เอราวัณ ฉันรักเธอ [ครั้งที่ 1] >>>>> วันที่สาม ต่อจากกระทู้นี้ >>> เอราวัณ ฉันรักเธอ : [ครั้งที่ 1] >>>>> วันที่สอง //www.bloggang.com/mainblog.php?id=plaraberd&month=28-10-2008&group=6&gblog=8 วันนี้อากาศดีเอามากๆ ไม่หนาว ไม่ร้อนจนเกินไป ผมตื่นขึ้นมาเพราะได้กลิ่นกาแฟ หอมโชยมาอ่อนๆ ซึ่งก็แน่นอน ผมตื่นเป็นคนสุดท้ายอีกแล้ว เมย์ และเพื่อนเป้ ก็นั่งจุดไฟ ต้มน้ำชงกาแฟกินเป็นที่เรียบร้อย ส่วนผม เดินมึน มึน ไปมาอยู่ซักพักก็โดนไล่ให้ไปอาบน้ำแปรงฟัน ผมยัง งง งง อยู่เล็กน้อย แต่ก็เชื่อคำแฟน เดินไปทำธุระ ซักพักผมก็รีบวิ่งกลับมาที่เต้นท์ คว้ากล้องแล้ววิ่งไปต่อ เมย์และเป้ คง งง ว่าไป้บ้านี่มันเป็นอะไรอีก ไปดูกันไม๊ ว่าผมเป็นอะไร v v v v   ตอนที่เห็นทีแรก ลองนึกภาพตามนะครับ ผู้ชายผมยาว ไว้หนวดเครารุงรัง ยืนกระโดด โลดเต้นใต้ต้นไม้ใหญ่แถวๆ ถังขยะ คนเดินผ่านไป-มา เขาคงคิดว่าผมผีเข้า  กดไม่ยั้ง ขอบอก ...... สีสันสวยงามมากๆ ยามเมื่อกระทบ แสงแดด อ่อนๆ ครับ    จากนั้นเดินไปล้างหน้าแปรงฟันกันตามเรื่อง ขากลับจากห้องน้ำเดินมาเจอเจ้านี่อีก โอ๊วววววววววววววววววววว  สุดยอดจริงๆ  วันนี้มันดีจริงๆ เน้อ......  ถ่ายพวกนี้ต้องระวังนะครับ ใกล้มากไม่ได้ พยายามรักษาระยะห่างเอาไว้ ใกล้มากไปขึ้นต้นไม้หนีหมด  เนี่ย หนีขึ้นไปแล้ว หน่อยนึง เลยได้ท่าแปลกๆ อย่างนี้แหละครับ 55 55  ผมชอบท่านี้ของเขาเอามากๆ ขอแค่ถ่ายรูปเอง ไม่ต้องหนีนะจ๊ะ  กิ้งก่าพวกนี้ อย่าพยายามหามาเลี้ยงเลยนะครับ เพราะเลี้ยงให้ตายก็ไม่มีทางสวยได้แบบในธรรมชาติแน่ๆ เราเก็บแค่รูปสวยๆ และความทรงจำดีๆ ก็พอแล้วครับ   ต่างฝ่ายต่างรักษาตำแหน่งครับ ดูซิ ขนาดมดไต่หัวแล้วยังไม่ยอมขยับเลย  หลังจากถ่ายได้จนหนำใจแล้ว ผมก็ค่อยๆ ถอยฉากออกมา หันกลับไปมองตรงบริเวณห้องน้ำ อ้าว แสงสาดส่องกำลังสวย ไปถ่ายดอกดาหลาดีกว่า  ได้หลากหลายอารมณ์นะครับ เพียงแค่เปลี่ยนจุดที่ถ่ายนิดเดียว  มีปาดอีสานเกาะอยู่ด้วย คงจะมาอาบแดดในตอนเช้าแน่ๆ  หลังจากถ่ายรูปจนเหงื่อชุ่มตัวแล้ว  ก็กลับไปเต้นท์ เพื่อซดกาแฟอุ่นๆ ที่รอคอยผมอยู่  อ่อ ลืมแนะนำครับ นี่เจ้า เซ็กเทา หมามณีสีฉาด ที่คอยต้อนรับพวกเราตลอดมาทั้งสามวัน เซ็กเทา เป็นชื่อม้าศึกคู่ใจของ ลิโป้ เทพสงครามในสมัยปลาราชวงศ์ฮั่น ใครที่อ่านสามก๊กคงจำกันได้ ว่ากันว่าวิ่งได้วันละ พันลี้ เลยทีเดียว ส่วนเจ้าเซ็กเทาตัวนี้ ผมว่ามันคงกินข้าวได้วันละหลายหม้อเป็นแน่ แม้ความสามารถคนล่ะอย่าง แต่เมื่อแรกที่ผมเจอมัน ผมนึกถึงชื่อนี้มาก่อนเลยนะ ในรูป เซ็กเทา กำลังนอนอาบแดด สบายใจเชียว.....  เราทั้งสามกินข้าวเช้ากันไปตามเรื่อง ของเหลืออะไรฟาดหมด เรียกว่ากินกันตาย เมื่อท้องอิ่ม ต่างคนก็ต่างพักผ่อนตามอัธยาสัย ส่วนตัวผมแล้ว ผมลงไปที่ท่าน้ำครับ เพราะเห็น ผีเสื้อ แมลงปอ บินกันอยู่หลายตัวเชียว  แต่ถ่ายได้ตัวเดียว ตัวอื่นบินไป-มา ไม่ยอมให้ถ่าย เหอๆๆๆ ผีเสื้อหางมังกร   อยู่ต่ออีกไม่นานก็ถึงเวลาต้องลาจาก เราเก็บของกันไม่นานนัก จากนั้นแบกเป้ขึ้นหลังเดินดุ่มๆ จากมาอย่างเงียบๆ บรรยากาศดูเหงาๆ ชอบกล แต่ดีหน่อย ระหว่างทางกลับ มีดอกไม้สวยๆ ให้ยล  ขอบอก ผมเกลียดทางเนินตรงนี้มากๆ มันเหนื่อย.....  ก่อนออก ก็มาแวะลงทะเบียนกับที่ทำการอุทยาน จ่ายค่าค้างแรมเล็กน้อย  ธงชาติสีสวย บอกตรงๆ ตอนถ่าย ใจผมมันรู้สึกหงอยๆ ชอบกล เรื่องของเรื่องคือ ไม่อยากกลับ แต่ถ้าไม่กลับ ก็ไม่รู้จะกินอะไร เพราะมีงาน มีเงิน รออยู่ในเมือง  นี่แหละครับ รถแรงที่จะพาเราเข้าสู่ตัวเมืองเพื่อต่อรถกลับ ขอบอก สีสันได้ใจผมมากๆ ดูลูกทุ่งดีแท้  แต่ใช่ว่ารถมาแล้วจะกลับได้เลยนะครับ เราต้องรออีกราวๆ ครึ่งชั่วโมง รถจึงจะออกครับ ระหว่างนั้นก็นั่งกินกาแฟ ไป ดูนู่น ดูนี่ไปเรื่อย   ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว มาถ่ายรูปเล่นก่อนกลับเลยแล้วกัน  หน้ารถครับ สวยดีเนอะ  ถ่ายไปเรื่อย ตามคำสั่งของแฟนผม  ไอ้เป้ มหามิตรของผม นอนสบายเชียว  เห็นรูปนี้แล้วสงสารเป้ยังไงมิทราบ เครื่องในคงแหลกลาน ป่นปี้หมดแล้ว  ลาแล้วครับ ได้เวลารถออกแล้ว หวังว่าคราวหน้าจะได้มาเยียมเยียนที่แห่งนี้บ่อยๆ ขอบคุณทุกๆสิ่ง ทุกๆ อย่างที่ทำให้ผมได้พบกับช่วงเวลาแห่งความสุขถึงสามวัน ขอกราบงามๆ สามครั้งเลยครับ   สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ พี่ๆ น้องๆ ในเวป //www.siamensis.org มากๆ ครับ ที่ให้ข้อมูลชนิดของพรรณพืชและสัตว์ สวัสดี....
ไอ้เจ้าตัวแรกนี่เค้าเรียกว่าตัวอะไรคะ น่ารักดี คนเมืองกาญจน์(แอบเชย)ไม่เคยเห็นมาก่อน 5555
 โดย: pinkyrose
 วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:15:47:02 น.ชื่อ จักจั่นงวง ครับ คุณ pinkyrose
ส่วนใหญ่จะอยู่ในป่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์น่ะครับ โดย: ลายเส้นหลังเขา
วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:15:53:59 น.เหลือเชื่อ เกินจริงค่ะ มีแบบนี้ด้วย รูปถ่ายน่าทึ่งจริงๆคะ โดย: Sweety-around-the-world
วันที่: 30 ตุลาคม 2551 เวลา:5:34:23 น. |
บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [