มัลติมิเตอร์

อ.ทุกท่านค่ะ นัชขอเปิดBlog นี้ให้อ.สอนเรื่องมัลติมิเตอร์โดยเฉพาะนะคะ

มัลติมิเตอร์ที่มีคือตัวนี้ค่ะ  มีช่อง DCV ACV DCA ไม่พอยังมีช่องเล็กช่องน้อยอีก กัวไฟดูดตายค่ะ 555+

ภาพชัดเจนไหมค่ะ




Create Date : 10 เมษายน 2555
Last Update : 10 เมษายน 2555 15:24:39 น.
Counter : 7946 Pageviews.

17 comments
เอื้องชมพูไพร สมาชิกหมายเลข 4313444
(21 มี.ค. 2567 02:45:05 น.)
ติดโคมไฟ LED 3สี ด้วยตัวเองง่ายๆ ไม่เกิน 200 บาท ฟ้าใสทะเลคราม
(17 มี.ค. 2567 00:08:48 น.)
เกี่ยวกับข้อมูลภาษี Google Adsence กว่าจะอนุมัติ Ep.1 SN_monchan
(16 มี.ค. 2567 07:48:15 น.)
ประโยชณ์ของ living trust มีมากกว่า will มากมายค่ะ newyorknurse
(19 มี.ค. 2567 04:58:36 น.)
  
รุ่นนี้ปุ่มเปิด/ปิด แบบเลื่อน ไม่ใช่ Auto OFF
ดังนั้นใช้เสร็จห้ามลืมปิด.... (ถ้าลืมจะเสียตังค์ค่าถ่าน 9v อีกก้อน)

แต่ในภาพ ผมว่าถ่านมันหมดแล้วล่ะ จอว่างไม่มีอะไรเลย
วิธีใส่ถ่านต้องหาไขควงแฉกขนาดเล็กขันสกรูสองตัวด้านหลัง
แล้วจะเจอถ่าน 9V ก็หาก้อนใหม่มาใส่แทน

วิธีใช้ การต่อสาย เพื่อวัดถ่าน วัดสวิทช์ วัดความต้านทาน
(งานซ่อมเบื้องต้น)
สายดำให้ต่อเข้าช่องล่างสุดที่เขียนว่า COM
สายแดงให้เสียบช่องกลาง(เหนือช่อง COM )

ส่วนช่องเสียบบนสุด อย่าเพิ่งไปยุ่งกับมัน ช่องนั้นเอาไว้วัดกระแสสูงๆ
และต้องต่ออนุกรม หากพลาดจะพังและไหม้(มันไม่มีฟิวส์ป้องกัน)

ช่องเล็กๆ 8 ช่องทางซ้ายมือ ไว้วัดทรานซิสเตอร์ตัวๆ(ที่ไม่ได้อยู่ในแผงวงจร)บอกไว้เฉยๆ ยังไม่ต้องไปใช้มันเช่นกัน

สรุปคือคว้าสายแดงดำ(ในภาพ)เสียบช่องมุมล่างขวา สองเส้นครับ อย่าลืม ดำอยู่ล่างสุด
โดย: Ph วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:10:45:41 น.
  
อันแรก วิธีวัดแรงดัน แบบดีซี (DC)

ใช้เพื่อวัดถ่านไฟฉาย จะก้อนเล็ก AA หรือ AAA
หรือจะ 9V ถ่านนาฬิกา ถ่านไฟฉาย หรือแบตเตอรี่อะไรก็ได้ทุกชนิด

แนะนำลองหาถ่านใกล้ๆตัว เอาทั้งถ่านใหม่ และถ่านที่่อ่อนกำลังแล้วมาหลายๆก้อน เพื่อทดลองเล่นและสังเกตว่ามันวัดได้เท่าไหร่

ขั้นแรก การวัดแรงดัน แบบดีซี (DC)
(เรียกภาษาไทยว่าวัดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง)
ให้ปรับมิเตอร์ไปในโซนขวามือที่เขียนว่า DC V

มันจะมีให้เลือกหลายช่วง เช่น 1000V
200V
20V
ฯลฯ
ตัวเลขพวกนี้คือค่าสูงสุดของสเกลวัด เราเลือกได้ว่าจะปรับไว้เท่าไหร่

วิธีเลือกคือห้ามเลือกต่ำเกินไป

เช่นมีแบตเตอรี่ขนาด 24V ก้อนนึง
อยากวัดก็ห้ามปรับไปที่ 20V หรือต่ำกว่านี้ก็ไม่ได้
มีตัวเลือกที่สูงกว่าสิ่งที่จะวัด(24V)อยู่สองตำแหน่งคือปรับไปที่ 200V หรือ 1000V


ลองนึกถึงเครื่องชั่งน้ำหนักก็ได้ ถ้ามันมีสเกลสูงสุด 20 กิโลกรัม
แล้วเราเอาคนหนัก 24 กิโลกรัมไปยืนชั่ง ก็จะพังครับ
ตาชั่งเข็มตีสุดสเกล จนเข็มอาจหักใช่ไหม ดังนั้นต้องระวังอย่าใช้เกินสเกลที่มันวัดได้

ดังนั้นต้องรู้ว่าสิ่งที่จะวัดมันมีไฟคร่าวๆสักกี่โวลท์
เช่นถ่านก้อนสี่เหลี่ยมมันก็ต้อง 9V
ก็ปรับไว้ 20V ได้ หรือ 200V หรือ 1000V ได้หมดเลย

กรณีที่ไม่รู้ว่าถ่านมันกี่โวลท์(มีด้วยเรอะ)ก็ปรับไปสูงสุดก่อนคือ 1000V (เพื่อความปลอดภัยของมิเตอร์)

พอปรับเลือกสเกล(ย่านวัด)เสร็จแล้ว ส่วนใหญ่วัดถ่านก็ปรับตรง 20V
แล้วสายดำจิ้มขั้ว - ของถ่าน
สายแดง จิ้มขั้ว + ของถ่าน
หน้าจอก็จะบอกว่าถ่านมีแรงดันเหลือกี่โวลท์

หากหน้าจอขึ้นติดลบ เช่น -1.50 แสดงว่าคุณจิ้มสายแดงกับดำสลับกัน

ว่าแล้วลองหาถ่านสักส้อนสองก้อน มาลองเลยครับ

***หากมิเตอร์ มันยังจอว่างๆ แบบนั้น ลองปิด แล้วเปิดใหม่
จอจะต้องเป็นเลข 0.00 ถ้าไม่ติด ก็คือถ่านหมด
โดย: Ph วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:11:00:51 น.
  
โพสข้างบนขออภัย ที่บอกว่าย่าน DC Vอยู่็ขวามือ
มิเตอร์คุณมันอยู่ซ้ายมือครับ
พอดีย้อนไปอ่านและแก้ไม่ได้แล้ว
--------------------------------------------

มาต่อวิธีวัดพวกสวิทช์ ว่าเสียหรือไม่

ให้ใช้มิเตอร์ย่านวัดโอห์ม (อยู่มุมล่างซ้ายมือ)
ปกติตรงนี้เขาไว้วัดตัวต้านทาน(ที่ตัวยาวๆเป็นแถบสีๆ 4 แถบ)
และก็ใช้วัดสวิทช์ได้ด้วย
ไม่ว่าจะแบบกด แบบเลื่อน แบบโยก ฯลฯ ได้หมด

ก่อนวัดสวิทช์ หากมันเป็นสวิทช์ที่ยังไม่ได้แกะออกมาจากวงจร
จะต้องถอดถ่าน ตัดไฟเครื่องหรือของเล่นชิ้นนั้นก่อนวัด
มิฉะนั้นมิเตอร์อาจวัดผิดพลาดหรือเสียหายได้

เริ่มโดยเสียบสายดำ-แดง ตามเดิมคือดำล่างสุด แดงรูกลาง

แล้วปรับมิเตอร์ไปที่ย่านวัดโอห์ม
กรณีวัดสวิืทช์ให้ปรับไปต่ำสุดที่มีให้เลือกในมิเตอร์คือ 200
(หมุนชี้ลงล่างสุด) เพราะสวิทช์ทุกชนิดที่ยังไม่เสียจะต้องมีความต้านทานต่ำสุด

ก่อนวัดลองเทสโดยแตะสายดำ กับ แดง เข้าหากันเองก่อน
ดูว่ามันได้ 00.0 หรือไม่ การแตะสายเข้าหากันเป็นสภาวะที่ไร้ความต้านทาน กระแสผ่านได้ดีมาก มิเตอร์ควรจะอ่านค่าความต้านทานเป็น 00.0
(แต่ถ้าไม่ได้ 00.0 ก็ไม่แปลก ของผมก็ไม่ได้เหมือนกัน แค่เกือบๆ)

จากนั้นจำค่าตรงนี้ไว้ ตอนทดสอบสวิทช์กด หากได้เลขประมาณเดียวกันนี้แสดงว่าภายในสวิทช์ยังเชื่อมต่อกันได้สนิทดี (สวิทช์ยังดี)

ตอนจะวัดก็จิ้มโพรบไปที่ขาสวิทช์ทั้งสอง สายแดง ดำ อันไหนอยู่ขาไหนก็ได้ จิ้มไปเลย หน้าจอจะยังเป็นเลข 1 ตัวเดียว(เหมือนตอนยังไม่จิ้ม) แต่พอกดปุ่มที่สวิทช์แล้ว หน้าจอต้องเป็นตัวเลขต่ำๆเกือบๆ 00.0 หากมือไม่ถนัดพอจะกดเอง ก็หาใครมาช่วยกดสวิทช์ให้ตอนจิ้มสายโพรบ ถ้าทำบ่อยๆ มือจะชำนาญพอจะทดสอบกดสวิืชท์เองได้คนเดียว


โดย: Ph วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:11:17:52 น.
  
ส่วนที่ยังไม่ค่อยได้ใช้อีกสักสองจุดบอกให้รู้ไว้ก่อนแล้วกัน

การวัดแรงดันไฟ AC
(ไฟฟ้ากระแสสลับ)
คือปรับมิเตอร์ไปทางด้านบนขวาที่เขียนว่า AC V

ตรงนี้ไว้วัดไฟจากปลั๊กไฟบ้าน จะต้องตั้งที่ 750V
เท่้านั้น ตั้ง 200V ไม่ได้(ไฟในไทยมัน 220 มันเกินสเกลของ 200)


หากจะวัดตรงนี้ระวังด้วย ไฟฟ้าบ้านแรงดันสูงและอันตรายหากทำผิดพลาด การเสียบสาย ก็ดำรูล่าง แดงรูกลาง ตามเดิม และไม่ต้องกังวลว่าสายดำกับแดงจะจิ้มปลั๊กรูไหน จิ้มสลับยังไงก็ได้

ส่วนย่านวัดกระแสพวก DC A หรือ 10A อย่าเพิ่งไปลองเล่นครับ มันต้องต่ออนุกรม โดยการตัดสายวงจรที่จะวัดให้ขาดก่อนแล้วต่อมิเตอร์แทรกเข้าไป (มันมีวิธีและเทคนิดต่างๆ ไม่ต้องตัดจริง) แต่ไม่ใช่จิ้มๆเข้าไปที่วงจรตรงๆ หากพลาดจิ้มเข้าไปจะลัดวงจรและฟิวส์ในมิเตอร์จะขาด ไว้โอกาสหน้าจะมาอธิบายต่อ ในเบื้องต้นซ่อมของเล่น แทบจะไม่จำเป็นต้องใช้ช่วงตรงนี้ครับ ใ้ช้แต่ DC V เป็นหลักก็พอ

เอาเท่านี้ก่อนละกัน หลักๆที่ต้องใช้คือที่ผมบอกมาทั้งหมดนี้คือ
-DC V (วัดแรงดันไฟฟ้าถ่าน)
-โอห์ม (วัดสวิทช์ วัดตัวต้านทาน)
ลองหาถ่าน หรือสวิทช์มาเล่นดูครับ วัดแล้วมันได้อะไรยังไงมาเล่าให้ฟังกันบ้าง ว่าวัดได้ไหม
โดย: Ph วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:11:37:20 น.
  
อีกอย่างไม่ต้องกลัวไฟดูดครับ เพราะของเล่นมันใส่ถ่าน
และมิเตอร์เองมันก็ไม่มีไฟแรงสูงอะไรปล่อยออกมา
ยังไงก็ไม่โดนไฟดูด ขอให้มั่นใจและใจเย็นๆค่อยๆลองไม่ต้องกังวล
(อย่าเพิ่งไปลองวัดกับปลั๊กไฟ)

ตัวอย่างอาการ เช่นของเล่นไฟไม่เข้า ทั้งๆที่ใส่ถ่านแล้ว
ให้ปรับไปที่วัด DC V (เช่นตรง 20V)
แล้วจิ้มสายแดง กับ ดำ ตรงขั้วสายรังถ่าน ดูว่ามีไฟไหม
(เช่นถ่านสองก้อน ก็จะวัดได้ราวๆ 3.0V )
จะกี่ก้อนก็บวกไป มันก้อนละ 1.5V

ถ้าไม่มีไฟก็จัดการทำความสะอาดขั้วสปริงถ่านต่างๆ แล้วลองใหม่
จนกว่าวัดแล้วไฟออกจากรังถ่านได้ปกติ
โดย: Ph วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:11:40:06 น.
  
อ้อ ลืม
เวลาจะถอดชิ้นส่วนต้องมี ''ที่ดูดตะกั่ว''

ถ้าอยากเห็น ก็ลองกดลิ้งนี้ (ยาวหน่อย)
อันที่เป็นกระบอกสีฟ้าๆ อันละราวๆ ร้อยบาท
https://www.google.com/search?hl=en&biw=1051&bih=823&tbm=isch&sa=1&q=%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7&oq=%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7&aq=f&aqi=g-L1&aql=&gs_l=img.3..0i19.65972l66555l0l67162l5l5l0l0l0l0l154l519l3j2l5l0.llsin.
โดย: Ph วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:11:48:07 น.
  
สวัสดีค่ะคุณ ph ขอบคุรมากๆเลยสำหรับการแนะนำ

นัชต้องอ่านหลายๆรอบหน่อย เพราะตอนเทสต์จริงกลัวไม่ได้เปิดอ่านไป เทสต์ไป สรุปเด๋วลองกะถ่านของเล่นธรรมดา และพวกสวิซต์เปิด-ปิดก่อน แต่สวิซต์นี่ไม่ใส่ถ่านก็เทสต์ได้เหรอค่ะ นึกว่าต้องใส่ถ่านให้กระแสไฟมันเดินให้ครบก่อน

แล้วตัวมัลติฯก็ยังไม่ได้ใส่ถ่านค่ะ เคยใส่ดูแล้วแต่พอเห็นว่าเล่นไม่เป็นเลยถอดออก 5555 กัวตายค่ะ ลูกยังเล็ก

ที่ดูดตะกั่วนี่ตอนเทสต์แบบเอามืออุดไม่ต้องเสียบปลั๊กใช่ไหมค่ะ ร้านเขาคงไม่มีให้ลอง

โดย: fornatcha วันที่: 14 เมษายน 2555 เวลา:4:14:30 น.
  
ที่ดูดตะกั่ว มันไม่ใช้ไฟฟ้าครับ ข้างในเป็นสปริง
ก่อนใช้ก็กดให้แกนมันยุบลงไป พอจะดูดตะกั่วก็กดปุ่มให้สปริงมันดีดขึ้นมา
ดังนั้นยังไงก็ไฟไม่ดูดแน่นอน

ตอนอยู่ที่ร้าน ก็แค่หยิบมาดูในมือ แล้วก็กดให้สปริงมันดีดออก ก็ลองเอามืออุดรูมันดูว่าแรงดูดมันดีไหม สุญญากาศมันรั่วหรือเปล่าถ้าสุญญากาศมันไม่รั่วแกนสปริงมันจะขยับนิดเดียว จนกว่าจะเอานิ้วออกมันจึงเลื่อนขึ้นสุด

ถ้าไม่ดีแกนมันจะค่อยๆเลื่อนขึ้นช้าๆจนไปสุดด้านบน (แต่ก่อนจะไปว่าของเขาไม่ดี ต้องพิจารณานิ้วเราก่อนว่าอุดแน่นจริงหรือเปล่า)

สวิทช์จะเทสได้สองแบบคือแบบไม่จ่ายไฟ ก็ต้องปรับมิเตอร์ไปที่วัดความต้านทาน (ตามที่ได้บอกไว้ด้านบน) แบบนี้ต้องปลดถ่านของเล่นออก วิธีนี้วัดสวิทช์ได้ทุกชนิด

อีกวิธีทีเทสสวิทช์ได้ (ควรใช้กับสวิทช์เปิด/ปิด เท่านั้น) คือปรับมิเตอร์ไปวัดแรงดันไฟฟ้า(กระแสตรง) คือตรง DC V แล้ววัดโวลท์ว่ามันผ่านข้ามสวิทช์มาได้หรือไม่ วิธีนี้ต้องใส่ถ่านในของเล่นด้วย

และข้อสำคัญคือ ก่อนจะหมุนปรับปุ่มหมุนบนมิเตอร์ ต้องปล่อยปลายสายแดง-ดำ ห้ามจิ้มลงไปในแผงวงจรจนกว่าจะปรับปุ่มหมุนเสร็จ ค่อยจิ้มลงไปวัด ถึงตอนนี้เอาถ่านใส่มิเตอร์ได้แล้ว เท่าที่อ่านดูรอบคอบดีจริงๆ เน้นปลอดภัยไว้ก่อนแม้แต่ของที่ใส่แค่ถ่าน แต่ก็ดีแล้วครับ ใช้เสร็จก็เลื่อนสวิทช์ไปที่ OFF ไม่ต้องแกะถ่านออกจากมิเตอร์(แกะบ่อยๆขั้วต่อหัวแบตมันจะขาด แต่ก็บัดกรีใหม่ได้)
โดย: Ph วันที่: 14 เมษายน 2555 เวลา:18:20:48 น.
  
สวัสดีค่ะคุณ ph 2วันมานี่เข้า Blog ไม่ได้เลย แต่ทำไมคุณเข้าได้อ่ะ

นัชลองวัดสวิซท์ดูแล้วค่ะ ปุ่มอัดเสียจิงๆด้วย เพราะว่าตัวเลขก่อนวัดกะหลังวัด(กดแล้ว)ต่างกัน (ตัวนี้นัชหวังว่าเปลี่ยนปุ่มกดอย่างเดียวคงใช้ได้เนอะ55555 เพราะการบัดกรีก็ยังยากอยู่ อยากได้หัวแร้งที่แค่กด ตะกั่วก็หยดมาเป็นก้อนพอดีๆ 5555)
และยังไม่ได้มีเวลาไปหาซื้อ เนื่องจากยังคิดไม่ออกว่าที่ไหนมีขาย

อีกอันหนึ่งลองจิ้มที่ปลายสวิทซ์แบบเลื่อน แบบใส่ถ่าน เนื่องจากไม่สะดวกเอาไขควงมาแกะฝารังถ่านออก เพราะตอนนี้เวลาเกือบตี 4 แล้ว ลูกป่วยด้วย ปรากฏว่าตัวเลขไม่ขยับค่ะ ไปที่ DCV ค่าแรกจะอยู่ที่ 000-001 ตอนวัดค่าก็จะอยู่แค่นั้นค่ะ สรุปตัวนี้นัชต้องทำความรังถ่านใช่ไหมค่ะ คิดว่าจะเอาตะกั่วออกทั้งหมดแล้วงัดรังถ่านออกมาแช่น้ำยาล้างเล็บให้มันกัดคราบสกปรกออกอ่ะคะ ได้ป่ะ

ที่จริงอยากได้น้ำยาล้างสนิม แต่ไม่รู้ว่าเวลาใช้มันอันตรายแค่ไหน
โดย: fornatcha วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:3:54:00 น.
  
คุณ ph ค่ะเวลาเช็คสวิสซ์ ปรับไปที่ 200 ที่อยู่ด้านบนสวิทซ์เปิด-ปิดใช่ไหมค่ะ

ถ้าปรับไปที่ตรงนี้ ค่าจะเป็น 1. ค่ะ ปัญหาคือบางทีค่าก็เปลี่ยนค่ะ แต่พอจิ้มอีกทีไม่เปลี่ยนค่ะ หรือบางทีตอนกำลังยกเข็มออก ค่าเปลี่ยน ไม่แน่ใจจิ้มอีกที ค่าไม่เปลี่ยน เลยงงมากเลยค่ะ

เพราะมีของเล่นตัวหนึ่งที่นัชลองดุแล้ว สวิทซ์กดน่าจะเสีย แต่เช็คค่าๆ ไม่เปลี่ยน เปลี่ยนสวิทซ์จากของเล่นตัวอื่นที่พังแล้วก็ใช้ไม่ด้ แต่เช็คค่าสวิทซ์ก้อไม่เปลี่ยน
ที่คิดว่าสวิทซ์น่าจะเสียเพราะ พอไขควงจิ้มโดนปุ่มบัดกรีที่ขาทั้ง 2 ปุ่มพร้อมกัน(เขาติดแค่ 2 ขา) หักออก 2 ขา ใช้ได้ค่ะ หรือเอาสายไฟชนกันก็ใช้ได้

แล้วถ้าสวิทซ์ไม่เสีย ไฟเดินเข้าจากรังถ่านได้ ลองตั้งโหมทเช็คสวิทซ์ แล้วจิ้มไปที่ปุ่มต่างๆ บนแผงวงจร ค่าเปลี่ยน ต้องทำอย่างไงค่ะ
โดย: fornatcha วันที่: 28 เมษายน 2555 เวลา:1:54:28 น.
  
พอดีช่วงนี้ผมไ่ม่ค่อยว่างครับเลยไ่ม่ได้ไปอ่าน/ตอบกระทู้
จะเช็คดูแค่หลังไมค์เฉยๆ

เช็คสวิทช์ปรับไปที่ 200 (เหนือสวิทช์เปิด)ถูกต้องแล้ว
มันจะขึ้น 1 ตัวเดียวซ้ายสุดของจอ นี่คือมิเตอร์พร้อมแล้ว

ลองเอาปลายเข็มของสายดำ-แดง แตะกันเองก่อน ดูว่าได้เท่าไหร่ (ค่าอาจไม่ค่อยนิ่ง ๆ มันจะขึ้นๆลงๆเล็กน้อย ก็ดูประมาณๆเอา)

จากนั้นเล็งขาสวิทช์ ต้องใช้ 2 ขา หาให้เจอว่าขาไหน ถ้ามีมากกว่า 2 ขา ต้องดูให้ออกว่าใช้ขาไหน ตรงนี้อธิบายยาก ยกตัวอย่างของจริงดีกว่า ไว้ลองถ่ายภาพสวิทช์มา ตรงขามัน แล้วจะบอกให้ว่าขาไหน พอเจอรุ่นสวิทช์แบบนี้อีกคราวหน้าจะจำได้เองโดยอัตโนมัต

ตอนจิ้มเข็มปลายสายมิเตอร์ลงไปที่ขาสวิทช์ทั้งสองแล้ว
อันดับแรก จิ้มสายลงไปมันจะต้องขึ้น 1 เหมือนเดิม
ต่อมา เลื่อนสวิทช์ไปที่ ON
(หากเป็นปุ่มกดไม่ใช่เลื่อน หาใครมาช่วยกดก่อน)
ตอนที่ ON หรือกดแช่แล้ว มิเตอร์มันจะต้องมีตัวเลขใกล้เคียงกับตอนที่สองสายแดง-ดำ แตะกันตรงๆ

ถ้ากดปุ่ม แล้วยังขึ้น 1 บนจอ(เหมือนตอนยังไม่จิ้มเข็ม)
แสดงว่าสวิทช์เสีย ถ้าขึ้นเป็นเลขอื่นก็มีหวังว่ายังใช้ได้
โดยพิจารณาว่า ขอให้เลขต่ำๆไว้ ยิ่งต่ำแสดงว่าสวิทช์ดี
ยิ่งสูงแสดงว่าสวิทช์กำลังแย่มากแล้ว
(ถ้าต่ำกว่า 10 ลงมาถือว่าพอใช้ได้อยู่ ต่ำกว่า 5 นี่ค่อนข้างดี
เกินกว่าหลัก 10 นี้เริ่มไม่ดีแล้ว)
โดย: Ph วันที่: 28 เมษายน 2555 เวลา:20:42:56 น.
  
คุณphค่ะ มันขึ้น 1. (มีจุดด้วยค่ะ)
แตะปลายเข็มแดง ดำ ค่าเท่าเดิม คือ 1. ทุกครั้งเลยค่ะ

ตอนเช็คสวิทซ์ กดปุ่มแล้วบางทีก็ค่าเปลี่ยน บางทีก็ค่าเดิม บางที่ก็ค่าเปลี่ยนตอนที่รู้สึกเหมือนยกปลายเข็มตัวใด ตัวหนึ่งขึ้นแล้ว

ถ้าจะให้ขึ้นเลข 1 ตัวเดียวต้องปรับไปที่ 2000 ค่ะ

บางที่มันขึ้น 000579 อะไรประมาณนี้ค่ะ หรือมีจุดด้วยไม่แน่ใจ ไม่ได้ขึ้นเลขตัวเดียว อยากถ่ายรูปมาให้ดูเหมือนกันแต่ถ่ายไม่ได้ หรือถ่ายไม่ทันค่ะ กล้องตัวที่ดีๆ ทำเสียไปตอนสงกรานต์แล้วค่ะ ตัวนี้ซื้อจากญี่ปุ่นแต่เป็นรุ่นเก่าแล้ว ไม่ค่อยดีแล้ว

งั้นที่นัชถามไว้เมื่อ 17 เมษา ปุ่มอัดมันก็ไม่ได้เสียนี่ค่ะ เพราะค่ามันเปลี่ยนเวลากด แต่จำไม่ได้ว่ามันเปลี่ยนขึ้นหรือเปลี่ยนลง เริ่มงงอีกแล้ว ไปจำว่าค่าต้องเป็น 1 (เหมือนเดิม) หลังจากกดสวิทซ์แล้ว
โดย: fornatcha วันที่: 29 เมษายน 2555 เวลา:0:56:33 น.
  
จะใช้ 2000 (ข้างๆ 200)
หรือปรับไป 200 ก็ได้เช่นกัน

ตอนไม่จิ้มปลายเข็มแดง-ดำเลย จอมันต้องเป็น 1 (หลักซ้ายสุด)
จึงจะถูกต้อง

และลองแตะกันเอง (เข็มแดง-ดำ) โดยยังไม่ต้องไปยุ่งกับสวิทช์
มันจะต้องเปลี่ยนจาก 1 เป็นเลขต่ำๆ
(ค่าไม่ควรเกิน 10)

ถ้าไม่ได้ตามนี้แสดงว่ามิเตอร์เองอาจไ่ม่ค่อยดีแล้ว อาจจะถ่านอ่อน
หรือเสียบสายแดง-ดำ เข้าที่มิเตอร์ไม่แน่น
โดย: Ph วันที่: 29 เมษายน 2555 เวลา:18:57:04 น.
  
ตอนวัดสวิทช์ เมื่อจิ้มสายแดง-ดำ เข้าสวิทช์แล้ว
หลักการคือ

- จิ้มสาย+ขณะยังไ่ม่กด จอมิเตอร์ต้องได้ 1 (หลักซ้ายสุด)
- จิ้มสายไ้ว้+ตอนกด มิเตอร์ต้องอ่านค่าได้ต่ำกว่า 10

ยิ่งสวิทช์ดี ค่าจะยิ่งต่ำ(เข้าใกล้ 0 มากขึ้น) เช่นสวิืชท์ที่วัดได้
7 กับวัดได้ 5 ตัวที่วัดได้ 5 ย่อมมีสภาพดีกว่า

(สิ่งที่กำลังวัด เขาเรียกว่า ค่าความต้านทาน หน่วยเป็นโอห์ม เช่นจอขึ้นเลข 5 ก็หมายถึงค่า 5 โอห์ม )
โดย: Ph วันที่: 29 เมษายน 2555 เวลา:19:03:07 น.
  
หากลองแล้ว ขณะไม่กดสวิทช์ วัดได้ 1(หลักชิดซ้ายสุดของจอ)
กดแล้วก็ได้ 1 (หลักซ้ายสุดของจอ)

หรือหมายถึงกดกับไม่กด ยังไงก็ได้ 1 ตัวเดียว(หลักซ้าย)
ก็คือสวิทช์ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แสดงว่ามันเสีย

แต่ก่อนจะสรุปว่ามันเสีย ต้องจิ้มสายแดง-ดำ ของมิเตอร์ให้ตรงและแน่นสนิทกับขาสวิทช์ก่อน กรณีมันมีหลายขาก็ต้องเลือกให้ถูกว่าจิ้มตรงไหน
หากไม่รู้จักสวิทช์รุ่นนั้นว่าใช้ขาไหน ให้ถ่ายภาพตรงสวิทช์มาเดี๋ยวจะบอกให้ครับ
โดย: Ph วันที่: 29 เมษายน 2555 เวลา:19:06:21 น.
  
อ.ค่ะ ตอนนี้เจอของเล่นที่มีมอเตอร์ค่ะ วัดมอเตอร์ว่ายังใช้ได้หรือเปล่าวัดอยางไงค่ะ

มีอยุ่กันไม่มีสายไฟขาด ของใช้โอมวัดมอเตอร์ ค่าเปลี่ยนจาก 1 วัดกระแสไฟเดินดี แต่เครื่องก็ยังไม่ทำงาน ตอนลอง มอเตอร์ปั่นแป๊บเดียว (แป๊บเดียวจิงๆ) แล้วเงียบไปจนป่านนี้ ตอนนี้มานั่งนึกว่ามอเตอร์มันปั่นจริงหรรือเปล่า อย่างนี้น่าจะเป็นจากอะไรค่ะ สวิทซ์ก็มีไฟเดินเหมือนกันค่ะ
โดย: fornatcha วันที่: 3 พฤษภาคม 2555 เวลา:1:58:45 น.
  
ไม่ยาก

ใส่ถ่านในของเล่น เปิดสวิทช์
แล้วลองเอามิเตอรปรับไปทีวัด V (ปรับมิเตอร์ไปตรง 20V)
แล้วแตะสายแดง-ดำ ไปที่ขามอเตอร์ ที่มอเตอร์จะมีสองขา

สายแดง กับ ดำ ไม่ต้องสนใจนักจิ้มไปที่มอเตอร์ได้เลย ขั้วละเส้น... ผิดขั้ว สลับขั้ว สลับสีกันได้ ไม่เป็นไร

ลองดูว่ามิเตอร์อ่านค่า V ได้เท่าไหร่ (มันควรจะเท่าๆกับถ่านที่ใช้)
เช่นถ่านใส่ 4 ก้อน ก็ต้องวัดได้ราวๆ 6V (ถ่านก้อนละ 1.5)

หากมันอ่านค่าได้ต่ำมากๆ ไม่เท่ากับค่าแรงดันรวมของถ่าน
ก็อาจเกิดจาก
-ถ่านอ่อน
-ขั้วถ่านสกปรก
-สวิทช์มีปัญหา
-จุดต่อสายต่างๆ ไล่ ตั้งแต่ขั้วถ่านเลย มีจุดหลวม
-มอเตอร์ฝืดมาก ทำให้หมุนไม่ไหว แรงดันก็จะต่ำเหมือนกัน

กรณีสุดท้ายลองพยายามเอามือไปช่วยๆหมุนดู ว่าฝืดไหม
ถ้ามือหมุนไม่ไปถือว่าฝืดเกิดไปแล้ว ต้องหยอดน้ำมันหน่อย
(น้ำมันที่หยอดจักรเย็บผ้าก็ใช้ได้)

หากวัดโวลท์แล้วได้พอๆกับถ่าน(วัดตรงขามอเตอร์เลย) แต่ยังไม่หมุน แสดงว่ามีปัญหาภายในมอเตอร์แล้ว ต้องเปลี่ยนมอเตอร์ใหม่(หรือจะแกะซ่อมก็ได้ แต่มอเตอร์เล็กๆมักหาอะไหล่อะไรไม่ได้ นอกจากแกะชิ้นส่วนจากมอเตอร์เสียๆตัวอื่น
โดย: Ph วันที่: 4 พฤษภาคม 2555 เวลา:21:00:44 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Ponat.BlogGang.com

fornatcha
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]

บทความทั้งหมด