งเหรียญ
แต่ถ้าถามผม แนะนำว่าอย่าไปรับ เพราะความชื่นชมมันไม่ยืนยาว คนเขาชมเรา
พอเดินผ่านไปเขาก็ลืมแล้ว มีแต่เราที่มัวจำอยู่ ขณะที่ความริษยามักจะยืนยาวนัก
ไม่รู้ว่าชีวิตในเน็ตของคุณ มีคนเขายื่นให้คุณกี่เหรียญแล้วนะ แต่ในชีวิตจริงข้างหน้า
คุณจะเจอเหรียญที่มีขนาดและน้ำหนักมากกว่าในเน็ตเยอะ ชนิดว่าเก็บหยอดกระปุก
กันไม่ทันเลยเชียว
เพราะเห็นว่าชีวิตจริงของคุณกำลังจะเริ่มต้นจึงเอามาฝากเป็นข้อคิด ไม่ต้องตอบกลับ
ตามมรรยาทก็ได้ ผมเองได้อะไรมาจากกระทู้ของคุณมากพอควร จึงอยากจะคืนทุน
*2. ได้ใจ ขอฝากอีกซักข้อ ^^"
"ความมีสาระ มักทำให้เราโดดเดี่ยว
ความไร้สาระ มักทำให้เราได้เพื่อนมาก"
คุณไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเลือกเพีบงอย่างใดอย่างหนึ่ง ชีวิตคนเราต้องมีทั้งสองสิ่งนี้
เพียงแต่ว่าแต่ละคนต้องจัด"สัดส่วน"ของสองสิ่งนี้ให้เหมาะกับชีวิต เราจึงจะมีความสุข
*เชื่อว่าคุณจะยังโลดแล่นอยู่ในโลกไซเบอร์อีกนานทีเดียว จึงอยากแบ่งปัน
ประสบการณ์
ผมมีกติกา 2 ข้อในการพูดคุยในเน็ตโดยสร้างจากประสบการณ์หลายปีว่า:-
1.ถ้าไม่อยากฟังเรื่องโกหก จงอย่าถาม เพราะ...
2.ถึงไม่ถาม คุณก็มีสิทธิ์ได้ฟังเรื่องโกหกอยู่แล้ว
เช่น ถ้าคนที่คุยกับผมบอกว่าเขาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นไดโนเสาร์ชื่อ"กล็อก"เอาไว้ตัวนึง
ผมก็จะจำชื่อเจ้ากล็อกไว้ เผื่อคุยกันคราวหน้าจะได้ถามถึงว่ามันขี้เล่นหรือเปล่า?
เลี้ยงง่ายไหม? โดยที่ผมจะไม่ไปเสียเวลาคิดว่า เขาเพาะพันธุ์มันขึ้นมาเอง หรือ
ไปซื้อมาจากตลาดนัดแถวไหน เพราะเมื่อผมเลิกคุย เจ้ากล็อกก็จะหายไปจาก
ชีวิตของผม มันจะกลับมาโลดแล่นใหม่ในการคุยกับเขาครั้งต่อไปเท่านั้น
ในเน็ตนี่เราไว้ใจคนได้ระดับหนึ่งครับ แต่"วางใจ"ใครไม่ได้เลย(ไม่ว่าผม,คุณหรือใคร)
ถ้าคุณเก็บสาระจากเรื่องที่ผมเล่าได้ เชื่อว่าคุณจะสนุกกับการเล่นเน็ต โดยไม่มีวัน
เสียใจกับไอ้เจ้าจอสี่เหลี่ยมนี้เลย.
*4. ผมชอบแบ่งปัญหาของตัวเองคร่าวๆเป็น 3 แบบนะ
1.ปัญหาที่แก้ได้ วิธีปฏิบัติคือ"รีบแก้ก่อนจะลุกลาม"
2.ปัญหาที่แก้ไม่ได้ แต่เวลาจะช่วยให้คลี่คลาย วิธีปฏิบัติคือ"รอ"
3.ปัญหาที่แก้ไม่ได้แม้จะนานแค่ไหน วิธีปฏิบัติคือ"พยายามไม่มองเป็นปัญหา"
หรือ"ย้ายจากหัวไปไว้ที่หัวเข่า"
เท่าที่ผ่านมาก็ใช้ได้ผลพอสมควร
*5. บางคนชอบพูดว่า"สมัยนี้หาคนจริงใจไม่ได้เลย"
ที่จริงแล้ว คนจริงใจยังไม่สูญพันธุ์ครับ ออกจะมีเยอะซะด้วยซ้ำ
แต่เรามักจะไม่ชอบคบ"คนจริงใจ"ไปเองเพราะคนจริงใจเขาจะไม่ลังเลที่จะทักท้วง
เมื่อเราทำผิด ซึ่งธรรมชาติของคนเราเราต้องการ"การยอมรับ"มากกว่า ถ้าเราทำอะไร
แล้วมีใครบอกว่า"เก่ง" "ดี" "ใช่""ถูก"เราก็มักยินดีต้อนรับคนพวกนี้มาไว้รอบตัว
มากกว่าคนที่มาทักท้วงว่าเรา"ผิด"
สรุปคือเราเองนี่แหละ ที่เที่ยวหาคนไม่จริงใจเอาไว้ประดับรอบตัวเรา
ก็ฟังไว้ เผื่อจะมีประโยชน์ในวันหน้า
ปล. ขอบคุณข้อความเหล่านี้ที่ทำให้เวลาที่ปุ้ยท้อแท้ หรือเหงาๆ กลับมาอ่านทีไร ก็รู้สึกดีขึ้น คิดอะไรได้หลายๆอย่าง เวลาที่คิดว่า
ขอบคุณพี่มากนะค่ะ