<<< "ที่พึ่ง" >>>










"ที่พึ่ง"

พระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องที่พึ่งทางใจของพวกเราว่า

มีอยู่สองส่วนด้วยกัน ส่วนที่หนึ่งก็คือ

พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่เรากล่าวถึง

ว่าพุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณังคัจฉามิ

อันนี้เป็นที่พึ่งส่วนที่หนึ่ง

 ส่วนที่สองก็คือ อัตตา หิ อัตตโน นาโถ

 ตนเป็นที่พึ่งของตน นี่คือที่พึ่งทางใจของพวกเรา

 เหมือนกับที่พึ่งทางร่างกาย

ร่างกายก็มีที่พึ่งสองส่วนด้วยกัน

 ส่วนที่หนึ่งก็คือบิดามารดา

 เวลาที่เราเกิดมาใหม่ๆ เรายังพึ่งตนเองไม่ได้

เราก็ต้องมีบิดามารดาเป็นผู้ที่เลี้ยงดูเรามา

ให้เราเจริญเติบโต พอเราโต

จนสามารถพึ่งตนเองได้แล้ว เราก็ใช้ที่พึ่งส่วนที่สอง

เป็นที่พึ่งคือพึ่งตนเอง เราก็ไปทำมาหากิน

เลี้ยงปากเลี้ยงท้องของเราได้

 แต่ก่อนที่เราจะโตขึ้นมาเป็นที่พึ่งของเราได้

เราก็ต้องอาศัยบิดามารดาเป็นที่พึ่ง

ถ้าบิดามารดาไม่เลี้ยงดูเราเราก็คงจะต้องตายไป

ถ้าไม่มีคนอื่นมาเลี้ยงดูแทนบิดามารดา

ฉันใดที่พึ่งทางใจของพวกเราก็เป็นแบบเดียวกัน

พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นี้

เป็นเหมือนบิดามารดาของพวกเรา

ตอนที่เรายังไม่สามารถที่จะเป็นที่พึ่งของตนเองได้

 ตอนนี้เรายังไม่สามารถที่จะทำให้ใจของเราหลุดพ้น

จากความทุกข์ต่างๆ ได้ เราจึงยังถือว่า

เป็นเหมือนเด็กทารกอยู่ เราจึงต้องอาศัย

บิดามารดาทางจิตใจคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

 เป็นผู้เลี้ยงดูเราด้วยการอบรมสั่งสอน

ให้พวกเราศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

 ด้วยการศึกษาพระธรรมคำสอน

ของพระอริยสงฆ์สาวกทั้งหลาย

 แล้วนำเอาพระธรรมคำสอนไปปฏิบัติ

 เราก็จะได้บรรลุธรรมขั้นต่างๆ

บรรลุพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ

พอเราได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคลขั้นที่หนึ่ง

 เราก็จะสามารถที่จะดับความทุกข์ต่างๆ

 ที่มีอยู่ภายในใจของเราให้หมดไปได้ตามลำดับ

 พอเราได้เป็นพระอริยบุคคลแล้ว

เราก็จะมีที่พึ่งเป็นตัวของเรา เป็นที่พึ่ง

 เราก็จะมี อัตตา หิ อัตตโน นาโถ

 เราก็ไม่ต้องพึ่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อีกต่อไป

พระโสดาบันนี้เป็นพระอริยบุคคลขั้นที่หนึ่ง

 พอท่านได้บรรลุแล้วนี้ท่านสามารถที่จะปฏิบัติไป

จนถึงขั้นที่สูงสุดได้ คือขั้นพระอรหันต์ได้

โดยที่ไม่ต้องพึ่งพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์

เพราะท่านมีดวงตาเห็นธรรม

 ท่านมีพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์อยู่ในใจแล้ว

 ถ้าท่านตายไปก่อนที่จะบรรลุถึงขั้นพระอรหันต์

 ท่านไปเกิดที่ไหนท่านก็สามารถที่จะปฏิบัติต่อได้

 ท่านสามารถเป็นที่พึ่งของตนเองได้

สามารถสั่งสอนตนเองให้หลุดพ้น

จากความทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิงตามลำดับต่อไป

นี่คือเรื่องของที่พึ่งทางใจของพวกเรา

ตอนนี้เรายังไม่สามารถที่จะดับความทุกข์ต่างๆ

 ที่เกิดขึ้นมาภายในใจของพวกเราได้

 เราจึงต้องพึ่งผู้ที่รู้จักวิธีดับความทุกข์ต่างๆ

ให้เป็นผู้สั่งผู้สอนเรา แล้วเราก็น้อมนำเอาไปปฏิบัติ

 ถ้าเราปฏิบัติได้เราก็จะสามารถดับความทุกข์ใจต่างๆ

 ให้หมดสิ้นไปได้ เราก็จะไม่ต้องพึ่ง

พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์อีกต่อไป.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

..........................

ธรรมะบนเขา

วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๐

"ที่พึ่งทางใจ"








ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 23 สิงหาคม 2560
Last Update : 23 สิงหาคม 2560 5:20:15 น.
Counter : 516 Pageviews.

0 comments
หลักของสติ **mp5**
(16 เม.ย. 2567 12:14:57 น.)
เติมให้ความมี เติมให้ความไม่มี ปัญญา Dh
(14 เม.ย. 2567 20:54:29 น.)
สุขสันต์วันปีใหม่ไทย ๒๕๖๗ haiku
(13 เม.ย. 2567 10:13:33 น.)
ไม่ควรก่อแผลหรือก่อแผลเป็น ปัญญา Dh
(8 เม.ย. 2567 20:22:02 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Poungchompoo.BlogGang.com

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]

บทความทั้งหมด