วันมงคล วันเข้าพรรษา
ตั้งจิตอธิษฐาน เริ่มทำความดี กันค่ะ
.........................
พุทธศาสนิกชน ถือเอาวันเข้าพรรษา
เป็นวันสำรวจพฤติกรรมที่ผ่านมา และตั้งจิตอธิษฐาน
ที่จะลด ละ เลิกสิ่งที่ไม่ดี เช่น เลิกเหล้า อดบุหรี่
การพูดจาหยาบคาย ฯลฯ ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา 3 เดือน
ยาวนานเพียงพอสำหรับความตั้งใจ
สร้างเสริมคุณลักษณะ ที่พึงประสงค์ให้เกิดขึ้น
อันมีอานิสงส์ทำให้ตนเอง ครอบครัว
และสังคมเกิดความสุข สงบร่มเย็น
วันเข้าพรรษา วันที่พระภิกษุ ในพระพุทธศาสนา
อธิษฐาน อยู่ประจำที่ ไม่จาริกไปค้างอ้างแรม ตามสถานที่ต่างๆ
เว้นแต่มีกิจจำเป็น เป็นระยะเวลา 3 เดือนในฤดูฝน
คือตั้งแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11
วันเข้าพรรษาปี 2558 นี้ ตรงกับวันที่ 31 กรกฏาคม
โดยทั่วไปการจำพรรรษา 3 เดือน จะมี 2 ระยะ คือ
1 .ปุริมพรรษา หรือ เข้าพรรษาแรก
นับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำเดือน 8
ถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 (วันออกพรรษา)
แต่ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือมีเดือน 8 สองหน
ก็จะเลื่อนไปเริ่มจำพรรษาในวันแรม 1 ค่ำเดือน 8 หลัง
2. ปัจฉิมพรรษา หรือ เข้าพรรษาหลัง
จะเริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำเดือน 9 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12
ในประเทศไทย พระภิกษุส่วนใหญ่ จะจำพรรษา
ในช่วงปุริมพรรษา มากกว่าปัจฉิมพรรษา
ยกเว้นพระภิกษุ ที่อาพาธ หรือมีกิจจำเป็น
จึงจะอธิษฐานจำพรรษา ในช่วงปัจฉิมพรรษา
วันเข้าพรรษา เมื่อครั้งพระพุทธเจ้า ประทับอยู่ที่วัดเวฬุวัน
เมืองราชคฤห์ พอถึงฤดูฝนพระภิกษุส่วนใหญ่
อยู่ประจำที่เช่นเดียว กับนักบวชนอกพุทธศาสนา
ที่มักถือเป็นประเพณีปฏิบัติ อยู่จำพรรษา
โดยตอนต้นพุทธกาลยังไม่มีพุทธานุญาตให้ภิกษุอยู่จำพรรษา
ทำให้ชาวบ้าน พากันติเตียนถึงการจาริก ของท่าน
เพราะไปเหยียบข้าวกล้า ในนาเสียหาย
จึงทรงรับสั่งให้ประชุมสงฆ์ แล้วทรงบัญญัติ
ให้พระภิกษุอยู่จำพรรษา เป็นเวลา 3 เดือนในฤดูฝน
ในกรณีที่มีกิจจำเป็น พระพุทธเจ้าก็ได้ประทานอนุญาต
ให้พระภิกษุไปค้างคืนที่อื่นได้คราวละไม่เกิน 7 วัน
โดยไม่ถือว่าอาบัติ เรียกว่าเป็นเหตุพิเศษหรือ
สัตตาหกรณียกิจ ซึ่งมีอยู่ 4 ประการคือ
1.เพื่อนสหธรรมิก ทั้ง 5 คือ ภิกษุ ภิกษุณี สิกขามานา
สามเณร สามเณรี หรือบิดามารดาป่วย ไปเพื่อพยาบาลได้
2.ไปเพื่อยับยั้งเพื่อนสหธรรมิก ที่อยากสึก มิให้สึกได้
3.ไปเพื่อกิจของสงฆ์ เช่น หาอุปกรณ์ซ่อมกุฏิ
วิหารที่ชำรุดทรุดโทรมได้
4.ไปเพื่อฉลองศรัทธาทายก นิมนต์ไปร่วมบำเพ็ญบุญได้
วันเข้าพรรษา มีประเพณีสำคัญ 2 ประเพณีคือ
ประเพณีถวายผ้าอาบน้ำฝน และประเพณีแห่เทียนพรรษา
"ประเพณีถวายผ้าอาบน้ำฝน " เกิดขึ้น ในสมัยพุทธกาล
นางวิสาขา มหาอุบาสิกา ทูลขอพรจากพระพุทธเจ้า
ขอถวายผ้าอาบน้ำฝน แด่พระภิกษุและภิกษุณี
จึงเกิดเป็นประเพณีที่ชาวพุทธปฏิบัติ สืบต่อมาจนทุกวันนี้
ผู้ที่ถวายผ้าอาบน้ำฝนจะได้รับอานิสงส์เหมือนการถวายผ้าอื่นๆ
คือ ทำให้เป็นผู้มีผิวพรรณผ่องใส สวยงาม
ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มีความสะอาดผ่องใสทั้งกายและใจ
"ประเพณีแห่เทียนพรรษา" เกิดจากความจำเป็น
ที่ว่าสมัยก่อนยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เมื่อพระภิกษุอยู่รวมกันมาก
เพื่อปฏิบัติกิจวัตร เช่น การสวดมนต์ตอนเช้ามืด
และพลบค่ำ การศึกษาพระปริยัติธรรม การบูชาพระรัตนตรัย
จำเป็นต้องใช้แสงสว่างจากเทียน
ดังนั้น ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันนำเทียนมาถวาย
และก็วิวัฒนาการ จนเป็นเทียนพรรษา ในปัจจุบัน
ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ