"เกิดมาแล้วมันต้องทุกข์"
ถ้าไม่มีพระพุทธศาสนาก็จะทำกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
เวียนว่ายตายเกิดกันไปเรื่อยๆ
เพราะไม่มีใครบอกว่าเกิดมาเพื่อหยุดการเกิด
ไม่มีใครสอนว่าให้มาละบาป ให้มาทำบุญ
ให้มาชำระใจให้สะอาดบริสุทธิ์
เพราะนี่เป็นวิธีที่จะหยุดการเกิดได้
ถ้าไม่ได้ทำบุญไม่ได้ละบาป
ไม่ได้ชำระใจให้สะอาดบริสุทธิ์ ใจก็จะไม่สะอาด
ใจก็ยังจะมีความอยากสามประการนี้
อยู่ในใจตลอดเวลา ความอยากสามประการนี้
ก็จะดึงให้ใจต้องไปเกิด
หลังจากที่ไปใช้บาปในอบายแล้ว
หรือไปรับผลบุญในสวรรค์แล้ว
พอบุญกับบาปที่ทำไว้ได้ชำระได้ใช้หมดแล้ว
ก็กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่
มาทำบุญทำบาปกันใหม่
จนกว่าจะได้มาเจอกับพระพุทธศาสนา
เจอกับพระพุทธเจ้าก็ดี หรือพระธรรมคำสอนก็ดี
หรือพระอริยสงฆ์สาวกก็ดี
ทั้งสามนี้จะสอน เหมือนกัน ถ้าเจอพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าก็บอกว่าให้ทำบุญละบาป
ให้ชำระใจให้สะอาดบริสุทธิ์
ถ้าอ่านหนังสือธรรมะ
หนังสือธรรมะที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกนี้
๘๔,๐๐๐ ธรรมบทนี้ สอนให้ทำบุญละบาป
ให้ชำระใจให้สะอาดบริสุทธิ์ สอนแค่นี้
สอนสามข้อนี้เท่านั้นเอง
ถ้าเจอพระอริยสงฆ์สาวก
เจอพระอรหันต์ท่านก็จะสอนแบบเดียวกัน
ท่านก็จะสอนให้ทำบุญละบาป
ชำระใจให้สะอาดบริสุทธิ์
ท่านจะบอกว่าเกิดมา
เพราะว่าเรามีความอยากทั้งสาม
มีกามตัณหา มีภวตัณหา มีวิภวตัณหา
เราจึงมาเกิดกัน พอเรามาเกิดแล้ว
เราสุขหรือเราทุกข์กัน สุขบ้าง แต่ทุกข์มากกว่า
สุขต้นแต่ทุกข์ปลายกัน เวลาเกิดนี้
เวลาเป็นเด็กกำลังเจริญเติบโตนี้
มันมีแต่ความสุขมากกว่าความทุกข์
แต่พอเวลาเข้าสู่วัยชรานี้
มันจะมีความทุกข์มากกว่ามีความสุข
พอแก่แล้วก็ไปไหนไม่ได้
จะดูจะฟังอะไรก็ดูไม่ค่อยถนัด ฟังไม่ค่อยถนัด
จะไปเต้นแร้งเต้นการ้องรำทำเพลงก็ไม่ไหวแล้ว
ยังมีโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ มาเยี่ยมเยือนอยู่เรื่อยๆ
ต้องไปหาหมออยู่เรื่อยๆ
ต้องไปโรงพยาบาลอยู่เรื่อยๆ
แล้วเดี๋ยวในที่สุดก็ต้องตายกัน นี่คือการเกิด
เกิดมาแล้วมันต้องทุกข์ ถ้าไม่อยากจะทุกข์
ก็ต้องหยุดการเกิดให้ได้เท่านั้นเอง.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
...........................
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๐
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ